หลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยนพูดจาไม่รู้เรื่อง แล้วพูดต่อว่า "ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่สาวเหรอ? ผู้ชายพวกนั้นทำอะไรกับเธอหรือเปล่า? ข้ารู้ว่าพวกเจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้า ไม่งั้นพวกเจ้าไปดูที่ซอยนั้นดีกว่า ข้าไม่ได้โกหกจริง ๆ..."ทุกคําพูดมีความหมาย ทุกคำทำให้คนจินตนาการ หลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยนนี้พยายามอย่างยิ่ง!"คุณหนูเฉี่ยนเฉี่ยน ไม่เคยคิดเลยจริง ๆ ว่าหัวใจของท่านสกปรกขนาดนี้ ตอนนี้ท่านไม่เพียงแต่ขี้เหร่ แต่ภายในยังสกปรกมาก ทำสีหน้าไร้เดียงสา แต่พูดคำที่น่ารังเกียจและขอให้พระชายาของเราให้อภัย แต่ทุกคำกลับสาดน้ำสกปรกใส่เธอ ท่าน...""วางยาพิษพระชายาคือโทษประหารชีวิต ฆ่าเธอเลยเดี๋ยวนี้"เสียงมืดมนหนานมู่เจ๋อดังมาจากรถม้า และเห็นได้ชัดว่าไม่ชอบที่เขาพูดมากเกินไปเสียงแหบแห้งค่อนข้างแปลก แต่เสี่ยวเจียงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และชักดาบออกมาทันทีที่ได้รับคำสั่งหลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยนตกใจมากจนเธอคุกเข่าลงอย่างรวดเร็ว "ท่านพี่เจ๋อ ทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นเรื่องจริง! ถ้าท่านไม่เชื่อข้าก็แค่ไปลองดูที่ตรอกนั้น อ๊า..."ยังไม่ทันพูดจบ ดาบก็แทงเข้าที่ท้องของเธอแล้วหลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยนดวงตาเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัว
เมื่อมองไปที่เสี่ยวเจียงที่ตกตะลึง ป้าหวังก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และกระซิบกับโม่เล่าที่อยู่ข้าง ๆ เธอ "ดูเหมือนว่าหัวหน้าเจียงจะต้องหาเมียแล้วจริง ๆ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าเมียดีแค่ไหน ถือว่าดาบของเขาเป็นสมบัติตลอดทั้งวันและโง่เขลา"โม่เล่าหน้าแดงและรีบถอยกลับเสี่ยวเจียงมองป้าหวังด้วยความสับสนจนกระทั่งได้ยินเสียงที่ทำให้คนหน้าแดงและหัวใจเต้นรัวในหู จู่ ๆ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงไปถึงหลังหู แล้วเขาก็ดุคนรับใช้ที่อยู่รอบตัวเขาให้ถอยออกไปป้าหวังหัวเราะเยาะและพูดขณะที่เดินออกไป"หัวหน้าเจียง เจ้ายังต้องฟังคำพูดของคนที่มีปประสบการณ์อย่างเราให้มากขึ้น ท่านอ๋องปากไม่ตรงกับใจ ตั้งแต่เด็กจนโตก็เป็นแบบนี้ เจ้าเห็นเขาบอกชอบอะไรสักอย่างตอนไหนล่ะ? เห็นเขาก้มหน้ายอมรับความผิดอีกเมื่อไหร่? เรื่องความรักเขาไม่รู้เรื่องเลย เขาอาจจะรู้สึกว่าถูกหลอก แต่การถูกชอบอาจต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะรู้สึกได้ ในเวลาแบบนี้ก็ต้องให้คนใช้อย่างพวกเราสุมไฟให้""ท่านอ๋องกับพระชายาแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว หลายปีที่ผ่านมา มีคำพูดบ้าบอมากมายข้างนอก ซึ่งทั้งหมดนี้ล้อเลียนพระชายา พวกเขาไม่หัวเราะว่าเธอให้กำเนิดไม่ได้ ก็หั
ไร้สาระ ไร้เหตุผล เอาเปรียบคนอื่น!หลิ่วเซิงเซิงกลั้นคำพูดไว้เป็นเวลานาน แต่เมื่อคำพูดนั้นมาถึงริมฝีปาก ก็ถูกจูบกลืนหายไปทั้งหมดเกิดอะไรขึ้นกันแน่?เมื่อกี้เธอยังอยู่บนถนนไม่ใช่เหรอ?ใช่แล้ว ถนน หลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยนวางแผนบนถนน และจากนั้น...หนานมู่เจ๋อเป็นคนพาตัวเองกลับมาเหรอ?และก็เป็นคนที่ช่วยล้างพิษให้ตัวเองเหรอ?หลิ่วเซิงเซิงต้องการหลบหนี แต่ก่อนที่จะคลานไปที่ขอบเตียงได้ ก็ถูกดึงกลับไปก่อนทันใดนั้น การเคลื่อนไหวของหนานมู่เจ๋อก็นุ่มนวลขึ้นมาก และมืออันหยาบกร้านของเขาก็แตะแผ่นหลังของเธอ เมื่อมองดูรอยแผลเป็นบนหลังของเธอ หนานมู่เจ๋อไม่รู้ทำไมก็รู้สึกอึดอัดมากคิดถึงการร่วมเป็นร่วมตายด้วยกันก่อนหน้านี้ ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นนับครั้งไม่ถ้วน และนับครั้งไม่ถ้วนที่เธอรักษาตัวเอง...แต่เห็นได้ชัดว่าเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าตัวเองผู้หญิงมีรอยแผลเป็นมากมายบนร่างกาย แต่เธอก็ไม่เคยพูดเลย...เธอต้องทนกับความคับข้องใจมากแค่ไหน?หนานมู่เจ๋อรู้สึกปวดตุบ ๆ ในใจ ในขณะนั้น ดูเหมือนเขาจะลืมอดีตไปจนหมดสิ้นบางทีตัวเองอาจจะกำลังดื้นดันอยู่จริง ๆ เรื่องราวในอดีตได้ผ่านไปนานแล้ว เธอไม่รังเกียจ
หนานมู่เจ๋อจัดเสื้อผ้าด้วยสีหน้าสงบ "จวนแม่ทัพเป็นอย่างไรบ้าง?""ตอบท่านอ๋อง ทางจวนแม่ทัพได้ยินว่าท่านเป็นคนฆ่าหลิ่วเฉี่ยนเฉี่ยน เลยไม่กล้ามาหาท่าน จนตอนนี้ก็เงียบกริบ ได้ยินว่าจัดงานศพอย่างเงียบ ๆ ฝังไปเรียบร้อยแล้ว""เธอล่ะ?"อาจจะรู้ว่าเขากำลังถามใครอยู่ เสี่ยวเจียงก็พูดอย่างจริงจังว่า "พระชายากลับไปที่จวนชิงเฟิงแล้ว มีป้าหวังอยู่เป็นเพื่อนเธอ""ส่งสาวใช้ไปรับใช้เพิ่ม""ขอรับ..."เสี่ยวเจียงก้มศีรษะลงและพูดอย่างระมัดระวัง "ท่านอ๋อง ลำบากท่านแล้ว"หนานมู่เจ๋อ "อะไร?""โม่เล่าไม่สามารถเตรียมยาแก้พิษได้ในเวลาอันสั้นจริง ๆ ท่านเสียสละขนาดนี้เพื่อช่วยชีวิตพระชายา ข้าน้อยรู้ว่าท่านลำบากใจ ได้ให้โม่เล่าไปที่ห้องโถงใหญ่เพื่อรอการลงโทษจากท่านแล้ว เพียงแต่...""ข้าคิดว่าวันนี้เจ้าว่างมาก ไม่งั้นไปล้างกระโถนของจวนทั้งหมดให้สะอาดไป"หลังจากพูดจบ หนานมู่เจ๋อก็เดินจากไปเสี่ยวเจียงที่อยู่ที่เดิมไม่ได้สติเป็นเวลานานเขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า?ท่านอ๋องให้เขาล้างอะไรนะ..."..."หนานมู่เจ๋อเดินออกจากลานบ้านด้วยใบหน้าเย็นชาและมุ่งหน้าไปยังจวนชิงเฟิงโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อเดินไปได้ครึ่งทาง เ
หลิ่วเซิงเซิงกำลังจะกลับไปพักผ่อนในห้อง แล้วก็เห็นว่าในจวนจู่ ๆ ก็มีสาวใช้เยอะขึ้นมากมาย ทุกคนบอกว่าท่านอ๋องจัดให้พวกเธอมาขณะที่กำลังสับสน ก็มีคนใช้ชายอีกคนเข้ามาในจวน"พระชายา ท่านอ๋องเชิญให้ท่านไปพบ"หลิ่วเซิงเซิงดูอึดอัดเล็กน้อย หนานมู่เจ๋อตื่นแล้วเหรอ...เขาคงไม่ใช่อยากจะคิดบัญชีกับตัวเองนะ?ต้องเป็นเรื่องเมื่อวานที่ตัวเองโดนยาพิษแล้วไปรังควานไม่เช่นนั้นเขาที่รังเกียจตัวเองขนาดนั้น จะตามใจตัวเองได้อย่างไร?แต่ก็ไม่สมเหตุสมผลเล็กน้อย เนื่องจากศิลปะการต่อสู้ของเขาสูงมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะผลักตัวเองออกไปได้...เป็นไปได้ไหมว่าจะมาหาตัวเองเพื่อที่จะมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติก?เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ หลิ่วเซิงเซิงก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว มันเป็นไปไม่ได้!ตามคนใช้ชายคนนั้นกลับไปที่จวนชิงเฟิงอีกครั้งจึงพบว่าหนานมู่เจ๋อกำลังนั่งรับประทานอาหารเช้าอยู่ที่ลานบ้าน เมื่อเห็นเธอเข้ามา หนานมู่เจ๋อพูดแค่ว่า "นั่ง"หลิ่วเซิงเซิงยืนอยู่ที่เดิมอย่างกระอักกระอ่วน "ท่านอ๋อง ข้ากินมาแล้ว"คนรับใช้ที่อยู่รอบ ๆ ถอยออกไปทีละคน และในไม่ช้าก็เหลือเพียงสองคนเท่านั้นที่ลานกว้างขนาดใหญ่หลิ่วเซิงเซิงไม่เข้า
เมื่อได้ยินคำพูดของอาหนิว รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิ่วเซิงเซิงก็แข็งทื่อ เมื่อหันกลับไป ก็พบว่าหนานมู่เจ๋อปรากฏตัวที่ประตูโรงเตี๊ยมแล้วเห็นแต่ว่าเขาสวมหน้ากากครึ่งหน้าเล็ก ๆ บนใบหน้า และกำลังเข้าใกล้ทางนี้ทีละขั้นก้าวอาหนิวยังยิ้มและรีบวิ่งเข้าไปทักทาย "ท่านพี่ ไม่เจอกันนานเลยนะ"เปลือกตาของหลิ่วเซิงเซิงกระตุกหน้าตาหล่อ ๆ แบบนี้ แค่บังไว้ครึ่งเดียว เป็นคนก็คงจำได้หมดมั้ง?แล้วจะปกปิดหน้าทำไม...แต่มู่ชิงชิงกลับจำหนานมู่เจ๋อไม่ได้ เห็นแต่เธอมองไปที่หนานมู่เจ๋ออย่างงุนงงแล้วพูดว่า "พี่ชาย? เซินเอ๋อ เจ้ามีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไหร่?"หนานมู่เจ๋อเดินมาที่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว หลิ่วเซิงเซิงก็ยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน "ลูกพี่ลูกน้อง..."มู่ชิงชิงยิ้ม "นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินว่าเจ้ามีลูกพี่ลูกน้อง ออร่าขนาดนี้ มองปราดเดียวก็ไม่ใช่คนธรรมดา"ขณะพูด เธอยังพูดกับหนานมู่เจ๋อว่า "ในเมื่อเจ้าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเซินเอ๋อ งั้นข้าก็จะเรียกเจ้าว่าพี่ชายด้วย ข้าชื่ออาชิงและเขาคืออาหนิว นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่พี่ชายมาที่นี่สินะ ข้าจะไปให้เสี่ยวเอ้อเอาของอร่อย ๆ มาให้"พูดจบมู่ชิงชิงก็เดินจากไปพร้อมกับรอย
ในขณะนั้น ใบหน้าของหลิ่วเซิงเซิงก็เปลี่ยนเป็นสีแดงมู่ชิงชิงเกาหัวด้วยความเขินอาย "รู้สึกว่าพี่ชายไม่ค่อยชอบข้า ไม่งั้นพวกเจ้าคุยกันเถอะ ข้าไปทำงานก่อน"หลังจากพูดอย่างนั้นเธอก็เดินจากไปอย่างเขินอายรอมู่ชิงชิงจากไปไกลแล้ว หลิ่วเซิงเซิงมองไปที่หนานมู่เจ๋อด้วยความโกรธและพูดว่า "ท่านอ๋องหมายความว่าอย่างไรกันแน่? ข้าบอกไปหมดแล้วว่าเรื่องเมื่อวานเป็นอุบัติเหตุ ข้าก็ไม่ได้ตามรังควานท่าน ถ้าท่านไม่อยากเห็นหน้าข้าก็รีบหย่าเร็ว ๆ ไม่จำเป็นต้องมาหาเรื่องข้าถึงที่นี่""ข้ามาหาเจ้า""มาหาข้าทำไม? คุยเรื่องหย่าเหรอ? หรือว่ากลัวว่าข้าจะไม่ดื่มสิ่งที่เจ้ามอบให้?"เห็นได้ชัดว่าหลิ่วเซิงเซิงไม่พอใจอย่างมาก และหนานมู่เจ๋อก็ไม่รู้จะพูดยังไง เรื่องเมื่อกี้ทําให้เขาไม่พอใจมาก เดิมทีคำพูดถึงปากแล้วก็ถูกเขากลืนกลับไป พูดแต่เย็นชาว่า "เดิมทีข้าจะมาส่ง...""ข้ารู้ว่าเจ้าจะส่งอะไรให้ข้า ถ้าเจ้าไม่สบายใจขนาดนั้นจริง ๆ พอกลับไปแล้วข้าจะดื่มแน่นอน เจ้าไม่จําเป็นต้องตามมาด้วยตัวเอง และยิ่งไม่จําเป็นต้องเอามาให้ข้าดื่มด้วยตัวเองด้วย"ด้วยเหตุผลบางอย่าง พอคิดว่าหนานมู่เจ๋อเกลียดตัวเองขนาดนี้ ในใจของเธอก็รุ้ส
คำพูดที่แปลก ๆ เหล่านั้นทำให้หลิ่วเซิงเซิงอดไม่ได้ที่จะกลอกตา "รู้ว่าข้าคือพระชายา ยังไม่รีบไสหัวไปอีก?"เสี่ยวเหลียนหัวเราะเยาะ "ใช่ พระชายามีสถานะอันสูงส่ง พวกข้าลูกสาวของขุนนางมีคุณสมบัติที่จะพูดคุยกับพระชายาได้ที่ไหน? แต่พระชายากลางวันแสก ๆ อยู่บนถนนกับชายชราคนหนึ่ง ก็ดูไม่ดีจริง ๆ?"ผู้ติดตามสองคนที่อยู่ข้าง ๆ ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรและวิ่งเหยาะ ๆ ออกไปทันที กลับส่งเสียงโวยวายไม่ไกลและในไม่ช้าก็มีผู้คนกลุ่มใหญ่มาดูความสนุกสนานเสี่ยวเหลียนกระพริบตาอย่างไร้เดียงสา "ว๊าย เมื่อกี้ข้าไม่ได้สังเกตุ ที่แท้ชายชราคนนี้คือหลิวเล่าหรอกเหรอ ไม่แปลกใจเลยที่พระชายาจะแอบนัดพบกับเขาที่นี่ ชื่อเสียงของหลิวเล่าไม่เล็กจริง ๆ เพียงแต่เขาก็แก่แล้ว ท่านก็มีอ๋องชางอยู่แล้ว ทำไมยังลงมือกับคนแก่แบบนี้ได้ล่ะ?"ขณะที่เธอรู้สึกแปลก ๆ ผู้ติดตามสองคนของเธอก็ตะโกนเรียกคนกลุ่มใหญ่เข้ามาแล้ว และก็ล้อมพวกเธอไว้อย่างรวดเร็ว"เจ้าพูดให้มันดี ๆ หน่อย!"หลิ่วเซิงเซิงจ้องมองเธออย่างดุเดือด "เจ้าไม่เห็นหรือว่าหลิวเล่าล้มป่วย? ข้าแค่...""ล้มป่วยเหรอ? โอ้พระเจ้า คงไม่ได้ถูกเจ้าทําร้ายใช่ไหม? ข้าว่านะพระชายา แม้ว่าเจ