ลั่วเหยียนมองจินเยี่ยน แล้วเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ปัญหาเดียวของคุณ คือการควบคุมอารมณ์ไม่อยู่!”ไม่เพียงแค่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ วันนี้อะไรที่ไม่ควรทำก็ลืมไปหมดแล้วสินะสมองของจินเยี่ยนถูกสั่งสอนจนว่างเปล่า พยายามจะพูดขอโทษ แต่ลั่วเหยียนไม่อยากฟังเธออธิบายเมื่อเจิ้งเฟยกลับมาจากข้างนอก เห็นจินเยี่ยนถูกสั่งสอนเป็นครั้งแรก บนหน้าก็มีรอยยิ้มพอใจฉายออกมาสั่งสอนจนถึงช่วงสุดท้าย ลั่วเหยียนก็กล่าวทิ้งไว้ว่า “จากนี้ไปกู้อิ๋นรับผิดชอบแค่เรื่องที่ประธานเผยสั่งให้ทำเท่านั้นส่วนเรื่องอื่นพวกคุณก็พิจารณา แยกแยะแล้วจัดการด้วยตัวเอง!”พิจารณา แยกแยะแล้วจัดการ?หมายความว่ากู้อิ๋นต้องเลิกงานก่อนเวลา ส่วนพวกเธอทั้งหมดต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อช่วยเธอทำงานให้เสร็จ หมายถึงแบบนี้ใช่ไหม?แน่นอน ว่าลั่วเหยียนหมายถึงเช่นนี้“เจิ้งเฟยตามผมมา!” ลั่วเหยียนหันตัวกลับมาด้วยความโกรธเคืองโชคดีที่เจอเร็ว ถ้ากู้อิ๋นเกิดเสียเปรียบที่บริษัทหมิงเฉิง เผยเซียวจะต้องยกเลิกแผนกผู้ช่วยทั้งหมดแน่!ลั่วเหยียนคิดอยู่ตลอด ว่าทำไมเผยเซียวถึงปกป้องหญิงสาวที่มาจากบ้านนอกคนนี้ขนาดนี้ด้วยเขาก็เคยสืบมาแล้ว ทั้งสองคนไม่เคยมีควา
นี่ประธานเผยเลยนะ ตอนนี้มีประชุมโครงการมูลค่าตั้งร้อยล้านบาท เขาจะถามเรื่องเล็กน้อยที่ไม่มีอะไรสำคัญเลยเนี่ยนะ!?ชูหรันและผู้จัดการฝ่ายการเงินมองหน้ากันและเห็นความตกตะลึงในสายตาระหว่างกัน!พวกเขาทั้งสองคิดว่าเผยเซียวจะโกรธและด่ากู้อิ๋นที่ไร้สมอง!แต่ในช่วงเวลาต่อมาน้ำเสียงของเผยเซียวก็มีความนุ่มนวลพูดออกมาว่า"จะซื้อทั้งหมดนี่หิ้วไหวไหมล่ะ?"ชูหรัน:"......"ผู้จัดการฝ่ายการเงิน:"......"หัวใจของพวกเขาหดแน่นและสมองเต็มไปด้วยความว่างเปล่านี่เป็นผู้ช่วยกู้จริงๆหรือผู้ช่วยเล็กๆกันแน่นะเนี่ย!?กู้อิ๋นบอกว่าเขาหิ้วเองได้และถามว่าในครัวไม่มีอะไรใช่ไหมคะเผยเซียวตอบว่าใช่และให้เขาซื้อน้อยๆไปก่อน เห็นได้ชัดว่าเผยเซียวห่วงว่าเธอจะยกกลับมาไม่ได้ทุกคนในห้องประชุมแม้แต่คนที่นั่งอยู่ไกล ไม่พอที่จะได้ยินเนื้อหาของโทรศัพท์ต่างก็พยายามเดาว่าใครเป็นคนที่กำลังคุยกับเผยเซียวอยู่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะได้เห็นด้านที่อ่อนโยนของเผยเซียวด้วย!ใช่ น้ำเสียงของเผยเซียวที่มีต่อทางโทรศัพท์เมื่อกี้ที่อ่อนโยนอย่างนั้นที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนเลยชูหรันและผู้จัดการฝ่ายการเงินตกตะลึงเป็นพิเศษเมื่อก่อนเผยเซี
เผยเซียวขมวดคิ้ว:"นี่บะหมี่อะไร""บะหมี่ผักชีค่ะ"กู้อิ๋นพูดอย่างจริงจังเป็นบะหมี่ผักจริงๆและเผยเซียวก็ดูออกแล้ว เส้นบะหมี่และผักใบเขียวนั้นก็เด่นชัดเอามากๆแต่นอกจากนั้นก็ดูไม่มีอะไรเลยเหมือนกับว่าแม้แต่น้ำมันก็ไม่มีเลยด้วยซ้ำ และเห็นได้ชัดว่าจะเป็นบะหมี่น้ำใสด้วยนี่นา?เผยเซียวนั่งลงหยิบตะเกียบพลิกไปมา แน่นอนว่ามันเป็นแค่บะหมี่น้ำใสธรรมดาที่ไม่มีรสชาติอะไรเลยเขาลองชิมไปคำนึง นั่นทำให้เผยเซียวแทบจะอ้วกออกมาเลยด้วยซ้ำกู้อิ๋นมองหน้าเขาและกังวลขึ้นมาอีกครั้ง "ไม่..ไม่อร่อยเหรอคะ"“ไม่มีอะไรสักอย่างเลยนอกจากเกลือ!”เผยเซียวพยายามรักษาน้ำเสียงของเขาให้สงบในตอนเช้าเธอบอกว่าเธอทำบะหมี่ได้หลายชนิด และเขาก็อยากลองชิมดู แต่ตอนนี้เผยเซียวรู้สึกว่าไม่ควรอยากรู้อยากเห็นเรื่องที่เกี่ยวกับกู้อิ๋นมากเกินไปนักใบหน้าเล็กๆของกู้อิ๋นแสดงออกมา "ฉันก็ทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนนี่นา!"เวลาที่เธอได้ลองทำอาหารก็คือตอนที่เธออยู่กับคุณย่าและคุณย่าก็บอกว่าการกินแบบนี้จะดีต่อสุขภาพดังนั้นทุกครั้งที่เธอทำบะหมี่เธอแทบจะไม่ใส่อะไรเลยนอกจากเกลือเธอกินแบบนี้มาตั้งหลายปี และชินกับรสชาตินี้มานานแล้ว แต่
เมื่อก่อนกู้อิ๋นไปกินข้าวที่โรงอาหารในตอนกลางวันกับเหยียนฉู่แต่วันนี้กลับไม่เห็นสองคนนี้เลยแผนกอื่นๆก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก แต่แผนกต้อนรับและแผนกผู้ช่วยกลับไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ โดยเฉพาะแผนกผู้ช่วยตอนนี้ทุกคนต่างก็กำลังแย่งชิงตำแหน่งผู้ช่วยเบอร์หนึ่งกันอยู่ แต่กู้อิ๋นกลับยังไม่ได้ออกจากห้องทำงานของประธานเผยเลยตั้งแต่ตอนเที่ยงของวันนี้......นี่หมายความว่าอะไร?เธอคิดจะไต่เต้าหรือไงกัน?ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็หมายความว่าเธอกำลังทำลายตัวเองชัดๆ ทั้งตระกูลเผยและแม้แต่ไห่เฉิงต่างก็รู้ดีว่าเผยเซียวไม่ใช่คนที่จะถูกความงามล่อลวงได้ตอนนี้แผนกผู้ช่วยทั้งหมดกำลังจับตาดูว่ากู้อิ๋นจะจบเห่ลงอย่างไร......ในห้องพักขณะนี้กู้อิ๋นรู้สึกง่วงนอนเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ เผยเซียวมองดูเธอแล้วพูด "ไปล้างจาน!""โอ้ ค่ะ"กู้อิ๋นรีบตื่นขึ้นและตระหนักว่าการล้างจานเป็นสิ่งที่เธอควรทำมากที่สุด เธอสามารถทำได้โดยไม่เกิดข้อผิดพลาดอะไรเผยเซียวมีความเคยชินในการนอนกลางวันเมื่อกู้อิ๋นเก็บข้าวของในครัวเสร็จแล้วก็เดินออกมา เธอเห็นเผยเซียวเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดธรรมดา แล้วงีบหลับไปบนเตียงสองตาของเขาปิดสนิทและลดความเค
“ซี๊ด……” กู้อิ๋นเจ็บจนอดไม่ได้ที่จะซี้ดปากออกมา ในตอนนี้ผมของเธอก็ถูกแก้มัดออกได้แล้วและผมที่ติดอยู่นั้นเธอเห็นว่ามันสั้นลง เห็นได้ชัดเลยว่าถูกเผยเซียวดึงออกอย่างรุนแรงไม่รอให้กู้อิ๋นได้สติกลับมา เผยเซียวก็พูดด้วยน้ำเสียงโทนต่ำและเย็นชา "ออกไป!"กู้อิ๋นกลัวมากจนไม่กล้ามองไปทางเขาและแทบไม่กล้าหายใจ ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อออกมาจากห้องทำงานของประธานได้แล้ว เธอก็รู้สึกว่าทั้งหลังและหน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อเย็นๆชูหรัน เจิ้งเฟยและจินเยี่ยนกลับเข้ามาแล้ว เมื่อเห็นเธอพวกเขาก็แสดงสีหน้าแตกต่างกันออกไปโดยเฉพาะจินเยี่ยนและเจิ้งเฟยสองคนนี้มองกู้อิ๋นด้วยความสายตาที่ดูถูกเมื่อมองดูใบหน้าที่ซีดเซียวของกู้อิ๋นแล้ว พวกเธอก็รู้ได้ทันทีว่ากู้อิ๋นคงล้มเหลวในการอ่อยประธานเผยและจะถูกไล่ออกจากเผยซื่อกรุ๊ปในอีกไม่ช้านี้อย่างแน่นอนแม้แต่กู้อิ๋นเองก็รู้สึกได้ว่าเธอคงจะถูกไล่ออกในวันนี้แล้วเช่นกัน"เป็นอะไรหรือเปล่า?"ชูหรันเข้ามายืนข้างๆ กู้อิ๋น และยื่นแก้วน้ำให้กับเธอเธออยู่ในห้องประชุมด้วยและได้ยินโทรศัพท์ของประธานเผยกับหูของตัวเอง ชูหรันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างกู้อิ๋นและเผยเ
ขอแค่กู้อิ๋นกับเผยเซียวไม่ได้อยู่ในห้องเดียวกันมันก็จะไม่มีปัญหามากมายเกิดขึ้นกู้อิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับเหยียนฉู่สายตาที่เผยเซียวมองกู้อิ๋นมันก็เหมือนกับการมองผู้หญิงคนอื่นที่จ้องจะปีนเตียงของเขานั่นแหละทั้งดุดันทั้งอันตราย!"แล้วฉันจะไม่ถูกไล่ออกจากเผยซื้อกรุ๊ปหรอ?"เมื่อนึกถึงสิ่งนี้กู้อิ๋นก็มองไปทางเหยียนฉู่ด้วยความกลัวเหยียนฉู่ส่ายหน้า "ไม่หรอก ตอนนี้เขายังต้องการให้เธอเป็นภรรยาอยู่ เพราะอย่างนั้นเขาจะไม่ไล่เธอออกจากบริษัทหรอก"เหตุผลที่เผยเซียวต้องแต่งงานกับเธอนั่นก็เพราะเขาต้องต่อกรกับทางตระกูลเผยจะไล่เธอออกในเวลานี้มันเป็นไปไม่ได้แน่นอนเธอก็จะยังต้องคอยอยู่ข้างๆเขา แต่เผยเซียวคงจะไม่ให้กู้อิ๋นเข้าใกล้ตัวเองอีกต่อไปแล้วล่ะดังนั้นกู้อิ๋นจึงถือว่าได้รับความโชคดีจากความโชคร้ายหลังจากที่ทั้งสองวิเคราะห์เรื่องราวเสร็จแล้ว กู้อิ๋นเองก็อารมณ์ดีขึ้นแล้ว ตอนนี้เธอปราศจากความกลัวจากเรื่องเมื่อซักครู่แล้ว"แต่คราวหน้าเธอก็ต้องระวังหน่อยนะ ถึงเผยเซียวจะไม่ยอมให้เธอเข้าใกล้แล้วแต่ว่าวันนี้สิ่งที่ทำมันก็สุดยอดไปเลย"กู้อิ๋นพยักหน้าอย่างบ้าคลั่ง "อืม ฉันจะพยายาม"เห็น
เมื่อเผยเซียวได้ยินเสียงเขาก็มองไปทางกู้อิ๋นกู้อิ๋นจับมือเล็กๆทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ ตอนนี้เธอรู้สึกประหม่ามากๆเผยเซียวพยักหน้า “ดี เหมาะกับเธอมาก"เธอเป็นคนตัวสูง กะจากสายตาแล้วก็สูงประมาณ168เซนติเมตร รูปร่างที่เพรียวบางก็ดูผอมและสง่างามมากเผยเซียวยืนขึ้นและเดินไปที่โซฟาสั่งด้วยน้ำเสียงที่เผด็จการเล็กน้อย "มานี่"กู้อิ๋นเดินไปตามคำสั่งของเขาก่อนเผยเซียวจะกดเธอลงที่โซฟาขณะที่ฝ่ามืออันอบอุ่นของชายหนุ่มแตะลงบริเวณหัวไหล่ของเธอ หัวใจของกู้อิ๋นก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก เธอไม่รู้ว่าเผยเซียวจะทำอะไรและเธอก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาสักคำครู่ต่อมานิ้วเรียวของชายหนุ่มก็เลื่อนผ่านเส้นผมของ เธอหัวใจของกู้อิ๋นก็เต้นรัว “เดี๋ยวฉันจะไปตัดผมในช่วงวันหยุดค่ะ!”เมื่อเธอพูดแบบนี้ก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อยในใจเธอรู้ตัวเองดีว่าเธอรักผมยาวของตัวเองมากแค่ไหน และคุณย่าก็เคยบอกว่าผมของเด็กผู้หญิงถูกหล่อเลี้ยงมาด้วยชีวิตมันควรจะได้รับการทะนุถนอม"จะตัดทำไมล่ะ?" เผยเซียวถาม"ฉัน......"ภาพที่น่าอับอายตอนเที่ยงแวบขึ้นมาในหัวของเธอ ใบหน้าเล็กๆของกู้อิ๋นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที "ฉันไม่ได้ตั้งใจจ
คนที่อยู่นอกห้องทำงานอย่างเจิ้งเฟยและจินเยี่ยนต่างก็ทำท่าเดินผ่านประตูห้องทำงานของเผยเซียวอย่างไม่ได้ตั้งใจเดิมทีพวกเธอคิดว่ากู้อิ๋นเข้าไปในห้องทำงานเผยเซียวแล้วจะถูกเผยเซียวด่าสาดเสียเทเสียก่อนจะถูกไล่ออกจากบริษัทซะอีกแต่ตอนนี้พวกเธอผ่านไปหลายครั้งแล้วแต่กลับไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยสักนิดเลยพวกเธอมองหน้ากันโดยไม่รู้ตัวและเมื่อคิดว่ากู้อิ๋นจะถูกไล่ออกไปหรือไม่นั้น จู่ๆประตูห้องทำงานก็เปิดออกจากด้านในเผยเซียวออกมาด้วยการแต่งตัวเรียบร้อยและเขายังจับ...มือของกู้อิ๋นอยู่ด้วยงั้นหรอ?แววตาคาดหวังของจินเยี่ยนและเจิ้งเฟยที่อยากจะเห็นกู้อิ๋นถูกไล่ออกนั้นก็แข็งค้างขึ้นมาทันทีแววตาของพวกเธอตกลงไปที่มือที่ประสานกันของกู้อิ๋นและเผยเซียว จนทั้งสองคนลืมที่จะแสดงอาการอะไรออกมาตอนนี้ในใจของกู้อิ๋นก็กังวลอยู่เช่นกัน!มือที่ถูกเผยเซียวจับไปนั้นรู้สึกราวกับว่าถูกน้ำร้อนลวกยิ่งรู้สึกถึงสายตาที่ร้อนแรงของพวกเธอ กู้อิ๋นก็ดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่ง!เผยเซียวหันกลับมองเธอ "อะไร?"กู้อิ๋นก็เบะหน้าแต่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไปเจิ้งเฟยและจินเยี่ยนอ้าปากค้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นเสื้อผ้ารุ่นที่ตัดเย็บแ