เซน กุกเกนไฮม์หยุดชะงัก เขาดูประหลาดใจที่ผู้หญิงคนที่ดูจะหลงเขา อยู่ ๆ จะขอหย่า“ตระกูลจูลเลี้ยงฉันมาหลายปี ฉันจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาถูกทำลายไม่ได้”“ฉันรู้ว่าคุณเกลียดฉันที่ฉันทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเจนนี่ เลนิค จนคุณต้องมาลงที่ครอบครัวของฉัน ฉันขอโทษจากใจจริง ๆ สำหรับเรื่องนี้”“ในเมื่อคุณรู้สึกว่าการแต่งงานกับฉันเป็นเรื่องที่ทรมาน อย่างนั้นเรามาหย่ากันเถอะ ฉันจะปล่อยคุณไปและคุณก็จะปล่อยตระกูลจูลไปด้วย และจากนี้ต่อไป เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คุณคิดว่ายังไง?”ลินด์ซีย์ จูลพูดรวดเดียวจบ พร้อมกับก้มหน้าลงและรอคำตัดสินใจของเซนอย่างเงียบ ๆ เธอแอบรักเขามา 20 ปี เมื่อก่อนเซนเคยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ที่ที่พวกเขาเจอกันเพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งชิงอำนาจภายในตระกูล ตอนที่พวกเขายังเด็ก พวกเขาเคยให้คำมั่นสัญญากันแต่หลังจากนั้น ลินด์ซีย์ถูกตระกูลจูลรับมาเลี้ยง เธอมีความสุขมากเมื่อเธอรู้ว่าคนที่เธอจะแต่งงานด้วยคือเซน จนทำให้เธอนอนไม่หลับไปหลายวันแต่เมื่อพวกเขากลับมาเจอกันอีกครั้ง เขากลับจำเธอไม่ได้และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ควรจบความรัก 20 ปีที่ไม่มีวันสมหวังลงแล้ว“ลิน
ลินด์ซีย์ จูลมั่นใจว่าชายคนนี้ไม่ได้จู่ ๆ ก็เกิดสนใจในตัวเธอขึ้นมา ในเมื่อเขาเพิ่งพูดไปว่าการแตะต้องเธอเป็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียน เขาทำอย่างนี้ก็เพื่อทำให้เธอขายหน้าเธอจะทำอะไรได้? ตระกูลจูลที่เลี้ยงเธอมาเกือบ 20 ปีและมอบทุกอย่างให้กับเธอ เธอจะกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาจบสิ้นลงไม่ได้เซน กุกเกนไฮม์ดูจะใจร้อน มือของลินด์ซีย์ซีดขาวจากการกำหมัดของเธออย่างแรง เธอกัดปากของเธอในขณะที่มือของเธอค่อยไต่ ๆ ไปปลดกระดุมเสื้อของเธอ“พอแล้ว!”เซนบ่นในขณะที่เขาดึงเสื้อที่ปลดออกครึ่งหนึ่งของเธอกลับขึ้นและต่อว่า “เธอมันง่ายจริง ๆ ! เธอคิดว่าฉันจะสนใจเธอเหรอ? อย่าทำให้ฉันขยะแขยงไปหน่อยเลย!”หลังจากที่เขาพูดจบ เขาเดินกลับขึ้นไปด้านบนโดยไม่หันหลังกลับมามองด้านหลังเขา ลินด์ซีย์ค่อย ๆ จัดเสื้อผ้าของตัวเองเงียบ ๆ และกลั้นน้ำตาของเธอภายในห้องนอน เซนที่กำลังสูบบุหรี่มวนแล้วมวนเล่า ดูเหมือนจะพยายามอดกลั้นความกระสับกระส่ายในหัวใจของเขาอยู่ตอนนี้ ผู้หญิงหลายต่อหลายคนต้องการขึ้นเตียงกับเขาด้วยชุดที่เซ็กซี่กว่าใคร แต่ท้ายที่สุด พวกเธอกลับถูกเขาไล่ออกไปทุกคนเขาคิดว่ามันต้องเป็นเพราะเขาไม่ได้ทำมันมาเป
“แม่คะ ทำไม…อยู่ ๆ ถึงพูดเรื่องนี้คะ?”ลินด์ซีย์รู้สึกประหม่า“อะไร? ฉันพูดไม่ถูกรึยังไง?”สเตฟานี่ ลินด์เปล่งเสียงและกล่าวเสริม “ฉันจะบอกว่าฉันรู้เรื่องแล้ว! ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เซนไม่แม้แต่จะกลับบ้าน แล้วเธอจะทำให้ชีวิตแต่งงานของเธอสำเร็จได้ยังไง! ถ้าเขามีความรู้สึกให้กับเธอ ในฐานะที่เป็นลูกเขยของเรา เขาจะยืนดูและไม่คิดทำอะไรกับเรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเราเลยเหรอ?”“ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ แต่ช่วงนี้เซนคงยุ่ง…”สเตฟานี่หัวเราะอย่างเยือกเย็นและพูดขึ้น “ยุ่งเหรอ? โธ่ ลินด์ซีย์…ครอบครัวของเราเลี้ยงเธอมาหลายปีนะ ฉันไม่คิดว่าเธอจะปิดบังเรื่องใหญ่อย่างนี้กับเรา! ฉันแค่มีเรื่องจะขอเธอแค่เรื่องเดียว เซนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราหรือเปล่า?”เธอตรงไปตรงมาจนหัวใจของลินด์ซีย์เกือบหยุดเต้น“ไม่ค่ะแม่ อย่าเดาสุ่มสี่สุ่มห้าสิคะ…”“อย่าเดาสุ่มสี่สุ่มห้าเหรอ? ก็เซนบอกเรื่องนี้กับเราเอง! เขาจะโกหกเรื่องนี้กับเราทำไม?”บอกพวกเขาเองเหรอ? หรือว่า…เขาจะยื่นคำขาดให้กับตระกูลจูล?หรือเป็นเพราะว่าตลอดสองวันที่ผ่านมาเธอสร้างความรำคาญให้กับเขา? เขาเลยอยากจะตัดความหวังในการวิงวอนข
วิธีการที่ดีที่สุดตอนนี้คือการทรยศลูกสาวของพวกเขา!มือของลินด์ซีย์กำลังกำโทรศัพท์ของเธออย่างแรง เธอกำลังกัดหลังมือของตัวเองเพราะกลัวว่าตัวเองจะทำเสียงดังขึ้นเพราะความโกรธกลายเป็นว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเซน กุกเกนไฮม์มีแฟนอยู่แล้วและยังเข้าหาคุณปู่กุกเกนไฮม์เพื่อให้เธอแต่งงานและยังดูเหมือนว่าตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้วในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า พวกเขามีความคิดที่จะขายลูกสาวของพวกเขาอยู่แล้ว!หลายปีที่ผ่านมา ความจริงใจของเธอถูกมองข้ามไปและถูกมองเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณ!ยี่สิบปี! ยี่สิบปีที่อยู่ด้วยกัน! เธอมองพวกเขาเหมือนเป็นพ่อแม่จริง ๆ ของเธอ แต่สำหรับพวกเขา เธอกลับเป็นเพียงแค่สิ่งของแลกเปลี่ยนเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว!ตอนนี้ลินด์ซีย์รู้สึกแค่เพียงความสิ้นหวังเธอออกจากบ้านของตระกูลจูลในขณะที่ยังมีแสงสว่างไสวอยู่และค้นพบว่าทั้งหมดมันน่าสมเพชจนน่าตลกลินด์ซีย์เรียกแท็กซี่เพื่อมุ่งหน้าตรงไปที่ทำงาน เธอควรจะต้องไปพบกับลูกค้าที่เธอยุ่งกับการเตรียมงานมาครึ่งเดือน แต่ตอนนี้ที่เธอถูกสามีของเธอเองเกลียดและถูกครอบครัวของตัวเองทิ้ง การทำงานเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอไม่รู้สึกว่าเธอไร้ประโยชน์
เสียงที่อยู่ ๆ ดังขึ้นทำให้ลิเดียกลัวจนทำใก้เธอพูดขึ้นด้วยความหงุดหงิด “เธอทำอะไร? สถานการณ์ยังแย่ไม่พออีกเหรอ?”ลิเดียกำลังหงุดหงิดอย่างมาก เธอต่อว่าลินด์ซีย์ จูลที่กำลังไม่ได้สติและดวงตาที่เปล่งประกายของเธอก็ค่อย ๆ หมองคล้ำลงคำพูดที่เหลือค้างอยู่บนริมฝีปากของลิเดีย แต่เมื่อเห็นความท้อแท้และใบหน้าที่เจ็บปวดของลินด์ซีย์ ทำให้ลิเดียกลืนคำพูดเหล่านั้นกลับเข้าไป“ฃ่างมันเถอะ ฉันจะรายงานเรื่องนี้เอง เธอไปพักก่อนก็ได้ในขณะที่เราหาทางออกอื่น”ลิเดียตบร่างกายที่บอบบางของลินด์ซีย์เบา ๆ และเดินออกจากห้องทำงานไปหลังจากที่ลิเดียออกไป ลินด์ซีย์ยังคงยืนอยู่ที่เดิมเป็นเวลานานด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้!กลายเป็นว่าเจนนี่ ลานิคกลับมาแล้ว เธอไม่อยากจะเชื่อเลย!เซนคงดีใจที่ลินด์ซีย์จะได้หายไปจากชีวิตของเขาสักทีมีเพียงแค่คนรักของเขาเท่านั้นที่จะได้รับการสนับสนุนจากเขาและมีเพียงแค่เจนนี่ ลานิคที่จะทำให้เซนทำเรื่องต่าง ๆ ได้โดยไม่ลังเล!เซนจะประคบประหงมเธออยู่ในอุ้งมือของเขาจนกว่าเขาจะยอมให้เธอเลือกลูกค้าที่เธอต้องการ!เมื่อพบกับความไม่ยุติธรรม ลินด์ซีย์รู้สึกท้อแท้อย่างมาก เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตา
สเตฟานี่ ลินด์ไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งลินด์ซีย์ จูลวางสายไป“ฉันบอกคุณแล้ว! ว่าหลายปีที่ผ่านมาเรากำลังเลี้ยงเด็กอกตัญญูและตอนนี้เธอเป็นอิสระแล้ว เธอไม่สนใจว่าครอบครัวของเราจะอยู่รอดหรือเปล่า!”ยิ่งสเตฟานี่คิดเธอก็ยิ่งโกรธมากขึ้น สำหรับเธอลินด์ซีย์เปรียบเสมือนสุนัขที่เธอเลี้ยงดูจนโตแล้วในตอนนี้สุนัขตัวนี้กลับไม่เชื่อฟัง เกเรและไม่กระดิกหางให้เธออีกต่อไปแล้ว!เฮนรี่ จูลนั่งอยู่บนโซฟาโดยไม่พูดจา ก่อนหน้านี้เขาได้ยินบทสนทนาระหว่างพวกเธอแล้วเมื่อคืนตอนที่เขารู้ว่าลินด์ซีย์หายตัวไปกลางดึก เขาก็รับรู้ทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น“ตอนนี้คุณวอลต์แมนกำลังถามหาเธออยู่และตอนนี้นังเด็กไม่รักดีนั่นกลับไม่เชื่อฟัง! เราจะทำยังไงกันดี?”เฮนรี่หน้าบึ้งตึง จากที่หนึ่งนาทีก่อนหน้านี้น้ำเสียงของเขายังนิ่งสงบ บัดนี้ดังขึ้นเล็กน้อยในขณะที่เขาพูด “พอสักที! ดูตัวเองสิ! คุณดูเหมือนคนแก่ปากร้าย!”“ทำไมคุณต้องตะคอกใส่ฉันด้วย? นี่มันสถานการณ์เป็นหรือตายของครอบครัวของเรานะ และเซนก็ยังไม่ยอมปล่อยเราไปด้วย ถ้านังเด็กบ้านั่นไม่ยอมไปรับใช้คุณวอลต์แมน ครอบครัวของเราจบแน่!”หลังจากที่เคยชินกับการใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟ
เซน กุกเกนไฮม์มองไม่เห็นอะไร นอกจากคนแปลกหน้าที่เดินผ่านไปผ่านมา เขาขมวดคิ้ว ซ่อนความระคายเคืองไว้ในใจของเขาและเข้าไปในร้านอาหารกับเจนนี่ ลานิคพร้อมกันเซนต้องรีบกลับไปที่คฤหาสน์หลังจากที่เขาได้รับสายจากปู่ของเขา ใบหน้าที่ไม่พอใจของเขามืดมนลงเมื่อเขารู้ว่าลินด์ซีย์ จูลกำลังทานข้าวอยู่กับชายชราด้วยต่อหน้าชายชรา เซนทานอาหารของเขาจนหมดด้วยความเงียบและรอจนกว่าชายชราจะทานเสร็จและขึ้นไปพักผ่อน หลังจากนั้นเขาดึงลินด์ซีย์ขึ้นและลากขึ้นไปยังชั้นสองเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาภายในห้อง เขาเหวี่ยงเธออย่างแรงเข้ากับกำแพง เธอรู้สึกเจ็บสะท้านไปทั่วทั้งร่างกาย เธอตั้งสติให้มั่นกว่าเดิม เธอเงยหน้ามองใบหน้าอันหล่อเหลาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ใบหน้าของเซนท่าทีต่างคนที่เธอเห็นข้างนอกวันนี้ราวกับเป็นคนละคนกันพวกเขาอยู่ใกล้กันมาก แต่เธอกลับไม่รู้สึกถึงไอความอบอุ่นจากเขาเลย“นี่มันแผนของเธอเหรอ?”เซนเปล่งเสียงออกมา เผยให้เห็นการเย้ยหยันและความรังเกียจที่อยู่ในตาของเขา“ไม่ใช่”สายตาของลินด์ซีย์ตรงไปตรงมา แต่นอกจากคำเหล่านี้เธอก็ไม่มีคำอธิบายอย่างอื่นอีกเธอรู้ดีว่าสำหรับเซน ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรไปก็เปล่าปร
“อ้าวคุณจูล! คุณมาแล้ว! มานี่สิ! นั่งลง!”ทันทีที่สายตาของคุณลีเหลือบไปเห็นลินด์ซีย์ จูลเข้ามาในห้อง สายตาของเขาเต็มไปด้วยความบ้ากามมากกว่าเดิมลินด์ซีย์กำเอกสารในมือของเธอพร้อมกับฝืนยิ้มในขณะที่เธอยื่นมือของเธอเพื่อทักทายอย่างสุภาพและพูด “คุณลี ยินดีที่ได้พบค่ะ!”“ฮ่าฮ่า! ผมดีใจที่ได้เจอคุณเหมือนกัน!”คุณลีใช้โอกาสนี้เพื่อจับมือของลินด์ซีย์ด้วยมือที่หยาบกระด้างของเขาพร้อมกับยิ้มกว้างจนทำให้เธอขนลุก“ยินดีที่ได้พบคุณเช่นกันค่ะ นี่เป็นข้อเสนอที่ฉันเตรียมมาค่ะ ถ้าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม เราสามารถคุยรายละเอียดกันได้เลยนะคะ”ลินด์ซีย์รีบดึงมือของเธอกลับออกจากมือของเขา ท้องไส้ของเธอรู้สึกปั่นป่วนและรู้สึกเหมือนจะอาเจียนอาหารที่เพิ่งทานมาเมื่อคืนไม่ว่าเธอจะรังเกียจมากแค่ไหน แต่เธอจะต้องเก็บกั้นความรู้สึกนี้เอาไว้เพราะเธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถทำให้เขาโกรธได้“เราคุยเรื่องงานทีหลังได้ ดูรอบ ๆ ตัวคุณสิ มันดูไม่ใช่ที่ที่เหมาะจะคุยเรื่องงานนะ!”ท่าทีของคุณลีดูไม่พอใจตอนที่ลินด์ซีย์ดึงมือที่เรียวยาวและอ่อนนุ่มของเธอกลับไป เพราะความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขาไม่เป็นที่พึงพอใจ เขาจะรู้ส