“ไปค้นร่างชาวซีเหลียงสิ พวกเขาพกยาแก้พิษมาเยอะมาก”เสิ่นหรงชี้ทางให้เซี่ยเชียนฮวันทันใดนั้นเซี่ยเชียนฮวันก็ตระหนักได้ขึ้นมาใช่แล้ว วันนี้โอกาสดีจับชาวซีเหลียงได้!บนร่างพวกเขาจะต้องมียาแก้ควันพิษแน่!คืนนั้นควันพิษกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ซึ่งใช้เวลาหลายวันกว่าจะสลายไปจนหมด หากพวกเขาไม่มียาแก้พิษ ชะตากรรรมของพวกเขาก็จะเป็นแบบเดียวกับเซียวเย่หลันเวลาไม่คอยท่า เซี่ยเชียนฮวันรีบวิ่งไปค้นตัวพวกเขาทันที แน่นอนว่าพบขวดยาสองสามขวดนางเปิดขวดและดมมัน เพื่อตรวจสอบส่วนผสมของผงเหล่านี้ จากนั้นก็เก็บมันไว้ในตะกร้าไม้ไผ่ของตัวเองเมื่อนางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ก็ไม่เห็นชายคนนั้นแล้วเซี่ยเชียนฮวันยืนขึ้นพร้อมกับตะกร้าในมือ แล้วบ่นพึมพำว่า “ยังไม่ทันได้ถามชื่อเลย...ช่างแปลกคนเสียจริง”จู่ๆ ก็มาปรากฏตัวอย่างลึกลับทุกครั้ง แล้วก็หายตัวไปอย่างเงียบๆไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไรแต่สรุปคือ ออกมาเก็บสมุนไพรในครั้งนี้แม้จะเจอสถานการณ์สุดระทึกไปบ้าง แต่ผลลัพธ์ค่อนข้างดี นับว่านางกับเซียวเย่หลันโชคดีมากเซี่ยเชียนฮวันถือตะกร้าสมุนไพรที่เสิ่นหรงมอบให้ แล้วเดินกลับไปที่กระท่อมมุงจาก“ข่าวดี ข้
ทางด้านเมืองหลวงนั้นได้กำหนดวันฝังพระศพของจ้านอ๋องเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นก็คือพรุ่งนี้ซึ่งเซี่ยเชียนฮวันไม่รู้เรื่องนี้ นางยังคงมีความสุขที่ได้ค้นพบยาแก้ควันพิษนางพบผ้าขาวสะอาดสองผืน และนำมาทำเป็นผ้าพันแผล ทายาแก้พิษลงบนผ้า ก่อนจะนำมาปิดตาเซียวเย่หลัน“คืนนี้ห้ามถอดผ้าผืนนี้ เชื่อข้าสิ พรุ่งนี้ท่านจะรู้สึกดีขึ้นมาก” นางกระซิบพูดแน่นอนว่ายาทานก็ไม่อาจมองข้ามได้ หลังจากเซี่ยเชียนฮวันประคองเซียวเย่หลันให้นอนลง นางก็ไปหยิบสมุนไพรและทำอาหารให้เขา กว่าจะทำทุกอย่างจนเสร็จ ก็ปาไปกลางดึกแล้วนางตักน้ำขึ้นมาจากบ่อน้ำ แล้วเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ เซียวเย่หลัน“อะแฮ่ม ข้าอยากจะเช็ดตัวท่านสักหน่อย อย่างไรเสียท่านก็อยู่ข้างนอกมานาน ไหนจะซ่อนตัวอยู่ในห้องใต้ดินอีก ถ้าหากไม่เช็ดตัว ข้า...ข้าเกรงว่าท่านจะมีเหา” เซี่ยเชียนฮวันพูด ขณะที่ใบหน้าเริ่มแดงก่ำขึ้นมานางปลอบใจตัวเองอย่างเงียบๆ ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่จะเช็ดตัวให้คนป่วย เพียงแต่ว่าเรื่องแบบนี้ควรปล่อยให้พยาบาลทําแต่ตอนนี้ข้างกายของเซียวเย่หลันมีแค่นางเพียงคนเดียว มีแต่นางเท่านั้นที่ต้องทำงานให้หนักขึ้น ทั้งงานของหมอและงานของพยาบาล
ในตอนเช้าเซี่ยเชียนฮวันลืมตาขึ้นมาอย่างง่วงงุน ก่อนผลักแขนอันหนักอึ้งของชายคนนั้นออกนี่เกือบจะฆ่านางแล้วจริงๆนางรีบมาช่วยเขาด้วยความเมตตา พยายามล้างพิษให้เขา รักษาบาดแผลให้เขาแต่ปรากฎว่าเขากลับตอบแทนนางด้วยวิธีนี้! โชคดีที่เซียวเย่หลันอ่อนโยนและระมัดระวังเมื่อคืนนี้ จึงไม่มีผลกระทบต่อลูกน้อยในท้องนาง มิฉะนั้น นางจะฆ่าสุนัขตัวผู้ตัวนี้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้ เซี่ยเชียนฮวันปวดเอวไปหมด จนเกือบจะลุกไม่ขึ้น“โครกคราก...” คงเป็นเพราะใช้แรงมากจนเกินไป พอตื่นขึ้นมา ท้องนางถึงได้ส่งเสียงร้องโครกครากด้วยความหิวไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องออกไปหาผลไม้ป่าเพื่อสนองความหิวของตัวเองก่อนเซี่ยเชียนฮวันช่วยเซียวเย่หลันเปลี่ยนยาอย่างระมัดระวังอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ปิดประตู กุมเอว เดินขึ้นเขาด้วยท่าทางอ่อนปวกเปียกนางไม่กล้าเดินไปตามเส้นทางที่เคยเดินมาก่อน เพราะเกรงว่าจะบังเอิญพบกับชาวซีเหลียงอีก จึงเปลี่ยนเส้นทางไปหาผลไม้ป่ากิน“พระชายาจ้านอ๋อง!” เซี่ยเชียนฮวันเพิ่งจะยัดพุทราเข้าปาก จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงตะโกนเรียกจากทางด้านหลังเมื่อหันกลับไปมอง ก็พบว่าเป็นอู่อันโหวที่ควบม้าเข้ามา“ท่
วันนี้ บ้านเรือนแต่ละหลังล้วนถูกปิด แม้แต่ร้านอาหารหรือร้านน้ำชาก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดเพราะวันนี้เป็นวันเคลื่อนพระศพของจ้านอ๋องฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง ให้ชาวต้าเซี่ยทุกคนแต่งกายไว้ทุกข์สิบวัน ใครละเมิดกฎจะถูกประหารชีวิตกระดาษเงินสีขาวปลิวว่อนไปตามถนน ขบวนเคลื่อนพระศพเป็นไปอย่างเคร่งขรึมและเงียบงัน เดินไปกลางถนนอย่างช้าๆองค์รัชทายาทและองค์ชายรองต่างขี่ม้าขนาบข้างขบวน เพื่อปกป้องโลงศพการให้สองคนนี้รับหน้าที่ส่งเสด็จ จะเห็นได้ว่า ฮ่องเต้ทรงให้ความสำคัญกับจ้านอ๋องมากเพียงใดทันใดนั้น ความเงียบของถนนก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงกีบม้า“เร็วเข้า รีบพาพระชายาลงมา!” อู่อันโหวโบกมือสั่งข้ารับใช้ข้ารับใช้รีบเข้าไปในรถม้า กลับเห็นสภาพของเซี่ยเชียนฮวันที่ถูกมัดมือมัดเท้าเอาไว้ หากพาลงไปทั้งๆ แบบนี้คงดูไม่ดีแน่ คนอื่นอาจจะคิดว่าพวกเขาไปลักพาตัวพระชายามาแน่ๆ ดังนั้น ก่อนจะลงไป พวกเขาก็ใช้กริชตัดเชือกที่มัดขาของเซี่ยเชียนฮวันออกเซี่ยเชียนฮวันฉวยโอกาสนี้ชนพวกเขา แล้วกระโดดลงจากรถม้า! “พระชายา!” พวกเขาตะโกนไล่หลังเซี่ยเชียนฮวันวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ก็พบกับขบวนเคลื่อนพระศพตรงหน้ากระดาษสี
“องค์รัชทายาทได้ยินหรือไม่? นางหมายความว่าจะพาท่านลงหลุม" องค์ชายรองหัวเราะขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยองค์รัชทายาทเห็นแววตาท่าทางของเซี่ยเชียนฮวันที่ดูตื่นเต้นกระตือรือร้น ไม่เหมือนกับว่ากำลังพูดปด ในใจจึงรู้สึกสงสัยหรือเจ้าเจ็ดจะยังไม่ตาย...“ทหาร พาตัวนางไป!"ในขณะที่องค์รัชทายาทกำลังสับสนลังเลอยู่นั้น องค์ชายรองก็ได้เริ่มออกคำสั่ง!คนกลุ่มหนึ่งพุ่งกายเข้ามากดบ่าของเซี่ยเชียนฮวันเอาไว้ ดึงดันกันไปมาเพื่อต้องการลากตัวนางออกไป“พวกเจ้าอย่าลงไม้ลงมือ นางกำลังตั้งครรภ์!” องค์รัชทายาทไม่อาจทนดูต่อไปได้อีก จึงตั้งใจจะเข้าห้ามแต่คนเหล่านั้นกลับฟังคำพูดขององค์ชายรองเพียงคนเดียว แสร้งทำหูทวนลมกับคำสั่งขององค์รัชทายาทองค์ชายรองหรี่ตาลง สู้ตนใช้โอกาสนี้ทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของเซียวเย่หลันทิ้งเสียดีหรือไม่?จากนั้นเพียงแค่บอกว่าเซี่ยเชียนฮวันเข้ามารั้งเอาไว้เอง ไม่ทันระวังจึงทำให้นางตกเลือดผลักความผิดไปยังตัวนางเอง“ไม่ได้ยินคำที่องค์รัชทายาทสั่งหรือ พระชายาอ๋องตั้งครรภ์อยู่ พวกเจ้าระมัดระวังด้วย” องค์ชายรองจงใจเอ่ยขึ้นเสียงดังคนเหล่านั้นรับรู้ได้ทันทีถึงความหมายขององค์ชายร
“เจ้าเจ็ด เจ้า เจ้า เกิดเรื่องใดขึ้นกับเจ้า เหตุใดไม่กลับมาเสียแต่แรก ทำเอาพวกเราคิดว่าเจ้าตายไปแล้วเสียอีก”ซูอวี้เออร์เอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกักหากคนที่อยู่ตรงหน้านี้คือเซียวเย่หลัน แล้วผู้ที่อยู่ในโลงศพคือใคร??หรือจะเป็นจริงตามที่เซี่ยเชียนฮวันพูด เป็นเพียงแค่ชาวซีเหลียงคนหนึ่ง?!ให้ตายสิหากนำร่างของชาวซีเหลียงส่งเข้าไปในสุสานจักรพรรดิ คงเป็นเรื่องน่าขัน อับอายขายหน้าไปทั่วหล้าอย่างแน่แท้!เซียวเย่หลันไม่ได้สนใจคำพูดของซูอวี้เออร์ เขาเดินเข้ามาข้างกายเซี่ยเชียนฮวัน แล้วใช้มีดตัดเชือกที่ข้อมือนาง“เจ้า......”เซี่ยเชียนฮวันนวดข้อมือของตน ขณะที่กำลังจะเอ่ยบางอย่างออกมา นางก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่ท้องอย่างแรง!นางเอามือกุมท้อง เหงื่อออกทั่วร่างชั่วพริบตาเดียว นางก็รู้สึกว่าโลกกำลังหมุน ภาพตรงหน้ามืดลงเป็นลมไปในทันที...เซียวเย่หลันเข้ามาอุ้มนางเอาไว้“เซียวฉง หากลูกในท้องของเซี่ยเชียนฮวันเป็นอะไรขึ้นมา ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า”เขามองไปทางซูอวี้เออร์ซูอวี้เออร์ตัวสั่นสะท้าน รีบอธิบายว่า “ไม่เกี่ยวอันใดกับข้า! เสด็จพ่อรับสั่งให้ข้าคุ้มกันเจ้าจนฝังร่างลงดิน ข้าเพียงเห็นแก
“หืม? ใครกันที่ช่วยเจ้าไว้ ข้าจะตบรางวัลให้อย่างงาม!”ฮ่องเต้รู้สึกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาเซียวเย่หลันคุกเข่าลง กล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำทุ้มว่า “ขออภัยพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ หากลูกจะทูลขอรางวัลให้แก่คนผู้นั้นสักข้อหนึ่ง”“เจ้าลองว่ามา”ฮ่องเต้ยิ้มขึ้นผู้ที่ช่วยบุตรชายของเขาไว้ อยากได้สิ่งใดล้วนมิใช่ปัญหาต่อให้เป็นการแต่งตั้งตำแหน่งโหวหรือเจวี๋ยเซียวเย่หลันเม้มริมฝีปากบาง ๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นช้า ๆ “ลูกประสงค์ให้แต่งตั้งซูอวี้เออร์ให้เป็นพระชายารองพ่ะย่ะค่ะ”“ว่าอย่างไรนะ?”ฮ่องเต้ได้ยินดังนี้ รอยยิ้มก็หุบลงทันใด แทนที่ด้วยการขมวดคิ้วอย่างไม่พึงพอใจแต่เมื่อเห็นแก่เซียวเย่หลันที่เพิ่งผ่านพ้นความเป็นความตายมาหวุดหวิด เขาจึงไม่ได้โมโห ได้แต่ส่ายหน้ากล่าวว่า “เจ้าเจ็ด เจ้าควรรู้ดีว่าซูอวี้เออร์มีตัวตนแสนต่ำต้อย คนเช่นนั้นหากขึ้นเป็นพระชายารอง จะเป็นที่ขายหน้าของราชวังเราหนา”“ลูกเข้าใจความหมายของเสด็จพ่อพ่ะย่ะค่ะ แต่คนที่ช่วยลูกไว้ ก็คือซูอวี้เออร์”เซียวเย่หลันก้มหน้าลงฮ่องเต้ตกตะลึง “เป็นนางได้อย่างไร?”“หากไม่มีนาง ต่อให้ลูกมีชีวิตอยู่ ก็อาจกลายเป็นเพียงผู้ไร้ความสามารถเช่นขยะคนหนึ่ง บ
พระสนมหมิงเฟยตาแดงระเรื่อ แม้จะทาหน้าด้วยแป้ง แต่ก็ยังเห็นอาการบวมเล็กน้อยนางเดินเข้าไปหาเซียวเย่หลันอย่างรวดเร็ว อ้าแขนกว้างและกอดเขาแน่นฮ่องเต้เห็นฉากที่สองแม่ลูกพบหน้า ในใจก็รู้สึกสะเทือนใจขึ้นมา เขาตบไหล่หมิงเฟยและเซียวเย่หลันเบาๆ ก่อนจะโอบกอดพวกเขาเข้าด้วยกันหัวใจมนุษย์นั้นสุดแท้จะหยั่งถึงก่อนจะเกิดคลื่นลม ทัศนคติของฮ่องเต้ที่มีต่อสองแม่คู่นี้ก็ราบเรียบมากแต่ตอนนี้เขากับหมิงเฟยผ่านความเจ็บปวดกับการสูญเสียลูกชายร่วมกัน การเกือบจะสูญเสียเซียวเย่หลันและได้กลับคืนมานั้น ทำให้ความห่วงใยที่มีต่อพวกเขา ดูจะหนักแน่นมากขึ้น“หลันเอ๋อร์ ถ้าเจ้าอยากแต่งตั้งซูอวี้เออร์เป็นพระชายารอง ข้าจะไม่คัดค้าน” หลังจากหมิงเฟยปล่อยเซียวเย่หลัน นางก็ถอนหายใจออกมาเซียวเย่หลันขมวดคิ้ว “เงื่อนไขคือ?”“เจ้าไม่เด็กแล้วนะ แต่ตำแหน่งรองพระชายาทั้งสองตำแหน่งกลับว่างเปล่า ตอนนี้ซูอวี้เออร์ได้ไปที่หนึ่ง ส่วนอีกที่ควรจะหาคนมารับโดยเร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้จึงจะแผ่กิ่งก้านสาขาของเจ้า และบรรเทาความกังวลของฝ่าบาทได้”หมิงเฟยระบุเงื่อนไขของนาง“ความหมายของเสด็จแม่คือ นอกจากอวี้เออร์แล้ว ยังต้องแต่งอีกหนึ่ง