“ไม่เป็นเช่นนั้นหรอกมั้ง ข้ากับสามีไม่สนใจโลกภายนอกมานานแล้ว วันๆ ก็ปลูกดอกไม้ เขียนบทกวี ไม่น่าจะไปขวางทางนาง” เซียวหมิงหลานกล่าวอย่างลังเลหลี่จิ้งหย่าส่ายหน้า “ยังไม่แน่นอน! เซี่ยเชียนฮวันอาศัยว่ามีไทเฮาเป็นผู้สนับสนุน จึงทำตัวบ้าๆ บอๆ มาหลายปี ตอนนี้นางได้เรียนรู้ทักษะทางการแพทย์บางอย่าง และได้รับคำชื่นชมจากเสด็จพ่อ ทำให้เย่อหยิ่งจนไม่เห็นใครอยู่ในสายตา หากใครไม่เห็นด้วยกับนาง นางก็จะจำฝังใจและรอเอาคืน”“ดังนั้น...”เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้จบ เซียวหมิงหลานก็แอบเริ่มระวังเซี่ยเชียนฮวันมากขึ้นในขณะเดียวกันเซียวเย่หลันผลักเซี่ยเชียนฮวันเข้าไปในห้อง“จากนี้ไปเจ้าต้องอยู่กับข้า”เขาปิดประตู ใบหน้าหล่อเหลายังคงมืดมนแม้จะอยู่ใต้แสงไฟ ใบหน้าของเซี่ยเชียนฮวันก็เย็นชาพอๆ กัน “เซียวเย่หลัน ท่านไม่สามารถควบคุมข้าได้”“หมายความว่ายังไง หรือว่าเจ้าอยากจะนัดพบจอหงวนแซ่ซืออะไรนั่นต่อ?”เซียวเย่หลันยื่นมือออกไปจับใบหน้าของเซี่ยเชียนฮวันอย่างแรงเซี่ยเชียนฮวันเม้มปากแน่น ไม่พูดอะไรสักคำ และไม่มีความตั้งใจที่จะอธิบายให้ผู้ชายที่ไร้เหตุผลเช่นนี้ฟังตอนนั้นเอง เสียงประหลาดใจของซูอวี้เออร์ก็
“เซียวเย่หลัน ท่านพูดให้ชัดเจนนะ ก่อนหน้านี้ท่านเห็นด้วยอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้ทำไมถึงไม่เห็นด้วย?”เซี่ยเชียนฮวันสะบัดแขนออกจากมือของเซียวเย่หลันเวลานี้ สีหน้าของชายคนนั้นดูไม่เป็นธรรมชาติเล็กน้อย เขาเดินอีกด้าน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “อันที่จริงแล้วข้าไม่เคยตอบตกลง เป็นเจ้าที่คิดเองเออเอง”“ท่าน ท่านกำลังเล่นลิ้นนี่...”เซี่ยเชียนฮวันนึกถึงเซียวหมิงเซียนที่โมโหจนกระทืบเท้าตัวเอง แต่ตอนนี้ นางชักอยากจะกระทืบเท้าบ้างแล้วหรือว่า เป็นเพราะเขารับซูอวี้เออร์เป็นพระชายารองตามความประสงค์แล้ว บวกกับรู้สึกว่านางยังมีค่าอยู่บ้างในฐานะเครื่องมือมนุษย์ ดังนั้นจึงเสียดายไม่อยากหย่าขึ้นมา?เขาใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทั้งหมดจริงๆ ใต้หล้านี้จะมีเรื่องดีดีเช่นนี้ที่ไหน!เซี่ยเชียนฮวันข่มอารมณ์ไว้นาน สุดท้ายก็พูดด้วยความโกรธว่า “ข้าไม่สนว่าท่านคิดอะไร แม้จะเป็นการคิดเองเออเองของข้า แต่ท่านก็ไม่เคยคัดค้าน บางทีก่อนหน้านี้ข้าคงจะหน้ามืดตามัว ที่หลงคิดว่าคงจะดีถ้าได้อยู่กับท่าน แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากใช้ชีวิตที่เหลือกับท่านอย่างแน่นอน!”“หยุดโวยวายได้แล้ว”“แล้วใครเป็นสร้างปัญหา...”เซียวเย่
“ท่านอ๋อง รีบเข้ามาเร็วเข้า”เสียงของซูอวี้เออร์เริ่มฟังดูออดอ้อนมากยิ่งขึ้น ไม่รู้ว่านั่นเป็นทักษะยั่วยวนที่นางได้เรียนรู้จากหอเทียนเซียงหรือเปล่าตอนที่เซี่ยเชียนฮวันกำลังคิดว่าจะทำที่อุดหูให้กับตัวเองอยู่นั้นจู่ๆ ก็มีเสียงปิดประตูดังขึ้นเซียวเย่หลัน...ออกไปแล้ว?เซี่ยเชียนฮวันตกตะลึงไปพักหนึ่งปรากฎว่าเขาไม่ต้องการนอนกับซูอวี้เออร์หลังจากได้ยินเสียงปิดประตู ซูอวี้เออร์ก็นิ่งอึ้ง ความเงียบในความมืดนั้นทำให้การปรากฏกายที่เปลือยเปล่าของนางในตอนนี้ดูน่าขันมากสมควรตาย นางกำหมัดอย่างขมขื่นและทุบลงบนเตียงทั้งหมดเป็นความผิดของนางนั่นตอนนี้ ซูอวี้เออร์อยากจะออกไปข้างนอก และบีบคอเซี่ยเชียนฮวันให้ตายคามือของนาง หากไม่ใช่เพราะการแทรกแซงของเซี่ยเชียนฮวัน นางคงจุดกำยานหอมในห้อง และคงร่วมหอลงโรงกับเซียวเย่หลันไปแล้วกล้าดียังไงมาทำลายเรื่องดีๆ ของนาง...แม้ว่าซูอวี้เออร์จะโกรธ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากสวมชุดชั้นในอีกครั้งแล้วเข้านอน เพื่อวางแผนการใหม่สำหรับวันพรุ่งนี้พระจันทร์อันสดใสค่อยๆ ปรากฏขึ้นทางทิศตะวันตกณ.สวนบ๊วยแสนเงียบสงบ มีเพียงเสียงลมหนาวพัดหวีดหวิว และใ
“ขอบคุณพระชายา!”เสี่ยวตงรู้สึกตื่นเต้นมากว่ากันว่าคนคนนั้นรูปงามกว่าผานอัน สาวๆ ทุกคนคงอยากเห็นความงามของเขาเมื่อเห็นเสี่ยวตงตื่นเต้นมาก เซี่ยเชียนฮวันก็ถูกกระตุ้นจนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกันนางคิดว่าถ้าได้ไปดูหนุ่มรูปงาม บางทีอาจจะรู้สึกดีขึ้น“ซังฉู่ซวินที่เจ้าพูดถึงอยู่ที่ใด? คงไม่ใช่บ๊วยห้าสมบัติจ้าวซุ่ยหรอกนะ”ถึงแม้เซี่ยเชียนฮวันอยากจะพบหนุ่มหล่อ แต่ก็ไม่อยากพบเซียวเย่หลันกับซูอวี้เออร์กระหนุงกระหนิงกันต่อหน้าต่อตาเสี่ยวตงส่ายหน้า “บ่าวได้สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เป็นท่านราชบุตรเขยที่เชิญมาเพื่อฮูหยิน เขาน่าจะจัดเวทีอยู่ที่ศาลาหลัวสุ่ย”ราชบุตรเขยผู้นี้เป็นสามีของเซียวหมิงหลานปีนั้น ในการสอบหน้าพระพักตร์ หลังจากที่เขาได้เป็นทั่นฮวา เขาก็ไม่สนใจชื่อเสียงและโชคลาภ ตอนนี้เขาไม่มีตำแหน่งในราชสำนัก นอกจากตำแหน่งราชบุตรเขยบางคนถึงกับบอกว่า ราชบุตรเขยบังเอิญตกหลุมรักองค์หญิงสี่ตั้งแต่แรกพบ จึงเข้าร่วมการสอบเพื่อแต่งงานกับนางดังนั้น ไม่ว่าองค์รัชทายาทกับองค์ชายรองจะต่อสู้กันเช่นไร มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเซียวหมิงหลานและสามีของนาง เพราะหนุ่มสาวคู่นี้ไม่มีความทะเยอ
“ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็มีแต่จะทำให้คนโชคร้าย”“นางไม่ควรมาปรากฏตัวที่นี่”“ทำให้พวกเราไม่ได้รับดอกไม้ของซังฉู่ซวิน”เสียงเล็กๆ เหล่านี้ เหมือนกับแมลงวันที่น่ารำคาญ ซึ่งคอยส่งเสียงดังอยู่ในหูของเซี่ยเชียนฮวันเสี่ยวตงฉุนจัดจึงพูดเสียงดังขึ้นว่า “พระชายาได้รับดอกไม้ย่อมเป็นโชคของพระชายา พวกท่านโชคร้ายเอง ก็อย่ามาโทษพระชายา!”ทันทีที่สาวใช้ส่วนตัวของพระชายาเปิดปาก เหล่าคุณหนูผู้สูงศักดิ์ก็ไม่สามารถพูดอะไรได้ ทำได้แค่แอบกลอกตาเท่านั้นมีเพียงเซียวหมิงเซียนที่ลูบเล็บอยู่เท่านั้น ที่จงใจพูดเยาะเย้ย “พี่สะใภ้ไม่ควรอยู่ที่นี่จริงๆ เมื่อคืนท่านทำให้พี่เจ็ดโกรธ และวันนี้ก็ไม่อยู่ปรนนิบัติท่านพี่ แต่กลับดอดมาฟังละครด้วยตัวเอง นี่มันไร้คุณธรรมเกินไปแล้ว”ทันทีที่นางพูดจบ ก็มีบางคนเสริมว่า “ข้าเพิ่งเห็นจ้านอ๋องกำลังเดินชมดอกบ๊วยอยู่กับพระชายารอง แม้ว่าพระชายาอยากจะปรนนิบัติ ก็คงไม่มีโอกาสหรอก”“ในฐานะภรรยาเอก แต่กลับถูกภรรยารองข้ามหน้าข้ามตา ช่างขายขี้หน้าจวนอันติ้งโหวยิ่งนัก...”“ใครบอกให้นางเทียบพระชายารองซูไม่ได้กันล่ะ...”มีเซียวหมิงเซียนเป็นผู้นำ เหล่าคุณหนูที่กำลังไม่พอใจที่แย่งดอกไม้ม
เซียวหมิงเซียนมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจการเล่นเฟยฮวาลิ่ง ประการแรก ไม่เพียงแต่ฆ่าเวลาเท่านั้น แต่ยังทำให้เซี่ยเชียนฮวันผู้โง่เขลาได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมาอีกด้วยประการที่สอง ยังสามารถแสดงให้ทุกคนเห็นถึงพรสวรรค์ของซืออวี้สวี่ ในฐานะจอหงวนอันดับหนึ่ง และพิสูจน์ว่าราชบุตรเขยของนาง ดีกว่าราชบุตรเขยของเซียวหมิงหลาน!เซียวหมิงเซียนภูมิใจมากและเป็นผู้นำในการพูด “เริ่มต้นด้วยข้า! ประโยคแรก ดอกไม้แดงจางหายง่ายดายดั่งใจคน สายธารไร้ที่สิ้นสุดประดุจดั่งกำสรวล!”นางพูดจบ ก็มองไปที่ซืออวี้สวี่ที่อยู่ข้างๆ นางซืออวี้สวี่ยิ้มน้อยๆ แล้วร่ายกวีต่อ “กังวลยามเห็นเรือแล่นลมอีกหน ในคลื่นขาวมีชายผมขาว”“คำว่า ‘ความเศร้า’ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อได้ แต่ท่านกลับตอบสนองได้เร็วมาก สมแล้วที่เป็นจอหงวน”“น่าชื่นชมจริงๆ”ทุกคนเริ่มยกย่องซืออวี้สวี่อีกครั้งตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าการประจบประแจงซืออวี้สวี่ ก็เหมือนประจบประแจงองค์หญิงแปดในแง่หนึ่ง มันจะทำให้องค์หญิงแปดมีความสุขมากกว่าถูกยกย่องโดยตรง “พี่เขย ตาท่านแล้ว”เซียวหมิงเซียนมองราชบุตรเขยตรงๆราชบุตรเขยกล่าวด้วยเสียงอันอ่อนโยน “สิ้นเดือนสี่บุ
แม้ว่าเซี่ยเชียนฮวันจะไม่ได้พูดถึงชื่อนามสกุลโต้งๆ แต่เซียงหมิงเซียนก็ฟังออกอย่างชัดเจนถึงการเสียดสีในคำพูดของนางวันนี้เสด็จพ่อทรงพระราชทานการอภิเษก ให้จอหงวนเป็นราชบุตรเขย เป็นช่วงจังหวะที่เซียวหมิงเซียนกำลังได้ใจเซี่ยเชียนฮวันกลับตั้งใจเลือกกลอนกวีประเภทนี้ในกลอนพูดถึงเมื่อดอกไม้ร่วงโรย คนก็ตายจากกันไป ไม่รู้จักกันนี่ไม่ใช่กำลังแช่งนาง กำลังเตือนนางว่าอย่าได้ใจเพียงเพราะเรื่องมงคลเรื่องเดียวอยู่งั้นหรือ?“เซี่ยเชียนฮวัน เจ้าบังอาจนัก!”เซียวหมิงเซียนตบโต๊ะแล้วลุกขึ้นผู้คนเห็นว่านางโมโห ทั้งหมดล้วนเงียบสงัด ไม่มีใครกล้าออกเสียง!เซี่ยเชียนฮวันยิ้มบางๆ “องค์หญิงแปดเข้าพระทัยผิดแล้ว ทุกคนล้วนรู้ดีว่าข้าเป็นเพียงคนไร้การศึกษา แน่นอนว่านึกกลอนท่อนไหนออกก็โพล่งท่อนนั้นออกมา จะเป็นการสาปแช่งองค์หญิงได้อย่างไรกันเล่า”“เจ้า……”เซียวหมิงเซียนพูดไม่ออกไปครู่หนึ่งคิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อครู่นางทำให้เซี่ยเชียนฮวันต้องอับอายเรื่องไม่มีการศึกษา ตอนนี้กลับกลายเป็นเหตุผลในการแก้ต่างของเซี่ยเชียนฮวันไปได้!เซี่ยเชียนฮวันนางตัวดี อยากให้นางเสียหน้าแบบนี้สินะ!“อะแฮ่มๆ เสด็จน้องอย่าเพิ่
“เสด็จพี่ห้าพูดตลกแล้ว ข้าอารมณ์ดีมาก”เซี่ยเชียนฮวันวางมือบนหน้าท้องที่โตขึ้นทุกวัน แล้วยิ้มแย้มกลัวว่าเซียวจ้านจะไม่เชื่อ นางจึงเอ่ยเน้นอีกครั้ง “อารมณ์เสียเพราะคนเหล่านั้น ไม่คุ้มค่าหรอก”“ไม่เป็นไร เจ้าพูดความจริงกับข้าได้ ข้าไม่มีผู้อยู่เบื้องหลัง ไร้อำนาจในราชสำนัก ข้าไม่เอาความรู้สึกระหว่างเจ้ากับเจ้าเจ็ดไปทำเป็นบทความหรอก”เซียวจ้านมองนางด้วยสายตาอบอุ่น แววตาดูจริงใจ ไม่ล้อเล่นเลยบนตัวของบุรุษผู้นี้แฝงไปด้วยรังสีบางอย่างที่สามารถทำให้คนอื่นหลงเชื่อเขาได้ง่ายๆเขาเอ่ยต่อไปว่า “บางครั้งตัวเราเองก็ไม่อาจรับรู้ได้ว่าในใจของตนอึดอัดมากเพียงใด หากเก็บเอาไว้ไม่ยอมระบายมันออกมา นานเข้าจะเป็นผลต่อสุขภาพได้”“ท่านพูดถูก บางทีในใจข้าอาจจะไม่สบายจริงกระมัง”เซี่เชียนฮวันถอนใจเห็นด้วยกับความจริงข้อนี้ทั้งๆ ที่นางเองก็อยู่ในสวนดอกเหมยเช่นกัน แต่เซียวเย่หลันกลับสนใจแต่ซูอวี้เออร์ ทำให้นางกลายเป็นเรื่องน่าขันของเซียวหมิงเซียนและคนอื่นๆนางไม่เชื่อหรอกว่าเซียวเย่หลันจะไม่รู้ว่าการที่ตนทำเช่นนั้นจะตกเป็นที่ครหาของผู้อื่นเขาเพียงแค่ไม่สนใจก็เท่านั้นไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองหรือดูถูกเ