Share

บทที่ 12

สาวสวยท่านนี้ คุณไม่สนใจผมเกินไปแล้ว”

หวางเส้าหลงโกรธขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคก่อนหน้านี้

ฉันเป็นถึงคุณชายผู้สูงส่งแห่งตระกูลหวาง สู้คนไร้ค่าอย่างหลินเฟิงไม่ได้ตรงไหน?

ถังหว่านพูดอย่างดูถูก “เพราะแบบนี้ไงฉันถึงไม่สนใจคุณ”

มุมปากของหวางเส้าหลงกระตุก มือกำหมัดจนเส้นเลือดขึ้น

“คนสวย ผมบอกคุณตรง ๆ นะ นายนี่จนถึงตอนนี้แม้แต่งานจะทำยังไม่มีเลย”

“ไม่อย่างนั้นหลี่ฮุ่ยหรานคงไม่หย่ากับเขาหรอก”

“นอกจากหน้าตาที่พอไปวัดไปวาได้แล้ว เขาสามารถให้อะไรกับคุณได้บ้าง?”

ทันทีที่ได้ยินถังหว่านก็หันไปมองหลินเฟิง และชมว่า “คุณหลินขาดแค่เวลาเท่านั้น ฉันเชื่อว่าแค่ให้เวลาเขาสักหน่อย”

“ก้าวนำหน้าตระกูลหวางภายในหนึ่งเดือน ไม่ใช่เรื่องยากเลย”

“ฮ่าฮ่าฮ่า...”

หวางเส้าหลงรู้สึกขบขันและหัวเราะเสียงดัง

หนึ่งเดือน เริ่มต้นจากศูนย์และก้าวนำหน้าตระกูลหวาง เป็นเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระที่สุดในโลก

“คนสวยคุณนี่พูดจาได้ตลกจริง ๆ”

ถังหว่านยิ้มและพูดว่า “ฉันไม่ได้ล้อคุณเล่นนะ งั้นเรามาพนันกันไหมล่ะ?”

“ถ้าคุณหลินก้าวนำหน้าตระกูลหวางได้ภายในหนึ่งเดือน คุณจะต้องคุกเข่าลงและขอโทษฉัน”

หวางเส้าหลงหรี่ตาลงเล็กน้อย และเริ่มรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“แล้วถ้าก้าวนำหน้าไม่ได้ล่ะ?”

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะคุกเข่าลงและขอโทษคุณ” ถังหว่านพูดอย่างไม่ร้อนใจ

“ได้ นั้นพวกเราก็ตกลงตามนี้เลย” หวางเส้าหลงตอบกลับทันที

กลัวว่าอีกฝ่ายจะเสียใจ

หลินเฟิงหรี่ตาลงเล็กน้อย และมองไปที่ถังหว่าน

ผู้หญิงคนนี้ชอบทำให้มีเรื่องจริง ๆ

เขาไม่อยากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปะทะฝีปากของคนพวกนี้

เขาหันหลังกลับแล้วเดินไปที่ห้องจัดเลี้ยง

“คุณหลิน รอฉันด้วยสิคะ” เมื่อถังหว่านเห็นแบบนั้นก็รีบเดินตามเขาไปทันที

เธอคว้าแขนของหลินเฟิงมาควงไว้

“เมื่อกี้ฉันเดิมพันไว้ว่าคุณจะชนะ คุณต้องให้กำลังใจฉันบ้าง”

“ผมไม่สนใจที่จะเป็นเดิมพันของพวกคุณ หลินเฟิงกล่าวเรียบ ๆ

ถังหว่านพูดอย่างอ้อน ๆ “ถ้าอย่างนั้นคุณจะยอมทนเห็นฉันไปคุกเข่าต่อหน้าชายนิสัยไม่ดีคนนั้นหรอ”

มองไปแล้วยิ่งเหมือนกับคู่รักที่กำลังง้องอนกันอยู่

“หลินเฟิง ฉันอยากคุยกับคุณสักหน่อย” จู่ ๆ หลี่ฮุ่ยหรานก็พูดขึ้น

“เรื่องอะไร พูดเถอะ”

“พวกเราไปคุยกันตามลำพังได้ไหม? แค่พวกเราสองคน”

หลินเฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา “ตามลำพังงั้นหรออย่าเลย เดี๋ยวจะถูกคนอื่นนินทาเอาได้”

พูดจบ เขาก็เดินออกไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง

“คุณ...”

หลี่ฮุ่ยหรานคิดไม่ถึงว่าเขาจะเมินเฉยต่อเธอถึงเพียงนี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอขอให้เขาช่วยอะไรแม้เพียงเล็กน้อย เขาก็จะพยายามทำตามคำขอของเธออย่างสุดความสามารถ

ถังหว่านยิ้มอย่างมีเลศนัย “ดูเหมือนว่าคุณหลินจะไม่อยากคุยกับคุณนะ!”

“คุณหลี่ควรไปให้ความสนใจกับโครงการของตระกูลถังเถอะค่ะ อย่าไปสนใจความคิดของคุณหลินเลย”

หลี่ฮุ่ยหรานกัดฟันพูด “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ”

ถังหว่านล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เผยให้เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจ

“ฉันแค่กังวลว่าตระกูลหลี่ของพวกคุณจะไม่สามารถคว้าโครงการของตระกูลถังมาได้ และเมื่อถึงตอนนั้นคุณจะขายหน้า”

หลังจากที่ถังหว่านพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินตามหลินเฟิงไป

มองดูด้านหลังของทั้งสองคนที่จากไป

หลี่ฮุ่ยหรานรู้สึกผิดหวังลึก ๆ ในใจอย่างมาก

กำมือทั้งสองข้างแน่น ไม่ยอมปล่อย

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลินเฟิงไม่ได้หันมาสบตาเธอตรง ๆ เลยสักครั้ง

ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่คิดที่จะอธิบายเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เขาให้เธอฟังเลยด้วยซ้ำ

หรือว่าเขาลืมความรู้สึกตลอดสามปีที่ผ่านมาหมดแล้วจริง ๆ?

หวางเส้าหลงที่ตอนนี้เดินเข้ามาด้วยความพอใจอย่างมาก

“ฮุ่ยหรานคุณไม่ต้องกังวล หลังจากนี้หนึ่งเดือน ผมจะให้ผู้หญิงคนนี้คุกเข่าและขอโทษคุณ”

เวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งเดือน อยากจะก้าวนำหน้าตระกูลหวาง? เป็นฝันของคนโง่เท่านั้นแหละ

หลี่ฮุ่ยหรานกลับไม่ได้พูดอะไรในครั้งนี้

เธอกลับรู้สึกว่าผู้หญิงคนนั้นแปลก ๆ

ท่าทางเย็นชา และรอยยิ้มที่มั่นใจนั้นยังคงติดอยู่ในใจของหลี่ฮุ่ยหราน

ในสถานการณ์แบบนี้ ฉันไม่มีอารมณ์จะมาใจเย็นขนาดนั้น

ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่กิ๊กของหลินเฟิงจริง ๆ หรอ?

“ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเท่าไร”

โรงแรมเทียนอวี่ ณ ห้องจัดเลี้ยงอัมพร 1

ในเวลานี้ภายในงานเลี้ยงมีนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงจำนวนไม่น้อยถยอยเข้ามา

ในฐานะที่ถังหว่านเป็นคนสำคัญหลักในงานเลี้ยงนี้ทำให้เธอไม่สามารถอยู่กับหลินเฟิงได้ตลอดเวลา

“คุณหลิน กรุณานั่งรอก่อนสักครู่ ฉันขอไปรับแขกคนอื่นก่อน”

หลินเฟิงพยักหน้า “คุณตามสบายเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงผม”

เขานั่งบนเก้าอี้ และเริ่มตักอาหารบนโต๊ะกินด้วยตนเอง

เขาไม่รู้จักเถ้าแก่ใหญ่เหล่านี้เลยสักคน และก็ไม่จำเป็นที่จะต้องคุยกับพวกเขา

ในเวลานี้ หลี่ฮุ่ยหรานกับอีกสองคนก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยง

เถ้าแก่หลายคนเมื่อเห็นดังนั้นก็หยิบแก้วไวน์เดินเข้าไปห้อมล้อมทันที

“คุณหลี่ ยินดีด้วย ตอนนี้คุณถังหายจากอาการป่วยหนักแล้ว ตระกูลหลี่ครั้งนี้คงจะสำเร็จแบบก้าวกระโดดเป็นแน่”

“ทีนี้โครงการในซีเฉิงจะเป็นของใครไปได้นอกจากตระกูลหลี่”

“ใช่แล้ว หลังจากนี้คุณหลี่ได้โปรดช่วยสนับสนุนพวกเราด้วยนะครับ”

หลี่ฮุ่ยหรานยิ้มกว้างจนจะถึงหู และค่อย ๆ ปิดริมฝีปากสีแดงของเธอ “ไม่หรอก ฉันก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถ”

หัวใจของเธอเบิกบานอย่างมีความสุข

เมื่อเช้านี้ได้รับข่าวว่าคุณถังหายจากอาการป่วยหนัก เธอรีบสั่งให้เลขากระจายข่าวออกไปทันที

ตอนนี้สิ่งที่ตัวเธอเองปรารถนา ได้มีแสงสว่างจากผู้มีพระคุณอย่างคุณถังมาช่วยชีวิตไว้

ใครจะสามารถทำแบบเธอได้?

ฝ่ากลุ่มคนที่รายล้อม หลี่ฮุ่ยหรานเดินมาถึงแถวหน้าแล้ว

ร่างของคนที่ไม่เข้าพวกปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ

“หลินเฟิง ใครให้นายมานั่งตรงนี้ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้” หวางเส้าหลงตะโกนด้วยความโกรธ

นี่คือโต๊ะรับรองหลักของตระกูลถัง และคนที่มีสิทธิ์จะนั่งตรงนี้ได้มีแค่หลี่ฮุ่ยหรานเท่านั้น

หลินเฟิงวางตะเกียบลง แล้วเช็ดครีมออกจากปาก “คุณถังให้ฉันนั่งตรงนี้ นายมีข้อโต้แย้งอะไรไหม”

“เหอะ...”

หวางเส้าหลงพูดอย่างเหยียดหยาม “นายนี่มันอวดดีจริง ๆ ทำไมคุณถังต้องให้นายนั่งตรงนี้”

“นายมีคุณสมบัติพอที่จะพบคุณถังหรอ?”

“คนนี้เป็นใครกัน?”

เถ้าแก่ทุกคนต่างมองไปที่หลินเฟิงอย่างสงสัย

หวางเส้าหลงกลอกตาแล้วพูดว่า “คนนี้ก็คือสามีเก่าของคุณหลี่ เขาไม่มีงานทำมาสามปีแล้ว วันทั้งวันก็อาศัยคุณหลี่เลี้ยง”

“ตอนนี้คุณหลี่หย่ากับเขาแล้ว เขาก็ยังตามมาสร้างเรื่องถึงที่นี่”

หลังจากที่ได้ฟัง ทุกคนต่างก็เริ่มพูดกัน “อะไรกัน? บนโลกใบนี้ยังมีคนที่ไร้ยางอายแบบนี้อยู่อีกหรอ?”

“ให้ตายเถอะ คิดว่าเขาเป็นคนแบบไหนกัน”

“ขนาดมีดกับส้อมยังใช้ไม่เป็นเลย แค่มองแวบเดียวก็เหมือนคนบ้านนอก มีสิทธิ์อะไรถึงมารบกวนคุณหลี่?”

ตอนนี้ตระกูลหลี่มีอิทธิพล แน่นอนว่าทุกคนก็ต้องเข้าข้างตระกูลหลี่เป็นธรรมดา

เมื่อหลี่ฮุ่ยหรานเห็นว่าทุกคนต่างกล่าวหาหลินเฟิง ก็รีบก้าวไปด้านหน้าพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “หลินเฟิง คุณควรออกไปก่อนดีกว่า”

หลินเฟิงค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น “ทำไม? แม้แต่คุณก็จะไล่ผมออกไปเหรอ?”

หลี่ฮุ่ยหรานขมวดคิ้ว “คุณคิดว่ามันยังขายหน้าไม่พอหรอ?”

“ขายหน้า?”

หลินเฟิงพูดอย่างเหยียดหยาม “เป็นเพราะคุณกลัวว่าผมจะทำให้ตระกูลหลี่ต้องขายหน้าละสิ? ตลอดสามปีที่ผ่านมานี้ผมอยู่ในตระกูลหลี่ของพวกคุณยังมีหน้าให้พูดถึงอยู่อีกหรอ?”

จางกุ้ยหลานดึงหลี่ฮุ่ยหรานกลับมา “เธอไปพูดเรื่องไร้สาระอะไรกับเขากัน!”

“รอให้คุณถังมาก่อน เขาได้ตายโดยไม่รู้ตัวแน่”

หวางเส้าหลงเดินไปหาหลินเฟิงอย่างผู้ชนะ “นี่นาย หนังหน้าของนายนี่มันคงหนามากเลยจริง ๆ สินะ ทุกคนต่างไล่ให้นายออกไป แต่นายกลับยังสามารถนั่งนิ่งเฉยได้อยู่”

“ถ้าฉันเป็นนาย คงไม่รอช้าที่จะเอาหน้าแทรกแผ่นดินหนีไปแล้ว”

หลินเฟิงเหลือบมองเขา “เห็นแก่หน้าตระกูลถัง ฉันไม่อยากมีเรื่องในงานเลี้ยง ดังนั้นออกไปซะ”

“เหอะเหอะ อยากจะตีฉันเหรอ? มาเลย ฉันก็อยากรู้ว่านายจะกล้ามากแค่ไหน”

หวางเส้าหลงยิ้มเยาะ และเริ่มที่จะเอาหน้าของเขาเข้ามาใกล้มากขึ้น

พูดด้วยเสียงที่มีแค่พวกเขาสองคนได้ยิน

“ฉันจะบอกนายให้ คืนนี้ฉันได้จองห้องไว้ที่โรงแรมชุนเจียง เพื่อที่จะได้จัดงานฉลองให้กับฮุ่ยหรานในคืนนี้”

“ได้ยินมาว่านายไม่ได้นอนกับหลี่ฮุ่ยหรานเลยตลอดสามปีที่ผ่านมา? นายนี่มันใช้ไม่ได้”

“อยากให้ฉันบันทึกวิดีโอส่งให้นายดูคืนนี้ไหม?”

หลินเฟิงมองด้วยสายตาพิฆาต ความเคียดแค้นพุ่งสูงขึ้นมาในทันที

“เพี๊ยะ” เสียงฝ่ามือฟาดเข้าที่หน้าเขาอย่างรุนแรง

“อ๊ะ...”

หวางเส้าหลงส่งเสียงร้องดังลั่น

แค่รู้สึกเหมือนกับว่าโลกหมุนไปพักหนึ่ง

ตัวทั้งตัวลอยออกไป

“นี่...”

ทันใดนั้น เสียงดังทั้งหมดก็หยุดลงไปในทันที

ทุกคนต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าชายคนนี้จะกล้าทำร้ายใครในงานเลี้ยงตระกูลถัง

“แม่งเอ้ย...”

ใบหน้าของหวางเส่าหลงบิดเบี้ยว ตะเกียกตะกายขึ้นมาอย่างโซซัดโซเซ

รู้สึกปากเบี้ยวไปเล็กน้อย

“คุณหวาง คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

จางกุ้ยหลานตกใจจนหน้าซีด

เธอมองไปที่หลินเฟิงและต่อว่า “นายหลิน นายบ้าไปแล้วหรอ นายกล้าดียังไงมาทำร้ายคุณหวาง?”

หลินเฟิงสะบัดข้อมือของเขาเล็กน้อย “ผมไม่ฆ่าเขาก็ดีเท่าไรแล้ว”

หลี่ฮุ่ยหรานก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะระเบิดอารมณ์ขนาดนี้ จึงพูดขึ้นด้วยความโกรธ “หลินเฟิง ทำไมคุณถึงต้องลงมือทำร้ายคนอื่นด้วย?”

“คุณรีบขอโทษคุณหวางเร็ว”

หลินเฟิงชะงักไปทันที และมองไปที่หลี่ฮุ่ยหรานอย่างเหลือเชื่อ “คุณให้ผมขอโทษเขาอย่างนั้นหรอ”

“เมื่อกี้ตอนที่เขาเป็นคนเริ่มทำให้ผมขายหน้า ทำไมคุณถึงไม่ให้เขาขอโทษผม”

หลี่ฮุ่ยหรานหลบตาเขา “เมื่อสักครู่คุณหวางก็ทำไม่ถูก แต่คุณก็ไม่สามารถที่จะลงมือทำร้ายใครได้!”

หลินเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “ขอโทษที ฉันก็แค่ใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา ถ้าคุณไม่สบายใจก็มาแก้แค้นแทนเขาได้”

“คุณ...คุณนี่มันเกินเยียวยาแล้วจริง ๆ” หลี่ฮุ่ยหรานมองเขาด้วยสีหน้าผิดหวัง

“คุณถังมาแล้ว...”

ท่ามกลางฝูงคนไม่รู้ว่าใครส่งเสียงตะโกนขึ้นมา

ทุกคนต่างหลีกทางออกเป็นทางเดิน

หวางเส้าหลงยิ้มขึ้นที่มุมปาก พูดกับหลินเฟิงอย่างเยาะเย้ย

“นายหลิน นายแย่แน่ กล้าที่จะทำร้ายคนในงานเลี้ยงของตระกูลถัง แม้แต่พระเจ้าก็ไม่สามารถปกป้องนายได้”

เขาหันกลับไปมองท่ามกลางฝูงชน

ทันใดนั้นก็ตาค้างไปทันที

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status