Share

บทที่ 12

ที่พำนักของหยุนเจิงในตอนนี้ ยังเป็นที่พักที่เขาพักตั้งแต่สมัยยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

พอจักรพรรดิเหวินนึกถึงหยุนเจิง ในใจก็ลอบด่าว่าเขาเป็นคนไร้ประโยชน์ขึ้นอีก

ตนลืมเรื่องนี้ เขาเองก็ไม่กล้ามาทูลขอเลยหรือไง?

ไร้ประโยชน์จริงๆ!

หลังจากจักรพรรดิเหวินไตร่ตรองไปครู่หนึ่ง ก็มีรับสั่งไปยังมู่ซุ่น “สั่งคนให้ไปทำความสะอาดจวนของอวี๋หมิ่น ขุนนางที่มีความผิดติดตัว ทำทั้งคืนจัดการให้สะอาด รุ่งเช้าวันพรุ่งให้ไปที่เรือนปี้ปัว พระราชทานแก่หยุนเจิง! บ่าวรับใช้ในจวน ให้จัดใหม่ตามกฎมณเฑียรบาล!”

จวนองค์ชายสาม

มีเสียงโอดครวญดังมาจากหยุนลี่เป็นครั้งคราว

สวีสือฝู่กับซูเฟยมาเยี่ยมหยุนลี่ที่จวน

พอเห็นสภาพของหยุนลี่ สองพี่น้องทั้งสงสารทั้งโกรธ

หยุนลี่ถูกสวะอย่างหยุนเจิงทำร้าย?

ที่มันเรื่องตลกระดับฟ้าสวรรค์ยังต้องหัวเราะ!

นอกจากจะโกรธเคืองแล้ว สวีสือฝู่ก็อดสั่งสอนหยุนลี่ไม่ได้ว่า “เจ้าเองก็เลอะเลือน เจ้าจะใส่ความอะไรสวะอย่างหยุนเจิงก็ได้ แต่กลับไปใส่ความว่าเขาเป็นพรรคพวกขององค์รัชทายาท! คำพูดนี้พอพูดออกไป อย่าว่าแต่พวกขุนนางบู๊บุ๋นในราชสำนักเลย ตัวเจ้าเองได้ยินแล้วเจ้าเชื่องั้นรึ?”

หยุนเจิงติดตามองค์รัชทายาทเพื่อก่อกบฏ?

คำพูดเช่นนี้ แม้แต่สุนัขในวังยังไม่เชื่อเลย!

คนไร้ประโยชน์เช่นนั้น แค่เห็นเลือดยังต้องหดหัว!

สภาพเช่นนี้จะก่อกบฏ?

ในใจหยุนลี่ทั้งหดหู่ทั้งโกรธเคือง กัดฟันพูดว่า “ข้าแค่อยากข่มขู่เศษสวะอย่างมัน ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะกล้าลงมือกับข้า!”

“หากเขาไม่ลงมือตอบโต้ จะให้เขารอความตายหรือไง?”

สวีสือฝู่ก็โกรธจนตาเบิกโพลง แล้วกำชับอีกว่า “สองวันนี้เจ้าพักอยู่ในจวนก่อน อย่าไปหาเรื่องหยุนเจิงอีก!”

“เพราะอะไร?”

หยุนลี่พูดเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ปล่อยไอ้เศษสวะไปง่ายๆ เช่นนี้ ข้าจะกลืนโทสะนี้ลงท้องได้อย่างไร?”

“เลอะเลือนนัก!”

สวีสือฝู่พูดเสียงสูงทันที กำชับอีกทีว่า “ตอนนี้ฝ่าบาทต้องทรงทราบเรื่องไปแล้ว จนถึงตอนนี้ฝ่าบาทยังไม่เสด็จมาเยี่ยมเยียนเจ้า ก็เพราะต้องการจะส่งสัญญาณเป็นการตักเตือนเจ้า! หากตอนนี้เจ้ายังจะไปหาเรื่องหยุนเจิงอีก เท่ากับเจ้ากำลังหาเรื่องใส่ตัว!”

สวีสือฝู่ไม่เหมือนกับเด็กอ่อนอย่างหยุนลี่ เขานับว่าเป็นจอมวางแผนขั้นสูงแล้ว

วันนี้ในท้องพระโรง จักรพรรดิเหวินก็ได้ส่งสัญญาณเตือนซูเฟยแล้ว

อย่าคิดว่าหยุนเจิงผู้นั้นเป็นพรรคพวกก่อกบฏกับองค์รัชทายาทเลย ต่อให้เป็นจริง หากจักรพรรดิเหวินไม่อนุญาต หยุนลี่ก็ไม่มีสิทธิ์ส่งตัวหยุนเจิงไปคุกสวรรค์ได้

การที่เขาข่มขู่หยุนเจิงเช่นนี้ ช่างโง่งมจริงๆ!

“ฟังที่ลุงเจ้าพูดเถอะ”

ซูเฟยเกลี้ยกล่อม “สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนปกติ หากเจ้าไม่ยอมทนอาจแผ่ขยายเป็นเรื่องใหญ่ได้”

“แต่ข้ากลืนโทสะนี้ลงท้องไม่ได้!” หยุนลี่ยังคงพูดอย่างโกรธกริ้ว

“ไม่รีบ!”

สวีสือฝู่โบกมือแล้วพูดอย่างเจ้าแผนการว่า “อีกไม่กี่วัน พวกกองทัพเป่ยหวนก็จะรุดมาถึงเมืองหลวงแล้ว รอให้ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยวางแผนส่งตัวเศษสวะนั้นให้ไปรับมือกับพวกเป่ยหวนก็ได้!”

“ตอนนี้ราชวงศ์ของเรายังไม่มั่นคง ฝ่าบาทไม่อยากสู้รบกับพวกเป่ยหวน!”

“ขอเพียงเศษสวะนั่นทำให้คณะทูตเป่ยหวนโกรธ ฝ่าบาทต้องลงโทษเขาอย่างหนักเพราะต้องการระงับความโกรธของพวกเป่ยหวนเป็นแน่!”

หยุนลี่พอได้ยินดังนั้น ดวงตาของเขาก็สว่างวาบ

ยืมดาบฆ่าคน!

ช่างเป็นวิธีที่ดียิ่ง!

หลังที่ครุ่นคิดไปเพียงครู่ หยุนลี่กัดฟันกรอดแล้วพูดว่า “แค่ลงโทษสถานหนักยังไม่พอ เศษสวะนี่ต้องตาย ไม่อาจเหลือโอกาสให้เขาไปที่ซั่วเป่ยเด็ดขาด!”

สวีสือฝู่กับซูเฟยครุ่นคิดแล้วพยักหน้าเบาๆ

ต้องห้ามไม่ให้หยุนเจิงมีชีวิตรอดไปซั่วเป่ยเด็ดขาด พวกเขาเสียหน้าไปขนาดนี้แล้ว!

หยุนเจิงต้องตายเท่านั้น!

ดูท่าแล้ว ก่อนที่คณะทูตเป่ยหวนจะเดินทางมาถึง พวกเขาต้องรีบวางแผนอย่างดีแล้ว!

ครั้งเดียวต้องถึงตาย!

ไม่ให้โอกาสหยุนเจิงมีชีวิตรอด!

จะทำกับเขาเช่นเดียวกับที่ทำกับองค์รัชทายาท!

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
กิตติศักดิ์ สงคราม
สนุกดีนะ แต่เหรียญหายากเกิน
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status