ชายแดนเว่ย ค่ายใหญ่เป่ยหวนปานปู้พาทหารสนิทกลุ่มหนึ่ง รีบเข้าไปในค่ายไม่นาน เมื่อปานปู้เห็นอู้เลี่ยเมื่อเห็นปานปู้ ในใจอู้เลี่ยทั้งตื่นเต้นทั้งกังวล รีบพาปานปู้เข้ามาภายในกระโจม“เป็นเช่นไร?”อู้เลี่ยทนรอถามผลลัพธ์ไม่ไหว“ไม่มีอันตราย!”ปานปู้ตื่นเต้นมาก กล่าวตัวสั่น “ข้านำคนเข้าไปในหุบเขามรณะสามครั้ง ครั้งที่ไกลที่สุด เข้าไปในหุบเขามรณะลึกเกือบห้าสิบลี้ ล้วนไม่พบการลงทัณฑ์จากเทพเจ้า!”“ดีเหลือเกิน!”เมื่อได้คำตอบที่แน่ชัดจากปานปู้ อู้เลี่ยดีใจจนแทบจะตะโกนขึ้นฟ้าหุบเขามรณะไม่มีอันตราย!ด้านหลังของเป่ยหวนเปิดกว้างให้พวกเขาแล้ว!ขอแค่พวกเขานำกองทัพบุกเข้าข้างหลังของกองทหารมณฑณทางเหนือ กองทหารมณฑณทางเหนือต้องวุ่นวายครั้งใหญ่!ถึงเวลานั้น พรมแดนทั้งสองของซั่วเป่ยอยู่ใกล้แค่ปลายนิ้วเท่านั้น!การรบครั้งนี้ สามารถกำหนดอนาคตได้!หลังจากพยายามสะกดอารมณ์ตื่นเต้น อู้เลี่ยเรียบบอกแผนการของตัวเองกับปานปู้เขาคิดแผนไว้เรียบร้อยแล้วขอแค่ยืนยันว่าหุบเขามรณะไม่มีอันตราย สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที!เขาวางแผนที่จะนำกองทัพส่วนตัวสี่พันคนโจมตีด้านหลังของกองทหารมณฑณทางเหนือแต่ก็ต้องจั
เขาจำเป็นต้องได้รับชัยชนะอย่างสวยงาม!อีกทั้ง ยังต้องนำทัพเพื่อเอาชนะในสนามนี้ด้วยตัวเอง!หากแผนการนี้สำเร็จ บารมีของเขาก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น!“นี่...”ปานปู้ลังเลไม่สงบ ขมวดคิ้วกล่าว “องค์ชายใหญ่คือว่า...”“ไม่ต้องคิดแล้ว!”อู้เลี้ยตัดบทปานปู้ “ข้าตัดสินใจแล้ว!”ปานปู้ครุ่นคิดเงียบๆ จากนั้นก็กล่าวกับอู้เลี่ย “หากองค์ชายใหญ่ตัดสินใจนำทับลอบจู่โจมด้วยตนเอง เช่นนั้นองค์ชายใหญ่ต้องระวังให้มาก หยุนเจิงมากเล่ห์เจ้าแผนการ ยากที่จะรับประกันว่าจะไม่ส่งทหารมาป้องกันที่ปากหุบเขามรณะ! ก่อนที่องค์ชายจะนำกองทัพบุกออกจากหุบเขามรณะ จำเป็นต้องส่งคนไปสำรวจหลายๆ รอบ!”ตอนนี้พวกเขารู้แค่ว่าหุบเขามรณะไม่มีอันตรายผ่านหุบเขามรณะไปจะเจอสถานการณ์เช่นไร พวกเขาเองก็ไม่รู้ภูมิประเทศของหุบเขามรณถือว่าเป็นสถานที่ซุ่มโจมตีอย่างดีหากหยุนเจิงจัดกำลังทหารสามพันห้าร้อยคนไว้ที่ปากหุบเขามรณะ ทัพใหญ่สี่หมื่นคนของพวกเขาก็ไม่มีทางบุกออกไปได้แน่นอนตอนนี้ปานปู้ถูกหยุนเจิงหลอกจนกลัวแล้ว แค่ต้องคิดถึงหยุนเจิง เขายิ่งระวังเป็นพิเศษอู้เลี่ยพยักหน้า จากนั้นก็หัวเราะเสียงดัง “ราชครูวางใจ ข้าจะเพิ่มความระวังให้มาก!
ไม่นาน หยุนเจิงพาคนมาถึงที่ค่ายใหญ่ทางเหนือเวลานี้ หัวหน้าภายในค่ายใหญ่ทางเหนือต่างตื่นตระหนกอย่างมากทหารม้าเป่ยหวนสี่หมื่นคนเชียวนะ!มารดาเขาสิ!คิดไปแล้วก็น่ากลัว“ให้ตายสิ เป่ยหวนหาทหารมากมายเช่นนี้มาจากที่ใด?”“เป่ยหวนบ้าไปแล้วใช่หรือไม่? เขาไม่ต้องการสามเมืองชายแดนแล้ว?”“พวกเขาไม่มีทางละทิ้งสามเมืองชายแดน พวกเขาต้องเรียกรับสมัครนักรบจากชนเผ่าโดยรอบชั่วคราวมาเฝ้าเมืองแน่นอน มิฉะนั้นพวกเขาไม่กล้าทำเช่นนี้!”“อื้ม น่าจะใช่ หากเป่ยหวนเปิดการระดมทหารเต็มรูปแบบ สร้างกองทัพใหญ่สามแสนห้าหมื่นคน ล้วนไม่มีปัญญาแม้แต่น้อย...”หัวหน้าแม่ทัพภายในค่ายปรึกษาหารือกันจนกระทั่งหยุนเจิงเดินเข้ามา ทุกคนจึงหยุดสนทนา พากันยืนขึ้นทำความเคารพ“เอาล่ะ เลิกสนใจมารยาทจอมปลอมเหล่านี้เถอะ!”หยุนเจิงโบกมือ เดินตรงไปนั่งตรงตำแหน่งประมุข “สถานการณ์ข้ารู้แล้ว พวกเจ้าหารือถึงยุทธวิธีรับมือกันต่อ ข้าฟังอยู่!”ห๊า?ให้พวกเขาหารือยุทธวิธีรับมือ?เขาไม่ตัดสินใจหรือ?“บอกความคิดเห็นของตัวเองมาเถอะ!”เสิ่นลั่วเยี่ยนยิ้มมุมปาก “คิดสิ่งใดได้ก็พูดสิ่งนั้น องค์ชายกำลังทดสอบพวกเจ้าอยู่!”นางรู้แผนการของ
“เอาล่ะ เจ้าหุบปากได้แล้ว!”หยุนเจิงยิ้มมองอวี๋ซื่อจง จากนั้นก็สั่งพวกเฝิงอวี้ “พวกเจ้าหารือกันต่อได้!”อวี๋ซื่อจงเดาจุดประสงค์ของกองทัพใหญ่เป่ยหวนได้แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องเข้าใจยากถึงเช่นไร อวี๋ซื่อจงก็เคยติดตามเขาไปหุบเขามรณะเขารู้แล้วว่าหุบเขามรณะไม่ใช่สถานที่อันตรายถึงเพียงนั้นเขาสามารถอนุมานได้ว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนจะบุกโจมตีจากทางหุบเขามรณะ นับว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหลังจากอวี๋ซื่อจงปิดปาก พวกเฝิงอวี้ก็หารือกันต่อหยุนเจิงไม่ได้กล่าวสิ่งใด ให้พวกเขาหารือกันตามสบายเขาอยากเลือกรองผู้บัญชาการที่เหมาะสมสักคนพวกเขาตอนนี้ต้องเฝ้าประจำการณ์ที่ซั่วฟางและสู้ฉวีสองเมือง เขาสามารถดูแลได้ทั้งสองเมืองแต่พื้นที่ด้านหลังมากเกินไป เขาคนเดียวไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมดจากสถานการณ์ตอนนี้ ตู้กุยหยวนและอวี๋ซื่อจงต่างก็ไม่เลวทว่า ตู้กุยหยวนมีใจอยากสร้างกองทหารโลหิตขึ้นมาใหม่ เขาไม่สนใจตำแหน่งรองผู้บัญชาการเมื่อเป็นเช่นนี้ อวี๋ซื่อจงก็กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วอืม ค่อยดูกันต่อไปเถอะ!ความจริง หากเสิ่นลั่วเยี่ยนสุขุมอีกสักหน่อย นิสัยไม่ใจร้อนเช่นนี้ ก็สามารถบ่มเพาะได้ทว่า ห
ปากเขาเขี้ยวหมาป่าอู้เลี่ยได้นำทัพมารวมตัวประจำการที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่าแล้วทว่า ตอนนี้พวกเขาเพียงหยุดพักชั่วคราว ทำท่าทางเหมือนจะบุกไปที่เขาเขี้ยวหมาป่าได้ตลอดเวลายังมีคนส่วนหนึ่ง ถูกเขาส่งไปบริเวณทุ่งหญ้าหม่ามู่เพื่อเก็บเกี่ยวอาหารแห้งแล้วพวกเขาครั้งนี้แค่ลอบโจมตี ไม่อาจพกเสบียงอาหารมากมายเกินไปเสบียงของคนเป็นแค่เรื่องรอง ที่สำคัญคือต้องรับประกันว่าเสบียงอาหารม้าศึกเพียงพอยังดีที่ปานปู้ได้ทำการเตรียมการล่วงหน้าแล้ว ทางนี้เตรียมหญ้าแห้งให้ม้าไว้แล้วบริเวณใกล้หุบเขามรณะ ก็มีชนเผ่าเตรียมหญ้าแห้งและธัญพืชแห้งให้ม้าศึกของพวกเขารอทางนั้นพักผ่อนหนึ่งวัน ก็สามารถบุกเข้าข้างหลังกองทหารมณฑลทางเหนือได้อย่างสบายแล้วขอแค่สามารถยึดคูเมืองได้สักแห่ง แย่งชิงเสบียงอาหารมาได้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นหญ้าแห้งของม้าศึกหรือเสบียงสำหรับคน ล้วนจัดสรรได้เพียงพอแล้วการจู่โจมกะทันหันสนามนี้ เขาเตรียมพร้อมรอบด้านอย่างดี!ต้องสำเร็จแน่นอน!เมื่อนึกถึงความสำเร็จที่ได้รับจากการจู่โจมกะทันหัน อู้เลี่ยอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นเมื่อแผนการนี้สำเร็จ ทั้งเป่ยหวน นอกจากสถานที่สำคัญอย่างด่านเป่ยลู่ ก็ไม่มีคูเม
เพราะลมหนาวพัดแรงในหุบเขา กองหิมะนับว่าไม่ลึกมากส่วนที่หิมะกองน้อยที่สุดก็ยังลึกถึงเอวหิมะกองลึกเช่นนี้ ต้องส่งผลกระทบต่อความเร็วของทหารม้าพวกเขาจำเป็นต้องผ่านหุบเขามรณะ บุกไปยังข้างหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือโดยเร็วที่สุด!หลังจากครุ่นคิดเงียบๆ อู้เลี่ยเรียกนายพันสองคนเข้ามา ออกคำสั่ง “พรุ่งนี้เช้า กองกำลังพวกเจ้าเข้าไปก่อนที่นำทัพใหญ่เคลื่อนตัวเข้าสู่หุบเขามรณะ เมื่อพบกองหิมะ เหยียบกองหิมะให้เรียบ!” “นี่...” นายพันหนึ่งในนั้นทำสีหน้ายากลำบาก กล่าวด้วยความระมัดระวัง “องค์ชายใหญ่ สถานที่ที่มีกองหิมะไม่รู้ว่าจะยาวเพียงใด พวกเราแค่สองพันคน เกรงว่า...”ยังไม่ทันได้กล่าวจบ แสงแวววาวของมีดก็ไหววูบเข้ามาฉับ!มีดโค้งของอู้เลี่ยปาดลงบนคอของนายพันที่กำลังพูดจาผู้นั้นนายพันกุมคอของตัวเองไว้แน่น มองอู้เลี่ยด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อเขานึกไม่ถึง เขาแค่กล่าวเพียงประโยคเดียว ก็ยั่วยุจนความตายมาถึงตัวเขาแล้วร่างนายพันที่ตายอย่างไม่ยุติธรรมกองลงไปกับพื้น “ลากออกไป!”อู้เลี่ยโบกมือให้ทหารคนสนิท มองนายพันอีกคนด้วยสีหน้าเย็นชา “เจ้ามีปัญหาหรือไม่?”เผชิญกับสายตาอู้เลี่ย นายพันรีบส่ายหน
ขณะที่เหลือระยะห่างจากหุบเขามรณะและทางออกประมาณสิบลี้ อู้เลี่ยสั่งให้กองทัพใหญ่หยุดชั่วคราว รอข่าวจากนายร้อยข้างหน้าเวลาเพียงไม่นาน นายร้อยส่งคนกลับมารายงาน “รายงานองค์ชายใหญ่ พวกเราพบทัพศัตรูที่ปากหุบเขา!”เมื่อได้ฟังคนกลับมารายงาน หัวใจของอู้เลี่ยพลันตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม จากนั้นก็ถาม “ทัพศตรูมีกี่คน?”ผู้รายงาน “ไม่ถึงหนึ่งร้อย! กำลังต่อสู้กับกองกำลังของเรา”ไม่ถึงหนึ่งร้อย?อู้เลี่ยยินดีปรีดา ตะโกนลั่น “ถ่ายทอดคำสั่ง กองทัพทั้งหมดบุก!”นายกองจั่วต้าขมวดคิ้วเล็กน้อย กล่าวเสียงเคร่ง “องค์ชายใหญ่ ทัพศัตรูเหมือนจะมีการเตรียมพร้อม พวกเราควรรอดูสถานการณ์ก่อนหรือไม่?” “ไม่จำเป็นต้องดูแล้ว!”อู้เลี่ยส่ายหน้าด้วยความมั่นใจ “คนเหล่านั้นคงประจำการอยู่ที่ปากหุบเขา พวกคนที่ขัดขวางไม่ให้นักโทษเหล่านั้นหนีไป! พวกเราจำเป็นต้องบุกออกไปทันที ห้ามพวกเขามีโอกาสกลับไปรายงาน!”อู้เลี่ยไม่สนใจคำเตือนของหัวนายกองจั่วต้า ออกคำสั่งกองทัพบุกอีกครั้ง!”ภายใต้คำสั่งของอู้เลี่ย กองทัพเริ่มมุ่งหน้าสู่ยังปากหุบเขาตอนที่ส่วนหน้าของกองทัพใหญ่กำลังจะมุ่งออกจากปากหุบเขา หูของพวกเขาพลันได้ยินเสียงดังกึกก้องอ
“หุบเขาแห่งความตาย พวกเขากล้าใช้เส้นทางผ่านหุบเขาแห่งความตายได้เช่นไร?”เว่ยเหวินจงตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แทบจะไม่กล้าเชื่อทหารส่งสารเขารู้ดีถึงผลที่จะตามมาหากทหารเป่ยหวนบุกเข้าทางด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือแต่เขาไม่กล้าเชื่อ เป่ยหวนจะใจกล้าถึงเพียงนี้ นึกไม่ถึงจะกล้าใช้เส้นทางผ่านสถานที่ต้องห้ามอย่างหุบเขามรณะมุ่งสู่ด้านหลังของกองทหารมณฑลทางเหนือเป่ยหวนบ้าไปแล้วกระมัง?พวกเขาไม่รู้หรือว่าหุบเขามรณะเป็นสถานที่เช่นไร?หากพบกับเทพลงทัณฑ์ กองทัพนับหมื่นของพวกเขาจะถูกทำลายอย่างเปล่าประโยชน์ตอนที่เว่ยเหวินจงกำลังสับสน ทหารส่งสารอีกคนหนึ่งก็กระหืดกระหอบวิ่งเข้ามา“รายงานท่านแม่ทัพใหญ่ ท่านอ๋องได้รีบส่งกองทัพไปสนับสนุนกองกำลังทหารของสู้ฉวีที่หุบเขามรณะแล้ว! ท่านอ๋องสั่งให้ข้าน้อยรายงานกับท่านแม่ทัพใหญ่ มีความเป็นไปได้สูงว่ากองทัพใหญ่เป่ยหวนมุ่งหน้าบุกจู่โจมกะทันหันที่ปากเขาเขี้ยวหมาป่า! ท่านอ๋องเกรงจะต้านทานไม่ไหว ขอให้ท่านแม่ทัพใหญ่ส่งกองกำลังไปสนับสนุน!”เว่ยเหวินจงสีหน้าเปลี่ยน “เจ้าบอกว่า เป่ยหวนมี...กองทัพสี่หมื่นคน?”“ขอรับ!”ทหารส่งสารตอบอย่างกระหืดกระหอบ “ท่านอ๋อง