Share

บทที่ 2

หลี่หลงหลินขมวดคิ้วเป็นปม

คิดไม่ถึงว่า ตนเกิดเป็นมนุษย์มาถึงสองชาติภพ ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สิ้นหวังเช่นนี้!

ความคิดความอ่านของฮ่องเต้หวู่ยากจะหยั่งถึง จิตใจลึกลับซับซ้อนดั่งเหวเสมือนทะเล

ราชวงศ์ต้าเซี่ย เต็มไปด้วยขุนนางน้อยใหญ่ ที่เปี่ยมไปด้วยความสามารถ ฉลาดปราดเปรื่อง

ดูไม่ออกหรือว่า ตนถูกปรักปรำ?

พวกเขาต่างรู้ดีแก่ใจ!

ถึงขึ้นที่ว่า แม้แต่แม่ทัพผู้เฒ่าซูก็ตระหนักรู้ว่า เป็นฝีมือของขุนนางชั้นสูงในราชสำนักที่ปล่อยข่าวรั่วไหล ทำให้ทหารตระกูลซูตกอยู่ในวงล้อม นำมาซึ่งความพ่ายแพ้!

ดังนั้น แม่ทัพผู้เฒ่าซูจึงสู้สุดชีวิต ปกป้องและพาตนเองตีฝ่าวงล้อมออกมา!

เพียงแต่น่าเสียดาย แม่ทัพผู้เฒ่าซูสู้รบเพียงลำพัง จนหมดแรงแล้วสิ้นใจในที่สุด

ก่อนตาย เขาทิ้งจดหมายเขียนด้วยเลือดไว้หนึ่งฉบับ ให้ตนนำไปให้ฮ่องเต้หวู่ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์!

หลี่หลงหลินรีบกุมแผ่นอก พบว่าจดหมายเขียนด้วยเลือดยังอยู่ เขาจึงค่อยโล่งอก!

จดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ เป็นความหวังเดียวในการพลิกชะตาชีวิตของตน!

ทว่าหลี่หลงหลินคิดทบทวนหลายครั้ง เขาไม่คิดจะเอาจดหมายเขียนด้วยเลือดฉบับนี้ออกมา แล้วให้ฮ่องเต้หวู่โดยตรง

เหตุผลนั้นง่ายนิดเดียว!

ฮ่องเต้หวู่คนนี้ เป็นจอมหวาดระแวง!

ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ แม้นำจดหมายเขียนด้วยเลือดออกมา เขาก็ต้องคิดว่า ตนเป็นคนปลอมแปลง!

เพราะท้ายที่สุดแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นฮ่องเต้หวู่ หรือขุนนางในราชสำนัก เวลานี้ล้วนอยากหาแพะรับบาป!

และตนก็เป็นคนที่เหมาะสมที่สุด!

“ซึ่งก็หมายความว่า...”

“ไม่ว่ากระหม่อมจะดิ้นรนเพียงใด ก็ต้องตายเท่านั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

หากเป็นองค์ชายเก้าที่ไม่เอาถ่านคนนั้นล่ะก็ ต้องร้องเรียกหาพ่อแม่แล้วแน่ๆ

แต่หลี่หลงหลินเกิดเป็นมนุษย์มาสองชาติภพ ยิ่งเผชิญหน้ากับเหตุการณ์สิ้นหวัง ก็ยิ่งนิ่งสงบ

“ไม่! ข้ายังมีความหวัง!”

หลี่หลงหลินยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าฉายรอยยิ้ม

“เสด็จแม่...”

หลี่หลงหลินหันไปมองพระชายาโหรว “กระหม่อมฝากเสด็จแม่ไปกราบทูลเสด็จพ่อหนึ่งถ้อยคำ! เพียงหนึ่งถ้อยคำ กระหม่อมต้องรอดจากความตายแน่นอน!”

พระชายาโหรวส่ายหน้า “ลูกรัก ลูกยอมรับชะตากรรมเถอะ เสด็จพ่อของลูกมีอำนาจในการตัดสินใจแต่เพียงผู้ใด เรื่องใดที่ตัดสินใจแล้ว ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง...”

หลี่หลงหลินหัวเราะ โน้มตัวไปใกล้พระชายาโหรว พูดกระซิบเพียงหนึ่งถ้อยคำ

พระชายาโหรวราวกับถูกฟ้าผ่า ร่างบางสั่นเทา แววตาฉายความเหลือเชื่อ จ้องมองหลี่หลงหลินอยู่นาน แล้วค่อยหันหลังเดินจากไป

ณ ห้องทรงพระอักษร

ฮ่องเต้หวู่ในชุดเสื้อคลุมมังกร สองมือไขว้หลัง มองฎีกาที่สูงดั่งภูเขาบนโต๊ะ สีหน้าเคร่งขรึม

ทั้งหมดนี้คือฎีการ้องเรียนองค์ชายเก้าหลี่หลงหลิน!

นอกเหนือจากนั้น คือหนังสือเลือดจากหญิงหม้ายตระกูลซู ร้องขอให้ประหารหลี่หลงหลิน คืนความยุติธรรมให้กับตระกูลซู!

ฮ่องเต้หวู่เงียบอยู่นาน ผายมือ

ขันทีหลวงเว่ยซินรีบสาวเท้าเดินมาด้านหน้า “ฝ่าบาท ทรงมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้พ่ะย่ะค่ะ?”

น้ำเสียงของฮ่องเต้หวู่เยือกเย็น “รุ่งสางวันพรุ่งนี้ นำตัวองค์ชายเก้าออกมาจากประตูอู๋เหมิน ประหารชีวิตด้วยทัณฑ์เลาะกระดูก!”

เว่ยซวินโค้งคำนับ “กระหม่อมน้อมรับบัญชา”

เวลานี้เอง พระชายาโหรวร้องห่มร้องไห้บุกเข้ามาให้ห้องทรงพระอักษร โดยไม่สนใจการห้ามของเหล่าองครักษ์ “ฝ่าบาท ฝ่าบาท...”

สีหน้าของฮ่องเต้หวู่เคร่งขรึม กล่าวตำหนิ “พระชายาโหรว แม้ข้าจะรักและโปรดปรานเจ้า! แต่เจ้ากลับกล้าโอหังเพราะเห็นว่าตนเป็นสนมคนโปรดของข้า ยุ่งเรื่องในราชสำนัก ระวังข้าจะไม่เห็นแก่ความสัมพันธ์ของเรา! ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ มารดาตามใจบุตรมากไป ทำให้บุตรประพฤติตัวเหลวไหล! เจ้าเก้าตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ คงต้องโทษที่เจ้ารักและตามใจเขามากไป!”

“ข้าตัดสินใจแล้ว เจ้าเก้าต้องตายเท่านั้น!”

“เจ้าออกไปซะเถอะ!”

พระชายาโหรวไม่เพียงไม่ออกไป ตรงกันข้ามนางร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม “ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้มาขอร้องแทนลูกเพคะ! แต่ว่า...ลูกมีถ้อยคำหนึ่ง ฝากให้หม่อมฉันกราบทูลฝ่าบาทเพคะ!”

ฮ่องเต้หวู่พูดเสียงเหี้ยม “พูดว่าอะไร เจ้าบอกมาสิ!”

พระชายาโหรวกลั้นเสียงสะอื้น “ลูกบอกว่า ลูกสำนึกผิดแล้วเพคะ! หวังว่าฝ่าบาทจะเมตตา ก่อนที่เขาจะตาย ไปขอโทษตระกูลซูด้วยตนเอง ให้ตระกูลซูลงโทษตามอำเภอใจเพคะ!”

พระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่โอนอ่อนลงเล็กน้อย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “คนใกล้ตายมักจะพูดด้วยความจริงใจและพูดจากใจจริง! หากรู้ว่าจะเป็นเช่นนี้ เหตุใดต้องทำเช่นนั้นตั้งแต่แรกด้วย!”

“แต่ว่า เรื่องขอโทษ ช่างมันเสียเถอะ! เจ้าไม่รู้หรอกว่าหญิงหม้ายตระกูลซูร้ายกาจเพียงใด!”

“โดยเฉพาะซูเฟิ่งหลิง แม้จะเป็นสตรี แต่เกรี้ยวกราดยิ่งนัก เป็นทหารหญิง ที่ไม่แพ้ชายใด!”

“หากเจ้าเก้าไปตระกูลซูจริงๆ เกรงว่าเพียงเดินเข้าไป ก็ถูกซูเฟิ่งหลิงแทงตายแล้ว...”

พระชายาโหรวเงียบ สีหน้าสิ้นหวัง

นางคิดไม่ถึงว่า คำร้องขอเล็กๆ น้อยๆ เพียงแค่นี้ ฮ่องเต้หวู่ยังไม่ตกลง!

เวลานี้ จู่ๆ เว่ยซวินก็กดเสียงลงต่ำ “ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ หากองค์ชายเก้าตายในตระกูลซู เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ฮ่องเต้หวู่ชะงัก พูดด้วยความไม่พอพระทัย “เรื่องที่ดี? แม้เจ้าเก้าจะเสเพลเพียงใด แต่ก็เป็นลูกของข้า! โอรสสวรรค์ทำความผิด รับโทษทัดเทียมประชาชน! เจ้าเก้าทำความผิดมหันต์​ ย่อมถูกลงโทษตามกฎระเบียบของต้าเซี่ย! หากเขาตายในตระกูลซู จะเหมาะสมได้อย่างไร?”

สีหน้าเว่ยซวินฉายความเจ้าเล่ห์ “ฝ่าบาท หากพระองค์ลงโทษองค์ชายเก้าตามกฎมณเฑียรบาล ยากนักที่จะเลี่ยงไม่ให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเรื่องประหารสายเลือดของตนเอง พวกคนทรยศเหล่านั้น ย่อมแต่งเรื่องว่าร้ายฝ่าบาท ว่าฝ่าบาทจิตใจอำมหิต ไม่เพียงเข้มงวดกับขุนนาง แม้กระทั่งสายเลือดของตนก็ยังไม่เว้นพ่ะย่ะค่ะ”

“หากองค์ชายเก้าตายด้วยน้ำมือของซูเฟิ่งหลิง ไม่เพียงไม่เกี่ยวข้องกับพระองค์ ทั้งยังดับความโกรธของทุกคนได้”

“ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เรื่องดีๆ เช่นนี้เหตุใดจึงไม่ทำหรือพ่ะย่ะค่ะ?”

พระพักตร์ของฮ่องเต้หวู่ตระหนักรู้ในทันที หลังจากเงียบพักใหญ่ ตรัสกับเว่ยซวิน “เว่ยซวิน เจ้าพูดมีเหตุผล! ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าพาตัวเจ้าเก้าไปตระกูลซู จะฆ่าหรือจะแกง เชิญตามอำเภอใจ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status