จากคำพูดของเซียวหลันยวน คือเขาจะอยู่เงียบๆ เพื่อวางแผนเรื่องหุบเขาซานชิงแล้วก็ ตอนกลางคืนหน้าของเขาจะคันจนทำให้เขานอนไม่หลับ ถ้าตนเองนอนอยู่ด้วย จะส่งผลกระทบกับฟู่จาวหนิงได้ตอนที่ควรพูด ตอนที่ควรล้อเล่น เขาก็ยังไม่เปลี่ยนไปแต่ว่า เขาไม่ได้ทำท่าทางใกล้ชิดอะไรกับนางอีกเลย"ข้าตอนนี้สวมหน้ากากแล้วแผลเป็นพิษจะคัน แต่ตอนที่ไม่สวม พอเข้าใกล้เจ้า เห็นใบหน้าขาวนวลไร้ริ้วรอยของเจ้า ข้าก็รู้สึกว่าความน่าเกลียดของข้าส่งไปถึงเจ้าแล้ว"เซียวหลันยวนบอกเช่นนี้กับนาง"ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ใกล้ชิดกันเกินไป ข้ากลัวว่าแผลเป็นพิษของข้าไปสัมผัสกับใบหน้าเจ้า ถึงเจ้าไม่บอกข้า แต่ข้าก็รู้ ว่าแผลเป็นพิษมันจะถลอก บางครั้งยังมีหนองไหลออกมาอีกด้วย"เซียวหลันยวนเอ่ยอย่างจำใจกับนาง"กลิ่นตัวข้าเองก็ไม่ได้น่าดมนัก บวกกับกลิ่นยาที่โดนพิษอีก ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าข้ายังไปหอมเจ้าจูบเจ้า ไม่ใช่ว่ากลายเป็นข้าบีบให้เจ้าต้องมาทนกับกลิ่นแย่ๆ หรอกหรือ? หนิงหนิง ไว้หน้าข้าสักหน่อยเถิด"ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะคุยกับเขาดีดี พอได้ยินเขาเอ่ยอย่างตรงไปตรงมาเช่นนี้ นางเองก็ไม่มีคำจะพูดสิ่งเหล่านี้ที่เขาพูดก็พอเข้าใ
ถ้าไม่ใช่เซียวหลันยวนสุขภาพตอนนี้ไม่เหมาะจะไปเสี่ยง ฟู่จาวหนิงก็คงไม่ให้องครักษ์ลับปลอมตัวเป็นเขาหรอกแต่ว่าร่างกายขององครักษ์ลับ ตอนนี้ก็ปลีกตัวได้ง่ายกว่าเขาจริงๆขอแค่พบว่าในรถม้าไม่ใช่เซียวหลันยวน อีกฝ่ายก็ไม่แน่ว่าจะลงมือสังหารอย่างเด็ดขาด ดังนั้นจึงค่อนข้างปลอดภัยกว่าแต่สุขภาพของเซียวหลันยวนตอนนี้ ถ้าไปเองคือไม่ไหวจริงๆ"ข้าจะพยายามไม่ใช้วิชายุทธ์ให้มากที่สุด เพียงแค่โผล่หน้าออกไป ถึงตอนนั้นชิงอีกพวกเขาก็จะคุ้มกันข้าออกไปเอง ทางนั้นมีคนไปสำรวจเส้นทางไว้แล้ว"เซียวหลันยวนพอเห็นว่านางโมโหขึ้นมาแล้วจริงๆ จึงทำได้แค่อธิบายดีดี"พวกเราได้เปรียบพวกเขาตั้งขนาดนี้ พวกเขารู้ทิศทาง รู้ว่าจะต้องเดินเส้นทางไหน ดังนั้นจึงส่งคนไปดูก่อน แต่ว่าพวกเขาไม่รู้ ทำได้แค่คอยตามพวกเรา ตามเข้ามาถึงสถานที่นี้จึงเพิ่งรู้ว่าจะเข้าหุบเขาซานชิง""ถ้าอย่างนั้นช่วงที่พวกเราพักกันนี่ล่ะ? ท่านรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขาจะไม่ส่งคนออกไปตรวจสอบ?""ข้าส่งคนไปซุ่มที่นั่นแล้ว พวกเขาถ้าส่งคนเข้าไปก่อน ก็คงเข้าไปแต่กลับออกมาไม่ได้" เซียวหลันยวนยิ้มๆ "แต่ว่าพวกเขาที่ไม่ได้รับข้อมูล ก็คิดได้แค่ว่าในหุบเขานั้นอันตรายมาก
ต่อให้นางไม่มีกำลังภายใน ก็ยังได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลังขึ้นในพริบตาคนที่ตามมาตลอดทางเหล่านั้นกลัวว่าจะถูกสะบัดทิ้งในเส้นทางที่ซับซ้อนนี้ จึงเพิ่มความเร็วทันที และไม่สนว่าจะถูกเปิดโปงหรือไม่ รีบร้อนตามไปเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเขาก็ล้วนมองข้ามฟู่จาวหนิงทางนี้ไปฟู่จาวหนิงเม้มปากจะบอกว่าไม่กังวลก็คือโกหก แต่ในเมื่อพุดกันดีแล้ว นางเองก็จะไม่ทำอะไรเพื่อทำลายจังหวะของเขาอีก"คุณหนูจาวหนิง พวกเราต้องเพิ่มเวลาอีกสองวันจึงจะอ้อมออกจากหุบเขาซานชิงได้" ไป๋หู่ที่ขี่ม้าอยู่ข้างรถม้าเอ่ยขึ้นกับนาง"เอาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้" ฟู่จาวหนิงตอบ"ขอรับ"พวกเขาสามารถอ้อมออกไปก่อน แล้วไปรอเซียวหลันยวนที่ทางออก ถ้าหากมีเรื่องอะไรก็ยังสามารถรีบกลับไปได้ แต่ถ้าหากไปอย่างเชื่องช้าก็คงจะหันไปทางนั้นไม่ทันการพอดีม่านรถเซียวหลันยวนเลิกออก เขานั่งอยู่ในรถม้า แล้วยังยื่นตัวออกมาพูดอีกสองสามคำ เป้าหมายก็เพื่อให้คนที่ตามมามองเห็นเขา"เพิ่มความเร็ว" เขาพูดกับชิงอีชิงอีรับคำ ร้องย่าห์ขึ้นมา ทะยานความเร็วม้ารถม้าวิ่งทะยาน คนที่ตามมาด้านหลังก็ไม่มีเวลาไปสนด้านซ้ายขวา คิดแต่ว่าจะถูกทิ้งไม่ได้ ตามติดแน่
"ฮี้——"เสียงม้าร้อง มีสองตัวโดนเข็มพิษเข้าไป ยกเท้าคู่หนั้นขึ้นทันควัน สิ่งของที่แบกอยู่บนตัวก็ร่วงลงมา และส่งผลกระทบกับม้าอีกหลายตัวด้านหน้าฝูงม้าโกลาหลขึ้นมาทันที"ไม่ต้องสนใจสิ่งของ ทะยานออกไป!" องครักษ์จวนอ๋องร้องขึ้นเสียงดัง"ขวางพวกเขาไว้!"คนชุดดำขว้างมีดพิษออกไปอีกอีกครั้งกลุ่มด้านหลังนั้นเองก็ไล่กระชั้นขึ้นมาตอนนี้เองพวกเขาก็เข้ามาในวงซุ่มโจมตีได้ยินเพียงเสียงหวีดหวิว บนยอดเขาจู่ๆ ก็มีก้อนหินกลิ้งลงมาอย่างรวดเร็วราวสายฟ้าฟาดทางซ้ายขวามีหิมะผืนใหญ่ถูกกวาดลงมา ชั่วขณะหนึ่งก็เหมือนมีหิมะหนาแน่นตกลงมากะทันหัน เข้าขวางระยะสายตาของคนชุดดำไว้องครักษ์ชุดสีเขียวมรกตเข้มกระโจนลงมาจากเนินเขา พุ่งไปทางคนชุดดำเช่นเดียวกับหินที่ร่วงลงมาปากจมุกพวกเขาล้วนพันผ้าเปียกที่ชุบน้ำยาชิ้นหนึ่งเอาไว้ สามารถป้องกันพิษได้ ผงพิษในมือสาดไปทางคนชุดดำพวกนั้นนอกจากนี้ยังมีคนชูผ้าคลุม พัดกระพือลมไปทางผงพิษเหล่านั้น ทำให้ผงพิษเหล่านั้นกระจายออกไปได้เร็วขึ้นเพราะว่ามีหิมะลอยคลุ้ง คนชุดดำจึงไม่ได้สังเกตเลยว่าด้านในมีผงพิษอยู่ กลั้นหายใจไม่ทันกันเลยจนกระทั่งหัวหน้าพบสิ่งผิดปกติ ก็ร้องคำรา
ครั้งนี้ลงทุนไปมากจริงๆ ส่งคนมาตั้งมากขนาดนี้!"เอาหัวของอ๋องเจวี้ยนมา"คนที่เป็นหัวหน้าของอีกฝ่ายตะคอกเสียงต่ำ คนทั้งหมดก็โบกดาบฟาดฟันมาหาพวกเขายี่สิบสามสิบคนกลุ่มนี้ล้วนถือดาบทั้งสิ้น ดาบเหล่านั้นดูทั้งหนักและแหลมคม มือขวาที่ถือดาบของพวกเขาสวมเกราะแขนทั้งแขน ดูแล้วพลังน่าตกตะลึงมาก"ฉัวะ!"ดาบของอีกฝ่ายผามายังม้าตรงหน้า เลือดสดซ่านกระเซ็น ม้าตัวนั้นถูกตัดขาหน้าออกไป คุกเข่าลงกับพื้นอย่างแรง องครักษ์ที่อยู่บนม้าก็คะมำลงมาขณะเดียวกันคนชุดดำอีกสองคนก็ฟันดาบเข้าจากทางซ้ายขวาเข้าหาตัวเขาต่อถ้าถูกฟันเข้าไป องครักษ์คงได้ถูกฟันออกเป็นท่อนๆ แน่และด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ เซียวหลันยวนร่างกายประดุจสายฟ้า พุ่งออกมาจากในรถม้า สองฝ่ามือฟาดไปทางคนชุดดำสองคนนั้นกลางอากาศ"ท่านอ๋อง!"ชิงอีตกตะลึง โบกแสคิดจะพุ่งตัวออกไปบ้างแย่แล้วแย่แล้ว โดนพระชายาด่าเปิงแน่พระชายาบอกว่าท่านอ๋องทางที่ดีอย่าใช้วิชายุทธ์ แต่ตอนนี้ดูจากสถานการณ์ ท่านอ๋องไม่ใช่แค่จะใช้วิชายุทธ์ แต่ดูเหมือนจะต้องเจอกับการสู้ตายที่ยากลำบากอีกฉากหนึ่งเสียด้วย"คุ้มครองท่านอ๋อง!"องครักษ์ทั้งหมดล้วนโถมเข้าไปชั่วขณะหนึ่ง
เซียวหลันยวนพวกเขาตอนนี้น่าจะรอนางอยู่ที่ทางแยกจึงจะถูกต่อให้คนเหล่านั้นจะรับมือยาก เมื่อวานก็ควรจะมาถึงแล้วพอได้ยินคำถามนาง สีหน้าของไป๋หู่ก็ขรึมลง"คุณหนู ไม่เห็นใครเลย แต่ว่า บนถนนด้านหน้ามองเห็นรอยเท้ามากมาย บนกองหิมะยังมีรอยเท้าสับสนอีกด้วย ดูแล้วทิศทางคือตรงไปยังหุบเขา"ฟู่จาวหนิงหน้าเปลี่ยนสี"ความหมายของเจ้าคือ มีคนเข้าไปในภูเขาจากที่นี่หรือ?"นั่นไม่มีทางเป็นพวกเซียวหลันยวนแต่ยังมีคนอีกกลุ่ม ที่มาถึงที่นี่ก่อนพวกเขา ย้อนกลับเข้าไปในหุบเขาแล้ว"ถูกต้อง จำนวนคนดูแล้วก็ไม่น้อยเลย""ไม่มีรอยเท้าเดินออกมาบ้างหรือ?""ไม่พบเลย"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำพูดนี้จะยังนั่งอยู่ไหวหรือ?"ข้าไปดูหน่อย"ไป๋หู่เห็นนางยืนหยัด จึงทำได้เพียงยกมือเรียกคนติดตามไปฟู่จาวหนิงมาถึงบนถนนด้านหน้า แล้วก็มองเห็นรอยเท้าเป็นทางจริงๆ อย่างที่ไป๋หู่บอกมามองรอยเท้าเหล่านี้ ไม่ใช่รอยเท้าเล็กๆ ดูแล้วน่าจะเป็นผู้ชาย ยิ่งไปกว่านั้นรอยเท้าก็ไม่ตื้นเลย ดูเหมือนเป็นรอยที่ทิ้งไว้จากการวิ่งตะบึง ไม่เหมือนเดินเท้าเนิบๆดังนั้นจึงสามารถตัดคนเดินถนนทิ้งไปได้เลยนางยืนอยู่ในสายลม มองไปยังทิศของหุบเขา ถนนทิว
"ข้าไม่มีทางรอที่นี่ได้ นี่ไม่ใช่นิสัยของข้า"ฟู่จาวหนิงพูดจบ ก็หันหัวม้า ร้องย่าห์เบาๆ ห้อทะยานตรงไปยังหุบเขา"ตามไป!"ไป๋หู่หน้าเปลี่ยนสี กระโจนขึ้นมาไล่ตามฟู่จาวหนิงออกไปทันทีเฉินซานมองพวกเขาห่างออกไป ร้อนรนจนดวงตาแดงเถือก แต่ยังคงกัดฟัน รีบพารถม้ากับม้าที่เหลือตรงไปในป่าที่ไม่ห่างออกไปนัก เข้าไปซ่อนในนั้นก่อนถ้าหากพวกของฟู่จาวหนิงกลับมา ของเหล่านี้หายไปหมดล่ะก็ คงจะเร่งเดินทางไปเขาอวี้เหิงต่อได้ลำบากมากฟู่จาวหนิงใจร้อนรนเหมือนถ่านเผา ควบม้าทะยานไปตลอดทางพวกของไป๋หู่เองก็รีบตามเข้ามา และคอยสังเกตซ้ายขวาอยู่ด้วย"คุณหนู ถึงอย่างไรก็ระมัดระวังตัวด้วย"แม้จะผ่านไปสองสามวันแล้ว แต่ใครจะรู้ว่ายังมีคนเหลืออยู่อีกหรือไม่? ถ้าเผื่อพวกเขาไม่พบตัวฟู่จาวหนิง แล้วคอยดักอยู่ที่นี่ล่ะ? หรืออาจจะกำลังไล่ตามออกมาล่ะ?"ทุกคนกินยาลูกกลอนแก้พิษที่ข้าให้พวกเจ้าไว้ก่อนหน้านี้ลงไปด้วย"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้ว่าต้องระวังตัว พวกเขาทะยานมาตลอดทางเช่นนี้ยังไม่เจอร่องรอยคน สิ่งนี้ทำเอาจิตใจของนางตึงเครียดขึ้นเหมือนกันพวกของไป๋หู่พอได้ยินคำสั่งก็กินยาลูกกลอนทันทียานี้ทำให้พวกเขามีจะไม่ติดพิษได้ง
พวกองครักษ์ที่คุ้มกันอยู่ข้างๆ มีหลายคนที่ได้ยินเสียงฟู่จาวหนิง แต่ก็ยังพยายามลืมตาขึ้นอย่างอ่อนแรง มีคนกระทั่งแค่ลืมตาก็ยังทำไม่ได้เลย"พระชายา พระชายามาแล้ว" ชิงอีพังพาบอยู่บนพื้น ขยับนิ้วมือ พูดออกมาคำหนึ่ง แต่เสียงของประโยคนี้ก็เบาจนน่าสงสาร นอกจากตัวเอาเองก็ไม่มีใครได้ยินฟู่จาวหนิงวิ่งห้อขึ้นมาแล้วไม่มีใครลงมืออีกนางพุ่งเข้ามา พอมองก็เห็นคนชุดดำนอนระเนระนาดอยู่บนพื้นที่ห่างออกไปจำนวนไม่น้อย แค่มองผ่านๆ ก็น่าจะเป็นสิบคนและยังมีศพม้า รวมถึงม้าอีกหลายตัวที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ห่างนักบนพื้นหิมะล้วนเป็นรอยเลือด สีแดงเข้มอยู่ทั่วทุกที่ ทำเอาพื้นหิมะเป็นรอยปื้นน่าสยดสยอง"เซียวหลันยวน!!"ฟู่จาวหนิงตะโกนเสียงดังขึ้นมา เสียงเองก็สั่นพร่าเพิ่งสิ้นเสียงตะโกน นางก็มองเห็นคนในชุดจอมยุทธ์เบาสีเขียวเข้มกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมวงกันนั่นคือองครักษ์จากจวนอ๋อง!และในพวงที่พวกเขาล้อมกันอยู่ มีคนหนึ่งพังพาบอยู่บนพื้น อีกคนหนึ่งพิงอยู่ข้างหิน นั่นมันเซียวหลันยวนนี่?!"คุณหนูจาวหนิง อ๋องเจวี้ยนอยู่ทางนั้น" พวกของไป๋หู่เองก็มองเห็นทางนั้นแล้วรอบๆ คนเหล่านั้น ก็มีคนชุดดำตายอยู่ไม่น้อย ดูท่าคิดจ