เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เฉียวสือเนี่ยนก็ไม่แปลกใจ เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ดี” พูดจบ เฉียวสือเนี่ยนก็เข้าไปในห้องไม่นานเธอก็เดินออกมากพร้อมกับเอกสารสองฉบับอยู่ในมือฮั่วเยี่ยนฉือรู้ดีอยู่แล้วว่ามันคืออะไร เขาขมวดคิ้ว “เฉียวสือเนี่ยน เป็นเพราะฉันที่คืนนั้นพูดไม่ชัดเจน หรือว่าเธอคิดว่าไม่กี่วันมานี้ฉันละเลย
เฉียวสือเนี่ยนเลือกห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ในประเทศ M ที่นี่เป็นสวรรค์แห่งการชอปปิง ที่นี่เต็มไปด้วยเครื่องประดับและกระเป๋าแบรนด์หรูทุกแบรนด์ เฉียวสือเนี่ยนตาลายไปหมดเธอเลือกชุด รองเท้า และกระเป๋าที่ทันสมัยให้สำหรับตัวเอง และนึกขึ้นได้ว่าฟู่เทียนเทียนชื่นชอบสกินแคร์ ก็เลยหยิบให้เธออีกส
เฉียวสือเนี่ยนทนทรมานจากการที่ต้องยืนด้วยขาข้างเดียว เมื่อโม่ซิวหย่วนตบไหล่ของเธอ เธอจึงไม่สามารถยืนต่อไปได้ ก่อนที่จะได้บ่นออกมา ร่างกายของเธอก็เอนไปด้านข้างแล้วล้มลง!โชคดีที่โม่ซิวหย่วนไม่ลังเลที่จะมาทางด้านหลัง และโอบที่ไหล่ของเธอได้ทันเวลา“นั่นคุณกำลังทำอะไรน่ะ!”ในขณะที่ร่างของเฉียวสือเนี่ยนก
เมื่อเห็นท่าทีไม่มีความสุขของฮั่วเยี่ยนฉือ แล้วยังเสียงถามที่ไม่สบายใจของเขาอีก เฉียวสือเนี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ “ฉันปกป้องอะไรเขา? ครั้งก่อนฉันบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าจากนี้ฉันวางแผนจะเปลี่ยนไปชอบเขา ”ฮั่วเยี่ยนฉือสำลักด้วยความโกรธ คุยในโทรศัพท์ครั้งก่อน เฉียวสือเนี่ยนบอกว่าจะเปลี่ยนไป
มีแค่เฉิงหว่านซินคนเดียวเท่านั้น ที่ถูกป๋ายอีอีติดสินบนจริง ๆ และเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้“เฉิงหว่านซินกับเธออยู่พวกเดียวกัน คุณบอกจะไปตรวจสอบ ตรวจสอบแล้วยังล่ะ?” เฉียวสือเนียนเอ่ยอย่างเย็นชา ฮั่วเยี่ยนฉือเงียบไปครู่หนึ่ง “ช่วงนี้ฉันยุ่งมากจนไม่มีเวลาเลย”“ยุ่งอะไร นี่มันคือคำโกหก! คุณไม่เชื่อคำพู
ลู่เฉินหนานถามเรื่องไร้สาระ!เขาอยากรู้ว่าตรงไหนคือปัญหา แล้วทำไมถึงต้องย้อนถามเขาด้วย?ฮั่วเหยียนฉือพูดอย่างไม่อดทน “มีอะไรจะพูดก็พูดออกมาตรง ๆ จะอิดออดไปทำไม!”ลู่เฉินหนานหูเกือบหนวก “พี่ฉือ ผมขอถามที่ก่อนนะ พี่เชื่อว่าพี่สะใภ้เป็นทำเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งที่แล้วหรือเปล่า?”ฮั่วเยี่ยนฉือไม่ตอบออกมา
หลังจากที่นอนราบลงซักพัก เฉียวสือเนี่ยนก็ลุกขึ้นจากเสียง วางแผนที่จะไปหาอะไรกิน แล้วก็เก็บของก่อนจะเดินทางกลับจีนไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้เมื่อเธอสวมเสื้อคลุม เฉียวสือเนี่ยนก็รู้สึกดีมากขึ้นเมื่อเท้าของเธอเยียบลงบนพื้น รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย แต่ก็ไม่กล้าที่จะออกแรงมากเกินไป เมื่อเปิดประตู เธอก็เดินไปที่ห้อ
เฉียวสือเนี่ยนเองก็มองฮั่วเยี่ยนฉือเช่นกันสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง แววตาแฝงไปด้วยความคาดหวังฮั่วเยี่ยนฉือไม่เคยขอโทษเธอมาก่อน และไม่เคยยอมลดศักดิ์ศรีตัวเองขนาดนี้ต่อหน้าเธอเฉียวสือเนี่ยนรู้สึกปั่นป่วนเล็กน้อยเธอคิดมาตลอดว่าตัวเองจะไม่รู้สึกอะไรกับคำพูดของฮั่วเยี่ยนฉือทั้งนั้นและจะไม่ใจเต้นต่อความละอายใจที่น่าสงสารและการไม่ยอมแพ้ของเขาเด็ดขาดแต่ในตอนนี้ เธอยังคงรู้สึกขื่นขมราวกับบาดแผลในวัยเด็กที่คาดหวังว่าจะมีใครเห็นและเป็นห่วงแต่เธอก็รอจนกระทั่งตัวเองเติบโตขึ้น บาดแผลนี้จึงถูกอีกฝ่ายเห็นมัน มันเป็นเหมือนความรู้สึกที่ได้รับการเติมเต็มทำให้เธอเกิดรู้สึกสะเทือนใจ แต่เพราะเวลาผ่านไปนานมากแล้ว บาดแผลจึงไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไป“ฮั่วเยี่ยนฉือ คุณคิดว่าการที่พูดคำพวกนี้ในตอนนี้ มันมีประโยชน์อะไร?” เฉียวสือเนี่ยนถาม“ทำไมจะไม่มีประโยชน์?”ฮั่วเยี่ยนฉือ “ตอนแรกฉันไม่อยากยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ แต่ตอนนี้พวกเราก็ได้แต่งงานกันมาปีกว่าแล้ว ฉันคุ้นเคยกับเธอแล้ว ครอบครัวของพวกเราก็สนับสนุนให้เราอยู่ด้วยกัน ฉันจึงคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่พวกเราต้องหย่ากัน”“แน่นอนว่าหลังจากนี้ถ้าเธ