Share

บทที่ 2

หลินหยางสลบไปนานมาก ทั้งยังฝันประหลาดอีกด้วย ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เป็นเช้าวันถัดมาแล้ว

เขาเห็นตาแก่ผมสีดอกเลาคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า ก็รู้สึกตกใจมาก

“เจ้าหนุ่ม ไม่ต้องตกใจ ฉันได้รักษาดวงตากับบาดแผลทั้งหมดของเธอเรียบร้อยแล้ว”

ตาแก่กล่าวด้วยสีหน้าเมตตา

หลินหยางแอบหยิกตัวเองหนึ่งที เจ็บมาก เขามั่นใจแล้วว่านี่ใช่ความฝันแน่ ๆ แต่ตอนนี้ภายในหัวสมองยังคงยุ่งเหยิงอยู่

“ฉันมีชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้ว เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว ก่อนตายได้คนสืบทอดแบบเธอ ก็นับว่าปลื้มใจแล้ว”

ตาแก่โบกมือให้หลินหยางพร้อมกล่าวขึ้นว่า “เธอคุกเข่าลงก้มหัวคำนับอาจารย์ เดี๋ยวค่อยอธิบายรายละเอียดให้เธอฟัง”

หลินหยางไม่ลังเล รีบก้มหัวคำนับอาจารย์ พร้อมทั้งเรียกท่านอาจารย์

ตาแก่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหลินหยาง กล่าวด้วยใบหน้าปลื้มปีติ “เจ้าเด็กดี! เธอนั่งให้ดี ต่อไปเรื่องทุกอย่างที่อาจารย์จะเล่า เธอจะต้องตั้งใจฟัง จดจำเอาไว้ในใจ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด”

หลินหยางเงี่ยหู นั่งลงที่ข้างกายของตาแก่ ตั้งใจฟัง

ตาแก่พูด หลินหยางเป็นผู้มีเนตรคู่ที่หาได้ยากในรอบพันปี เป็นเพราะกระจกตาถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถปลุกพลังของเนตรคู่ได้

หลินหยางรู้ว่าตนเองเกิดมาพร้อมกับดวงตาที่ไม่เหมือนกับคนอื่น คนปกติทั่วไปดวงตาหนึ่งข้างมีรูม่านตาเพียงหนึ่งรู แต่เขากลับมีสองรูมาแต่ตั้งแต่เกิด

ตั้งแต่เล็กจนโต เขาถูกผู้คนรอบตัวมองว่าแตกต่าง ตอนที่เข้าเรียนก็ถูกเพื่อนร่วมชั้นหาว่าเป็นปีศาจ มีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้นที่ไม่เคยรังเกียจเขา

จากนั้นตาแก่ก็เล่าถึงตัวตน และประวัติความเป็นมาทั้งหมดของตัวเองให้หลินหยางฟัง หลังจากสั่งเสียเรื่องงานศพเสร็จแล้ว ตาแก่ก็นำกระเป๋าเฉียนคุนมอบให้แก่หลินหยาง ด้านในมีของที่เขาเก็บสะสมเอาไว้จำนวนหนึ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งของที่หลินหยางจะได้ใช้ประโยชน์ต่อไป

จากนั้นจู่ ๆ ตาแก่ก็ชี้ไปที่ตรงกลางระหว่างคิ้วของหลินหยาง ข้อมูลจำนวนนับไม่ถ้วนก็หลั่งไหลเข้าสู่หัวสมองของเขาในทันที

ตาแก่ได้นำสิ่งที่เรียนรู้มาตลอดชีวิต ถ่ายทอดให้แก่หลินหยางจนหมด จนสุดท้ายคอตกและเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ร่างกายกลายเป็นเถ้าถ่าน

“ท่านอาจารย์ ความมุ่งมาดปรารถนาดั้งเดิมของท่านศิษย์จะบรรลุแทนท่าน ความแค้นอันยิ่งใหญ่ของท่าน ศิษย์จะล้างแค้นแทนท่านไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม”

ท่านอาจารย์ที่มีโชคชะตาได้พบกันเพียงครั้งหนึ่ง ได้มอบชีวิตใหม่ให้หลินหยางอีกครั้ง เหมือนกับเป็นพ่อแม่ผู้ให้ชีวิตใหม่ มีบุญคุณใหญ่หลวง หลินหยางรู้สึกซาบซึ้งใจและเคารพเขาเป็นอย่างมาก

หลินหยางเปิดถุงเก็บสมบัติที่ท่านอาจารย์มอบให้เขาก่อนตาย หยิบยาลูกกลอนฮุ่นหยวนเบิกฟ้าที่แสนล้ำค่าเม็ดหนึ่งออกมาแล้วกินลงไป ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาทันที

รอยแผลเป็นบนร่างกายของเขาเริ่มหลุดร่อน สิ่งแปลกปลอมสีดำถูกขับออกจากรูขุมขน ผ่านพิธีศีลมหาสนิทจากภายในสู่ภายนอกรอบหนึ่ง ราวกับได้เกิดใหม่

ยาลูกกลอนฮุ่นหยวนเบิกฟ้าเม็ดนี้สามารถชะล้างสิ่งสกปรก ทำให้เข้าก้าวข้ามระดับมานะสร้าง เข้าสู่ระดับเบิกฟ้าทันที

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาได้ปลุกพลังของเนตรคู่ขึ้นมาแล้ว อีกทั้ง ศักยภาพของพลังเนตรคู่จะกระตุ้นอย่างต่อเนื่องตามพลังยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น กำเนิดพลังวิเศษลี้ลับมากมาย เก่งกาจหาผู้ใดเทียบ

“ฉินโม่หนง ฉินเยียนหราน พวกแกสองแม่ลูกจิตใจโหดเหี้ยมไม่รู้จักบุญคุณ พวกแกคงไม่คิดไม่ฝันว่าฉันจะมีความโชคดีในความโชคร้าย รอดจากภัยพิบัติมาได้!”

“ฉันจะทำให้พวกแกได้ชดใช้ ในการกระทำของตัวเอง!”

หลินหยางเสร็จสิ้นการชะล้างสิ่งสกปรก ควบคุมพลังขั้นต้นของเนตรคู่ สามารถซ่อนเร้นเนตรคู่ของตัวเองตามความพอใจ ไม่อย่างนั้นถ้าหากถูกคนที่รู้เรื่องพบเข้า เกรงว่าจะควักดวงตาของเขาออกไปทันที

เขาทำตามความปรารถนาที่ยังไม่สำเร็จของท่านอาจารย์ นำเถ้ากระดูกโปรยลงในแม่น้ำ จากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปยังตระกูลฉิน

เขาแทบจะอดรนทนไม่ไหวที่จะไปแก้แค้นสองแม่ลูกตระกูลฉินเพื่อลบล้างความอับอายแล้ว!

หลินหยางกระโจนตัวขึ้นไป ปีนเข้าไปในสวนดอกไม้ของคฤหาสน์ตระกูลฉิน ทันทีที่เปิดประตู ก็ได้เห็นเข้ากับภาพอันน่าเหลือเชื่อ

ฉินโม่หนงนอนเอนหลังอยู่บนโซฟา ในมือถือหนังสือเล่มหนึ่งกำลังเปิดอ่าน ท่าทางสง่างาม ราวกับงานศิลปะที่แกะสลักอย่างประณีตชิ้นหนึ่ง เส้นโค้งอ่อนช้อยแต่สง่างาม แผ่ซ่านเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ออกมา

ถึงแม้ว่าฉินโม่หนงจะเคยมีลูกมาก่อน แต่ยังคงรักษารูปร่างเอาไว้ได้ดีมาก ประกอบกับการบำรุงต่างๆ นานา ท่าทางดูเหมือนกับหญิงสาวอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี ทั่วทั้งร่างแผ่ซ่านกลิ่นอายของหญิงสาวที่มีความเป็นผู้ใหญ่

สิ่งที่ฉินโม่หนงเคยประสบมาก็น่าเวทนามากเช่นกัน ตอนอายุสิบห้า ถูกผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งข่มขืน จนให้กำเนิดฉินเยียนหราน

ต่อมาเธอได้พาลูกสาวหนีออกมาจากการควบคุมของผู้มีอิทธิพล จึงได้มาที่เมืองลั่ว

ฉินโม่หนงเห็นหลินหยางกลับมา กล่าวอย่างประหลาดใจ “ไม่นึกเลยว่าแกยังไม่ตาย?”

“ฉันไม่ตาย แกคงผิดหวังมากสินะ?”

หลินหยางกัดฟันกรอด เดินมุ่งหน้าเข้าไปหาฉินโม่หนง

ฉินโม่หนงไม่ได้สังเกตเลยว่าดวงตาทั้งสองข้างของหลินหยางได้กลับคืนเป็นปกติแล้ว เผยให้เห็นสีหน้าเหยียดหยาม

“ถ้าฉันอยากจะฆ่าแกให้ตาย แกก็คงไม่มีชีวิตอยู่มาถึงวันนี้หรอก”

“ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอบคุณในบุญคุณที่แกไว้ชีวิตฉันใช่ไหม?” หลินหยางกล่าวเสียงเย็นชา

ฉินโม่หนงอ่านหนังสือ ไม่สนใจที่จะเหลือบตามองหลินหยางเลยแม้แต่แวบเดียว กล่าวอย่างเย็นชา “ไสหัวกลับไปอยู่ที่กรงหมาของแกได้แล้ว อย่ามัวมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน”

หลินหยางรังเกียจท่าทีแบบนี้ของฉินโม่หนงที่สุด เห็นชัด ๆ ว่าเธอตอบแทนคุณด้วยการเนรคุณ เขมือบทรัพย์สินตระกูลหลิน ยังทำท่าทีดูถูกเขา ปฏิบัติต่อเขาเหมือนหมาตัวหนึ่ง

เพี้ยะ!

หลินหยางตบหนังสือที่อยู่ในมือฉินโม่หนงกระเด็น

“ฉันไม่ใช่หมาที่แกเลี้ยง!”

ฉินโม่หนงลุกขึ้นทันที เลิกคิ้วงามขึ้น บนตัวเปล่งออร่าของความเย่อหยิ่งและก้าวร้าวออกมา

“หลินหยาง แกบ้าไปแล้วหรือไง?!”

ฉินโม่หนงชี้ไปยังห้องใต้ดินตะคอก “ไสหัวไป! รีบหายไปจากตรงหน้าของฉันเดี๋ยวนี้!”

หลินหยางบีบลำคอของฉินโม่หนง กดเขาลงไปบนโซฟา

“ฉินโม่หนง ฉันจะบอกแกให้นะ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ฉันจะไม่ยอมเป็นไอ้สวะให้พวกแกรังแกได้อีก!”

“สองปีมานี้ ทุกอย่างที่พวกแกรังแกฉัน ฉันจะเอาคืนทีละอย่าง!”

ฉินโม่หนงเป็นหญิงแกร่งที่เคยเจอประสบการณ์ต่าง ๆ เคยประสบกับความวุ่นวายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากมาย ถึงแม้ว่าจะตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ได้ป้องกันตัว แต่ก็ไม่ได้เห็นหลินหยางที่ตาบอดอยู่ในสายตา

“แกอยากจะเอาคืนยังไง? ฆ่าฉันหรือไง? ฉันพนันเลยว่าแกไม่มีความกล้าหาญในเรื่องนี้!” ฉินโม่หนงกล่าวอย่างเหยียดหยาม

“ฆ่าแก? จะไม่เป็นการใจดีกับแกไปหน่อยหรือ”

หลินหยางกล่าวอย่างเยาะหยัน

“เอามือสกปรกของแกออกไป จากนั้นคุกเข่าก้มหัวลงไป เลียพื้นที่แกเหยียบจนสกปรกให้สะอาดทุกตารางนิ้ว ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แกได้ตายอย่างน่าอนาถ”

ฉินโม่หนงควบคุมซิงเย่า กรุ๊ป ที่บริษัทเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น ปลูกฝังจนทำให้มีออร่าของความกล้าหาญฮึกเหิม คนทั่วไปเวลาอยู่ต่อหน้าเธอ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า

ฉินเยียนหรานหยิ่งผยองบ้าอำนาจ ไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน แต่ก็ยังหวาดกลัวต่อฉินโม่หนงเป็นอย่างมาก

ก่อนหน้าที่ตระกูลหลินจะตกอับ หลินหยางมีความเกรงกลัวต่อแม่เลี้ยงคนนี้เช่นเดียวกัน ไม่กล้าอวดดีต่อหน้าเธอ

ฉินโม่หนงมีอำนาจบาตรใหญ่ แต่กลับใช้ความอาฆาตที่คุกรุ่นมาข่มขู่หลินหยาง

แต่ว่าหลินหยางในตอนนี้ ได้กลายเป็นปรมาจารย์วิถียุทธ์ระดับเบิกฟ้าแล้ว ต่อให้พลังอำนาจของฉินโม่หนงแข็งแกร่งกว่านี้ ก็ควบคุมไม่ได้แล้ว!

ในเมื่อฉินโม่หนงมั่นใจในความเย่อหยิ่งสูงส่งของตนเอง ถ้าอย่างนั้นก็ทำลายความสูงส่งของเธอให้สิ้นซาก

ฉินโม่หนงกล่าวอย่างเหยียดหยาม “ทำไมหลินฮ่าวเซวียนถึงได้มีลูกชายสวะแบบแก!”

เพลิงโทสะในใจของหลินหยางถูกคำพูดดูถูกประโยคนี้ของฉินโม่หนงกระตุ้นให้เดือดพล่านยิ่งกว่าเดิม ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ใบหน้าดุร้าย

“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย รีบไสหัวไปจากฉัน ไม่อย่างนั้นแกก็ไม่ต้องมีชีวิตเหมือนกับหมาอีกต่อไปแล้ว ฉันจะทำให้แกตายอย่างน่าสมเพช”

คำพูดประโยคนี้ของฉินโม่หนงไม่ใช่การพูดจาข่มขู่ หรือพูดไปเรื่อยเท่านั้น

เธอสามารถค่อย ๆ ก้าวมาทีละก้าว จนได้กลายเป็นผู้ประกอบการสาวสวยที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองลั่วได้อย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะอาศัยความฉลาด ความสามารถรวมทั้งความโหดเหี้ยม!

หลินหยางที่เดิมทีก็เต็มไปด้วยความเคียดแค้น คำพูดถากถางและเหยียดหยามแต่ละประโยคของฉินโม่หนง ทำให้เพลิงโทสะของเขาระเบิดออกมา ครอบงำสติสัมปชัญญะอย่างสมบูรณ์

“ฉินโม่หนง แกบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ!”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status