Share

เศรษฐีสาวขอเอาคืน
เศรษฐีสาวขอเอาคืน
ผู้แต่ง: เกาลัดไม่หวาน

บทที่ 1 เครื่องตกเจียนดับ

“เมื่อเวลาเที่ยงคืนสามสิบนาที ตามเวลาเมืองหลวง เครื่องบินลำหนึ่งไฟล์ทเดินทางไปยังรัฐปีนังประสบอัคคีภัยขณะลงจอด ยอดผู้เสียชีวิตสูงถึงหนึ่งร้อยสามสิบราย ขณะนี้มีผู้รอดชีวิตเพียงสามราย”

บนหน้าจอขนาดใหญ่ในโรงพยาบาลกำลังรายงานข่าวเครื่องบินตกแบบเรียลไทม์ หลีเกอหวนนึกถึงความรู้สึกดังกล่าว

ในฐานะผู้รอดชีวิตคนหนึ่ง เธอนอนอยู่บนเตียงไอซียู บาดแผลเต็มตัว สองขาล้วนพันด้วยผ้าพันแผล

โทรศัพท์ที่กำในมือดังไม่ขาดสาย “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ”

ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนถึงตอนนี้ ฮั่วจิ้นเฉิงในนามสามีของเธอไม่รับโทรศัพท์เลยสักสายเดียว

หลังเหตุการณ์เครื่องบินตกชวนช็อกทั่วประเทศเช่นนี้ เธอไม่เชื่อสักนิดว่าเขาจะไม่รู้เรื่อง

ซากศพเกลื่อนทั่วที่เกิดเหตุ ความพรั่นพรึงที่เจียนตายนั่นยังคงรัดรึงอยู่ที่ลำคอ เธอกลัวจนหายใจไม่ออก

ทว่าในเวลาที่เธอต้องการคนเคียงข้างมากที่สุด ผู้ชายที่เธอตบแต่งกันมาสามปีกลับหายเข้ากลีบเมฆ

ความหนาวแผ่ซ่านในหัวใจหลีเกอ

ผ่านไปพักใหญ่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นฉับพลัน เธอกลับมาสู่โลกความจริงพลางพลิกโทรศัพท์ขึ้นมาดู ในตาประกายกลับหม่นมัวลงเล็กน้อยเมื่อหน้าจอเด้งคำว่า 'คุณย่า' ก่อนเธอจะกดรับ

“สวัสดีค่ะ…” เธอรับสายด้วยเสียงแหบแห้ง

พลันได้ยินเสียงเป็นห่วงอย่างสุดซึ้งของคนชราจากปลายสาย “เสี่ยวเกอ หลานทำคนแก่ตกใจเกือบตายจริง ๆ! หลานบาดเจ็บตรงไหนไหม? จิ้นเฉิงไปอยู่เป็นเพื่อนหลานหรือเปล่า?”

นี่คือคุณย่าแท้ ๆ ของฮั่วจิ้นเฉิง และเป็นคนเดียวในตระกูลใหญ่นั้นที่ห่วงใยเธอ

“เขา…”

ความเงียบของเธอทำคุณย่าฮั่วตระหนักได้ทันที “เจ้าเด็กโง่นี่! หลานเป็นทั้งเลขาทั้งเมีย ออกประเทศก็ออกไปทำธุระแทนเขาแล้วตอนนี้เกิดเรื่อง แม้แต่เงายังไม่เห็น หลานรอก่อน ย่าจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่!”

คุณย่าฮั่วถามต่อ “หลานอยู่โรงพยาบาลไหน? ย่าจะส่งพ่อบ้านไปรับ!”

ไม่นานหลังหลังจากหลีเกอบอกที่อยู่ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไป

เธอก้มหน้าดึงเข็มสายน้ำเกลือออกจากแขนอย่างเงียบเชียบ ทนความเจ็บทั่วทั้งตัวลงจากเตียง

“นี่คุณจะทำอะไร? แผลที่ขายังไม่หายจำเป็นต้องนอนพักนิ่ง ๆ นะคะ”

ทว่าพยาบาลที่เข้าห้องตรวจกลับไม่ได้ปรามการกระทำหลีเกอ

“ช่วยเอาไม้ค้ำยันให้ฉันสองอันที ฉันจะทำเรื่องออกโรงพยาบาลค่ะ”

แววตาเธอแน่วแน่และไม่เปิดโอกาสให้ใครถาม

เมื่อเทียบกับโรงพยาบาล บ้านเดิมตระกูลฮั่วเหมาะจะใช้พักฟื้นมากกว่า

อีกทั้ง เธอเป็นเลขาประธานฮั่วกรุ๊ป แต่เดิมบินไปดูไบครั้งนี้เพื่อจัดนิทรรศการการแพทย์และตรวจสอบบุคลากรในนามตระกูลฮั่ว ข้อมูลที่รวบรวมจำต้องรายงานบริษัททันที

ประเด็นหลักคือเธออยากรู้ว่าฮั่วจิ้นเฉิงกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ คนไปอยู่ไหนแล้ว

พยาบาลไม่อาจขวางเธอได้ หลังเอาไม้ค้ำยันมาให้สองอันแล้ว หลีเกอก็ออกห้องไอซียูโดยไม่ลังเล เธอเดินกะเผลกตามกำแพงไปยังเคาน์เตอร์ชำระเงินของโรงพยาบาล แต่ว่าตรงกระจกแผ่นสูงของล็อบบี้ จู่ ๆ เธอก็เห็นป้ายทะเบียนที่คุ้นเคยปรากฏขึ้น แถมยังมีรถหรูหลายคันอยู่ด้านหลัง

นี่เป็นรถที่ใช้กันภายในของฮั่วกรุ๊ป

มีคนหลายคนลงจากรถ ตรงกลางเป็นชายสวมชุดสูทสีดำที่มีกลุ่มผู้ติดตาม เขากำลังอุ้มหญิงสาวในอ้อมแขน ดูออกเลยว่าเขาให้ความสำคัญผู้หญิงคนนี้มาก เธอมีเสื้อชั้นนอกสีนิลคลุมสองขาที่เปลือยเปล่าของเธอ

ชายหนุ่มเดินรุดไปล็อบบี้ของโรงพยาบาล

เขาไม่ได้สังเกตเห็นการมีอยู่ของหลีเกอเลยแม้แต่น้อย

เธอยืนอยู่กับที่พลางเฝ้ามองเขาอุ้มหญิงสาวเข้าห้องแพทย์เฉพาะทางอยู่ห่าง ๆ

ตลอดสามปีมานี้ เธอไม่เคยเห็นอารมณ์ด้านนี้ของเขามาก่อนเลย

ผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน?

แต่ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร ความเจ็บปวดที่ยากจะอธิบายก็แผ่ซ่านทั่วทรวงอกของหลีเกอแล้ว

ความเจ็บปวดนั้นทำเธอหายใจไม่ออก

จากนั้นไม่นาน มีพยาบาลคนหนึ่งผ่านเธอไปที่ทางเดินยาวของโรงพยาบาลพลางกระซิบ “อะไรกัน? นั่นฮั่วจิ้นเฉิง ทายาทตระกูลฮั่วที่ชอบมีข่าวในหน้าข่าวการเงินนี่ มาดแมนชะมัดเลย! ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญเจออยู่โรงพยาบาล แถมพาแฟนมาฝากครรภ์ด้วย”

“ฝากครรภ์? เธอแน่ใจเหรอ?”

“แน่สิ! รายงานผลตรวจระบุว่าอายุครรภ์ตั้งสิบสองสัปดาห์แล้ว! เพราะทารกในครรภ์อาการไม่คงที่วันนี้เลยตกเลือด คุณฮั่วถึงอุ้มเข้ามาไง”

สิบสองสัปดาห์...ก็มากกว่าสองเดือนแล้ว...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status