จ้าวหลานอยากเดินไปที่มีคนเยอะสักหน่อยแล้วนั่งรถกลับบ้านเก่าแต่ทว่า เธอเดินไปได้ไม่ไกลนักก็มีถึงสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง มองเห็นหญิงสาววัยรุ่นคนหนึ่ง หันมองไปมาอย่างตื่นกลัว เหมือนกับเจอเรื่องร้ายอะไรเข้าแล้วมีผู้ชายหลายคนเดินมาเธอมาติดๆ เหมือนอยากจะทำไม่ดีไม่ร้ายหญิงสาวคนนั้นจ้าวหลานสีหน้าเคร่งขรึม แต่เธอไม่ได้ตรงเข้าไปในทันที เธอยืนดูสถานการณ์และเตรียมรับมืออยู่ใต้เงามือของต้นไม้“พวกคุณจะทำอะไร?” หญิงสาวหน้าตาดีคนนั้นกลัวจนตัวสั่นเทาตั้งนานแล้ว และถามขึ้นอย่างหวาดกลัวหญิงสาวคนนี้มีชื่อว่าหานหย่าชิง และเป็นนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบ“สาวสวย คุณชายของเราคิดว่าเธอไม่เลว อยากพาเธอไม่นั่งรถเล่นโอเคไหม?” ชายคนหนึ่งที่ดูรูปร่างกำยำพูดขึ้นอย่างคิดไม่ดีเขามีชื่อว่าโจวห้าว และคุณชายที่เขาหมายถึงก็คือ เยว่ยี่เฟิง คุณชายของตระกูลเยว่ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีอำนาจและอิทธิพลมากที่สุดในเมืองหนานหูเยว่ยี่เฟิงในเวลานี้นั่งอยู่บนรถลัมโบกินีคันที่จอดอยู่ข้างๆจ้าวหลายสังเกตเห็นรถสปอร์ตลัมโบกินีคันนั้นแล้ว ยังมีรถอีกหลายคันจอดอยู่ด้านหลังด้วยเฟอร์รารี่ รถโรลส์-รอยซ์ และรถหรูอีกเจ็ดแปดคัน“ฉันไม่ส
ซูหว่านเอ๋อร์เป็นห่วงว่าจ้าวหลานไม่คุ้นเคยกับแถวนี้ และจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เธอขับรถโรลส์-รอยซ์ค้นหาไปทั่วเวลานี้ ฟากฝั่งทางสวนสาธารณะพวกของโจวห้าวกำลังจะอุ่มหานหย่าชิงขึ้นรถก็ได้ยินเสียงตะโกนมาว่า: “พวกแกจะทำไมอะไร! รีบปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ!”พวกเขาหันกลับไปมองก็เห็นเป็นผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งจึงรู้สึกโกรธในทันที“อีนังนี่ มาตะโกนอะไรดึกดื่นป่านนี้! รีบไสหัวไปซะ! ไม่งั้นแกได้ตายแน่!” โจวห้าวพูดอย่างดุร้ายหานหย่าชิงที่เดิมทีสิ้นหวังไปแล้ว แต่พอได้ยินเสียงตะโกน ยังคิดว่าตัวเองรอดแล้ว ใครจะเป็นคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิง ความหวังนั้นที่พังทลายลงอีกครั้งในทันที“ปล่อยผู้หญิงคนนั้นนะ!” จ้าวหลานตะโกน พร้อมกับเดินเข้าไปในใจของเธอก็รู้สึกกลัวเช่นกัน แต่เธอไม่อาจเห็นหญิงสาวคนนี้ถูกทำร้ายและไม่อาจเมินเฉยต่อหน้าต่อตาได้ เธอทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้“กระทืบอีแก่ชอบแส่นี่ให้ตายก่อน!” โจวห้าวพูดขึ้นพวกลูกน้องคนหนึ่งเดินมุ่งมาล้อมจ้าวหลานไว้เมื่อเข้ามาใกล้แล้ว ลูกน้องคนหนึ่งในพวกนั้นก็สาดหมัดเข้าใส่จ้าวหลานสำหรับพวกเขาแล้ว จ้าวหลานเป็นแค่หญิงชรา จะไปทำอันตรายอะไรได้ใครจะไปรู้ว่าจ้าวหลา
จากนั้นจ้าวหลานมือหนึ่งถือท่อนไม้ อีกมือหนึ่งถือมีดแล้วตะโกนขึ้นว่า: “พวกแกไม่กลัวกฎหมายกันหรือยังไง! ใครเข้ามาอีก ฉันก็จะฆ่าให้ตาย!”เวลานี้ในใจของจ้าวหลานเต็มไปด้วยไฟโทสะ นักเลงพวกกับใช้กำลังจับผู้หญิงในที่แบบนี้!คิดถึงตอนที่เธอยังเป็นทหารเด็กอยู่ เธอเคยจัดการพวกนักเลงไปไม่น้อยคนของแก๊งชิงหลงไม่มีสนใจ พวกเขามีคนเยอะกว่าจึงไม่ตื่นตระหนกเลยหญิงแก่คนเดียวจะทำอะไรได้ พวกเขาหลายคนจะการหญิงผู้หญิงแค่คนเดียวจัดการไม่ได้ ต่อไปก็ไม่ต้องอยู่ที่เมืองหนานหูแล้วพวกนี้อยากกดจ้าวหลานให้ตาย ใครจะไปรู้ว่าระหว่างต่อสู้กันยังถูกมีดปาดจนเป็นแผลที่แขนได้จ้าวหลานในเวลานี้ได้มองคนของแก๊งชิงหลงเป็นศัตรูไปแล้ว เหมือนได้กลับไปสมัยที่เธอเป็นทหารเด็กอยู่!เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ก้มหัวให้ใครง่ายๆ และยิ่งไม่ต้องถูกถึงนักเลงแบบนี้เลยคนของแก๊งชิงหลงก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ผู้หญิงบ้านนอกที่ดูแสนธรรมดากลับมีฝีมือแบบนี้ได้ซูหว่านเอ่อร์ก็ตกตะลึง ดูเหมือนจ้าวหลานเป็นแค่ชาวนาธรรมดา ไม่คิดว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับนักเลงพวกนี้ยังสามารถต่อกรได้อยู่หมัดเหลยเฉียงก็โดนจ้าวหลานปาดโดนโดยไม่รู้ตัว คราวนี้ไฟโทสะในใจของเ
“ถ้าแกทำร้ายเธอ รอให้สามีของฉันกลับมาแล้วจะต้องไม่ปล่อยแกไว้แน่!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“สามีเศษสวะของเธอจะทำอะไรฉันได้? ถึงฉันจะโยนอีแก่นั่นลงน้ำให้ปลากิน มันก็ไม่กล้าพูดมาก!” เยว่ยี่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มอวดดี“คุณต้องการอะไรถึงจะปล่อยแม่ของฉัน?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้น“คุณหย่ากับสามีของคุณแล้วมาอยู่กับผม หรือทำให้ผมได้ขึ้นสวรรค์ ปรนนิบัติผมสักคืน เรื่องนี้ก็จะถือว่าไม่เกิดขึ้น ไม่งั้นคืนนี้อีแก่นี่จะต้องถูกโยนลงแม่น้ำแน่!” เยว่ยี่เฟิงพูดขึ้น“ฝันไปเถอะ!” ซูหว่านเอ๋อร์ไม่คิดว่าเยว่ยี่เฟิงจะหน้าด้านขนาดนี้ ยื่นข้อเสนอที่เลวทรามแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ตอบตกลง คิดว่าแม้แต่จ้าวหลานก็ไม่ยอมเช่นกัน!“งั้นเธอก็ทนดูแม่บุญธรรมของสามีเธอถูกกระทืบจนตายก็ตามใจ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้” เยว่ยี่เฟิงผายมือแล้วพูดขึ้นซูหว่านเอ๋อร์หันกลับไปเห็นว่าในเวลานี้มีเลือดนองเต็มตัวจ้าวหลาน“คุณชายเยว่ ขอร้องล่ะ ปล่อยแม่ฉันไปเถอะนะ นอกจากข้อเสนอเมื่อกี้แล้ว ไม่ว่าอะไรฉันก็จะยอม”ซูหว่านเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น พูดขอร้องวิงวอน“ผมแค่ต้องการคุณคนเดียว อย่างอื่นผมมีหมดแล้ว” เยว่ยี่เฟิงพุดพร้อมกับหัวเราะหญิงงามอั
เมื่อแกงค์ชิงหลงเห็นหานหย่าชิงกำลังจะหลบหนี พวกเขาทั้งหมดก็รีบวิ่งกรูกันไปเพื่อจะจับเธอเอาไว้ แต่จ้าวหลานมาขวางทางเอาไว้ซูหว่านเอ๋อร์รู้แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรหากเธอจะขอร้องเย่ว์ยี่เฟิง ดังนั้นเธอจึงรีบกลับไปที่รถ"หว่านเอ๋อร์ พาผู้หญิงคนนี้ออกไปเร็วเข้า! ไปเร็ว!" จ้าวหลานตะโกนสุดเสียงในขณะที่กำลังต่อสู้เพื่อสกัดกั้นคนพวกนั้น"แม่! แล้วแม่จะหนีได้ยังไง?" เพราะซูหว่านเอ๋อร์ไม่อยากทิ้งจ้าวหลานไว้ที่นี่ตามลำพัง"ไปกันก่อนเถอะ! ปล่อยแม่ไว้ที่นี่คนเดียวก่อน! ไม่งั้นเราทุกคนจะออกไปไม่ได้นะ!" จ้าวหลานตะโกนในสถานะการณ์เร่งด่วนแบบนี้ ซูหว่านเอ๋อร์ไม่กล้าที่จะรั้งรออีกต่อไปและพูดกับหานหย่าชิง"เร็วเข้ารีบขึ้นรถ!"หานหย่าชิงที่กำลังหวาดกลัวและตื่นตระหนกจึงรีบขื้นรถในทันทีซูหว่านเอ๋อร์ก็นั่งประจำที่คนขับพร้อมแล้ว"แม่! รีบมาเร็วเข้า!" ซูหว่านเอ๋อร์ตะโกนร้องเรียกจ้าวหลานในขณะที่จ้าวหลานกำลังต่อสู้ติดพันกับคนหลายคน ทำให้เธอไม่สามารถหลบหนีออกไปได้"ไปก่อนเลย! รีบไปเร็วๆ!" จ้าวหลานรีบตะโกนนี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านเอ๋อร์พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ และเธอก็ตื่นตระหนกมากเช่นกันเธออยากพาจ้า
เหลยเฉียงหยิบมีดสั้นออกมา แล้ววิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว และจ้วงแทงซ้ำจ้าวหลานที่ท้องอีกหลายแผล!จ้าวหลานมีเลือดไหลทะลักออกมาอย่างมากและเกือบจะหมดสติไปแต่คนเหล่านี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โจวห้าวยังก้าวไปข้างหน้าเพื่อเตะซ้ำอีก2-3ครั้งผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นทหารเมื่อครั้งที่เธอยังเด็กและไม่เกรงกลัวใคร ผู้มีบารมีคนนี้ก็ได้จมอยู่บนกองเลือดเลือดยังไหลออกมาจากร่างกายเธอไม่หยุด และมีคราบเลือดขนาดใหญ่กระจายไปอยู่ตามพื้น"คุณชายเยว่ มันคงตายไปแล้วล่ะ เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ โชคร้ายจริงๆเลย!" เหลยเฉียงกล่าว"เอาล่ะ ไปกันเหอะ" เยว์ยี่เฟิงกล่าวทุกคนหันกลับไปขื้นรถแล้วออกจากสวนสาธารณะหลังจากเยว์ยี่เฟิงและพวกออกไปได้ไม่นาน ซูหว่านเอ๋อร์ก็ขับรถเข้ามาในสวนสาธารณะนั้นเมื่อเธอเห็นเลือดจ้าวหลานที่นอนจมเลือดอยู่บนพื้นก็ตกใจมาก"แม่คะ! แม่คะ!" ซูหว่านเอ๋อร์ร้องเรียกและรีบวิ่งลงจากรถไปเมื่อเธอมาอยู่ข้างๆจ้าวหลาน เธอก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากแล้วร้องไห้ออกมาจ้าวหลานถูกแทงไปหลายครั้ง จนร่างกายเธอเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลจำนวนมาก จนเธอไม่กล้ามองไปตรงๆด้วยซ้ำ"แม่! แม่! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะคะ ฉัน
ชั่วครู่หนึ่ง ซูหว่านเอ๋อร์ที่กำลังเศร้าโศกเสียใจหากหลินเซียวรู้ว่าแม่บุญธรรมของเขา ถูกแม่ของซูหว่านเอ๋อร์รังแกทุกวันตอนที่อาศัยอยู่ในวิลล่า แล้วเธอถูกไล่ออกมา และตอนนี้เธอถูกทุบตีจนเสียชีวิตบนถนน เขาจะคิดอย่างไร?"แม่! ตื่นสิคะ! แม่----" ซูหว่านเอ๋อร์ฟูมฟายร้องเรียก และร้องไห้ไม่หยุดแต่เธอยังไม่คิดจะยอมแพ้ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรเรียกรถพยาบาลในตอนนี้มือของซูหว่านเอ๋อร์เปราะเปื้อนไปด้วยเลือดแล้วซูหว่านเอ๋อร์ตัดสินใจบอกซูเฉิงกงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวลานี้ หลังจากที่ซูเฉิงกงกลับมาที่วิลล่าไม่นาน เขาก็เห็นสายของซูหว่านเอ๋อร์จึงรับสาย"หว่านเอ๋อร์ มีอะไรหรือเปล่า" ซูเฉิงกงถาม"พ่อค่ะ! มันเกิดอะไรบางอย่างขื้นแล้ว!" ซูหว่านเอ๋อร์ร้องไห้"มันเกิดอะไรขื้น? อย่าเพิ่งร้องไห้ ตั้งสติก่อน แล้วเล่าให้พ่อฟังว่ามันเกิดอะไรขื้น?" ซูเฉิงกงกล่าว"ป้าจ้าว แม่บุญธรรมของหลินเซียว ถูกคนจากแกงค์ชิงหลงทุบตีจนตายค่ะพ่อ!" ซูหว่านเอ๋อร์กล่าว"อะไรนะ มันเกิดขื้นได้อย่างไร!" ซูเฉิงกงตกใจจนตัวชา"ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจในหนึ่งหรือสองประโยคได้! รีบมาที่นี่ก่อน!" ซูหว่านเอ๋อร์กำลังส
ตอนนี้ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกรังเกียจหยางฮุ่ยฟางขื้นมาอย่างมาก"เกิดอะไรขื้น? ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่แม่สามีของลูกจะมาเกิดเรื่องที่นี่ตอนดึก?"ซูเฉิงกงถามหยางฮุ่ยฟางด้วยความสงสัย"ฉันด่าเธอด้วยความโมโหแล้วไล่เธอออกจากวิลล่าไปน่ะสิ" หยางฮุ่ยฟางรู้ว่าเธอต้องรับผิดชอบและไม่อาจปกปิดมันได้ เธอจึงบอกความจริงออกมา"เพี๊ยะ!" เสียงดังสนั่น ซูเฉิงกงตบหยางฮุ่ยฟางอย่างแรงซูเฉิงกงผู้ซื่งอ่อนแอมาโดยตลอด ไม่สามารถระงับโทสะในใจของเขาได้เลย และตะโกนใส่หยางฮุ่ยฟาง: "ดูสิ่งที่เธอคิดว่าดี ที่เธอทำนี่สิ! เราอาศัยอยู่ในบ้านพักของหลินเซียว คุณมีสิทธิ์อะไรไปขับไล่แม่บุญธรรมของเขา พวกเขายังไม่ไล่เธอออกไปเลย แต่เธอกลับไล่เขาออกไป ดีเหลือเกิน!"หยางฮุ่ยฟางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เคยคาดคิดว่าซูเฉิงกงจะทำอะไรแบบนี้กับเธอพวกเขาแต่งงานกันมาหลายสิบปีแล้ว และซูเฉิงกงไม่เคยลงไม่ลงมือกับเธอเลย "กรี๊ดด ซูเฉิงกง กล้าดียังไงมาตบฉัน! คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้วเหรอ?" หยางฮุ่ยฟางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ"เพี๊ยะ!" เสียงตบเสียงดังฟังชัดอีกรอบ และซูเฉิงกงตบหยางฮุ่ยฟางไปอีกครั้ง"ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แม่สามีของลูกฉันก็