“ถ้าแกทำร้ายเธอ รอให้สามีของฉันกลับมาแล้วจะต้องไม่ปล่อยแกไว้แน่!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้น“สามีเศษสวะของเธอจะทำอะไรฉันได้? ถึงฉันจะโยนอีแก่นั่นลงน้ำให้ปลากิน มันก็ไม่กล้าพูดมาก!” เยว่ยี่เฟิงพูดด้วยรอยยิ้มอวดดี“คุณต้องการอะไรถึงจะปล่อยแม่ของฉัน?” ซูหว่านเอ๋อร์ถามขึ้น“คุณหย่ากับสามีของคุณแล้วมาอยู่กับผม หรือทำให้ผมได้ขึ้นสวรรค์ ปรนนิบัติผมสักคืน เรื่องนี้ก็จะถือว่าไม่เกิดขึ้น ไม่งั้นคืนนี้อีแก่นี่จะต้องถูกโยนลงแม่น้ำแน่!” เยว่ยี่เฟิงพูดขึ้น“ฝันไปเถอะ!” ซูหว่านเอ๋อร์ไม่คิดว่าเยว่ยี่เฟิงจะหน้าด้านขนาดนี้ ยื่นข้อเสนอที่เลวทรามแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่ตอบตกลง คิดว่าแม้แต่จ้าวหลานก็ไม่ยอมเช่นกัน!“งั้นเธอก็ทนดูแม่บุญธรรมของสามีเธอถูกกระทืบจนตายก็ตามใจ ผมก็ช่วยอะไรไม่ได้” เยว่ยี่เฟิงผายมือแล้วพูดขึ้นซูหว่านเอ๋อร์หันกลับไปเห็นว่าในเวลานี้มีเลือดนองเต็มตัวจ้าวหลาน“คุณชายเยว่ ขอร้องล่ะ ปล่อยแม่ฉันไปเถอะนะ นอกจากข้อเสนอเมื่อกี้แล้ว ไม่ว่าอะไรฉันก็จะยอม”ซูหว่านเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้น พูดขอร้องวิงวอน“ผมแค่ต้องการคุณคนเดียว อย่างอื่นผมมีหมดแล้ว” เยว่ยี่เฟิงพุดพร้อมกับหัวเราะหญิงงามอั
เมื่อแกงค์ชิงหลงเห็นหานหย่าชิงกำลังจะหลบหนี พวกเขาทั้งหมดก็รีบวิ่งกรูกันไปเพื่อจะจับเธอเอาไว้ แต่จ้าวหลานมาขวางทางเอาไว้ซูหว่านเอ๋อร์รู้แล้วว่าไม่มีประโยชน์อะไรหากเธอจะขอร้องเย่ว์ยี่เฟิง ดังนั้นเธอจึงรีบกลับไปที่รถ"หว่านเอ๋อร์ พาผู้หญิงคนนี้ออกไปเร็วเข้า! ไปเร็ว!" จ้าวหลานตะโกนสุดเสียงในขณะที่กำลังต่อสู้เพื่อสกัดกั้นคนพวกนั้น"แม่! แล้วแม่จะหนีได้ยังไง?" เพราะซูหว่านเอ๋อร์ไม่อยากทิ้งจ้าวหลานไว้ที่นี่ตามลำพัง"ไปกันก่อนเถอะ! ปล่อยแม่ไว้ที่นี่คนเดียวก่อน! ไม่งั้นเราทุกคนจะออกไปไม่ได้นะ!" จ้าวหลานตะโกนในสถานะการณ์เร่งด่วนแบบนี้ ซูหว่านเอ๋อร์ไม่กล้าที่จะรั้งรออีกต่อไปและพูดกับหานหย่าชิง"เร็วเข้ารีบขึ้นรถ!"หานหย่าชิงที่กำลังหวาดกลัวและตื่นตระหนกจึงรีบขื้นรถในทันทีซูหว่านเอ๋อร์ก็นั่งประจำที่คนขับพร้อมแล้ว"แม่! รีบมาเร็วเข้า!" ซูหว่านเอ๋อร์ตะโกนร้องเรียกจ้าวหลานในขณะที่จ้าวหลานกำลังต่อสู้ติดพันกับคนหลายคน ทำให้เธอไม่สามารถหลบหนีออกไปได้"ไปก่อนเลย! รีบไปเร็วๆ!" จ้าวหลานรีบตะโกนนี่เป็นครั้งแรกที่ซูหว่านเอ๋อร์พบเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ และเธอก็ตื่นตระหนกมากเช่นกันเธออยากพาจ้า
เหลยเฉียงหยิบมีดสั้นออกมา แล้ววิ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว และจ้วงแทงซ้ำจ้าวหลานที่ท้องอีกหลายแผล!จ้าวหลานมีเลือดไหลทะลักออกมาอย่างมากและเกือบจะหมดสติไปแต่คนเหล่านี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โจวห้าวยังก้าวไปข้างหน้าเพื่อเตะซ้ำอีก2-3ครั้งผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเคยเป็นทหารเมื่อครั้งที่เธอยังเด็กและไม่เกรงกลัวใคร ผู้มีบารมีคนนี้ก็ได้จมอยู่บนกองเลือดเลือดยังไหลออกมาจากร่างกายเธอไม่หยุด และมีคราบเลือดขนาดใหญ่กระจายไปอยู่ตามพื้น"คุณชายเยว่ มันคงตายไปแล้วล่ะ เราออกไปจากที่นี่กันเถอะ โชคร้ายจริงๆเลย!" เหลยเฉียงกล่าว"เอาล่ะ ไปกันเหอะ" เยว์ยี่เฟิงกล่าวทุกคนหันกลับไปขื้นรถแล้วออกจากสวนสาธารณะหลังจากเยว์ยี่เฟิงและพวกออกไปได้ไม่นาน ซูหว่านเอ๋อร์ก็ขับรถเข้ามาในสวนสาธารณะนั้นเมื่อเธอเห็นเลือดจ้าวหลานที่นอนจมเลือดอยู่บนพื้นก็ตกใจมาก"แม่คะ! แม่คะ!" ซูหว่านเอ๋อร์ร้องเรียกและรีบวิ่งลงจากรถไปเมื่อเธอมาอยู่ข้างๆจ้าวหลาน เธอก็อดไม่ได้ที่จะปิดปากแล้วร้องไห้ออกมาจ้าวหลานถูกแทงไปหลายครั้ง จนร่างกายเธอเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลจำนวนมาก จนเธอไม่กล้ามองไปตรงๆด้วยซ้ำ"แม่! แม่! อย่าเพิ่งเป็นอะไรนะคะ ฉัน
ชั่วครู่หนึ่ง ซูหว่านเอ๋อร์ที่กำลังเศร้าโศกเสียใจหากหลินเซียวรู้ว่าแม่บุญธรรมของเขา ถูกแม่ของซูหว่านเอ๋อร์รังแกทุกวันตอนที่อาศัยอยู่ในวิลล่า แล้วเธอถูกไล่ออกมา และตอนนี้เธอถูกทุบตีจนเสียชีวิตบนถนน เขาจะคิดอย่างไร?"แม่! ตื่นสิคะ! แม่----" ซูหว่านเอ๋อร์ฟูมฟายร้องเรียก และร้องไห้ไม่หยุดแต่เธอยังไม่คิดจะยอมแพ้ เธอจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรเรียกรถพยาบาลในตอนนี้มือของซูหว่านเอ๋อร์เปราะเปื้อนไปด้วยเลือดแล้วซูหว่านเอ๋อร์ตัดสินใจบอกซูเฉิงกงเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเวลานี้ หลังจากที่ซูเฉิงกงกลับมาที่วิลล่าไม่นาน เขาก็เห็นสายของซูหว่านเอ๋อร์จึงรับสาย"หว่านเอ๋อร์ มีอะไรหรือเปล่า" ซูเฉิงกงถาม"พ่อค่ะ! มันเกิดอะไรบางอย่างขื้นแล้ว!" ซูหว่านเอ๋อร์ร้องไห้"มันเกิดอะไรขื้น? อย่าเพิ่งร้องไห้ ตั้งสติก่อน แล้วเล่าให้พ่อฟังว่ามันเกิดอะไรขื้น?" ซูเฉิงกงกล่าว"ป้าจ้าว แม่บุญธรรมของหลินเซียว ถูกคนจากแกงค์ชิงหลงทุบตีจนตายค่ะพ่อ!" ซูหว่านเอ๋อร์กล่าว"อะไรนะ มันเกิดขื้นได้อย่างไร!" ซูเฉิงกงตกใจจนตัวชา"ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เข้าใจในหนึ่งหรือสองประโยคได้! รีบมาที่นี่ก่อน!" ซูหว่านเอ๋อร์กำลังส
ตอนนี้ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกรังเกียจหยางฮุ่ยฟางขื้นมาอย่างมาก"เกิดอะไรขื้น? ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่แม่สามีของลูกจะมาเกิดเรื่องที่นี่ตอนดึก?"ซูเฉิงกงถามหยางฮุ่ยฟางด้วยความสงสัย"ฉันด่าเธอด้วยความโมโหแล้วไล่เธอออกจากวิลล่าไปน่ะสิ" หยางฮุ่ยฟางรู้ว่าเธอต้องรับผิดชอบและไม่อาจปกปิดมันได้ เธอจึงบอกความจริงออกมา"เพี๊ยะ!" เสียงดังสนั่น ซูเฉิงกงตบหยางฮุ่ยฟางอย่างแรงซูเฉิงกงผู้ซื่งอ่อนแอมาโดยตลอด ไม่สามารถระงับโทสะในใจของเขาได้เลย และตะโกนใส่หยางฮุ่ยฟาง: "ดูสิ่งที่เธอคิดว่าดี ที่เธอทำนี่สิ! เราอาศัยอยู่ในบ้านพักของหลินเซียว คุณมีสิทธิ์อะไรไปขับไล่แม่บุญธรรมของเขา พวกเขายังไม่ไล่เธอออกไปเลย แต่เธอกลับไล่เขาออกไป ดีเหลือเกิน!"หยางฮุ่ยฟางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เคยคาดคิดว่าซูเฉิงกงจะทำอะไรแบบนี้กับเธอพวกเขาแต่งงานกันมาหลายสิบปีแล้ว และซูเฉิงกงไม่เคยลงไม่ลงมือกับเธอเลย "กรี๊ดด ซูเฉิงกง กล้าดียังไงมาตบฉัน! คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกแล้วเหรอ?" หยางฮุ่ยฟางตะโกนออกมาด้วยความโกรธ"เพี๊ยะ!" เสียงตบเสียงดังฟังชัดอีกรอบ และซูเฉิงกงตบหยางฮุ่ยฟางไปอีกครั้ง"ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ แม่สามีของลูกฉันก็
รายงานจากกรมกำกับดูแลก็คือ:"จ้าวหลานมีเรื่องขัดแย้งบางอย่างกับใครบางคนและเนื่องจากความขัดแย้งนี้ ในท้ายที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ทะเลาะกัน จ้าวหลานถูกฆ่าตายและอีกคนก็กระโดดลงไปในทะเลสาปตาย!"ผลลัพธ์นี้ดูเหมือนว่าสิ่งที่ซูหว่านเอ๋อร์เล่ามานั้น จะกลายเป็นเรื่องที่ไร้สาระไปโดยสิ้นเชิงและเธอก็รู้ดีว่าตระกูลเยว่ต้องอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอนเธอยังเข้าใจอีกด้วยว่าเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับตระกูลเยว่ที่ปิดแผ่นฟ้าได้ด้วยมือเดียว และตอนนี้เธอทำได้เพียงอดทนเงียบๆไปเท่านั้นซูหว่านเอ๋อร์อยากจะบอกหลินเซียวเกี่ยวกับเรื่องนี้จริงๆ แต่เมื่อนึกถึงคำแนะนำของจ้าวหลาน เธอทำได้เพียงล้มเลิกความคิดและรอจนกว่าหลินเซียวจะกลับมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้เหตุการณ์นี้ไม่ได้แพร่กระจายในเมืองหนานหูและกรมกำกับดูแลก็ดูเหมือนจงใจจะปิดข่าวนี้อยู่นอกจากครอบครัวของซูหว่านเอ๋อร์แล้ว ก็ไม่มีใครในเมืองหนานหูที่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้อีกเลยร่างของจ้าวหลานได้รับการจัดพิธีอย่างเหมาะสม และซูหว่านเอ๋อร์ก็ได้ฝังจ้าวหลานในสุสานหนานซานงานศพของจ้าวหลานก็จัดขื้นแบบเงียบๆ โดยมีสมาชิกในครอบครัวของซูหว่านเอ๋อร์เพียงสามคน ได้แก่
หลินเซียวไม่ค่อยชอบที่จะเห็นใบหน้าที่ประจบสอพลอของคนเหล่านั้น เขาแค่อยากเก็บตัวอยู่เงียบๆ และกลับไปที่เมืองหนานหูเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับซูหว่านเอ๋อร์อีกครั้ง“ฉันไม่รู้ว่าพี่สะใภ้ของนายจะมีความสุขหรือเปล่านะ แต่แม่บุญธรรมของฉันคงจะดีใจมากแน่ๆ เมื่อเธอรู้ว่าฉันได้ชัยชนะกลับมา ฉันจะจัดอาหารเย็นสุดหรูมาให้เธออย่างแน่นอนเมื่อฉันกลับไปถึงในคืนนี้” หลินเซียวพูดด้วยรอยยิ้มหลินเซียวยังรู้สึกมีความสุขที่ได้เห็นแม่บุญธรรมของเขามีความสุขกับตัวเขา“เอาล่ะ คืนนี้ฉันจะเตรียมการดีๆ และเราสองคนก็จะได้ดื่มกันอีกสักหน่อย” เหลิ่งซวงพูดอย่างมีความสุข……เมื่อเหลิ่งซวงจอดรถใกล้กับวิลล่าหว้างเจียง หลินเซียวก็เห็นชายเจ็ดถึงแปดคนในชุดสูทและรองเท้าหนังรายล้อมผู้หญิงที่มีรูปร่างโดดเด่นเมื่อเขามองใกล้ ๆ เขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นคือซูหว่านเอ๋อร์ภรรยาของเขานั่นเอง!คนเหล่านี้ต้องการทำอะไรกับหว่านเอ๋อร์กันแน่!“จอดรถแล้วสังเกตุการณ์อยู่ในรถก่อน ฉันอยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” หลินเซียวพูดอย่างใจเย็น“โอเค” เหลิ่งซวงหยุดรถ และเขาก็สังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นคือซูหว่านเอ๋อร์ “คุณซู นายน้อยคนโตของเราอยากเช
ทุกคนมองดูตามเสียงและเห็นชายร่างกำยำที่เดินมาด้วยฝีเท้ายาว มีบุคลิคอันสง่างาม และดวงตาของเขาดูเหมือนจะสามารถฆ่าผู้คนทั้งเป็นได้เลยข้างหลังเขามีหญิงสาวสวยรูปร่างสูงและมีความสง่างามโดดเด่นและใบหน้าของเธอที่ไม่อาจละสายตาได้ซูหว่านเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าทั้งสองคนคือหลินเซียวและเหลิ่งซวง“นายกำลังจะทำอะไร มันไม่ใช่หน้าที่ของนายที่จะเข้ามาแส่ในเรื่องนี้ ไม่งั้น นายน้อยของฉันจะไม่ปล่อยนายไปอย่างแน่นอน!” เยว่ต้าฝูไม่รู้จักหลินเซียวเลย“ผมเป็นสามีของซูหว่านเอ๋อร์ หลินเซียว ทีนี้คุณคิดว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับผมหรือเปล่าล่ะ?” หลินเซียวจ้องไปที่เยว่ต้าฝูด้วยสายตาที่เฉียบคม“หลินเซียว?” เยว่ต้าฝูรู้สึกแปลกเล็กน้อยเมื่อเห็นชายตรงหน้าอ้างว่าเป็นสามีของซูหว่านเอ๋อร์มีข่าวลือว่าหลินเซียวเป็นผู้แพ้ไปโดยสิ้นเชิง แต่ชายตรงหน้าเขากลับดูไม่ธรรมดาเอาซะเลย ฮ่าฮ่าฮ่า นายมันก็แค่ขยะ แต่มันช่างเป็นเรื่องปาฏิหาริย์จริงๆที่นายไม่ได้ตายในชายแดนใต้ แต่ถึงแม้ว่านายจะกลับมาตอนนี้ จะมีประโยชน์อะไรล่ะ? นายน้อยของเราคิดว่าภรรยาของนายก็เป็นคนดี นายก็เลยไม่รู้ จะชมเมียตัวเองยังไงดีไงล่ะ ปล่อยเ