หลินเซียวพยักหน้า ไม่ได้สงสัยในสิ่งที่หยางฮุ่ยฟางพูดคนรุ่นเก่าก็เป็นแบบนี้แหละ เคยชินกับการใช้ชีวิตในชนบทแต่กลับรู้สึกไม่สบายใจที่จะอยู่ในเมืองใหญ่“เหลิ่งซวง ไปบ้านนอกตอนนี้เพื่อพาแม่บุญธรรมของเรากลับมากันเถอะ” หลินเซียวกล่าว“โอเคค่ะ” เหลิ่งซวงกล่าว“ทำไมถึงรีบร้อนขนาดนี้ล่ะ ลูกเพิ่งจะกลับมา มาพักผ่อนก่อนเถอะ” หยางฮุ่ยฟางรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อยในตอนนี้“ผมอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีต่อไปอีกสักสองสามวัน ตอนนี้ผมกลับมาแล้ว ผมจะดูแลเธอและพาเธอกลับมาอยู่กับผมสักพัก” หลินเซียวกล่าว“อย่าเพิ่งไป…” หยางหุยฟางเริ่มกังวลมากขึ้นเมื่อหลินเซียวเห็นหยางฮุ่นฟางดูผิดปกติไป เขารู้สึกถึงบางอย่างที่ไม่ดีในใจ ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้นมาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ? นี่มันเกิดอะไรขึ้น!" หยางฮุ่ยฟางไม่กล้ามองตรงไปที่หลินเซียว และไม่ต้องการที่จะพูดถึงการตอบคำถามนี้ “หว่านเอ๋อร์ บอกผมหน่อยว่าตอนนี้แม่บุญธรรมของผมอยู่ที่ไหน?” หลินเซียวหันกลับมาและถามซูหว่านเอ๋อร์“เธอ เธอถูกทำร้ายจนสิ้นใจ......และตอนนี้ถูกฝังไว้ที่สุสานแล้ว” ซูหว่านเอ๋อร์รู้ดีว่าเธอไม่สามารถปกปิดความจริงได้แล้ว เธอจึงก้มศีรษะลง
แม้ว่าแกงค์ชิงหลงจะมีอิทธิมากในเมืองหนานหู และทำให้ผู้คนในเมืองหนานหูต่างหวาดกลัว แต่พวกเขาจะต้องยอมก้มหัวให้กับหลินเซียว“มันเป็นความคิดของเยว่ยี่เฟิง คุณชายเยว่ของตระกูลเยว่!” ซูหว่านเอ๋อร์กล่าว“ทำไมเยว่ยี่เฟิงถึงทำแบบนี้?” หลินเซียวถามอีกครั้งเขาเคยได้ยินบางอย่างเกี่ยวกับตระกูลเยว่ในเมืองหนานหูมาก่อน “เยว่ยี่เฟิงเป็นคนที่มีอำนาจอยู่เหนือกฎหมาย ตราบใดที่เขาเห็นผู้หญิงที่เขาชอบ เขาจะต้องลักพาตัวเธอไปให้จนได้ และแม้ว่าเธอจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม! เมื่อยี่สิบวันก่อนในคืนนั้น แม่ของคุณได้พบเห็นเยว่ยี่เฟิงและคนอื่น ๆ กำลังฉุดตัวหญิงสาวชื่อหานหย่าชิงในสวนสาธารณะหว้างเจียง เพราะต้องการจะลักพาตัวหญิงสาวไป แต่หญิงสาวกลับร้องขอความช่วยเหลือและดิ้นรน เมื่อแม่ของคุณที่เคยเป็นทหารในสมัยก่อนได้เห็นดังนั้น เธอก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อเรื่องแบบนี้ได้ เธอจึงเข้าไปช่วยหญิงสาวคนนั้น”แต่ซูหว่านเอ๋อร์ก็ไม่ได้บอกความจริงทั้งหมด เพราะเธอไม่กล้าบอกหลินเซียวว่า เป็นเพราะแม่ของเธอเองที่เป็นคนขับไล่จ้าวหลานออกไปและสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้น หานหย่าชิงได้บอกเล่าให้กับซูหว่านเอ๋อร์ในภายหลัง“คนของแกงค์ชิงหลงนั้
จ้าวหลานเป็นแม่บุญธรรมของเขา และเธอยังเป็นบุคคลที่มีความยุติธรรมสูง เมื่อครั้งที่เธอยังเยาว์วัย เธอยังทำงานเป็นทหารเพื่อขจัดภัยอันตรายให้กับประชาชน แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เธอถูกกลุ่มคนทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตกระทันหัน พวกอันธพาลสารเลว!แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จะล้างแค้นให้กับแม่บุญธรรมของเขาอย่างแน่นอน!ตามฆ่าเพื่อชดใช้ชีวิต ตามทวงหนี้เพื่อชดใช้เงิน มีมาตั้งแต่สมัยโบราณนานมา!มีเพียงการทำให้พวกเขาต้องชดใช้ด้วยเลือดและความตายเท่านั้นที่จะสามารถบรรเทาความเกลียดชังในใจของหลินเซียวได้!เยว่ยี่เฟิงและแกงค์ชิงหลงต่างจะต้องชดใช้กรรมครั้งนี้อย่างแสนสาหัส “แม่บุญธรรมของผมฝังอยู่ที่ไหน ผมอยากไปที่นั่น” หลินเซียวถาม “อยู่ที่สุสานหนานซาน” ซูหว่านเอ๋อร์กล่าวจนถึงขณะนี้หยางฮุ่ยฟางรู้สึกโล่งใจและแอบถอนหายใจด้วยความโล่งอก โชคดีที่ซูหว่านเอ๋อร์ไม่ได้บอก หลินเซียวเกี่ยวกับการที่เธอขับไล่จ้าวหลานออกไปจากวิลล่าในตอนนั้น “เหลิ่งซวง ไปตรวจสอบเรื่องนี้ดูที น่าจะมีกล้องที่อยู่ใกล้ๆสวนหว้างเจียงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ฉันจะรอข่าวจากเธออยู่ที่สุสานหนานซาน” หลินเซียวกล่าวซูหว่านเอ๋อร์ให้ได้
“อย่าหัวรั้นแบบนี้จะได้ไหม? ฉันรู้ว่าคุณอยากจะแก้แค้น แต่ก็ต้องมีความสามารถมากพอปะ ไอ้เจ้านี่มันเป็นพวกที่ชอบทำชั่วไม่สนใจกฎหมาย แถมยังโหดร้ายมากๆอีกต่างหาก ฉันว่าพวกเราไปกันดีกว่านะ เรื่องนี้ค่อยๆ ปรึกษากันให้ดีก่อน!” ซูหว่านเอ๋อร์ลากแขนของหลินเซียวอยากจะรีบออกไปจากที่นี่แต่ไม่ว่าซูหว่านเอ๋อร์จะออกแรงยังไง หลินเซียวก็ยังคงไม่ขยับตัวเลย“ศัตรูอยู่ตรงหน้าแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องหนี พวกมันฆ่าแม่บุญธรรมของผม วันนี้ผมต้องฆ่าพวกมันให้ตายเพื่อแก้แค้นให้กับแม่บุญธรรม!” หลินเซียวพูดขึ้นอย่างเย็นชาทันใดนั้น หวูทาวได้พุ่งเข้ามาพร้อมกับพวกของแก๊งชิงหลง ก่อนจะล้อมหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์เอาไว้“ฮ่าๆๆ ดูสิว่าพวกแกยังจะมีทางหนีไปไหนได้อีกไหม?” หวูทาวเห็นว่าหลินเซียวและซูหว่านเอ๋อร์ถูกล้อมไว้แล้วก็พูดอย่างเกรี้ยวกราด“หนีงั้นเหรอ?” ฉันคนนี้ไม่เคยคิดจะหนีมาก่อน!” หลินเซียวพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ถึงแกอยากจะหนี ตอนนี้มันก็เป็นไปไม่ได้แล้ว แกกล้าลงมือกับคนของคุณชายเยว่ รีบคุกเข่าขอร้องท่านซะเดี๋ยวนี้แล้วก็เอาเมียของแกไปส่งให้ถึงตระกูลเยว่ซะ ฉันอาจจะคิดไว้ชีวิตไร้ค่าของแกสักหน่อยก็ได้!” หวูทาวพ
หวูทาวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ไปทั่วร่างของเหลิ่งซวง และก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรวู่วาม ทุกคนต่างหยุดนิ่งอยู่กับที่หลังผ่านไปกว่าครึ่งนาที หลินเซียวก็เอ่ยปากถามขึ้นว่า: “มีคลิปวิดีโอที่สมบูรณ์ไหม?”“มีค่ะ!” เหลิ่งซวงพูดขึ้นซูหว่านเอ๋อร์ได้ยินที่เหลิ่งซวงพูดก็รู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะได้คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดในคืนวันนั้นมาได้เร็วขนาดนี้กรมกำกับดูแลน่าจะลบคลิปพวกนั้นทิ้งไปหมดแล้วหรือไม่ก็เผยแพร่สู่สาธารณะ“เอาออกมาให้ฉันดูหน่อย!” หลินเซียวพูดขึ้น“พี่หลิน ภาพเหตุการณ์มันค่อนข้างที่จะโหดร้ายไปเล็กน้อยนะครับ ฉันว่าพี่อย่าดูเลยดีกว่า” เหลิ่งซวงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น“ฉันไม่อยากพูดซ้ำเป็นครั้งที่สองหรอกนะ!” หลินเซียวพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจปฏิเสธได้“ค่ะ!” เหลิ่งซวงกลับไปหยิบแท็ปเล็ตบนรถแล้วเดินมาตรงหน้าของหลินเซียวเห็นเหลิ่งซวงยังคงเคารพต่อหลินเซียวเป็นอย่างมาก ทำให้ซูหว่านเอ๋อร์ก็ยังรู้สึกสงสัยเล็กน้อยหลินเซียวไม่ใช่บอกว่าตัวเองเป็นแค่ทหารองครักษ์ธรรมดาหรอกเหรอ? ทำไมคนที่มียศนายพลระดับกลางอย่างเหลิ่งซวงถึงได้เกรงใจเขาขนาดนี้?เหลิ่งซวงเปิดคลิปวิดีโ
เหลิ่งซวงก็รู้ว่าครั้งนี้หลินเซียวโมโหแล้วจริงๆ เกรงว่าจะต้องมีคลื่นโหมกระหน่ำซัดสาดเข้ามาที่เมืองหนานหูเป็นแน่!ครั้งนี้แก๊งชิงหลงก็ต้องเผชิญกับการถูกทำลายล้างแล้ว!แม้แต่บุญธรรมของเทพสงครามราชามังกรก็ยังกล้าที่จะทำร้ายอย่างทารุณ ก็แค่แก๊งเล็กๆ อย่างแก๊งชิงหลง ยังไงก็ต้องถูกทำลายอย่างแน่นอน!หลินเซียวยืนอยู่ท่ามกลางห่าฝนกระหน่ำด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกและแววตาอันแหลมคม เขาจ้องมองพวกของหวูทาวที่อยู่ตรงหน้าแววตาอันแหลมคมดุจอาวุธอันตรายที่ทำให้คนที่ได้สบตาก็ต้องสั่นสะท้านไปทั้งตัวเป็นครั้งแรกที่หวูทาวเห็นแววตาที่น่ากลัวขนาดนี้ เขาอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหลายก้าวตอนนี้พวกเขาคิดแค่อยากจะรีบไปจากที่นี่ แต่ในใจคิดเช่นนี้ กลับก้าวขาไม่ออก พวกเขาถูกความน่ากลัวของหลินเซียวทำให้หวาดกลัว ส่วนขาทั้งสองข้างก็สั่นเทาก้าวขาไม่ออก!“พี่หลิน ฆ่าเศษสวะพวกนี้ได้เลยไหมครับ!” เหลิ่งซวงถามขึ้น ขอแค่หลินเซียวพยักหน้า เธอจะลงมือฆ่าพวกชั่วนี้ด้วยมือของเธอเองอย่างแน่นอน!“เธอจับตาดูพวกมันอาไว้ อย่าให้ใครหนีไปได้!” หลินเซียวพูดขึ้น“ลงมือเลยไม่ดีกว่าเหรอพี่ ยังจะรออะไรอีก?” เหลิ่งซวงถามขึ้นด้วยควาสงสัยเล็ก
“ไม่ต้อง เรื่องนี้เธอไม่ต้องช่วย!” หลินเซียวชูมือขึ้นแล้วพูด“พี่หลิน จัดการเศษสวะพวกนี้ พี่ต้องลงมือเองด้วยเหรอคะ?” เหลิ่งซวงพูดขึ้น“ฉันจำเป็นต้องจัดการพวกชั่วนี้ด้วยตัวเองถึงจะดับไฟโทสะในใจของฉันได้!” หลินเซียวพูดด้วยความเย็นชา“โอเคค่ะ!” เหลิ่งซวงถอยหลังไปหลายก้าวซูหว่านเอ๋อร์ได้ยินการสนทนาของหลินเซียวและเหลิ่งซวงก็รู้สึกมึนงงสับสนไปหมด สำหรับพวกเขาแล้ว พวกของหวูทาวราวกับเป็นหุ่นกระดาษ เขาสามารถจัดการได้อย่างสบายๆอย่างงั้นแหละแม้ว่าในตอนงานเลี้ยงครั้งก่อน ซูหว่านเอ๋อร์จะรู้ถึงความสามารถที่แท้จริงของหลินเซียวบ้างแล้วว่าสามารถต่อสู้เก่ง แต่สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน คนพวกนี้เป็นพวกของแก๊งชิงหลงและยังโหดร้ายทารุณอีก หากทำอะไรพวกมันก็เท่ากับได้กลายเป็นศัตรูกับแก๊งชิงหลง!“หลินเซียว คุณใจเย็นก่อนนะ เรายังมีวิธีที่สามารถจัดการเรื่องนี้ได้และไม่จำเป็นต้องฆ่าพวกมัน แก๊งชิงหลงไม่ใช่แก๊งที่เราจะมีเรื่องกับพวกมันได้ง่ายๆเลยนะ!” ซูหว่านเอ๋อร์พูดขึ้นอย่างร้อนใจ“เลือดต้องล้างด้วยเลือด มันเป็นสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้! คุณไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้” เรื่องอื่นหลินเซียวฟังความเห็
หวูทาวที่ยืนอยู่ข้างๆ กลัวจนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาซักพักแล้ว เขาขยี้ตาของตัวเองด้วยความสงสัยว่าตัวเองตาฝาดไปรึปล่าวลูกน้องของตัวเองยี่สิบกว่าคนถูกหลินเซียวฆ่าตายหมดได้ไงกัน?เหลิ่งซวงไม่รู้สึกแปลกใจต่อภาพเหตุการณ์แบบนี้เลย เทียบกับภาพนองเลือดบนสนามรบแล้ว ภาพเหตุการณ์แบบนี้เฉยๆ ไปเลยหลินเซียวถือมัดสั้นพร้อมกับค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้หวูทาวขาทั้งสองข้างของหวูทาวอ่อนแรง ก่อนจะล้มนั่งลงไปกองบนพื้นเมื่อเผชิญหน้ากับความตายแล้ว แม้แต่เขาก็หวาดกลัวจนถึงขีดสุด“อย่าฆ่าผมเลย ปล่อยผมไปเถอะนะ ขอร้องล่ะนะ......” หวูทาวคุกเข่าขอร้องอ้อนวอนต่อหน้าหลินเซียว ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่คิดว่าหลินเซียวจะมีฝีมือขนาดนี้“สายไปแล้ว! ตอนที่พวกแกฆ่าแม่บุญธรรมของฉันก็น่าจะคิดว่าจะต้องมีวันนี้นะ!” หลินเซียวพูดอย่างเย็นชา“ฉันผิดไปแล้ว ขอแค่แกไม่ฆ่าฉัน ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา แต่ถ้าแกฆ่าฉันล่ะก็ แก๊งชิงหลงก็จะไม่ปล่อยแกไปแน่ๆ ฉันเป็นถึงลูกน้องคนโปรดของรองหัวหน้าเหลยเลยนะ!” หวูทาวพูดขึ้น“แก๊งชิงหลงงั้นเหรอ? ก็แค่พวกมดพวกแมลงฝูงหนึ่งก็เท่านั้น ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกฉันทำลายทิ้งอยู่ดี!” หลินเซียวพูดขึ้น“งั้