บททั้งหมดของ ใต้หล้าสยบรัก: บทที่ 941 - บทที่ 950
1015
บทที่ 941
พวกคนหนุ่มสาวไม่เข้าใจหรอก!ต่อสู้แทบเป็นแทบตาย สุดท้ายก็ยังแสวงหาอิสรภาพไม่ใช่หรือ?ฉางกงกงมาถึงจวนอ๋องฉู่ เขาอยากเล่นกับเด็ก ๆเนื่องจากเขาไม่ใช่ทั้งชายและหญิง เขาจึงสามารถเข้าไปในตำหนักเสี่ยวเยว่เพื่อเยี่ยมดูเด็ก ๆ ได้ และหยวนชิงหลิงก็ลุกขึ้นมาอยู่เป็นเพื่อนเขาด้วยเปาจื่อชอบฉางกงกงมากเป็นพิเศษ เขาก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นฉางกงกงเปาจื่อกินเยอะจึงอ้วนมากกว่า เมื่อเขายิ้ม เขาจึงดูเหมือนพระอรหันต์ตัวอ้วนท้วน เขาน่ารักมาก และทำให้ฉางกงกงชอบเป็นที่สุด“อยู่ในวังก็ดีแล้ว” ฉางกงกงไม่อยากวางเปาจื่อลงเลย แล้วจึงค่อยไปอุ้มทังหยวนกับลั่วหมี่ “น่าจะอยู่ในวัง แต่ดันมาอยู่ข้างนอกเช่นนี้ เลยไม่เจอกันตั้งหนึ่งเดือน ไท่ซ่างหวงทรงคิดถึงเด็ก ๆ แต่เด็ก ๆ ยังไม่ครบเดือนเลย หนำซ้ำยังพาพวกเขาเข้าวังไม่ได้ และพระองค์เองก็อายที่จะออกมาหา แต่ก็ทรงเหงาและเบื่อด้วยเช่นกัน"หยวนชิงหลิงยิ้มและพูดว่า "ถ้าไท่ซ่างหวงทรงชอบ เมื่อเด็ก ๆ ครบเดือนแล้ว ข้าจะส่งเด็ก ๆ ไปให้พระองค์ ให้ไปเลี้ยงสักไปสองปีแล้วค่อยเอากลับ"ฉางกงกงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาอุ้มลั่วหมี่ไว้ในอ้อมแขนของเขา และเขย่าเบา ๆ "จริงหรือพ่ะค่ะย่ะ ถ้
Read More
บทที่ 942
นางข้าหลวงสี่พูดด้วยความโกรธ "ออกไปเลย พูดอะไรไม่ดูเวล่ำเวลา ไม่รู้หรืออย่างไรว่ามันทำร้ายคนอื่น?"ฉางกงกงเห็นว่านางค้านหัวชนฝาและเห็นสีหน้าที่ไม่พอใจขององค์หญิงรัชทายาทหยวนชิงหลิง ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกลับไปหลังจากที่ฉางกงกงกลับไป เขาก็พูดกับไท่ซ่างหวงว่า "บ่าวบอกตามที่พระองค์สั่ง แต่องค์หญิงรัชทายาทไม่พอใจ และนางข้าหลวงสี่ก็ไล่บ่าวออกไป เรื่องนี้ยากมากนัก!"ไท่ซ่างหวงมองเขา "พูดอะไร?"“ที่พระองค์พูดถึงเรื่องเหลียงตี้อย่างไรพ่ะย่ะค่ะ”ไท่ซ่างหวงประหลาดใจ "เหลียงตี้? เหลียงตี้จากไหนกัน?"ฉางกงกงกล่าวว่า "ที่ยังไม่ได้แต่งตั้ง หรือแต่งตั้งแล้วก็มีพ่ะย่ะค่ะ"ไท่ซ่างหวงพูดอย่างเฉยเมย "เจ้าคิดว่าเจ้าสมควรถูกดุหรือไม่? เหลียงตี้ยังไม่มี เจ้าก็พูดไปก่อนแล้ว เจ้าพูดมิใช่หรือว่าเจ้ารู้สึกสงสารนางที่ท้องและคลอดแฝดสาม? เจ้าจะวิ่งไปคุยเรื่องเหลียงตี้กับนางตอนนี้ได้อย่างไร เจ้าบ้านี่ ข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้ามันยิ่งแก่ยิ่งใจร้ายจริง ๆ ตาเฒ่าสารพัดพิษ"ฉางกงกงตกตะลึง "บ่าวใจร้ายอะไรพ่ะย่ะค่ะ? วันนี้ก็ที่พระองค์สั่ง?”“หุบปาก ข้าเป็นคนที่มีจิตใจเมตตา ไม่ทำเรื่องเช่นนี้ ข้ามีชีวิ
Read More
บทที่ 943
ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ก็ตาม เมื่อเหล่านางสนมในวังหลังมาถวายพระพรไทเฮา พวกนางจะต้องพูดถ้อยคำที่เป็นมงคลสองสามคำเกี่ยวกับแฝดสามเสมอไทเฮาก็มีความสุขเช่นกัน แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีความสุขคือรัชทายาทไม่ได้อยู่ในตำหนักบูรพา ไทเฮาจึงไม่ได้เห็นแฝดทั้งสามตลอดเวลาอย่างไรก็ตาม เนื่องจากเจ้าอาวาสกล่าวว่าแฝดสามเกิดในวันประสูติของพระพุทธองค์ และพวกเขาต้องอยู่ในบ้านที่เกิดมาอีกสักระยะ จึงต้องรับฟังเจ้าอาวาสเพราะเขาเป็นผู้ทรงภูมิในวันนี้เสียนเฟยมาหาไทเฮาอีกครั้งเมื่อเห็นนางตอนนี้ไทเฮารู้สึกปวดหัวขึ้นมา นางเป็นหลานสาวของนาง เป็นคนของตระกูลซู ไม่ว่านางจะทนไม่ไหวแค่ไหน นางทำได้เพียงต้องยอมรับแบบจำยอมอันที่จริง ไทเฮาก็รู้สึกแปลกใจที่นานแล้วฮ่องเต้ไม่ได้แต่งตั้งหรือเลื่อนตำแหน่งให้นางแต่นางไม่เคยถามเรื่องนี้ นางเชื่อฟังลูกชายเสมอ ลูกว่าอย่างไรนางก็ว่าตามนั้นเสียนเฟยยังคงร้องห่มร้องไห้ แต่วันนี้นางยิ่งอยู่ไม่สุขอย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะถูกหูเฟยตบในวันนั้น แต่ฝ่าบาทกลับไม่ได้จัดการกับหูเฟย ซึ่งทำให้นางรู้สึกว่าฐานะและตำแหน่งของนางกำลังตกอยู่ในอันตรายนางร้องไห้และพูดว่า "ท่านป้า ฝ่าบาทจะบังคับหลา
Read More
บทที่ 944
ไทเฮาเข้าประเด็นและตรัสว่า "ตอนนี้มีการเลือกรัชทายาทแล้ว ในที่สุดความกังวลของแม่ก็ได้รับการสะสางแล้ว เพียงแต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรียกว่าแม่ได้ดีเพราะลูกนั้น ในราชวงศ์เป่ยถังเองก็มีกฎที่ให้รางวัลแก่สนมในวังหลัง ตั้งแต่เจ้าแต่งตั้งรัชทายาทไปแล้ว ถ้าเจ้าไม่แต่งตั้งเสียนเฟย ภายนอกย่อมจะคาดเดาไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าเจ้าไม่ตัดสินใจให้เด็ดขาด”จักรพรรดิหมิงหยวนทรงแย้มพระสรวลและตรัสว่า "เสด็จแม่วางพระทัยเถอะพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมีความคิดเห็นในเรื่องนี้ ดังนั้นพระองค์อย่าทรงกังวลไปเลย"ไทเฮาทอดพระเนตรมองเขา “เจ้าบอกแม่มาสิว่า เป็นเพราะนางขัดขวางการคลอดลูกงั้นหรือ?”จักรพรรดิหมิงหยวนเหลือบมองที่ฉากบังลมอีกครั้งและตรัสว่า "ไม่ว่าก่อนหรือหลัง และแม้กระทั่งระหว่างการคลอดขององค์หญิงรัชทายาท นางสั่งให้เก็บเด็กและทอดทิ้งแม่ไว้ ต้องขอบคุณดวงชะตาขององค์หญิงรัชทายาทที่โชคดีที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ และเจ้าห้าได้รับแต่งตั้งเป็นรัชทายาท กระหม่อมย่อมรู้กฎของบรรพชนว่าจะต้องแต่งตั้งเสด็จแม่ของเขา แต่กระหม่อมโยนไม้เซ้งปวยเสี่ยงทายติดต่อกันเป็นเวลาสามวัน และปรากฏว่าบรรพชนทั้งหมดไม่เห็นด้วยและไม่ยินยอมให้แต่งตั้งนาง"
Read More
บทที่ 945
ในตอนนั้นนางรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้จะตั้งลูกห้าเป็นรัชทายาทในทันที? ถ้าก่อนหน้านี้นางรู้ล่ะก็ นางคงไม่พูดว่านางปล่อยหยวนชิงหลิงไว้ไม่ได้แล้วหลังจากที่จักรพรรดิหมิงหยวนจากไปแล้ว ไทเฮาก็ตะโกนว่า "ออกมา!"เสียนเฟยเดินออกมาด้วยขอบตาบวมแดงคุกเข่าลงบนพื้นและพูดอย่างเศร้าสร้อย "ท่านป้า หลานควรทำอย่างไรดี?"เมื่อเห็นว่านางยังคิดถึงแต่ตนเอง ไทเฮาก็ทรงกริ้วจนตบหน้านางลงไป “เจ้านี่มันทำให้ข้าโมโหตายได้จริง ๆ ในใต้หล้านี้มีใครเป็นแม่สามีอย่างเจ้าบ้าง ลูกสะใภ้ของเจ้าอยู่บนเตียงไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร แทนที่เจ้าจะช่วย แต่กลับขัดขวางการรักษางั้นรึ? ไร้เหตุผลจริง ๆ ที่เอาพระราชเสาวนีย์ของข้าไปปลอมแปลงเพื่อทำเรื่องพวกนี้ พระชายาฉู่เพิ่งให้กำเนิดสายเลือดของราชวงศ์ แต่เจ้ากลับบอกว่าข้าอยากจะฆ่านาง ตอนนี้ข้าฆ่าเจ้ายังไม่สาสมเลย”ไทเฮาทรงกริ้วมากจนพูดไม่ถูก ถึงกับด่าสาปไปเป็นชุด“ท่านป้า ทำไมถึงพูดแบบนี้ ตอนนั้นหลานแค่เลอะเลือนไปชั่วขณะเท่านั้น?” เสียนเฟยถูกตบจนรู้สึกผิดมาก"ในชีวิตนี้เจ้าจะคิดได้บ้างไหม" ไทเฮายังคงตะคอกต่อ "ไม่น่าแปลกใจเลยในพิธีสรงสามวันนั้นที่ใคร ๆ ก็อุ้มเด็ก ๆ ได้ มีแค่เจ้าที่
Read More
บทที่ 946
ไทเฮาตรัสอย่างขุ่นเคืองพลางขมวดคิ้ว "เจ้ายังยืนบื้ออะไรอยู่อีก? ทำไมไม่ไปที่จวนอ๋องฉู่และอธิบายเรื่องนี้ให้องค์หญิงรัชทายาทฟัง? ความเข้าใจผิดนี้ต้องอธิบายให้ชัดเจน"หูโม่โม่กล่าวว่า "ไทเฮาโปรดระงับโทสะด้วย องค์รัชทายาทย่อมรู้เรื่องนี้ดี และทุกคนภายนอกรู้ว่าเป็นเสียนเฟยที่ประกาศพระราชเสาวนีย์ปลอม และองค์หญิงรัชทายาทเองน่าจะรู้เรื่องนี้ด้วย"ไทเฮาพูดอย่างโกรธเคือง "ทุกคนรู้ว่านางประกาศพระราชเสาวนีย์ปลอม และข้าก็ไม่ได้จัดการนาง ลับหลังข้าไม่รู้ว่ามีกี่คนที่พูดว่าข้ากำลังปกป้องนาง"หูโม่โม่กล่าวว่า "ไทเฮาอย่ากังวลไปเลยเพคะ ไม่มีใครกล้าพูดถึงพระองค์หรอก"ไทเฮายิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเมื่อได้ยินคำพูดเดิม ๆ "ข้าบอกให้เจ้าไปจวนอ๋องฉู่ ก็ไปได้แล้ว"หูโม่โม่รับคำสั่ง "เพคะ!"หยวนชิงหลิงรู้สึกงุนงงเล็กน้อย ที่จู่ ๆ ไทเฮาก็ส่งหูโม่โม่ไปอธิบายเรื่องพระราชเสาวนีย์ปลอมเนื่องจากเรื่องนี้ผ่านไปนานแล้วและไม่จำเป็นต้องอธิบายอีก ในตอนนั้นเสียนเฟยบ้าคลั่ง และไม่ได้นำพระราชเสาวนีย์ออกมาด้วย ดังนั้นย่อมเป็นของปลอมเป็นแน่ดังนั้นนางจึงขอให้หูโม่โม่ปลอบไทเฮา บอกว่านางรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และไม่
Read More
บทที่ 947
เด็ก ๆ อยู่ในตำหนักเสี่ยวเยว่ ซึ่งเดิมอยู่ในห้องของหยวนชิงหลิง แต่แม่นมให้นมเด็ก ๆ ไม่สะดวก ดังนั้นเขาจึงทำความสะอาดห้องด้านข้าง และใช้เป็นห้องเด็กไปก่อนทันทีที่ทั้งสองเข้ามา พวกเขาเห็นแม่นมเด็กกำลังยุ่งอยู่กับการปลอบเปาจื่อ แต่เปาจื่อก็ไม่ได้ร้องไห้"เกิดอะไรขึ้น?" อวี่เหวินห่าวขมวดคิ้วและถาม "เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ ว่าถ้าไม่ได้ง้อแง้มากก็อย่าไปอุ้มพวกเขา"เมื่อเห็นคู่สามีภรรยารัชทายาทข้ามา แม่นมก็รีบคุกเข่าลงและสารภาพว่า "องค์รัชทายาทองค์หญิงยกโทษให้หม่อมฉันด้วย บ่าวไม่ดูให้ดี เด็ก ๆ จึงตกลงมาเพคะ”"ตกลงมาหรือ?" หยวนชิงหลิงเดินไปดูเปาจื่อ เห็นแค่เขายิ้มเหมือนหญิงชราไร้ฟัน รอยยิ้มอย่างเรียบง่ายและจริงใจ"ตกลงมาได้อย่างไร" อวี่เหวินห่าวมองไปที่เปลมันถูกปรับแต่งตามแบบที่หยวนชิงหลิงได้วาดให้ไว้ก่อนหน้านี้ โดยล้อมไว้ทั้งสามด้านสูงสามชุน ส่วนอีกด้านหนึ่งมีราวกั้นเตี้ย ๆ กันไว้ เพื่อที่ว่าแม้ว่าเด็กจะพลิกตัวเขาก็จะไม่ตกลงมายิ่งกว่านั้นเด็กยังพลิกตัวไม่ได้“จริงนะเพคะ องค์ชายใหญ่ตกลงมา พวกบ่าวก็เห็น” แม่นมอีกสองคนกล่าวทั้งคู่มองหน้ากันอย่างไม่อยากเชื่อ “เจ้าเห็นเขาตกลงมากับตาเจ้าเ
Read More
บทที่ 948
อวี่เหวินห่าวรู้สึกงงงวยมาก "ให้ตายเถอะ ราวกั้นหลวมหรือไม่?" เขาลองตรวจสอบดู พบว่ามันแข็งแรงราวกับหินเมื่อหยวนชิงหลิงได้ยินเขาพูดแบบนั้น นางนึกถึงสิ่งที่เจ้าอาวาสพูดขึ้นมาได้การถ่ายทอดทางพันธุกรรมหากหลังจากฉีดยาแล้วสมองได้พัฒนาขึ้นจริง ๆ แฝดสามก็จะได้รับถ่ายทอดด้วยเช่นกันอย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่แล้วเซลล์สมองจะทำงานมากกว่า หรือมีมากกว่าเซลล์อื่น กล่าวคือยิ่งฉลาดและมีไอคิวสูงในแง่ของกล้ามเนื้อและสมรรถภาพทางกาย...ก็มีผลกับทั้งร่างกายด้วยกล่าวคือ สมองสำหรับร่างกายมนุษย์เปรียบเหมือนผู้บังคับบัญชาสูงสุด การพัฒนาของสมองจะส่งผลต่อทุกสิ่งในร่างกายมนุษย์"เกิดอะไรขึ้น?" อวี่เหวินห่าวถาม เมื่อเห็นใบหน้าของหยวนชิงหลิงซีดลงอย่างกะทันหัน“ไม่เป็นไร” หยวนชิงหลิงยิ้มอย่างเคอะเขิน “ข้าแค่คิดว่ามันน่าเหลือเชื่อเกินไปหน่อย”"นั่นสิ แต่พวกเขาอาจจะฉลาดและแข็งแกร่งกว่าเด็กทั่วไป ท้ายที่สุดเด็กที่เกิดในวันประสูติของพระพุทธองค์นั้นย่อมไม่ธรรมดา" อวี่เหวินห่าวกล่าวหยวนชิงหลิงยิ้ม “ใช่แล้ว”วันรุ่งขึ้น หลังจากที่อวี่เหวินห่าวออกไปแล้ว นางขอให้แม่นมอุ้มทารกทั้งสามเข้าไปใน
Read More
บทที่ 949
หยวนชิงหลิงพูดอย่างโกรธเคืองว่า "ใช่ แถมยังช่วยกู้โลกด้วย"เจ้าอาวาสกล่าวว่า "รุ่นพี่ ท่านไม่จำเป็นต้องปฏิเสธการวิจัยของท่านเอง หากท่านสามารถเข้าใจและชั่งน้ำหนักนั้นได้ ท่านจะสร้างคุณูปการที่ยิ่งใหญ่ต่อมนุษยชาติ"ผู้ที่ทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มักมีความทะเยอทะยานที่จะเปลี่ยนแปลงโลกอยู่ในใจแน่นอนว่านางเองก็เช่นกันอย่างไรก็ตาม หลังจากเดินทางข้ามเวลา นางถึงตระหนักว่าการค้นคว้าของนางนั้นไม่จำเป็นจริง ๆมนุษย์ฉลาดอยู่แล้วหากฉลาดขึ้นหรือมีความสามารถมากขึ้น ความทะเยอทะยานก็จะมากขึ้น และความกล้าหาญก็จะมากขึ้นตามไปด้วย ความสามารถควบคุมความทะเยอทะยานได้ และความสามารถก็เป็นตัวขยายความทะเยอทะยานด้วยเช่นกันหลังจากส่งเจ้าอาวาสไปแล้ว นางมองไปที่สามแฝดและเตือนอย่างเคร่งเครียดว่า "ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะฟังเข้าใจหรือไม่ สรุปเลยนะ เป็นคนปกติ เก็บท่าทีให้ดี ไม่อนุญาตให้แสดงพฤติกรรมผิดปกติอะไรออกมานะ "คุณชายน้อยติ่มซำทั้งสามคนมองนางด้วยดวงตาดำขลับเป็นประกาย เม้มปาก ชูกำปั้นดิ้นไปดิ้นมา และผายลมออกมาพร้อมกันเปาจื่อยิ้มทังหยวนเหม่อลอยเสี่ยวลั่วหมี่ตกใจแล้วร้องไห้เสียงดังออกมาหยวนชิงหลิงมองพ
Read More
บทที่ 950
หยวนชิงหลิงยื่นมือไปจับไหล่เขาและพูดอย่างจริงจัง "ข้ามีเรื่องจะบอกท่าน แต่ท่านต้องใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งพูดว่าเชื่อหรือไม่เชื่อนะ ฟังข้าพูดให้จบก่อน"อวี่เหวินห่าวมองนางด้วยความประหลาดใจ "เจ้ารู้แล้วหรือ? ข้ายังอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ"หยวนชิงหลิงตกตะลึง "ท่านเก็บเรื่องนี้เป็นความลับหรือ?"อวี่เหวินห่าวก็ตกตะลึงเช่นกัน "เห็นได้ชัดว่าพวกเราไม่ได้พูดเรื่องเดียวกัน"“ท่านพูดก่อน” หยวนชิงหลิงกล่าวจู่ ๆ อวี่เหวินห่าวก็ยิ้มจนคิ้วของเขาขยับราวกับมีสายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน และพูดอย่างเขินอายว่า "จิ้งถิงกำลังมา"หยวนชิงหลิงเห็นเขายิ้มจนตาหยี ท่าทางของเขาชวนหมั่นไส้ยิ่งนัก และได้ยินไม่ชัดจึงถามอีกครั้งว่า "ใครมานะ?""จิ้งถิง!" อวี่เหวินห่าวพูดอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาช่างนุ่มนวล เข้ากับรอยยิ้มที่ไม่มีใครเทียบได้เหมือนสาวน้อยที่รอคอยการแต่งงาน"จิ้งถิง?" ระฆังเตือนดังขึ้นในหัวของหยวนชิงหลิง เฉินจิ้งถิงคนนั้น เพื่อนทางจดหมายจากต้าโจว "เขามาที่นี่ เขามาทำอะไร?""เข้าร่วมพิธีสถาปนาองค์รัชทายาท" อวี่เหวินห่าวนั่งตัวตรงดูจริงและเคร่งขรึม "วันนั้นเป็นวันสำคัญสำหรับข้า ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมาหร
Read More
ก่อนหน้า
1
...
9394959697
...
102
DMCA.com Protection Status