บททั้งหมดของ สนมร้างรักขอทวงบัลลังก์: บทที่ 891 - บทที่ 900
919
บทที่ 891 ผู้ทำลายค่ายกล
“เป็นจริงดังนั้น”เย่จิ่งหลานน้ำเสียงอ่อนเยาว์ จึงฟังอารมณ์ในน้ำเสียงไม่ออก แต่หัวใจกลับเต้นแรงไม่หยุด กลัวว่าจะได้ยินข่าวไม่ดีเกี่ยวกับอินชิงเสวียนในใจก็ปลอบตัวเองอยู่ตลอดเวลา นางมีมิติ นางจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน ไม่แน่ว่านางอาจจะเข้าไปหลบในมิติก็ได้เจ้าสำนักเซี่ยวพยักหน้าและพูดเสียงเข้มว่า “สิ่งที่ผู้เยาว์ทั้งพูดก็มีเหตุผล เทียบกับการนั่งรอความตายอยู่เช่นนี้ ออกสู้ดูสักตั้งคงดีกว่า”“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราก็เข้าไปในเข้าค่ายกลเลย จำไว้ว่า ห้ามกระทำการใดๆ โดยบุ่มบ่าม ค่ายกลแปดทิศส่งผลกระทบต่อเนื่องกันเป็นทอดๆ การเปลี่ยนแปลงไม่อาจคาดเดาได้ หากพลาดเพียงก้าวเดียว ก็จะพลาดไปทั้งหมด”เฮ่ออวิ๋นทงไม่เข้าใจค่ายกลแปดทิศอย่างแท้จริง นี่เป็นเพียงทางออกเดียวเท่านั้นทันทีที่พูดจบ จู่ๆ ตำแหน่งบึงที่อยู่ด้านหน้าก็มีช่องว่างเปิดออก“เหล่าเซี่ยว เข้าค่ายกล”ทุกคนตะโกนพร้อมกันและบินเข้าไปในค่ายกลเมื่อเห็นผีแคระตงหลิวหน้าตาอัปลักษณ์เหล่านั้น ความโกรธของเย่จิ่งอวี้ก็พุ่งทะยานมากขึ้นอย่างอดไม่ได้ เขายกดาบขึ้นแล้วทิ้งมันลง หมอกเปื้อนเลือดก็ลอยหายไป บนพื้นมีผีไร้หัวเพิ่มขึ้นอีกมากมาย
Read More
บทที่ 892 พบการฝังโลหิตอีกครั้ง
ร่างอันหล่อเหลานั้นรวดเร็วราวกับสายฟ้า เพียงพริบตาเดียวก็ตีแตกรูปแบบค่ายกลของตำแหน่งฟ้าดังคำกล่าวที่ว่าดึงจุดเดียวกันก็สั่นสะเทือนไปทั้งหมด การถูกตีพ่ายของตำแหน่งฟ้ามีผลกระทบไปยังตำแหน่งค่ายกลอื่นๆ การส่งผลกระทบกันเป็นทอดๆ ของค่ายกล ทำให้มันสูญหายไปในทันทีเจ้าสำนักเซี่ยวและคนอื่นๆ รู้สึกเห็นภาพตรงหน้าชัดเจนขึ้น ภาพมายาตรงหน้าก็หายไปด้วยเช่นกันระหว่างที่ตกตะลึง ชายชุดดำที่ปิดบังหน้าตาก็เดินเข้ามาใกล้“ตามข้ามา ข้าจะพาพวกท่านไปตามหาหัวใจค่ายกล”เสียงของผู้พูดเบามาก และเป็นการยากที่จะบอกอายุของเขาได้เวลาอันสั้น แต่มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเจ้าสำนักเซี่ยวรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมา ประสานมือคำนับแล้วพูดว่า “ขอบคุณท่านอัศวิน หากชนะสงครามในครั้งนี้ ข้าจะจัดงานเลี้ยงสุราที่หอแห่งเสียงศักดิ์สิทธิ์ และดื่มกับท่านอัศวินให้สาแก่ใจเลย”“ไม่ต้องพูดจาเกรงใจหรอกขอรับ รีบทำลายค่ายกลเถอะ”ก้าวเดินของชายคนนั้นเป็นอิสระและสง่างาม และท่าทางของเขาแข็งแกร่งราวกับมังกรแหวกว่ายเจ้าสำนักเซี่ยวนำคนตามไป ตรงไปยังสองแห่งของหัวใจค่ายกลภาพมายาทางด้านของเย่จิ่งอวี้ก็หายไปเช่นกัน ยังนึกว่าวิธีการ
Read More
บทที่ 893 บาดเจ็บทั้งสองฝ่าย
เพื่อไม่ให้เขาเห็นเลือดมากเกินไปจนไม่อาจควบคุมสติได้ ชายชุดดำจึงตะโกนขึ้นทันที“อยากตามหาอินชิงเสวียนก็ตามข้ามา”เมื่อได้ยินคำว่า “อินชิงเสวียน” สีหน้าของเย่จิ่งอวี้ก็สดใสขึ้นเล็กน้อยถามเสียงแข็งว่า “ท่านคือผู้ใด?” “ผู้ที่พาพวกเจ้าไปทำลายค่ายกล หากเข้าเชื่อข้าก็ตามมา”ชายชุดดำพูดจบก็เดินต่อไปอย่างไม่รีรอ เย่จิ่งอวี้จึงถือดาบตามไปทันทีทั้งสองต่อสู้กับศัตรูตลอดทาง แต่ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของอินชิงเสวียนความตื่นตระหนกทำให้เย่จิ่งอวี้กระสับกระส่ายในหัวใจ ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายสีแดงอีกครั้งสายตาของชายชุดดำก็กังวลมากยิ่งขึ้น เมื่อเย่จิ่งอวี้สูญเสียการควบคุม ก็จะทำให้ถูกการฝังโลหิตควบคุมโดยสิ้นเชิง และตกอยู่ในภาวะบ้าคลั่งเพียงแต่น่าเสียดายที่เป็นอาคมต้องห้ามของเพียวเหมี่ยวอิ๋นเฉิง แม้ว่าเฮ่อฉางเฟิงเป็นพ่อลูกกับเจ้าเมือง แต่ก็ไม่สามารถแก้อาคมนี้ได้“รักษาจิตใจให้สงบ รักษาจิตวิญญาณให้เข้มแข็ง หากเจ้ากลายเป็นคนเสียสติ เจ้าจะไม่รู้จักกับภรรยาของเจ้าอีกเลย”เสียงที่ทุ้มต่ำราวกับน้ำวิสุทธิ์ ทำให้จิตใจของเย่จิ่งอวี้สดใสขึ้นทันทีเมื่อเห็นคราบเลือดบนร่างกาย เขาก็รู้สึกคล
Read More
บทที่ 894 รักษาชีวิตไว้ก่อน
เสียงอยู่ใกล้มาก ทำให้โมริตะคาวาสึบาเมะเปลี่ยนสีหน้าทันทีหากมีคนเข้ามาช่วยเหลือ ตัวเองต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่เขาพยายามรวบรวมกำลังภายในแล้วกลิ้งตัวคลานเข้าไปในโขดหินที่อยู่ข้างๆเสียงของเย่จิ่งอวี้มาถึงตรงหน้าเขาแล้ว“เสวียนเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่ใด?” ขณะที่เขากำลังจะออกไปจากที่นี่ ทันใดนั้นเขาก็เห็นเสื้อผ้าสีชมพูชิ้นหนึ่งโผล่มาจากด้านหลังก้อนหินขนาดใหญ่เขารู้ว่าอินชิงเสวียนสวมชุดกระโปรงพับกลีบสีขาว ต้องเป็นลูกศิษย์ของสำนักอื่นที่ถูกทำร้ายแน่นอนพวกนางเดินทางหลายพันลี้เพื่อมาที่นี่ จึงไม่สามารถทิ้งร่างไว้ข้างนอกได้เขาจึงจึงรีบเดินไปด้านหลังหินก้อนใหญ่ทันที เย่จิ่งอวี้รีบเร่งฝีเท้า เวลาเพียงไม่นานเขาก็มายืนอยู่ด้านหน้าก้อนหินขนาดใหญ่เมื่อเห็นหญิงสาวที่นอนสยายผมอยู่บนพื้น เย่จิ่งอวี้ก็รู้สึกว่าหัวใจถูกโจมตีอย่างรุนแรง สองขาอ่อนแรงลง และคุกเข่าลงบนพื้นเขายื่นมือที่สั่นเทิ้มออกไป และกอดหญิงสาวที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวาไว้ในอ้อมอกเขาตะโกนร้องออกมาอย่างไม่เชื่อ “เสวียนเอ๋อร์ นี่เจ้าใช่ไหม?” สิ่งที่ตอบเขาเป็นเพียงเสียงลมที่ดังก้องอยู่ในหูอินช
Read More
บทที่ 895 อินชิงเสวียน เจ้ายอมแพ้ไม่ได้นะ
วินาทีที่ฝาขวดถูกเปิดออก เฮ่อฉางเฟิงรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง จึงเหลือบมองเย่จิ่งหลานอย่างอดไม่ได้หรือว่าพวกเขาสามารถดื่มน้ำชนิดนี้ได้หมดทุกคน?ระหว่างที่ครุ่นคิด เย่จิ่งหลานได้จับใต้คางของอินชิงเสวียน และพยายามป้อนให้นางดื่มลงไปปากของพูดราวกับกำลังโกรธว่า “อินชิงเสวียน เจ้าจะกลับไปเช่นนี้งั้นหรือ ข้าจะเกลียดเจ้าไปทั้งชาติ ไม่สิ สิบชาติเลย!”อินชิงเสวียนขบฟันไว้แน่น น้ำส่วนใหญ่รั่วไหลออกมา เย่จิ่งหลานจึงร้อนใจอย่างอดไม่ได้“อินชิงเสวียน เจ้ายอมแพ้ไม่ได้นะ”เขาใช้ความพยายามเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและในที่สุดก็ดื่มไปได้บางส่วนจากนั้นก็เปิดอีกขวดหนึ่ง และป้อนให้เย่จิ่งอวี้ด้วยวิธีที่คล้ายกันขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงที่รีบร้อนก็ดังขึ้นด้านหลัง“น้องใหญ่!”อินสิงอวิ๋นรีบวิ่งเข้ามาแต่ไกลเมื่อรู้ว่าชาวตงหลิวเหยียบเข้ามาบนเกาะ อินสิงอวิ๋นก็รีบรุดเข้าฝั่งเพื่อให้ความช่วยเหลือ น่าเสียดายที่มีชาวตงหลิวมากเกินไปในสนามรบ จึงไม่ได้มารวมตัวกับอินชิงเสวียนตั้งแต่แรกคิดในใจว่าทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยศัตรู จึงอยู่ด้านนอกวงล้อมกับลูกศิษย์สำนักอื่นๆเมื่อชาวตงหลิวเหล่านั้นถูกฆ่าตายไ
Read More
บทที่ 896 ฆ่าสังหาร
ขุนศึกถามอีกว่า “พวกเราไม่ตามหาท่านอ๋องน้อยแล้วหรือ?” ทันใดนั้นท่านอ๋องโมริตะก็นึกขึ้นได้ว่า โมริตะคาวาสึบาเมะบอกว่าเขาเป็นบรรพบุรุษของตัวเอง ยังสั่งให้เขาทำตามคำสั่งทุกอย่าง แววตาจึงเยือกเย็นลงทันที“ไม่ต้องตามหาหรอก เขามีวิทยายุทธ์สูงส่ง เจ้าปัญญา จะต้องหาทางหลีกหนีจากอันตรายได้แน่นอน”ทุกคนต่างพยักหน้าในทันที“ขอรับ”โมริตะคาวาสึบาเมะเหลือบมองดูผิวน้ำทะเลที่วาบวับและพูดเสียงเข้มว่า “เราคงใช้เส้นทางทางน้ำไม่ได้แล้ว พวกเราจะใช้เส้นทางเมืองเติงหลง”“คิดหนี ฝันไปเถอะ”เสียงของผู้อาวุโสสวีลอยมาเหนือศีรษะ ท่านอ๋องโมริตะรู้สึกถึงแสงเย็นๆ วูบวาบบนหัว และเส้นผมก็ตั้งขึ้นทันทีเขาก้าวไปด้านข้างโดยไม่ได้คาดคิดว่าดาบยาวของผู้อาวุโสสวีจะผ่าลงบนก้อนหิน ได้ยินเพียงแครกดังลั่น ก้อนหินถูกแยกออกเป็นสองชิ้นจากนั้นก็มีลูกศิษย์ของสำนักตามมาอีกยี่สิบกว่าคน ล้อมรอบท่านอ๋องโมริตะและขุนศึกทั้งสี่เอาไว้เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ท่านอ๋องโมริตะก็รู้สึกกลัวอย่างอดไม่ได้ สงครามครั้งนี้นอกจากคนชราเด็กและผู้หญิง ชาวตงหลิวก็ออกมาทำสงครามกันแทบทั้งหมด หากไม่สามารถยึดกุมเป่ยไห่ได้ เช่นนั
Read More
บทที่ 897 หากนางไม่อยู่ ทุกสิ่งคงไร้ซึ่งความหมาย
เจ้าสำนักเซี่ยวเดินหน้าหนึ่งก้าว และจับชีพจรของเย่จิ่งอวี้ชายชุดดำที่กลับมาก่อนหน้าบอกเขาว่า เย่จิ่งอวี้มีอารมณ์ที่ตื่นเต้นมากเกินไป ทำให้การฝังโลหิตกำเริบขึ้นมา เขาได้สะกดจุดฝังเข็มของเขาไว้ หากฟื้นขึ้นมาก็จะไม่เป็นอะไรเด็กสาวอินกลับมีปัญหาเล็กน้อยเจ้าสำนักเซี่ยวตรวจชีพจรของเย่จิ่งอวี้อีกครั้ง การเต้นของชีพจรยังมีพลัง ลมปราณในร่างกายยังคงหมุนเวียนดี ซึ่งไม่มีสิ่งใดน่าเป็นเป็นห่วงแล้วจากนั้นก็ยื่นมือไปตรวจอินชิงเสวียนทันทีกำลังภายในเข้าไปในร่างกายของอินชิงเสวียนตามปลายนิ้ว ราวกับก้อนหินที่จมลงในทะเลโดยไม่มีคลื่นใดๆนี่มันคืออะไรกัน? อินชิงเสวียนได้ฝึกฝนกำลังภายในแล้ว ไม่ควรมีผลลัพธ์เช่นนี้เจ้าสำนักเซี่ยวพยายามเคลื่อนกำลังภายใน เพื่อส่งเข้าไปในร่างกายของอินชิงเสวียน ผมของทั้งคู่ถูกปลุกเร้าด้วยพลังอันแข็งแกร่ง เพียงครู่หนึ่ง ก็กลับสู่สภาวะนิ่งเงียบไม่ตอบสนองโลกภายนอกอีกครั้งเจ้าสำนักเซี่ยวชักมือกลับ คิ้วขาวโพลนขมวดเข้าด้วยกันผู้คุมตราเซี่ยวรีบถามว่า “ท่านพ่อ พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เจ้าสำนักเซี่ยวพูดเสียงเข้มว่า “อาอวี้ไม่เป็นไร เสวียนเอ๋อร์กลับมีควา
Read More
บทที่ 898 นางคือใคร
“อวี้เอ๋อร์!”ผู้คุมตราเซี่ยวตกใจมาก และกอดลูกชายไว้ในอ้อมอก“อาอวี้!”เจ้าสำนักเซี่ยวก็เดินไปที่เตียงด้วยความรวดเร็ว ยื่นนิ้วไปจิ้มจุดฝังเข็มสำคัญของเย่จิ่งอวี้อย่างนับไม่ถ้วนอินสิงอวิ๋นรีบถาม“เจ้าสำนักเซี่ยว คุณชายเย่และน้องใหญ่... เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?” เจ้าสำนักเซี่ยววางเย่จิ่งอวี้ลงบนเตียง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “อาอวี้ไม่เป็นอะไร ข้าจะหาหนทางอื่นในการรักษาเสวียนเอ๋อร์ พวกเจ้าไม่ต้องร้อนใจไป ออกไปก่อนเถอะ”ทันทีที่พูดจบ ประตูก็ถูกเปิดออกมาเสียงดังปัง เย่จิ่งหลานวิ่งหายใจหอบมาจากด้านนอก“ข้ายังพอมีน้ำพุยาอยู่บ้าง ให้พวกเขาทั้งสองดื่มอีกหน่อยเถอะ”ผู้คุมตราเซี่ยวรีบพยักหน้า“ได้สิ จิ่งหลาน เจ้าบาดเจ็บหรือไม่?” “ขอบพระทัยไท่เฟยที่เป็นห่วง จิ่งหลานสบายดี”เดิมทีเย่จิ่งหลานควรกลับมาพร้อมกับเจ้าสำนักเซี่ยว ระหว่างทางกลับพบกับพวกผีแคระที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เย่จิ่งหลานจัดการพวกเขาเหล่านั้นเสร็จก็รีบกลับมาด้วยความร้อนใจทันทีตอนแรกเขาคิดว่าจะเห็นภาพพวกเขาทั้งสองคนฟื้นขึ้นมาแล้ว ตอนนี้จึรู้สึกหดหู่ใจมากผู้คุมตราเซี่ยวสูดจมูกแล้วพูดว่า “อวี้เอ๋อร์ไม่เป็นอะไรมา
Read More
บทที่ 899 ที่แท้ก็ไอ้เวรนั่น
เมื่อความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่อาจลบล้างได้ลงอินชิงเสวียนจ้องมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสงสัย เมื่อทั้งสองกินข้าวเสร็จ อินชิงเสวียนก็ตามสาวน้อยผมเปียหางม้ามายังป้ายรถเมล์ขณะนั้นเอง หนุ่มหล่อขี่รถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า สวมชุดคนส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองมาหยุดที่ป้ายรถเมล์และทักทายเธอด้วยรอยยิ้ม“จะไปทำงานใช่ไหม? ผมไปส่งคุณเอง”“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมาก”สาวน้อยปฏิเสธด้วยท่าทางเงียบสงบเมื่อมอเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน อินชิงเสวียนก็ต้องตกใจอีกครั้งนางรู้จักผู้ชายคนนี้ เขาคือเฉียวฉู่ฉือ คุณชายสามของบริษัทจงฮุ่ยประจำเมืองนี้ ตอนที่นางสัมภาษณ์งานครั้งแรก นางไปที่บริษัทนี้พอดีตอนนั้นผู้สัมภาษณ์คือเฉียวฉู่ฉือ อินชิงเสวียนไม่มีวันลืมชุดสูทและเนคไทของเขา ด้วยท่าทางที่เย็นชาและเคร่งขรึมบนใบหน้าของเขา ราวกับว่าการปรากฏตัวของเขา ทำให้ความกดอากาศรอบตัวเขาลดลงเล็กน้อยด้วยความคาดไม่ถึง เพราะอินชิงเสวียนที่ยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน จึงถูกไล่ปัดทิ้งทันที ตอนที่ออกมายังพูดแขวะเฉียวฉู่ฉือว่าเขาหน้าตาเหมือนคนอมทุกข์ กล้ามเนื้อใบหน้าต้องเป็นเนื้อตายหมดแน่ๆวันนี้กลับเห็นเขาเผย
Read More
บทที่ 900 ขอบคุณเธอที่ช่วยอาศัยอยู่ในยุคนี้แทนฉัน
เมื่อเดินวนดูทีละห้อง ในที่สุดอินชิงเสวียนก็ได้รู้ว่าที่นี่คือฐานปฏิบัติการของนักไลฟ์ งานของสาวน้อยไม่ได้แย่ แต่ยังเคร่งขรึมและสง่างามมากเธอสวมชุดสไตล์โบราณสีชมพู เธอปัดคิ้วจางๆ มีลูกปัดเล็กๆ ปักบนมวยผมสวยของเธอ การเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์แบบโบราณเสียงเพลงพิณดังออกมาจากปลายนิ้วเรียว ของขวัญบนหน้าจอก็ขึ้นอยู่ทุกหนทุกแห่งในทันที และจรวดและเรือก็บินไปด้วยกัน มันบ้าไปแล้วจริงๆอินชิงเสวียนรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แต่ก็ยิ่งมั่นใจขึ้นว่า วิญญาณที่อยู่ในร่างนี้ก็คือเจ้าของร่างเดิมเทวดาให้พวกเธอข้ามมิติสลับร่างกัน! เมื่อนึกถึงความเศร้าโศกของเจ้าของร่างเดิมท่ามกลางวังเย็น อินชิงเสวียนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ การมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ บางทีอาจเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเธอเธอยังอายุไม่มาก หากตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อจริงๆ เช่นนั้นคงน่าเสียดายอย่างแท้จริงเพียงแต่จะสื่อสารกันอย่างไร? สัมผัสเธอก็ไม่ตอบสนอง เรียกเธอก็ไม่ได้ยิน เมื่อคิดอยู่นานสองนาน สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับบ้านไปดูคุณย่านอนหลับไปแล้ว บนเก้าอี้มีกระโปรงดอกไม้แสนสวยวางอยู่ตัวหนึ่ง และยังมีป้ายใหม่แขวนอยู่ คงเป็นกระโปรงที่สาว
Read More
ก่อนหน้า
1
...
878889909192
DMCA.com Protection Status