All Chapters of คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง: Chapter 191 - Chapter 200
206 Chapters
บทที่ 191
เจียงฉูฉู่ตกตะลึง สีบนใบหน้าของเธอค่อยๆหายไป คาดไม่ถึงเลยว่าฉินเย่จะพูดแบบนี้ออกมา หมายความว่าอะไรกันที่ว่าในเมื่อรู้ว่าตัวเธอไม่ระมัดระวังเอง ครั้งต่อไปก็ระวังให้มากขึ้น? ถ้าเช่นนั้น ตอนนี้เขาคงรู้สึกว่าที่วันนี้เธอล้มลงจนเป็นเช่นนี้มันคือปัญหาของเธอเองและไม่เกี่ยวข้องกับเสิ่นหยินอู้เลยสินะ? เขาไม่ได้คิดที่จะให้เสิ่นหยินอู้รับผิดชอบเลยใช่ไหม? ไม่สิ เธอไม่ควรคิดแบบนี้ในเวลานี้ สิ่งที่เธอควรคิดมากที่สุดในตอนนี้คือ ทำไมฉินเย่ถึงคิดแบบนี้หลังจากออกไปและกลับมา เสิ่นหยินอู้ต้องไปพูดอะไรบางอย่างกับเขาถึงทำให้เขาเปลี่ยนความคิดไปได้ หรือว่ามันจะเป็นแบบนั้น? เมื่อคิดอะไรบางอย่างได้ สีหน้าของฉูฉู่ก็ซีดลง ในขณะนั้น ฉูฉู่ไม่สนใจสิ่งใดอีกต่อไป และจู่ๆเธอก็กระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของฉินเย่และร้องไห้ออกมาเบาๆ “ฉันขอโทษนะ สิ่งที่นายพูด ฉันจะจำไว้ ฉันก็แค่เจ็บแผลมาก และหมอก็บอกฉันว่ามันจะทิ้งรอยแผลเป็นไว้ ซึ่งนั่นทำให้ฉันรู้สึกสับสนมาก เมื่อกี้นายไปไหนมา? เย่ นายได้ยินมาใช่ไหมว่าฉันจะมีรอยแผลเป็นบนหน้าผาก นายก็เลยไม่ต้องการฉันแล้วเพราะนายรังเกียจฉันสินะ?” ความอ่อนโยนในอ้อมแขนกลับทำให้ภายใน
Read more
บทที่ 192
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะยอมรับกับแผลเป็นแบบนี้ได้ หลังจากที่คุณหมอจากไปแล้ว เจียงฉูฉู่ก็ร้องไห้งอแงกับฉินเย่อีกครั้ง “เย่ แค่ฉันคิดถึงเรื่องรอยแผลเป็น ฉันก็รู้สึกเศร้ามาก นายคิดว่าหลังจากที่ฉันมีรอยแผลเป็น ฉันจะขี้เหร่มากไหม? นายจะรังเกียจฉันและจะทิ้งฉันไปไหม?” ริมฝีปากบางของฉินเย่ขยับ คำพูดที่เขากำลังจะตอบเธอ ในขณะนี้เขากลับไม่สามารถพูดออกมาได้แม้แต่คำเดียว ในท้ายที่สุด เขาทำพูดได้เพียงว่า "พักผ่อนให้แผลหายดีก่อนแล้วกัน" เจีจยงฉูฉู่รู้สึกผิดหวังมากที่เธอไม่ได้ยินคำสัญญาที่เธอต้องการ ก่อนที่จะนอนลง เธอถึงขั้นคิดว่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาฉินเย่คงจะไม่ได้ตกหลุมรักเสิ่นหยินอู้ไปแล้วใช่ไหม? ไม่ได้ เขาคือผู้ชายที่เธอชอบ และเธอจะไม่ปล่อยเขาไปให้คนอื่นเด็ดขาด สำหรับการเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของเขา เธอต้องใช้เรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์เพื่อทำให้ฉินเย่เปลี่ยนความคิดทั้งหมดของเขากลับมาสนใจเธอ - เมื่อเสิ่นหยินอู้ตื่นขึ้นมา เธอรู้สึกเวียนหัว หลังจากนอนอยู่สักพักเธอก็รู้สึกคลื่นไส้อย่างรุนแรง เธอลุกขึ้นมาและรีบไปที่ห้องน้ำ เธอฟุบหน้าอยู่ที่อ่างล้างหน้า จากนั้นก็อาเจียนออกมา ใ
Read more
บทที่ 193
เมื่อถึงโรงพยาบาล โจวชวงชวงเป็นที่คนไปต่อคิว ลงทะเบียน จ่ายเงินและทำทุกๆอย่าง เพราะเสิ่นหยินอู้รู้สึกไม่ค่อยสบาย ดังนั้นเธอจึงขดตัวอยู่บนเก้าอี้ที่มุมห้องอยู่ตลอดเวลาเพื่อรอให้โจวชวงชวงจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยและมาหาเธอ เมื่อเห็นสีหน้าที่ค่อนข้างแย่ของเธอ โจวชวงชวงก็ยิ่งกังวลมากขึ้น “เธอโอเคไหม? ทำไมท้องแล้วเหมือนคนป่วยแบบนี้ล่ะ?” หลังจากพูดจบ โจวชวงชวงก็เอื้อมมือออกไปวัดอุณหภูมิบนหน้าผากของเธอ หลังจากแน่ใจว่าเธอไม่มีไข้แล้ว โจวชวงชวงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หากไม่มีไข้ ก็อาจเป็นเพราะแพ้ท้อง คงไม่มีปัญหาอื่นๆอะไร เสิ่นหยินอู้ถูฝ่ามือของเธอโดยไม่รู้ตัวและหัวเราะเบาๆ "จริงๆแล้วก็ไม่เป็นไรมากหรอก ฉันแค่รู้สึกอยากนอน ไม่อยากกินตอนที่รู้สึกคลื่นไส้ แล้วก็อยากกินของหวานอยู่ตลอดเวลา" “กินของหวานเหรอ? แต่ต่อให้จะเป็นในเวลาปกติก็ไม่สามารถกินหวานมากเกินไปได้นะ ไม่ต้องพูดถึงในระหว่างตั้งท้องเลย งั้นเดี๋ยวเราถามหมอดูแล้วกัน” ภายใต้คำแนะนำของเธอ เสิ่นหยินอู้พยักหน้า "ได้" โจวชวงชวงมองเสิ่นหยินอู้ที่ตอนนี้ตอบตกลงโดยไม่สนใจว่าคำแนะนำจะเป็นเช่นไร เธอรู้สึกว่าหยินอู้ว่านอนสอนง่ายเป็
Read more
บทที่ 194
สิ่งต่างๆได้พัฒนามาจนเป็นสิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ โจวชวงชวงได้แต่หวังว่าเสิ่นหยินอู้จะสามารถออกไปจากที่นี่ และหนีไปจากฉินเย่ได้ก่อนที่ใจของเธอจะแตกสลาย ในระหว่างมื้ออาหาร โจวชวงชวงอดไม่ได้ที่จะถาม "ฉันรู้ว่ามันไม่ค่อยดีเท่าไรที่จะถามเธอตอนนี้ แต่ฉันก็ยังอยากถามเธอ คุณย่าฉินจะทำการผ่าตัดอีกครั้งได้เมื่อไรหรอ? ตอนนี้เธอไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาล แต่อยู่ที่บ้านแทนแล้วใช่ไหม?” "อืม" เสิ่นหยินอู้ไม่ได้ถือสาที่โจวชวงชวงจะถามเรื่องนี้ ท้ายที่สุดแล้ว เธอก็เป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดเพียงคนเดียวของหยินอู้ หยินอู้จึงไม่ได้ปิดบังอะไรจากเธอเลย “กำลังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน แต่ยังไม่กำหนดการที่แน่นอนในการผ่าตัด เพราะคุณย่าเป็นลมเมื่อครั้งที่แล้ว คุณหมอเลยคิดว่าต้องปรับสภาพจิตให้ดีขึ้นก่อน และหวังว่าจะสามารถให้เวลาเธอเพิ่มอีกหน่อยเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดความเครียดรอบที่สอง" เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวชวงชวงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ “งั้นเรื่องนี้ก็ต้องเลื่อนออกไปอีกสินะ?” “อืม อาการป่วยของคุณย่าเป็นสิ่งสำคัญ ก็เลยต้องให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อน” โจวชวงชวงไม่ใช่เสิ่นหยินอู้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้คิดในมุมมองของหยินอ
Read more
บทที่ 195
ก่อนหน้านี้เธอกับเจียงฉูฉู่ทำข้อตกลงกันด้วยวาจาเพราะทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสิ่งที่ต้องการ แต่จากมุมมองในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองจะแย่ลงเพราะเรื่องนี้ ไม่ว่าเสิ่นหยินอู้จะผลักเธอหรือไม่ เรื่องในครั้งนี้เจียงฉูฉู่คงจะโทษเธออยู่ดี ดูเหมือนว่าหลังจากนี้การอยู่ร่วมกันโลกด้วยกันอย่างสันติคงจะเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จากเหตุการณ์นี้ เสิ่นหยินอู้รู้สึกว่าเธอต้องระวังเจียงฉูฉู่ให้มากขึ้น ฉูฉู่แตกต่างไปจากที่เธอจินตนาการไว้มาก ในตอนแรก เสิ่นหยินอู้คิดว่าเธอเป็นแค่ผู้หญิงที่ชอบสวมหน้ากากต่อหน้าผู้คน ทำเป็นแกล้งอ่อนแอ ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรเลย ท้ายที่สุดแล้ว ทุกคนต่างก็อยากมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าคนนอก แต่หากภายใต้เปลือกนอกที่แกล้งทำเป็นอ่อนแอนั้นมีจิตใจที่ชั่วร้ายและต้องการใส่ร้ายผู้อื่น นั่นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาๆแล้ว เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้จึงพูดกับโจวชวงชวงว่า "ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะดูแลตัวเองดีๆ และเธอก็เห็นแล้วนี่ว่าครั้งนี้ที่เธอต้องการทำร้ายฉัน เธอก็ทำไม่สำเร็จหนิ? มันกลับกลายเป็นว่าเธอทำร้ายตัวเองแทน" “ก็ถูก” โจวชวงชวงพยักหน้า “ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข
Read more
บทที่ 196
“เป็นแบบนี้นี่เอง คุณผู้หญิง ทำไมถึงไม่รับสายล่ะครับ? คุณผู้ชายโทรหาคุณแต่คุณก็ไม่รับสาย ตอนนี้เขาแทบจะบ้าไปแล้วนะครับ” แทบจะเป็นบ้าไปแล้ว? มุมปากของเสิ่นหยินอู้ยกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ความเย้ยหยันปรากฎขึ้นมาในดวงตาของเธอ การที่เขาพูดแบบนี้... ถ้าเธอไม่รู้ว่าปกติพ่อบ้านมักจะพูดสิ่งดีๆให้ฉินเย่อยู่เสมอ เสิ่นหยินอู้คงคิดไปแล้วจริงๆว่าฉินเย่แทบจะเป็นบ้าเพราะเป็นห่วงเธอ ที่โทรมาหาเธอ ก็คงแค่กลัวว่าเธอจะไปอยู่ในห้องผู้ป่วยของเจียงฉูฉู่สินะ? “เมื่อคืนก่อนที่จะนอนฉันเปิดโหมดห้ามรบกวนไว้ พอตื่นมาก็ลืมปิดน่ะค่ะ” เสิ่นหยินอู้อธิบายเบาๆ ได้ยินเช่นนั้น พ่อบ้านก็แสดงออกมาว่าเขาเข้าใจในทันที เมื่อเห็นว่าพ่อบ้านกำลังจะรับถุงช้อปปิ้งไปจากมือเธอ เสิ่นหยินอู้จึงพูดว่า "ไม่ต้องถือแทนฉันก็ได้ค่ะ ฉันต้องขึ้นไปชั้นบนพอดี ฉันถือไปเองได้ค่ะ" “คุณผู้หญิง งั้นให้ผมช่วยถือขึ้นไปชั้นบนนะครับ” "ไม่เป็นไร ฉันถือเองได้ค่ะ" เสิ่นหยินอู้ปฏิเสธพ่อบ้านและถือถุงขึ้นไปชั้นบนด้วยตัวเอง พ่อบ้านยืนอยู่ที่เดิมและเกาหัวด้วยความประหม่า ในขณะที่เขากำลังจะโทรหาฉินเย่ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น “คุณผู้ชาย
Read more
บทที่ 197
"ไม่มีอะไร" เสิ่นหยินอู้แสยะยิ้มให้เขา ยักไหล่และพูดว่า "ฉันแค่คิดเรื่องนี้ในมุมมองของคุณก็เท่านั้นเอง ก็เลยเข้าใจว่าทำไมคุณถึงกล่าวหาฉัน คุณเห็นใจเธอ ก็เลยเข้าใจเธอ" เมื่อเธอพูดคำพูดเหล่านี้ ฉินเย่ก็จ้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย “แล้วไงล่ะ?” เขากัดฟันกรอด สายตาของเขาดูน่ากลัว “ฉันหมายความว่า มันเป็นเรื่องปกติมากที่คุณจะให้เธอเป็นที่หนึ่ง” เมื่อพูดถึงจุดนี้ เสิ่นหยินอู้ก็หยุดไปชั่วคราวแล้วพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค "ฉันก็เลยคิดว่าถ้าฉันเป็นคุณ ฉันก็จะทำแบบเดียวกัน" เสิ่นหยินอู้ไม่เคยถูกใครช่วยชีวิต และไม่เคยสัมผัสกับความสิ้นหวังแบบนั้นของฉินเย่ แต่เธอสามารถคิดได้ แม้ว่าอารมณ์นั้นของเธออาจไม่ถึงหนึ่งในสิบของฉินเย่ก็ตาม ในชั่วขณะที่เข้าใกล้ความตาย ในเสี้ยววิต่อมาที่จะหายใจไม่ออกแล้วจู่ๆกลับมีคนยื่นมือมาช่วยคุณ เหมือนกับฝนที่ตกมาหลังจากความแห้งแล้งอันยาวนาน เหมือนกับแสงอรุณที่ปรากฏขึ้นในคืนที่มืดมิด ใครล่ะจะไม่หวั่นไหว? ฉินเย่มองเธอด้วยสีหน้าที่ขุ่นเคือง “แล้วจะทำอะไรได้? คุณแน่ใจหรอว่าผมกล่าวหาคุณ?” เสิ่นหยินอู้ลดสายตาลง ขนตายาวงอนของเธอสั่นเล็กน้อย "มันไม่สำคัญหรอก" สิ่งที
Read more
บทที่ 198
พวกเขาทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ฉินเย่มองต่ำลง เขาสามารถมองเห็นขนเส้นเล็กๆบนผิวที่ขาวเนียนละเอียดและริมฝีปากสีเชอร์รี่อ่อนๆของเธอ นอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมจางๆจากตัวเธอที่เขาคุ้นเคยมากในอดีต เขารู้ว่าเธอไม่เคยใช้น้ำหอม นั่นจึงเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำที่ผสมกับกลิ่นหอมอันสดชื่นจากเส้นผมของเธอ ในขณะที่ได้กลิ่น ฉินเย่มีความคิดที่จะกอดเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขนของเขา เพราะเมื่อก่อนเขาทำแบบนี้ แต่ในขณะที่เขากำลังคิดที่จะยกมือขึ้น เขาก็เห็นเสิ่นหยินอู้ชักมือกลับไป จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองเขา "เสร็จแล้ว" ความเยือกเย็นและความเฉยเมยในดวงตาของเธอทิ่มแทงหัวใจของฉินเย่ในทันที ความคิดที่แสนหวานทั้งหมดหายไปอย่างไร้ร่องรอยในเสี้ยววินาทีนั้น เขาแสยะริมฝีปากและยิ้มเยาะ "ขอบคุณที่แสดงได้สมจริงมาก" เมื่อได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็ตกตะลึง จากนั้นก็ยิ้มอย่างไม่แยแส "ไม่ต้องขอบคุณ มันเป็นสิ่งที่ควรจะทำอยู่แล้ว" ปฏิกิริยาของเธอเหมือนกับการต่อยลงไปบนสำลี ไม่เจ็บไม่คัน ฉินเย่ละสายตาไปจากเธอด้วยความเย้ยหยันและเดินออกไปโดยมีสีหน้าไร้อารมณ์ “เดี๋ยวก่อน” เสิ่นหยินอู้เรียกเขาให้หยุด ฉินเย่หยุดฝีเท้า และไม่ได้หันกลับ
Read more
บทที่ 199
เสิ่นหยินอู้ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เธอทำให้ฉินเย่โกรธจนเดินออกไปได้โดยที่ยังไม่ได้ทำอะไร ในตอนที่เขาจากไป ใบหน้าของเขาบูดบึ้ง และประตูก็ถูกเขาปิดกระแทกเสียงดังลั่นไปทั่วบ้าน เสิ่นหยินอู้ยักไหล่ หลังจากที่เขาจากไป เธอก็ยื่นมือออกไปเพื่อลูบท้องของเธอเบาๆและกระซิบว่า "ลูกรัก ไม่ต้องกลัวนะ ไม่ต้องสนใจเขา ในอนาคตเมื่อลูกโตขึ้นก็อย่าเป็นเหมือนเขานะ อารมณ์แย่มากไม่ไหวเลยจริงๆ” หลังจากบ่นเสร็จแล้ว เสิ่นหยินอู้ก็ไปเก็บข้าวของและเตรียมไปที่บริษัท - ทันทีที่ฉินเย่เข้าไปในโรงรถ โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น เขาโกรธเสิ่นหยินอู้มาก เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาด้วยสีหน้าขุ่นมัว หลังจากเห็นเบอร์ที่โทรมา อารมณ์บนใบหน้าของเขาก็หายไปเล็กน้อย จากนั้นเขาก็รับสาย “หมอเฉิน” คนที่โทรหาเขาคือคุณหมอเฉินปินที่ดูแลคุณนายฉิน "สวัสดีครับคุณผู้ชายฉิน" เสียงของเฉินปินอ่อนโยนเหมือนกับเสียงของเขาเอง "ผมเป็นหมอประจำตัวของคุณนายฉิน เฉินปิน ขอโทษที่โทรมารบกวนคุณในเวลานี้ ผมอยากจะทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ในช่วงนี้ของคุณนายฉิน หากสะดวก วันนี้สามารถพาคุณนายมาตรวจร่างกายได้ไหมครับ?” เมื่อได้ยิน ฉินเย่ก็อดไม่ได้ที่จ
Read more
บทที่ 200
"มานี่" ฉินเย่หยุดเธอไว้แล้วพูดอย่างเย็นชา "ถึงตอนนั้นเราจะไปบอกคุณย่าด้วยกัน ขึ้นรถ" ขึ้นรถ? เสิ่นหยินอู้มองไปที่ที่นั่งคนขับ พูดตามตรง เธอไม่ได้อยากนั่งตรงที่นั่งนั้นเลยจริงๆ เธอขับรถเองคงจะดีกว่าไหม? เมื่อเห็นเธอยืนนิ่งอยู่กับที่ ฉินเย่ก็ขมวดคิ้ว "ทำไมล่ะ? คุณไม่ได้อยากอยู่ร่วมกันกับผมอย่างสงบสุขเหรอ แค่รถของผมก็ยังไม่ขึ้นเลยเหรอ?" หลังจากได้ยิน เสิ่นหยินอู้ก็กลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและยิ้มเล็กน้อย “เปล่า เมื่อกี้ฉันแค่คิดว่าเราจะไปบอกคุณย่าเมื่อไร?” ขณะที่เธอพูด เธอก็เปิดประตูและเข้าไปในรถ ทันทีที่เธอนั่งลงและยังไม่ทันที่จะรัดเข็มขัดนิรภัย รถของฉินเย่ก็ขับออกไป เสิ่นหยินถูกเขาอู้ทำให้เขาตกใจ เธอหันไปมองและเห็นเขากำลังขับรถด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ช่างมันเถอะเสิ่นหยินอุ้ ยังไงซะขอแค่คุณย่าผ่าตัดเสร็จ เธอก็จะออกไปจากที่นี่ได้แล้ว เขาอารมณ์เสียใส่เธอตอนนี้แล้วยังไงล่ะ ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ เธอต้องสงบนิ่งไว้และอย่าก่อปัญหา หลังจากให้ตัดสินใจด้วยตัวเองอยู่ในใจ ในที่สุดเสิ่นหยินอู้ก็ระงับความโกรธนั้นไว้ และคาดเข็มขัดนิรภัยให้กับตัวเอง ทันทีที่เสิ่นหยินอู้คาดเข็มขัดนิรภัย
Read more
PREV
1
...
161718192021
DMCA.com Protection Status