Share

บทที่ 9

เยี่ยเป่ยเฉิงกอดบุคคลนั้นเอาไว้ในอ้อมแขนโดยไม่รู้ตัว และเอามือโอบรอบเอวของนางเอาไว้

ร่างที่ผอมบางขดอยู่ในอ้อมแขนของเขา นุ่มนวล มีกลิ่นหอม ราวกับว่าไม่มีกระดูก

เขาแปลกใจ ที่แท้ร่างกายของผู้หญิงอ่อนโยน นุ่มนวล และหอมอย่างนี้นี่เอง...

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่สามารถควบคุมตนเองได้ ฝ่ามือที่โอบเอวของนางเอาไว้ค่อยๆกระชับขึ้น

คนที่อยู่ในอ้อมแขนกลับดึงตัวออกไปทันที เหลือเพียงแค่กลิ่นหอม ที่เหมือนมีก็เหมือนไม่มีเอาไว้

เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือความรู้สึกอะไร แต่เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

หลินซวงเอ๋อร์คุกเข่าลงบนพื้นด้วยความตื่นตระหนก

“ท่าอ๋องได้โปรดยกโทษให้ข้าด้วย ข้าน้อยไม่มีตา ทำให้เดินชนท่านอ๋อง”

หลินซวงเอ๋อร์สั่นไปทั้งตัว ราวกับว่าเจอเรื่องอะไรที่น่าหวาดกลัว

มีฝีเท้าอันรวดเร็วเข้ามาทางนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงมองตามเสียงนั้นไป ก็เห็นพ่อบ้านฉินไล่ตามมาก่นด่าสาปแช่ง

คำพูดของเขาเต็มไปด้วยคำสกปรกหยาบคาย และไล่ตามด่าหลินซวงเอ๋อร์ไปตลอดทาง

ทีนี้เยี่ยเป่ยเฉิงจึงเข้าใจว่า เหตุใดนางถึงกลัวมากขนาดนี้

“ไอ้เด็กเหลือขอ!ไม้อ่อนไม่ชอบชอบไม้แข็ง มาดูกันว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร!”

พอได้ยินเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามา ร่างกายอันผมบางของหลินซวงเอ๋อร์ก็สั่นสะท้านมากยิ่งขึ้น

นางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตกอยู่ในกำมือของพ่อบ้านฉิน

ด้วยความจนใจ นางเงยหน้าขึ้นมองเยี่ยเป่ยเฉิงด้วยน้ำตาคลอเบ้า แม้แต่เสียงก็สั่นเทา

“ท่านอ๋อง พ่อบ้านฉิน...เขาตั้งใจจะทำให้ข้าอับอาย ท่านอ๋องได้โปรดช่วยข้าด้วย”

ทันทีที่พูดจบ พ่อบ้านฉินก็ตามถึงตรงหน้า

เขาเห็นเยี่ยเป่ยเฉิงในทันที จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้า และกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ประจบประแจงว่า: "เหตุใดท่านอ๋องถึงมาที่นี่? หากในจวนมีสิ่งขาดขาดเหลือ ข้าน้อยจะเอาไปส่งให้ท่านเอง จะให้ท่านอ๋องมาเองให้ยุ่งยากได้อย่างไร?"

พูดจบ ก็ชำเลืองมองหลินซวงเอ๋อร์ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม ราวกับจะเตือนนางว่าอย่าพูดจาส่งเดช

“เกิดอะไรขึ้น?” ขณะที่เยี่ยเป่ยเฉิงพูดก็มองไปที่หลินซวงเอ๋อร์

ขณะที่หลินซวงเอ๋อร์กำลังจะพูด พ่อบ้านฉินก็ชิงพูดก่อนว่า "ท่านอ๋อง บ่าวรับใช้คนนี้ไม่รู้กฎเกณฑ์ ข้ากำลังสอนบทเรียนให้กับเขาแทนท่านอ๋อง"

หลินซวงเอ๋อร์ยังคงส่ายหัว: "ไม่ใช่ ท่านอ๋อง พ่อบ้านฉินเขา...เขา" คำถัดไป นางรู้สึกน้ำท่วมปากจริงๆ

หากนางบอกความจริงไป เยี่ยเป่ยเฉิงจะเชื่อนางหรือไม่?

ท้ายที่สุดแล้วใครจะเชื่อว่า พ่อบ้านจวนอ๋องผู้องอาจ จะรักร่วมเพศ พูดออกมาก็คงจะไม่มีใครเชื่อ

ถ้าเขาไม่เชื่อนาง พ่อบ้านฉินจะแก้แค้นนางอย่างไร?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าแม้แต่จะคิด

พ่อบ้านฉินกล่าวดุด่าว่า: "ทำไม?บ่าวรับใช้อย่างเจ้าไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ก็ช่างเถิด แต่ยังกล้าพูดเรื่องไร้สาระต่อหน้าท่านอ๋องอีก? ระวังข้าจะฉีกปากเจ้าเป็นชิ้นๆ!"

หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปาก น้ำตาไหลเจิ่งนอง

พอเห็นนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยน้ำตาของหลินซวงเอ๋อร์ เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกราวกับว่ามีเข็มทิ่มแทงหัวใจ

“ทำไม?คนของข้าต้องให้เจ้าสอนบทเรียนด้วยหรือ?” เยี่ยเป่ยเฉิงเหลือบมองพ่อบ้านฉิน น้ำเสียงเย็นชาสุดขีด

พ่อบ้านฉินคุกเข่าลงบนพื้นทันที และกล่าวอย่างสั่นเทายว่า: "ท่านอ๋องอย่าเกรี้ยวโกรธไปเลย มันเป็นความคิดของข้าน้อยเอง"

เมื่อเห็นมือของหลินซวงเอ๋อร์ว่างเปล่า เยี่ยเป่ยเฉิงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: "เสื้อผ้าที่ข้าให้เจ้ามาเอาเล่า?"

หลินซวงเอ๋อร์พูดตามความเป็นจริง: "ข้าเอาเงินมาไม่พอ พ่อบ้านฉินเลยไม่ยอมให้"

พ่อบ้านฉินที่อยู่ด้านข้างตกใจมากจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ

ท่านอ๋องให้เขามาเอาเสื้อผ้าจริงๆหรือนี่?

ท่านอ๋องสนใจเรื่องคนรับใช้มากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

รู้อย่างนี้ เมื่อครู่เขาไม่ควรทำให้เขาลำบากใจเลย...

แน่นอนว่า เยี่ยเป่ยเฉิงก็สังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติไป จึงถามทันทีว่า: "เงินอะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวว่า: "เดิมทีเขาเรียกเก็บเงินจากข้าเพียงแค่ห้าสิบเหรียญทองแดงเท่านั้น วันนี้ข้ามารับเสื้อ เขายืนกรานที่จะขึ้นราคา ถ้านำเงินมาไม่พอ เขาก็เลยจะ.. "

เยี่ยเป่ยเฉิง:“ก็เลยจะอะไร?”

หลินซวงเอ๋อร์กัดริมฝีปาก สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นสีแดง จากนั้นไม่นานก็พูดว่า "จะให้ข้าน้อยเข้าไปในโกดังกับเขาเพื่อทำข้อตกลง"

สีหน้าของพ่อบ้านฉินซีดลงในทันที เขากำลังจะเถียงข้างๆคูๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็เหลือบมองเขา ความรู้สึกกดดันอย่างรุนแรงทำให้พ่อบ้านฉินเงียบปากเสียแต่โดยดี

เยี่ยเป่ยเฉิงถามอย่างอดทน: "ข้อตกลงอะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร นี่ก็เป็นครั้งแรกที่นางเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ในที่ก็พูดอย่างกรอึกกระอักว่า: "พ่อบ้านฉินเขา... เขาเป็นพวกรักร่วมเพศ..."

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วลึกขึ้น

เขามองไปที่หลินซวงเอ๋อร์อีกครั้ง

แก้มที่เรียบๆที่ไม่ได้ผลัดแป้งกลับขาวเนียนละเอียด คิ้วโก่งนัยน์ตาหลมโต ขนตางอนยาว แค่กะพริบตาเบาๆก็มีเสน่ห์

ผู้หญิงคนนี้งามมาแต่กำเนิด แม้ว่าจะปลอมตัวเป็นผู้ชาย แต่ก็ไม่อาจต้านทานความปรารถนาของผู้ชายที่มีต่อนางได้

เยี่ยเป่ยเฉิงไม่กล้าคิดเลยว่า ถ้าหน้ากลับไปเป็นผู้หญิง จะดึงดูดแมลงวันวันได้กี่ตัว!

เขามองไปที่พ่อบ้านฉินที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ ระงับไฟที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนเอาไว้ในใจ แล้วพูดว่า "เป็นความจริงหรือ?"

เขาไม่รู้ว่าไฟในใจอันนี้มาจากไหน ราวกับว่าของของตนเองกำลังถูกผู้อื่นจับจ้องปรารถนา

สีหน้าของพ่อบ้านฉินซีดลงเรื่อยๆ ฝ่ามือก็เริ่มมีเหงื่อออก เขาถลึงตาใส่หลินซวงเอ๋อร์ด้วยความโกรธก่อน แล้วพูดว่า "ไม่มีอะไรเลย ข้าน้อยแค่อยากจะล้อเล่นกับเขาก็เท่านั้น"

เยี่ยเป่ยเฉิงหัวเราะเยาะ: "อ้อ? รักร่วมเพศก็ล้อเล่น?"

สีหน้าที่เพิ่งจะกลับมามีเลือดฝาด ก็ซีดเผือดอีกทันที พ่อบ้านฉินคำนับสุดชีวิต: "ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยแค่พูดจามั่วซั่ว"

นัยน์ตาที่โฉบเฉี่ยวหรี่ตาลง เยี่ยเป่ยเฉิงพูดอย่างเย็นชา: "นางคือคนของข้า ได้ยินชัดเจนไหม?"

ประโยคนี้เพียงพอที่จะประกาศความเป็นเจ้าของ แม้ว่าเขาอยากจะจัดการนาง ก็ไม่เรื่องที่คนนอกจะมายุ่ง

พ่อบ้านฉินมีเหงื่อเย็นไหลออกมา และพยักหน้าอย่างแรง

ขนตายาวของหลินซวงเอ๋อร์กระเพื่อมเล็กน้อย นางค่อยๆเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาที่ชัดเจนสดใสคู่หนึ่งมองดูเขาอย่างจดจ่อ

นางคิดไม่ถึงว่าเยี่ยเป่ยเฉิงจะพูดแทนนาง

ในช่วงสองปีนับตั้งแต่นางเข้าจวนมา นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนหนุนหลังนาง และให้ความยุติธรรมแก่นาง

ความรู้สึกนี้ทำให้นางมีไม่อาจอธิบายได้ ราวกับว่ากำลังลอยอยู่บนเมฆ รู้สึกเบาไปทั้งตัว ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องจริงเล็กน้อย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status