เจียงอวิ้นยังไม่ตายใจ พูดขึ้นว่า “ฮูหยิน แม่ลูกเชื่อมจิต พี่ห้าเป็นก้อนเนื้อที่ท่านอุ้มมาตั้งสิบเดือน ท่านทนเห็นเขาต้องทนทุกข์ได้รึ”พูดจบ ไม่รอให้สาวใช้มาเชิญนางออกไป เจียงอวิ้นหันหลับเดินออกไปเองหลิ่วซู่เดินเข้าห้อง เจียงหวานหว่านมองส่งเจียงอวิ้นไปจากเรือนเหมยพอใกล้จะถึงประตูเรือน เจียงอวิ้นชะงักแล้วหันหลังนางยกยิ้มอย่างผิดปกติ ในรอยยิ้มซ่อนด้วยเจตนาร้ายที่เย็นเสียดกระดูกความเกลียดในใจเจียงหวานหว่านแผ่ซ่านไปทั่ว แค้นใหม่หนี้เก่า ต้องมีสักวันที่นางจะให้เจียงอวิ้นชดใช้สิ่งที่นางทำเจียงอวิ้นเดินออกจากเรือนเหมย นางถือกล่องอาหารไปเยี่ยมเจียงจิ่นหนิงพอเจียงจิ่นหนิงเห็นเจียงอวิ้น พูดขึ้นว่า “น้องเจ็ด นี่ไม่ใช่ที่ๆ เจ้าควรมา รีบไปเถอะ”“พี่ห้า ท่านยากำลังไปที่เรือนจวนเจรจาปรองดอง พี่ต้องไม่เป็นไรแน่ๆ”เจียงอวิ้นวางกล่องอาหารในมือลง หยิบอาหารยื่นให้เจียงจิ่นหนิงเจียงจิ่นหนิงพูดขึ้นว่า “น้องเจ็ด มิตรแท้รู้ได้ในยามยาก พี่ไม่ได้รักเจ้าเสียเปล่าจริงๆ”“โถ่ พี่ห้า”เจียงจวิ้นทำท่าใคร่จะพูดแต่ก็เงียบลงเจียงจิ่นหนิงพอเห็นท่าทางของเจียงอวิ้น เจียงจิ่นหนิงถามขึ้นอย่างกังวลใจ “เพรา
เจียงอวิ้นไม่ยอมดองญาติด้วย เจียงป๋อเหนียนจึงคิดให้ตนไปแทน เสียดายที่หรงมู่หานค้นพบว่านางเป็นผู้สืบทอดของปรมาจารย์หมอเซียน จึงลงมือไวกว่าจวนหลิวก้าวหนึ่ง สู่ขอนางไปเป็นพระชายารองนางไม่ต้องการเป็นอนุของผู้อื่นจึงตอบปฏิเสธไปทันทีหรงมู่หานไม่ต้องการให้องค์รัชทายาทในขณะนั้นคลางแคลงใจ จึงได้มาสู่ขอตนด้วยตำแหน่งพระชายาเอกหลังจากที่ตนหวั่นไหวกับการกระทำของเขา ก็ไม่ได้สนใจหรงซี ยืนหยัดจะแต่งกับมู่หรงหานไม่คิดว่าภายหลังจวนหลิวจะเกิดเรื่องขึ้น เจียงป๋อเหนียนจึงฉวยโอกาสตอบปฏิเสธเรื่องดองญาติสามวันให้หลังเซี่ยงหรงส่งของกำนัลมา ทั้งผ้าแพรผ้าไหม ไข่มุกเครื่องหยก ชาดทาหน้าและแป้งน้ำยังมีตั๋วเงินอีกกล่องหนึ่ง เจียงหวานหว่านนับดูปล้ว เป็นจำนวนเงินหนึ่งหมื่นตำลึงถ้วน“ร่างกายของท่านอ๋องเป็นอย่างไรบ้าง วันพรุ่งนี้ข้าจะไปดูอาการให้ท่านอ๋องที่จวนอ๋อง”เซี่ยงหรงตอบอย่างนอบน้อมว่า “แม่นางเจียง หลายวันมานี้ท่านอ๋องไม่อยู่ที่จวนขอรับ รอท่านอ๋องกลับมาแล้ว ข้าน้อยจะมาแจ้งแม่นางเจียงให้ทราบขอรับ”เจียงหวานหว่านทำหน้าบูดบึ้ง ในเมื่อหรงซีออกไปข้างนอก สองวันนี้นางก็จะไปจัดการธุระของตนเองชาติที่แ
ในใจเจียงหว่านหว่านเต็มไปด้วยความเกลียดชังจนปวดหัวใจแน่นอนว่านางรู้จักเขา ต่อให้จางวั่งไฉจะกลายเป็นขี้เถ้า นางก็ยังจำเขาได้เจียงหว่านหว่านหยิบหนึ่งร้อยตำลึงแล้วมอบให้กู้ฉางชิงกู้ฉางชิงส่ายหัว “จางวั่งไฉไม่ต้องการเงิน เขาให้ข้าเอาน้องชายไปใช้หนี้ ข้าเพิ่งถูกลูกน้องของเขาตีมายกหนึ่ง”เจียงหวานหว่านโกรธยิ่งนัก ช่างเป็นคนไร้ยางอายยิ่งนัก“ไป พวกเราไปช่วยฉางเกอกัน”เมื่อกู้ฉางชิงได้ยินคำว่า ‘พวกเรา’ ที่เจียงหวานหว่านพูดก็ตกใจเป็นอย่างมากคนที่เจ็บป่วยอย่างเขากับหญิงสาวอ่อนแอ พวกเขาจะไปเอาเรื่องพวกอันธพาลเหล่านั้นได้อย่างไรเล่าอย่างไรก็ต้องไปช่วยน้องชาย แต่จะพาลทำให้แม่นางเจียงลำบากไม่ได้“แม่นางเจียง มาหาข้ามีธุระอันใดรึ”เจียงหวานหว่านลุกขึ้นยืน เหลือบตามองกู้ฉางชิง “เจ้าไม่อยากช่วยฉางเกอรึ”“อยาก”กู้ฉางชิงพูดอย่างไม่หยุดคิด“สือหลิ่ว เตรียมรถ”สือหลิ่วรีบรุดไปเตรียมรถม้าด้านล่างเจียงหวานหว่านก้าวขาออกจากห้องรับรองแขกพิเศษ เดินลงบันไดไป กู้ฉางชิงเดินขนาบข้างเจียงหวานหว่านตอนเดินผ่านตำแหน่งห้องครัวที่ชั้นหนึ่ง เจียงหวานหว่านหยุดลงนางหยิบเอาท่อนไม้สุมไฟที่วางอยู่ตรงป
เจียงหวานหว่านกล่าวเสียงเย็น“จางวั่งไฉ”เจี๋ยหู่คิดว่าเจียงหวานหว่านเป็นชู้รักที่จางวั่งไฉเลี้ยงดูไว้ข้างนอกเขาตะลึงกับรูปร่างหน้าตางดงามเหลือเกินของเจียงหวานหว่าน และทอดถอนใจที่ลูกพี่ช่างมีวาสนาแม่นางที่งดงามเช่นนี้ นึกไม่ถึงว่าจะเป็นผู้หญิงของลูกพี่ เจี๋ยหู่อิจฉาจางวั่งไฉมาก“ที่แท้ก็พี่สะใภ้นี่เอง ลูกพี่อยู่ด้านใน เชิญด้านในขอรับ”เจี๋ยหู่เชิญเจียงหวานหว่านเข้าไปข้างในกู้ฉางชิงกำลังจะตามเจียงหวานหว่านเข้าไปข้างในด้วย แต่ถูกเจี๋ยหู่ขวางไว้“เจ้ามาทำไม ยังถูกตีไม่สาแก่ใจหรือ”เจียงหวานหว่านกล่าวอย่างเย็นชา “ให้จางวั่งไฉออกมา”“เอ่อ ได้ๆ ข้าจะไปเชิญลูกพี่ออกมา”เจี๋ยหู่ชำเลืองมองเจียงหวานหว่าน หน้าตาสะสวย แต่นิสัยฉุนเชียวเช่นกันจางวั่งไฉได้ยินเจี๋ยหู่บอกว่าพี่สะใภ้มาหาเขา เขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่อเขาได้เห็นเจียงหวานหว่าน ก็พบว่าตัวเขาไม่รู้จักนางเป็นจางวั่งไฉจริงด้วย!ชาติก่อนจางวั่งไฉเฆี่ยนตีนางไม่หยุดในห้องลับ บนแส้ยังอาบไปด้วยน้ำเกลือและพริกทุกครั้งที่เฆี่ยนลงมาล้วนเจ็บไปถึงกระดูก ใบหน้านี้ของจางวั่งไฉสลักลึกอยู่ในจิตใจของนางไม่เพียงเฆี่ยนตีอย่างโหดร้ายทาร
ตรงมุมถนน หรงซียืนไม่พูดไม่จามองเจียงหวานหว่านที่กำลังทะเลาะกับกลุ่มผู้ชาย“เจ้านาย ข้าน้อยควรเข้าไปช่วยหรือไม่” เซี่ยงหรงลองถามหยั่งเชิงหรงซีแค่นเสียงเย็น ไม่สนใจคำพูดของเซี่ยงหรงเซี่ยงหรงลูบจมูก ดูเหมือนเจ้านายจะไม่ค่อยพอใจนักเจียงหวานหว่านไม่รับรู้ว่าหรงซียืนอยู่ตรงมุมถนนด้านนอกบ้าน ความสนใจนางอยู่ที่จางวั่งไฉแม้จางวั่งไฉจะคลุกคลีกับตลาดพ่อค้าไร้การศึกษามาตลอด แต่การต่อกรกับกังฟูหมัดมวยของเจียงหวานหว่านนั้นเกินกำลังเขาเจียงหวานหว่านทุบท่อนไม้สุมไฟทีเดียวทำเอาจางวั่งไฉคว่ำลงไปกับพื้นเจียงหวานหว่านเยียบแผ่นหลังของจางวั่งไฉ ท่อนไม้สุมไฟกดอยู่ตรงบริเวณท้ายทอยของจางวั่งไฉ“หยุดให้หมด มิเช่นนั้นวันนี้ข้าจะตีเขาให้ตาย”ลูกน้องจางวั่งไฉทุกคนหยุดลง ไม่กล้าหุนหันพลันแล่นกู้ฉางชิงฉวยโอกาสวิ่งมาข้างกายเจียงหวานหว่าน จับเขม็งเตรียมป้องกันเหล่าคนชั่วร้ายที่อยู่ตรงหน้า“แม่นาง อย่าลงมือ มีสิ่งใดพูดคุยกันได้”เจี๋ยหู่ใบหน้ายิ้มแย้มบอกให้เจียงหวานหว่านอย่าวู่วาม“ถ้าไม่อยากให้หัวแบะก็ส่งคนออกมา”เจียงหวานหว่านบังคับให้จางวั่งไฉส่งตัวกู้ฉางเกอออกมาใบหน้าจางวั่งไฉแนบอยู่กับพื้น
เจี๋ยหู่เห็นเช่นนั้น รีบเรียกให้คนพยุงจางวั่งไฉขึ้นมาจางวั่งไฉหยิบสัญญากู้ยืมที่กู้ฉางเกอเขียนออกมาจากหน้าอก และส่งให้เจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านรับสัญญากู้ยืมมาและส่งให้กู้ฉางชิงกู้ฉางเกอรับมาอ่าน เห็นว่าเป็นสัญญากู้ยืมที่ตัวเองเขียน“ถูกต้อง เป็นสัญญากู้ยืมที่ข้าเขียน”เจียงหวานหว่านโยนเงินห้าสิบตำลึงให้จางวั่งไฉ“เอาเงินไปแล้ว ต่อจากนี้ระหว่างเจ้าและกู้ฉางเกอตัดขาดกัน ห้ามหาเรื่องเขา มิเช่นนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่”เจียงหวานหว่านจ้องมองจางวั่งไฉอย่างดุดัน“ได้”จางวั่งไฉไม่รู้ที่มาของเจียงหวานหว่าน เขาไม่กล้าเสี่ยง ได้แต่กัดฟันตอบตกลงเจี๋ยหู่ลุกลี้ลุกลนเก็บตั๋วเงินส่งให้จางวั่งไฉหลังจากเจียงหวานหว่านจ้องเขม็งจางวั่งไฉแล้วก็พากู้ฉางชิงสองพี่น้องจากไปรอให้ถึงเวลาเหมาะสม นางต้องฆ่าจางวั่งไฉให้ได้กู้ฉางเกอถูกเจียงหวานหว่านจูงมือเดินออกจากบ้านของจางวั่งไฉเขาเงยหน้ามองเจียงหวานหว่าน แสงอาทิตย์สาดกระทบบนศีรษะของเจียงหวานหว่าน นำมาซึ่งแสงสว่างเป็นประกายกู้ฉางเกอกุมมือเจียงหวานหว่านไว้แน่น ในใจเขากำหนดมั่นว่าพี่เจียงต้องเป็นเทพโพธิสัตว์ที่สวรรค์ส่งมาช่วยชีวิตเขาแน่น
เจียงหวานหว่านเชื่อมั่นผลประโยชน์ตรงหน้า กู้ฉางชิงจะซื่อสัตย์เสมอ แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ทรยศตลอดไป“คำสัญญาเป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ที่สุด ในช่วงเวลาที่ตกลงกันเจ้าไม่ทรยศก็พอแล้ว”กู้ฉางชิงคิดว่าเจียงหวานหว่านไม่เชื่อว่าเขาจะทำได้“แม่นางเจียง โปรดเชื่อข้า”เจียงหวานหว่านหัวเราะเบาๆ หยิบตั๋วเงินหนึ่งแสนตำลึงส่งให้กู้ฉางชิง“เจ้าช่วยซื้อเรือนให้ข้าสักหลัง ต้องทำให้เงียบหน่อย จากนั้นก็ไปทางเหนือ ไปซื้อยาและสมุนไพรกับเสบียงตามใบรายการนี้กลับมา หลังจากซื้อกลับมาแล้วไม่ต้องรีบขาย เอาของทั้งหมดใส่ไว้ในเรือน รอคำสั่งจากข้า”กู้ฉางชิงรับตั๋วเงินและใบรายการสินค้ามาเก็บไว้“ได้ คุณหนูวางใจได้”เจียงหวานหว่านกำชับ “รีบเคลื่อนไหว”กู้ฉางชิงมองกู้ฉางเกอ เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็หยุดลงเจียงหวานหว่านเห็นดังนั้นเลยเอ่ยถาม “มีสิ่งใดไม่เหมาะสม พูดมาตามสบาย”กู้ฉางเกอลังเล คิดชั่วครู่ก็เอ่ยปากพูดสิ่งตนเองกังวลออกมา“เรื่องอื่นไม่มีปัญหา เพียงแต่ฉางเกอเขา...”เจียงหวานหว่านยกมือลูบศีรษะกู้ฉางเกอ“หากเจ้าไว้ใจ ฉางเกออยู่กับข้า”กู้ฉางชิงเมื่อได้ฟัง ดวงตาเป็นประกาย ไม่มีสิ่งใดให้กังวลแล้ว
กู้ฉางชิงพยักหน้ารับอย่างอบอุ่นหัวใจเจียงหวานหว่านนั่งรถม้ากลับจวนสกุลเจียงรถม้าค่อยๆ จากไป กู้ฉางชิงเปิดผ้าม้ามองพี่ชาย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาต้องแยกจากพี่ชายในใจผุดความรู้สึกโศกเศร้าขึ้นมา เขาตะโกนเรียกกู้ฉางชิง“พี่ชาย พี่ชาย”กู้ฉางชิงได้ยินเสียงน้องชายเรียกก็สะอึก “จำคำพี่ชายไว้นะ”“พี่ชาย ข้าจะเชื่อฟังรอพี่กลับมา”กู้ฉางเกอน้ำตาไหลพรากทอดมองเงาร่างกู้ฉางชิงจนกระทั่งไม่เห็นพี่ชายแล้ว เขาปล่อยผ้าม่านลงและนั่งเงียบๆ เจียงหวานหว่านหยิบผ้าเช็ดหน้าตนออกมาและเช็ดน้ำตาบนหน้ากู้ฉางเกอเบาๆ“ดูแลตัวเองให้ดี ไม่นานพี่ชายก็กลับมาแล้ว”กู้ฉางเกอกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าเมื่อถึงจวนสกุลเจียง เจียงหวานหว่านสั่งให้สือหลิ่วไปหาแม่นมหลี่ บอกนางเรื่องฉางเกอมาอยู่ที่จวนสกุลเจียงสักหน่อยแม่นมหลี่ไถ่ถามประวัติที่มาของกู้ฉางเกอ สือหลิ่วบอกเพียงว่ากู้ฉางเกอเป็นคนที่ท่านอ๋องวานให้คุณหนูดูแลเมื่อได้ฟังว่ากู้ฉางเกอเป็นคนของท่านอ๋อง แม่นมหลี่รู้สึกตกใจหลังจากที่แม่นมหลี่รายงานฮูหยินใหญ่เจียง ฮูหยินใหญ่เจียงเผยสีหน้าดีอกดีใจนึกไม่ถึงว่าหว่านเจี่ยเออร์เข้าเมืองหลวงไปไม่นาน กลับอยู่ในสายตา