เธอมองเขาอย่างขวัญหนีดีฝ่อและมองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น สายตาของเธอเบนออกไปอย่างช้า ๆ เธอเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วเดินผ่านเขาไป “ฉินอันอัน!” ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับเธอไว้แน่น ฝีเท้าของเธอหยุดลง จากนั้นเธอก็ใช้อีกมือฟาดหน้าอกของเขาอย่างแรง “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “คุณปล่อยฉันนะ!” ปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอทำให้เขาปล่อยมือทันที ลูกกระเดือกที่คอของเขาขยับขึ้นลงขณะที่เขามองดูหยดน้ำตาที่ท่วมในดวงตาเธอ “ฉินอันอัน คุณเป็นอะไรไป?” อารมณ์ของเธอย่ำแย่ เขาจินตนาการไม่ออกว่าเธอต้องพบเจอความยากลำบากอะไรถึงเป็นเช่นนี้ เธอมองหน้าเขา ความเจ็บปวดในใจเพิ่มขึ้นทวีคูณ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ขอให้หมอใช้ยากับเธอ บางทีลูกของพวกเขาก็จะไม่เป็นแบบนี้ เธออยากจะโทษเขา แต่ว่าเหตุและผลก็ดึงเธอกลับมา โทษเขาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ “ฟู่สือถิง ห้ามตามฉันมา!” หลังจากที่พูดประโยคนี้ทั้งน้ำตา เธอก็หันหลังแล้วก้าวเท้าจากไป เขามองดูด้านหลังของเธอที่เดินจากไป เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เขาก้าวเท้าไล่ตามเธอไป! ตอนนี้เอง ประตูลิฟต์ข้าง ๆ ก็เปิดออก ไมค์เดินออกมาเป็นแผนกต้อนรับที่โทรหา
ฟู่สือถิงมองไปด้านนอกบริษัท ฉินอันอันขับรถออกไปแล้ว “งั้นก็… ขอโทษแล้วกัน! ผมนึกว่าคุณทำให้เธอร้องไห้!” ไมค์ดึงแขนเขามาที่ลิฟต์ “ผมจะเลี้ยงน้ำชาคุณเอง! เธอไม่ให้เรารบกวนเธอ ตอนนี้คุณก็ไม่ควรไปกวนเธอ” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว “คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” ไมค์ “ก็ไม่รู้น่ะสิ! ตอนเช้ามาทำงานก็ปกติ ไม่อย่างนั้นผมจะคิดว่าคุณทำเธอร้องไห้เหรอ?” ฟู่สือถิงตามไมค์เข้ามาในลิฟต์ “ถ้าอย่างนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอได้เงินสองพันล้านมาได้ยังไง?” ฟู่สือถิงถามคำถามนี้ “วันนี้เธอคืนเงินให้ผมสองพันล้าน เท่าที่ผมรู้ บริษัททั้งสองบริษัทของเธอ ตอนนี้ไม่มีทางสร้างระแสเงินสดได้มากขนาดนั้น” ไมค์ถามกลับ “คุณมาหาเธอก็เพื่อถามข้อนี้?” “อืม” “ผมไม่รู้หรอก!” แน่นอนว่าไมค์ไม่มีทางบอกความจริงกับเขา “ตอนนี้เธอไม่ยอมบอกผมตั้งหลายเรื่อง เพราะว่าผมสนิทกับโจวจื่ออี้มากเกินไป เธอรู้สึกว่าผมกลายเป็นคนฝั่งคุณไปแล้ว” ดวงตาที่แหลมคมเหมือนเหยี่ยวของฟู่สือถิงจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา ไม่ขยับไปไหน ไมค์รู้สึกกระสับกระส่ายกับสายตาของเขา จึงบังคับเปลี่ยนเรื่อง “คุณคบกับถังเชี่ยนเพราะตั้งใจให้ฉินอันอันโกรธใ
“คุณฉิน คุณมาคนเดียวเหรอ?” คุณหมอกล่าว “เดี๋ยวคุณต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสองชั่วโมง คุณโทรเรียกคนในครอบครัวมาเถอะ!” ถ้าแม่ยังอยู่ เธอคงโทรเรียกแม่เธอเปิดดูรายชื่อผู้ติดต่อ ในที่สุดก็กดหมายเลขหลีเสี่ยวเถียน หลีเสี่ยวเถียนได้ยินว่าเธออยู่โรงพยาบาล หลังจากถามว่าโรงพยาบาลไหนและแผนกไหนจนชัดเจนแล้วก็รีบมาทันที สองชั่วโมงต่อมา หลีเสี่ยวเถียนก็ส่งเธอกลับบ้าน เนื่องจากสภาพจิตใจของฉินอันอันไม่ดีนัก ดังนั้นหลีเสี่ยวเถียนจึงไม่รบกวนเธอมากเกินไป เมื่อขับรถออกมาจากสตาร์ริเวอร์ ยิ่งคิดหลีเสี่ยวเถียนก็ยิ่งโกรธ ถึงแม้ว่าฉินอันอันจะไม่ได้บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเดาได้ว่าเด็กจะต้องไม่ค่อยดีแน่ ๆ เด็กไม่ใช่ลูกของฉินอันอันคนเดียว แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นฉินอันอันที่ต้องทนทุกข์ แล้วมีแต่ฟู่สือถิงที่ดูเหมือนสบายดี? มันไม่ยุติธรรม เธอหาหมายเลขโทรศัพท์ของฟู่สือถิงเจอแล้วก็ต่อสายโทรศัพท์ดังอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีคนรับสาย หลังจากที่ระบบตัดสายอัตโนมัติแล้ว เธอก็หาหมายเลขโทรศัพท์ของโจวจื่ออี้แล้วโทรไป แล้วสายเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว “โจวจื่ออี้ ตอนนี้ฟู่สือถิงอยู่ที่ไหน? ฉันมีธุระก
“วันนี้เขายุ่งมาก ไม่มีเวลารับสายหรอก” พนักงาน “ก็ได้! คุณผู้หญิงรอก่อน ผมจะไปตามคนรับเรื่องมา” ต่อมาประมาณสองนาที พนักงานก็มาพร้อมกับถังเชี่ยน ถังเชี่ยนมองเห็นหลีเสี่ยวเถียน “คุณมาหาสือถิงทำไม? วันนี้เขาไม่ว่าง” “มันก็แค่กิจกรรมไม่สำคัญไม่ใช่หรือไง? หรือว่าไม่มีเขา กิจกรรมนี้จะจัดต่อไปไม่ได้เลย?” หลีเสี่ยวเถียนล้อว่า “หรือว่าเขาไม่มีเวลากระทั่งจะดื่มน้ำ? เวลาเข้าห้องน้ำก็ไม่มีเหรอ?” ถังเชี่ยนเผชิญหน้ากับความเย่อหยิ่งของเธอก็ไม่ได้ยอมแพ้ “หลีเสี่ยวเถียน คุณมีธุระอะไรกันแน่? ดูจากความสัมพันธ์อันดีของสามีคุณกับสือถิงแล้ว ฉันบอกต่อให้คุณได้” “ฉันไม่จำเป็นต้องให้คุณไปบอกต่อ! คุณแค่ปล่อยให้ฉันเข้าไป ฉันพูดกับเขาไม่กี่คำก็จะไปเลย!” หลีเสี่ยวเถียนพูดด้วยความโกรธ “ถ้าเป็นโอกาสปกติ ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปได้ แต่วันนี้มีคนสำคัญมาจำนวนมาก ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปตามใจไม่ได้” ถังชี่ยนกล่าว “ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันบอกต่อ งั้นก็ช่างเถอะ ฉันเองก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่กับคุณที่นี่หรอกนะ” ถังเชี่ยนเดาได้ว่าหลีเสี่ยวเถียนจะต้องมาหาฟู่สือถิงเพราะเรื่องฉินอันอัน ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเธอปล่อยหลีเส
หลีเสี่ยวเถียนปิดแก้มที่เจ็บของเธอ แล้วมึนงงไปทั้งร่าง! สิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดคิดก็คือ วินาทีต่อมาฟู่สือถิงพูดกับเธอคำหนึ่ง “ไสหัวไป!” หลีเสี่ยวเถียนใช้ชีวิตราวกับเจ้าหญิงมายี่สิบว่าปี ไม่เคยมีใครแตะต้องใบหน้าของเธอ ไม่เคยมีใครพูดว่า ‘ไสหัวไป’ กับเธอมาก่อน! เธอมีอารมณ์ร้อน ไม่ได้หมายความเธอแข็งแกร่งอะไรเธอปิดหน้าแล้วร้องไห้วิ่งออกไป! ฟู่สือถิงมองด้านหลังของเธอจากไป นิ้วมือของเขากำแน่น เขานึกภาพออกเลยว่า ฉินอันอันจะโกรธมาขนาดไหน ถ้าหลีเสี่ยวเถียนบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีทางให้ย้อนกลับ ถ้าต้องทำอีกครั้ง เขาก็ยังจะให้บทเรียนกับหลีเสี่ยวเถียน! ผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้ความเกินไปจริง ๆ ไม่เพียงแต่จะพูดจาไม่มีขอบเขต พฤติกรรมยังอวดดีเกินไปอีกด้วย! ถึงแม้ว่าถังเชี่ยนจะเป็นเพียงผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเขา แต่นอกเหนือจากสถานะนี้ เธอยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วย! ไม่ว่ายังไงก็ตา หลีเสี่ยวเถียนไม่ควรล่วงเกินถังเชี่ยนในที่สาธารณะ......หลีเสี่ยวเถียนร้องไห้ออกมาจากโรงแรม หลังจากขึ้นรถแล้ว เธอขับรถไปถึงถนนสายหลัก จากนั้นก็กดหมายเลขของเฮ่อจุ
ฟู่สือถิงเงียบไปสองสามวินาทีแล้วถามว่า “เธอบอกเรื่องนี้กับฉินอันอันหรือยัง?” เฮ่อจุ่นจือ “ไม่หรอกครับ เธอไม่ควรบอกเรื่องนี้กับฉินอันอันตอนนี้” “ทำไม?” ฟู่สือถิงอยากรู้ว่าทำไมหลีเสี่ยวเถียนถึงมาหาเขาวันนี้ เธอมีธุระอะไร เฮ่อจุ่นจือลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดตามความจริง “วันนี้เสี่ยวเถียนไปหาพี่เพื่อบอกพี่ว่าลูกของพี่กับฉินอันอันอาจจะมีบางอย่างผิดปกติครับ วันนี้เธอไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนฉินอันอันมา” ลูกกระเดือกฟู่สือถิงขยับขึ้นลง แสงในดวงตาของเขาหรี่ลงไปเล็กน้อย “อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ส่งผลต่ออารมณ์ของเธอ ดังนั้นเธอถึงได้ร้อนใจไปหาพี่” เฮ่อจุ่นจือปกป้องหลีเสี่ยวเถียน “เสี่ยวเถียนไม่ได้เลวร้ายนะครับ” ฟู่สือถิงกล่างเสียงแหบพร่า “ฉันเข้าใจแล้ว”เขาวางสาย ลูกมีปัญหา…ลูกของพวกเขามีปัญหาจริง ๆ แต่ว่าฉินอันอันกลับไม่บอกให้เขารู้ ถ้าหลีเสี่ยวเถียนไม่มาหาเขา เธอจะไม่บอกอะไรเขาเลยใช่ไหม? ฟู่สือถิงหัวใจคมราวกับมีด เขาเดินไปทางประตูห้องจัดเลี้ยงราวกับเป็นซอมบี้“สือถิง งานเลี้ยงอาหารค่ำกำลังจะเริ่มแล้ว คุณจะไปไหนคะ?” ถังเชี่ยนก้าวเท้ายาว ๆ มาหาเขาแล้วจับแขนของเขาไว้ เขาสะบัดมือเธอ
“ผมมีสิทธิ์รู้!” ดวงตาทั้งสองของเขาแดงก่ำ เขากล่าวโทษ “ถึงคุณจะไม่ยอม แต่คุณลบความจริงที่ว่าผมเป็นพ่อของลูกคุณไม่ได้!” ฉินอันอันพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน “ตอนนี้คุณยังไม่รู้เรื่องเลยสินะ?” “ที่จริงผมรู้แล้ว แต่เป็นคุณที่ไม่บอกผม!” เขาเรียกร้อง “เอารายงานผลการตรวจของเด็กมาให้ผมดู!” “ไม่มีรายงานผลการตรวจ” เธอรู้สึกเจ็บข้อมืออย่างมากจากการบีบของเขา ดังนั้นเธอเลยยื่นมืออกมาแล้วงัดนิ้วของเขาออก “คุณปล่อยฉันนะ!” “ทำไมถึงไม่มีผลรายงานการตรวจ?!” เขาคลายมือออกแต่ไม่ได้ปล่อยมือออกทั้งหมด ฝ่ามือใหญ่ของเขาขยับไปบนข้อมือของเธอ ยังคงจับเธอเอาไว้แน่น “การตรวจที่ประเทศบีเรียบร้อยแล้ว พวกเขาแค่ส่งข้อความมาให้ฉันเท่านั้น” เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของเขา เธอไม่สามารถโกหกได้ “ให้ผมดูข้อความหน่อย!” เขาค่อย ๆ กดดัน ถ้าวันนี้ไม่เอาข้อความให้เขาดู เขาไม่มีทางยอมแพ้ ตอนนี้เอง ไมค์และเด็กสองคนเดินออกมาจากห้องกินข้าวและมองเห็นฟู่สือถิง “เขามาทำอะไรที่นี่คะ?” รุ่ยลากระซิบ ไมค์ “แม่ของเธอร้องไห้เมื่อเช้านี้ แต่ไม่รู้ว่าทำไม…” เสี่ยวหานขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของผมเหรอ?” ไมค์ยักไหล่ “ไม่รู้สิ!
“เวลาสั้น ๆ แค่สิบวัน คุณหาเงินได้สองพันล้านงั้นเหรอ? คุณบอกผมสิว่าหามาได้ยังไง” เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอเลย ดังนั้นพอเธอถอย เขาก็ไล่ตาม เขาบีบเธอจนไปถึงขอบเตียง “คุณสนใจว่าฉันหาเงินยังไงงั้นเหรอ? คุณสนใจแค่ลูกก็พอแล้ว คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับฉัน!” เธอผลักหน้าอกเขา “ผมสนใจคุณก็คือสนใจลูก!” ตัวของเขายังคงนิ่งไม่ขยับ ดวงตาลึกลงกว่าเดิม “ตราบใดที่เด็กอยู่ในท้องของคุณ ผมมีสิทธิ์สนใจคุณ!” ฉินอันอันรู้สึกว่ามันน่าขำ แต่เธอก็ไม่มีเหตุผลที่ดีกว่ามาคัดค้าน “ฉันรักษาโรคให้คนป่วย แล้วเขาก็ให้ค่าตอบแทนมา” เธอไม่ได้โกหก สองพันล้านนี้เป็นค่าตอบแทนที่ฟู่สือถิงมอบให้เสิ่นอวี๋ อย่างไรก็ตาม เสิ่นอวี๋ไม่ใช่คนที่ทำการรักษาให้อิ๋นอิ๋น เพราะเสิ่นอวี๋ขอให้เธอมา เงินก้อนนี้ เธอได้มาโดยชอบธรรม “ใคร?” เขาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของเธอ “ใครให้ค่าตอบแทนคุณสูงขนาดนี้?!” “คุณมีสิทธิ์ให้ค่าตอบแทนสูงขนาดนี้กับเสิ่นอวี๋ แต่คนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ค่าตอบแทนฉันสูงขนาดนี้หรือไง? หรือว่าคุณยอมรับไม่ได้ว่ามีคนอื่นที่รวยเหมือนคุณ?” ฉินอันอันประชดเขา “ผู้ชายที่คิดแต่ว่าตัวเองแน่อยู่คนเดียว!” “ฉิน