หลิวหรูซวี่ถูกตบ ก็รู้สึกคับข้องใจเหลือคณา ได้แต่กุมหน้าน้ำตาคลอเบ้า “ขอโทษ พี่เชียนฮวัน...”“น้องหรูซวี่คนแสนดี เจ้าจะยืนอยู่ทำไมเล่า นั่งลงสิ”เซี่ยเชียนฮวันยกยิ้มที่มุมปาก คิ้วโค้งงอดุจจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ ทั้งงดงามและเฉลียวฉลาดหลิวหรูซวี่นั่งลงอย่างประชดประชัน นางไม่กล้าพูดมากอีกมื้อเที่ยงนี้ สองแม่ลูกตระกูลเซี่ยก็ทานอาหารด้วยความหดหู่พวกนางดูไม่กระฉับกระเฉงเหมือนตอนที่เพิ่งเข้ามาในจวนจ้านอ๋องหลิวหรูซวี่ไม่เข้าใจ เมื่อก่อนลูกพี่ลูกน้องของนางทั้งโง่ทั้งปากหนัก หากรู้สึกน้อยใจก็แค่บ่น แต่จู่ๆ ก็เปลี่ยนเป็นเข้มแข็งเช่นนี้หรือเพราะได้เป็นพระชายา ถึงทำให้นิสัยเปลี่ยนไปมากเช่นนี้คิดได้ดังนั้น หลิวหรูซวี่ก็อดโลภในตำแหน่งพระชายามิได้!หลังมื้ออาหารน้าเซี่ยก็คลี่ยิ้มปลอมๆ ขึ้นมา และพูดคุยอย่างสนิทสนม “เชียนฮวัน ข้าคงไม่รบกวนเจ้าพาพวกเราไปเดินเล่นที่สวน ประเดี๋ยวข้ากับซวี่เออร์จะไปเดินเล่นกันเอง”“ตามสบาย”เซี่ยเชียนฮวันยกแก้วชาขึ้นจิบขณะมองไล่หลังน้าเซี่ยและหลิวหรูซวี่กระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง ก่อนจะเดินออกไปอย่างลับๆ ล่อๆ“เชียนฮวัน น้าของเจ้าค่อนข้างหัวสูง แต่ไม่มีเจตนาร้
เดิมทีหลิวหรูซวี่ต้องการจะแอบฟังต่อ แต่แม่ของนางกำลังโบกมืออยู่ไกลๆ ส่งสัญญาณให้นางเข้าไปหา“ดูเหมือนวันนี้คงไม่ได้พบจ้านอ๋อง ไว้คราวหน้าแม่จะหาโอกาสให้เจ้าอีกครั้ง รอเจ้ากับเขาเปลี่ยนข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุกเสียก่อน ถึงตอนนั้นต่อให้ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าจะไม่ยินยอม แต่นางก็ทำอะไรเจ้าไม่ได้”สายตาของน้าเซี่ยลอกแลกไปมาขณะเริ่มวางอุบาย“ข้ารู้แล้ว” หลิวหรูซวี่กำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่นางแอบฟังเมื่อครู่อนุภรรยาแซ่ซูกับอดีตนายประตูของเซี่ยเชียนฮวันกำลังสมรู้ร่วมคิดกัน พวกนั้นคิดจะทำอะไรกันนะ?มันต้องไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอนอย่างไรก็ตาม หลิวหรูซวี่ก็ไม่คิดจะบอกเซี่ยเชียนฮวันเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ใครให้เซี่ยเชียนฮวันไม่ไว้หน้านางล่ะ!ด้วยแผนร้ายของอนุภรรยาผู้นั้น หึหึ ลูกพี่ลูกน้องของนางจะต้องทนทุกข์อย่างแน่นอน...เซียวเย่หลันไม่ได้มาทานข้าวในคืนนี้เซี่ยเชียนฮวันจึงเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาสบายๆในขณะที่นางอาบน้ำเสร็จและเตรียมที่จะเข้านอน ทันใดนั้น ก็เหมือนมีหินเล็กๆ ถูกปามาชนกับหน้าต่าง ส่งเสียงดัง “ตึกๆๆ” อยู่สามรอบเซี่ยเชียนฮวันยื่นมือออกไปผลักหน้าต่างเพื่อตรวจดูว่ามีอะไรผิ
“เซียวเย่หลัน ท่านมาตั้งแต่เมื่อไหร่...”เซี่ยเชียนฮวันหน้าซีดเล็กน้อยนางไม่แน่ใจว่าเซียวเย่หลันได้ยินบทสนทนามากน้อยแค่ไหน แต่นางสัมผัสได้ถึงจิตสังหารที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างของชายผู้นี้เฟิงเยว่รีบหันหลังกลับทันที เขาชักดาบในแนวนอนออกมา แล้วยืนอยู่ด้านหน้าเซี่ยเชียนฮวัน “อย่าเข้ามา!”เซียวเย่หลันจ้องมองชายที่ปกป้องภรรยาของเขาอย่างเงียบงัน มุมปากพลันกระตุกยิ้มเยาะออกมา“ท่านอ๋อง คนทั้งเมืองหลวงต่างทราบว่าท่านมีใจให้ผู้อื่น สำหรับท่านแล้วคุณหนูไม่ต่างอะไรไปจากภาระ แต่นางคือสมบัติอันล้ำค่าในใจของข้าน้อย ใยท่านไม่ทำตามความปรารถนาของพวกเรา ตราบใดที่คุณหนูหายไป ท่านก็สามารถครองคู่ชูชื่นกับแม่นางซูผู้นั้นได้ ใช่หรือไม่”เฟิงเยว่กัดฟันแน่น ข่มความกลัวภายในใจเขาไม่คิดว่าเซียวเย่หลันจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ดูเหมือนแผนการร่วมมือกับซูอวี้เออร์ ที่จะพาเซี่ยเชียนฮวันจากไปคงรั่วไหลสายตาเซียวเย่หลันมองข้ามไหล่ของเฟิงเยว่ และมองตรงไปที่เซี่ยเชียนฮวันที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขา“ข้าบอกให้เจ้าพูดต่อ” เขากล่าวอย่างเย็นชา “พูดให้ชัดสิ ว่าเหตุใดชายผู้นี้ถึงถูกไล่ออกจากจวนอันติ้งโหว และพ่อของเด็ก
“คุณหนู ข้า...เฮ้อ ถ้าหากท่านคิดว่าเช่นนี้ดีกว่า ข้าแซ่เฟิงแม้เป็นผีก็จะคอยคุ้มครองท่าน”เฟิงเยว่ถอนหายใจออกมาแม้เซี่ยเชียนฮวันจะกำลังโกรธอยู่ แต่นางก็ได้ยินสิ่งผิดปกติในคำพูดของเขาด้วยเช่นกันเป็นผี?ผู้อารักขาผู้นี้ หากล่อลวงนางให้หนีไปไม่สำเร็จ คงไม่ฆ่าตัวตายหรอกนะ?“เจ้าออกจากจวนอันติ้งโหวไปนานแล้ว ไม่ว่าข้าจะเป็นเช่นไร เจ้าก็ไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก ปล่อยวางเรื่องของข้าไปเสีย แล้วออกจากเมืองหลวงไปซะ ใช้ชีวิตของตัวเองให้ดี” เซี่ยเชียนฮวันกล่าวเสียงเบาในที่สุดนางก็หันมามองเฟิงเยว่เฟิงเยว่หัวเราะอย่างขมขื่น เขาจ้องมองนางอย่างเงียบๆ คาดว่าอาจเป็นการกล่าวลาครั้งสุดท้ายแต่ก่อนที่เขาจะได้พูด ประกายแสงอันเย็นเยือกพลันสว่างวูบต่อหน้าเซี่ยเชียนฮวัน!จากนั้น โลหิตก็สาดกระเซ็นออกมา วินาทีนั้นความมืดมิดก็ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงสดเซี่ยเชียนฮวันตกตะลึงจนตาค้าง นางมองเฟิงเยว่ล้มลงต่อหน้าอย่างตกใจ!คนที่ยังมีชีวิตเมื่อครู่ พริบตาเดียวก็กลายเป็นศพเสียแล้ว“เซียวเย่หลัน เจ้า!”เซี่ยเชียนฮวันทั้งโมโหทั้งตกใจ นางคาดไม่ถึงเลยว่า เซียวเย่หลันจะจู่โจมอย่างกระทันหัน เขาสังหารเฟิงเยว่ต่อหน้านา
เซี่ยเชียนฮวันฝันร้ายในความฝัน นางติดอยู่ในโคลน และล้อมรอบไปด้วยเลือด มีบางคนคอยเรียกชื่อนางไม่หยุด “ฮวันฮวัน ฮวันฮวัน....”นางสะดุ้งลืมตาตื่น หอบหายใจอย่างหนักหน่วง“ฮวันฮวัน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”ในดวงตาของเซี่ยเชียนฮวัน ปรากฏสีหน้าเป็นห่วงของพี่ชายนาง เซี่ยเหยียนนางหายใจเข้าลึกๆ แล้วส่ายหน้า “ข้าไม่เป็นไร”เซี่ยเหยียนถอนหายใจออกมา “ท่านพ่อท่านแม่เป็นห่วงเจ้ามาก ฮวันฮวัน ตอนนี้เจ้าต้องพูดความจริงกับข้า เกิดอะไรขึ้นระหว่างเจ้ากับจ้านอ๋อง”“เดิมทีซูอวี้เออร์ไม่เป็นที่รู้จัก แต่ตอนนี้ท่านอ๋องกลับโปรดปรานนาง และอยากแต่งตั้งนางเป็นพระชายารอง แต่สตรีจากที่อโคจรเช่นนั้น จะเป็นพระชายารองของท่านอ๋องได้อย่างไร ฮ่องเต้ทรงตำหนิท่านอ๋องในเรื่องนี้ แต่ท่านอ๋องกลับยืนกรานในความคิดนี้ ซึ่งดูไม่เหมือนนิสัยของท่านเลย”“เขาอยากยกใครเป็นพระชายารองก็ช่างเขา ข้าไม่สน” เซี่ยเชียนฮวันกล่าวเสียงเย็นชา“เจ้าเป็นพระชายา เป็นภรรยาของเขา จะไม่สนได้เยี่ยงไร”เซี่ยเหยียนดุเซี่ยเชียนฮวันกลับยิ้มเยาะ “แต่ไหนแต่ไรมา เขาก็ไม่เคยเห็นข้าเป็นภรรยา ไม่เคยเชื่อใจข้า”“เจ้าดื้อรั้นเกินไป...”“ท่านพี่ ท่านได้พ
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันชื่ออิงเออร์~”“ท่านอ๋อง หม่อมฉันชื่อไฉ่เหลียน~”“ท่านอ๋อง หม่อมฉันชื่อซิ่วเออร์~”เหล่าสาวงามต่างโบกผ้าเช็ดหน้าน้อยๆ ยิ้มฉะอ้อนส่งไปให้ ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว แย่งกันแนะนำชื่อตัวเองให้เซียวเย่หลันเซียวเย่หลันรู้สึกรำคาญ ก่อนตวาดอย่างเย็นชา “ถอยออกไปให้หมด!”พวกนางสะดุ้งตกใจ ไม่กล้าส่งเสียงดังวุ่นวายอีกต่อไป ก่อนจะถอยออกไปอย่างพร้อมเพียงกันบ่าวรับใช้ที่เหลือก็ไม่กล้าอ้อยอิ่งเวลานี้มีเพียงเซียวเย่หลันกับเซี่ยเชียนฮวันเท่านั้น นางนั่งบนเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย ยกแก้วชาขึ้นจิบพลางกล่าวยิ้มเยาะ “ข้าตัดสินใจแทนสามีแล้ว ซื้อสัญญาขายตัวพวกนางทั้งหมด จากนี้เป็นต้นไปพวกนางจะเป็นคนของจวนอ๋อง”“โอ้ใช่ ตอนที่พาพวกนางเข้ามาในจวน บ้านก็ดูมีชีวิตชีวาขึ้นทันที คนข้างนอกคอยชมอยู่มากมาย ทั้งใต้เท้าจางและราชบุตรเขยหยางที่อยู่ใกล้ๆ ก็เข้ามาร่วมชมด้วย แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าจ้านอ๋องชื่นชอบหญิงนางโลม เลยไม่พูดอะไร เพียงกล่าวทักทายและจากไป”ยิ่งเซี่ยเชียนฮวันพูด สีหน้าของเซียวเย่หลันก็ยิ่งดูไม่ได้เขาก้าวเท้าเข้ามา และยกมือปัดแก้วชาในมือของเซี่ยเชียนฮวัน ดวงตามืดมนจับจ้องมาที่นาง “เจ้าต้อง
อันที่จริงแล้ว เย่ซิ่นไม่รู้ว่าใครส่งผู้ที่อยู่ด้านนอกมาแต่เขายกไทเฮาขึ้นมา เพื่อเตือนสติท่านอ๋องว่า ไม่สามารถฆ่าเซี่ยเชียนฮวันได้และโชคดี ที่วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าของเขานั้นได้ผลถึงแม้เซียวเย่หลันจะเป็นคนไม่เกรงฟ้ากลัวดินที่สุดในราชวงศ์ แต่สุดท้ายเขาก็ใจเย็นลง สะบัดชายแขนเสื้อพลางกล่าวอย่างเย็นชา “เซี่ยเชียนฮวัน ถือว่าเจ้าโชคดีไป”กล่าวจบ เขาก็เดินออกจากห้องโถงใหญ่เย่ซิ่นลังเลสักพัก เขาไม่ได้ติดตามเจ้านายไปทันที แต่เลือกเทชาร้อนให้เซี่ยเชียนฮวันก่อน แล้วช่วยประคองนางขึ้นมา“ไทเฮาส่งคนมาตามข้าเข้าวังจริงหรือ” เซี่ยเชียนฮวันจิบชาเพื่อสงบสติอารมณ์ ส่งผลให้หายใจไม่สะดวก และเริ่มไอเบาๆ อีกครั้งเย่ซิ่นมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าแถวนี้ไม่มีใคร จึงยกมือขึ้นมาลูบหลังพระชายาเบาๆ แล้วกระซิบตอบไปว่า “เรียนพระชายา ข้าน้อยไม่แน่ใจ กงกงท่านนั้นเพียงกล่าวว่าเจ้านายของตนต้องการจะเชิญท่าน แต่ไม่ได้บอกว่าเจ้านายของเขาเป็นใคร”“อืม ข้าทราบแล้ว”เซี่ยเชียนฮวันนวดหว่างคิ้วเบาๆแม้วังหลังจะใหญ่ แต่นางก็ไม่ได้คุ้นเคยกับพระสนมเหล่านั้น มีเพียงไทเฮาเท่านั้นที่จะเชิญนางเข้าไปพบในวังเป็นบางครั้งนางเดิ
“ท่านอ๋อง? ท่านอ๋อง?”ซูอวี้เออร์เห็นเซียวเย่หลันไม่พูดตอบ จึงอดเรียกซ้ำมิได้นางรอคอยสถานะมาเนิ่นนานแล้ว ครั้งนี้อุบายที่ใช้กับเซี่ยเชียนฮวันและเฟิงเยว่ ก็บรรลุเป้าหมายแล้ว นางจะอดทนต่อไปได้อย่างไร เมื่อความคิดของเซียวเย่หลันถูกขัดจังหวะโดยซูอวี้เออร์ ดวงตาก็พลันเย็นชา เขากล่าวเสียงเรียบว่า “ไว้ค่อยคุยกัน”สี่คำสั้นสั้น แต่กลับเหมือนน้ำเย็นๆ ราดตั้งแต่หัวจรดเท้าของซูอวี้เออร์นางยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับโดนฟ้าผ่าถึงแม้เซียวเย่หลันจะไม่อธิบายอะไร แต่นางก็รู้ว่า เรื่องแต่งตั้งนางให้เป็นพระชายารองนั้นหมดหวังแล้ว......เซี่ยเชียนฮวันตามหลังขันทีเข้าไปในวังตามเส้นที่คดเคี้ยวอยู่นานสองนานยิ่งนางเดินนานเท่าไร ข้ารับใช้ในวังก็ยิ่งพบน้อยลงเรื่อยๆและทิศทางก็ค่อยๆ ไกลขึ้นเรื่อยๆ“กงกง พระสนมหมิงพำนักอยู่ที่ใด? นี่ข้าเดินจนปวดขาแล้วนะ” เซี่ยเชียนฮวันถามเมื่อเห็นสภาพแวดล้อมที่รกร้างเปล่าเปลี่ยว ในใจนางก็อดร้องเตือนไม่ได้ขันทีนำทางมีรูปร่างที่ผ่ายผอม และถ้าหากเขามีเจตนาที่ไม่ดีจริงๆ นางจะเตะเขาให้คว่ำแล้ววิ่งหนีไปขันทีก้มหัวลง แล้วตอบกลับโดยไม่ลังเล “เรือนเจียวชวน!”“เรือน?”เ