"ท่านแม่ข้าเคยบอกว่ามีเพียงเทพเจ้าเท่านั้นที่สามารถบินบนฟ้าได้ เครื่องบินของเจ้า เก่งเช่นเดียวกับเทพเจ้าหรือ?"พระราชนัดดาน้อยทำสีหน้ารอคอยเซี่ยเชียนฮวันหัวเราะขึ้น "มีคำพูดหนึ่งกล่าวไว้ว่า อ้อนวอนเทวดาฟ้าดินไม่สู้กับช่วยเหลือตนเอง หากคนเราพยายามมากพอ ต่อให้ไม่ต้องอาศัยพลังวิเศษของเทพเจ้า ก็สามารถทำเรื่องใหญ่โตสำเร็จได้เช่นกัน”"เอ่อ..."พระราชนัดดาน้อยฟังดูเหมือนไม่เข้าใจตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าใจคำพูดของเซี่ยเชียนฮวันได้ทั้งหมด แต่เขาก็จดจำประโยคนี้เอาไว้อย่างลึกซึ้ง หลายปีต่อมาเขายังคงจำมันได้ทั้งสองคนเดินจูงมือกันออกมาจากป่าเซี่ยเชียนฮวันสัมผัสได้ถึงความแปลกประหลาด จึงหันกลับไปมองดูพบว่าโซ่วหยางจวิ้นจู่และบ่าวรับใช้สองสามคนยืนอยู่ไม่ไกลนักดูเหมือนวันนี้จะไม่อาจอยู่อย่างสงบได้แล้วเมื่อนางพาพระราชนัดดาน้อยเดินผ่านลานสองแห่งกลับมายังป่าไห่ถัง พบว่าบรรยากาศที่นั่นต่างจากตอนที่ทั้งสองคนจากไป"ห้าวเออร์!"พระชายาองค์รัชทายาทและคนอื่นๆ กำลังรอพวกเขาอยู่ เมื่อเห็นร่างของทั้งสองก็รีบวิ่งตรงเข้ามากอดพระราชนัดดาน้อยเอาไว้เซี่ยเชียนฮวันเห็นท่าทีอันเดือดเนื้อร้อนใจเป็นกังวลของพ
เดิมทีเซี่ยเชียนฮวันกำลังตั้งใจทำแผลให้กับนาง และครุ่นคิดว่าจะจัดการเช่นไรต่อไปดี แต่กลับถูกเตะเข้าให้ ด้วยสัญชาตญาณนางใช้มือยกขึ้นกุมท้องหงายไปด้านหลังเมื่อเห็นพระชายาองค์ชายรองตำหนินางเช่นนั้น แววตาของเซี่ยเชียนฮวันก็มืดมนลง กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “เมื่อครู่ข้าเล่นอยู่กับพระราชนัดดาน้อย ไม่มีเวลาไปทำเรื่องไร้สาระเช่นนั้นหรอก"เมื่อสิ้นเสียงลง นางก็เห็นว่ามีมือข้างหนึ่งยื่นมาตรงหน้าเป็นมือของเซียวเย่หลันเซี่ยเชียนฮวันชะงักลง หลังจากจับมือเขาเอาไว้แล้วก็ถูกเขาค่อยๆ ดึงขึ้นมาพระชายาองค์ชายรองเห็นดังนั้น ในใจรู้สึกโมโหเป็นยิ่งนัก ใบหน้าของนางเผยถึงความชั่วร้ายกล่าวขึ้นว่า "งั้นหรือ? แต่ข้าได้ยินมาว่าเจ้ากับพระราชนัดดาน้อยเล่นซ่อนหากันอยู่ นั่นหมายความว่าพวกเจ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน"เซี่ยเชียนฮวันขมวดคิ้วเข้าหากันหากพระชายาองค์ชายรองกล่าวเช่นนี้ นางก็ไม่มีสิ่งใดจะคัดค้านทันใดนั้นเอง เซียวเย่หลันก็กล่าวขึ้นว่า "ผู้ที่อยู่เพียงลำพังไม่ได้มีนางแค่คนเดียว เมื่อครู่ข้าก็อยู่เพียงลำพัง พี่สะใภ้รองก็สงสัยข้าด้วยงั้นหรือ?""ขะ ข้า ไม่ได้หมายความเช่นนั้น...”พระชายาองค์ชายรองพู
เซี่ยเชียนฮวันจึงได้เข้าใจตอนเด็กๆ เซวียนชินอ๋องเคยถูกงูกัดและทิ้งความกลัวไว้จนขึ้นสมอง จวบจนบัดนี้ยังมีอาการกำเริบอยู่บ้างเป็นครั้งคราว เกรงว่าต้องใช้เลือดงูสดมาทำเป็นยา จึงจะระงับอาการกลัวงูได้แน่นอนว่าอาการเหล่านี้โดยมากถือเป็นปัญหาด้านประสาท เลือดงูไม่สามารถนำมารักษาโรคได้ เซี่ยเชียนฮวันคิดว่ามันเพียงช่วยในด้านจิตใจก็เท่านั้น“ข้าได้สั่งให้บ่าวรับใช้ไปทำยาถอนพิษมาให้แล้ว ประเดี๋ยวเมื่อกินเข้าไปก็หายเอง ไม่จำเป็นต้องกังวล” เซวียนชินอ๋องปลอบโยนองค์ชายรองและพระชายาองค์ชายรองพยักหน้า “ขอบพระทัยเสด็จอา ว่าแต่งูที่ท่านเลี้ยงไว้ไม่ควรหลุดออกมาที่นี่ คาดว่าบ่าวรับใช้คงจะละเลย ท่านต้องลงโทษพวกเขาให้หนัก คราวหน้าจะได้ไม่เกิดเหตุเช่นนี้อีก”“อืม ข้ารู้”เซวียนชินอ๋องทำสีหน้าลำบากใจ การเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นอย่างนี้ ตัวเขาในฐานะเจ้าบ้านก็รู้สึกผิดไม่น้อยจากนั้นพระชายาองค์ชายรองก็มองไปทางเซี่ยเชียนฮวัน กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ใครบอกว่าต้องเป็นบ่าวรับใช้สะเพร่าเท่านั้น อาจมีใครบางคนจงใจเข้าไปยังที่เลี้ยงงูแล้วปล่อยมันออกมาก็ได้”“ไม่น่าเป็นไปได้...” เซวียนชินอ๋องขมวดคิ้วเข้
“เรือนหนานเฟิง? คือที่ใด?”เซี่ยเชียนฮวันทำสีหน้าสงสัยเนื่องจากก่อนหน้านี้นางก็ไม่รู้ว่าเรือนหนานเฟิงคือที่ใด ดังนั้นนางจึงแกล้งทำสีหน้าสงสัยได้อย่างแนบเนียนต่อให้ตอนนี้เซี่ยเชียนฮวันพอจะเดาได้ว่าเป็นเรือนเล็กๆ ที่เก็บความลับนั้นไว้ก็ตามโซ่วหยางจวิ้นจู่ยิ้มขึ้นด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “เมื่อครู่ท่านไม่ได้เพิ่งพาพระราชนัดดาออกมาจากป่าไม้แดงของเรือนหนานเฟิงหรอกหรือ ข้าและซานหรงเห็นกับตา”บ่าวรับใช้ในจวนที่ติดตามโซ่วหยางจวิ้นจู่อยู่ด้านหลังต่างพากันพยักหน้าเซวียนชินอ๋องสีหน้าเคร่งขรึมลงแล้วตะคอกว่า “ซานหรง เจ้าควรนึกให้ดีก่อน!”“ท่านอ๋องเพคะ บ่าว บ่าวเห็นกับตาเพคะ ได้ยินว่าเห็นใครบางคนที่เรือนหนานเฟิง ดังนั้นบ่าวและจั๋วเสิ่นเออร์จึงรีบเข้าไปดู พบว่าพระชายาจ้านอ๋องกำลังออกมาจากป่าไม้แดง” บ่าวรับใช้ที่ถูกเรียกชื่อตอบตะกุกตะกัก“ผู้ที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าเล่า?!” น้ำเสียงของเซวียนชินอ๋องดูโมโหเล็กน้อย“พะ เพราะว่าในวันนี้มีแขกเดินทางมามากมาย ห้องครัวทำอาหารไม่ทันจนไฟแทบลุกไหม้ ทุกคนจึงได้ไปช่วยเพคะ...” บ่าวรับใช้ตกใจจนตัวสั่นพระชายาองค์รัชทายาทเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เสด็จอาเพคะ เรือนหนา
พระชายาองค์ชายรองพูดขึ้นอีกครั้งว่า “เพียงแค่บอกความจริงมา อยากได้ของเล่นหรือขนมใด จะให้เจ้าทั้งหมด!”เซี่ยเชียนฮวันคิดเอาไว้แล้วว่าการที่นางและพระราชนัดดาเข้าไปในเรือนหนานเฟิงแต่ไม่เห็นงู อาจเป็นเพราะทั้งสองเข้าไปเพียงลานด้านหน้า ไม่ได้เข้าไปด้านหลังอีกอย่าง หากเทียบกันระหว่างงูกับหนังสือและจดหมายที่นางเห็น สิ่งเหล่านั้นน่ากลัวกว่านักคาดว่าเซวียนชินอ๋องคงตั้งใจเก็บมันไว้ในที่ที่เลี้ยงงูเช่นนี้ทุกคนจะได้ไม่กล้าเข้าใกล้“พระชายาองค์ชายรองโปรดระวังกิริยาด้วย อย่าเอาเด็กเข้ามาเกี่ยวข้อง”พระชายาองค์รัชทายาทเข้ามาปกป้องพระราชนัดดาไว้ แล้วดึงเขาเข้ามาในอ้อมอกของตนคำที่นางกล่าวกับหลี่จิ้งหย่ามากที่สุดน่าจะเป็น ‘โปรดระวังกิริยา’ โซ่วหยางจวิ้นจู่กล่าวว่า “แต่เรื่องในวันนี้มีที่มาที่ไป ต้องมีเหตุมีผล คงต้องรบกวนพระราชนัดดาน้อยออกมาเล่าความจริงด้วย”“เขายังเด็กนัก สิ่งที่พูดอาจถูกชี้นำจนไม่ใช่ความจริง ไม่อาจเชื่อได้แน่นอน” พระชายาองค์รัชทายาทกล่าวเบาๆ ในเมื่อกล่าวมาถึงจุดนี้ พระชายาองค์ชายรองและโซ่วหยางจวิ้นจู่จึงต้องล้มเลิกความคิดที่จะถามพระราชนัดดาต่อไปเซี่ยเชียนฮวันแอบขอบคุณ
โซ่วหยางจวิ้นจู่มั่นใจยิ่งนักเพราะตอนที่นาง ‘ไม่ทันระวัง’ ล้มไปทางเซี่ยเชียนฮวัน ได้แอบเอาสงหวงใส่ไว้ในเสื้อผ้าของเซี่ยเชียนฮวันแล้วเซี่ยเชียนฮวันมั่นใจมาก แต่เพราะกำลังตกอยู่ในความคลุมเครือ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าตนถูกใส่สิ่งแปลกปลอมเข้ามายิ่งคิด โซ่วหยางจวิ้นจู่ก็ยิ่งได้ใจ นางเลิกคิ้วขึ้นว่า “พระชายาจ้านอ๋อง ข้าได้ให้คำสัญญาไว้ ณ ที่นี้แล้ว ท่านกล้ารับไว้หรือไม่?”เซี่ยเชียนฮวันไม่ได้ตอบนางหันไปมองพระชายาองค์ชายรอง “เจ้าก็จะคุกเข่าก้มศีรษะขอโทษข้าด้วยหรือไม่?”“เอ่อ...”พระชายาองค์ชายรองลังเลเล็กน้อยในฐานะบุตรสาวของอัครมหาเสนาบดี นางเป็นชนชั้นสูง นางหยิ่งในศักดิ์ศรีของตนยิ่งนักจะให้เอ่ยขอโทษคนอื่นงั้นหรือ ปกติแล้วนางมาเคยทำพระชายาองค์ชายรองหันไปสบตาโซ่วหยางจวิ้นจู่ เมื่อเห็นว่าเจ้าหนูมีความมั่นใจมาก นางจึงฝืนตอบไปว่า “หากค้นตัวเจ้าไม่เจอสงหวง ข้าจะขอโทษเจ้าอย่างแน่นอน แต่หากค้นเจอละก็ เจ้าจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัย และต้องเดินทางไปศาลต้าหลี่กับข้า”ศาลต้าหลี่...ทุกคนได้แต่แอบขนลุกซู่เพราะพวกเขารู้ดีว่า ศาลต้าหลี่เป็นเขตแดนของอัครมหาเสนาบดีหลี่หากถูกพระชายาองค์ชายรองจั
“จั๋วเสิ่นเออร์ เจ้ารับสินบนจากนางมาใช่หรือไม่? ข้าได้กลิ่นสงหวงชัดเจนยิ่งนัก มันมาจากร่างกายนาง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของโซ่วหยางจวิ้นจู่หาได้บริสุทธิ์อีกต่อไป เหลือไว้เพียงสีหน้าเหยเกดึงดันจั๋วเสิ่นเออร์กล่าวอย่างหน่ายใจว่า “ต่อให้บ่าวใจกล้าเพียงไรก็ไม่กล้าเสแสร้งต่อหน้าชนชั้นสูงมากมายเพียงนี้”“ข้าไม่สน ข้าจะเปลี่ยนคนมาค้นใหม่ ค้นใหม่อีกรอบ!” โซ่วหยางจวิ้นจู่กรีดร้องนางมั่นใจว่าได้ยัดสงหวงใส่ไปในเสื้อของเซี่ยเชียนฮวันจริงๆ แค่รอเวลาเปิดโปงเท่านั้น ทุกคนก็จะได้รู้ว่าเซี่ยเชียนฮวันรู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าจะมีงูพิษออกมาแผนการเฉลียวฉลาดของนางสมบูรณ์เพียงนี้จะเกิดข้อผิดพลาดได้อย่างไร!เซี่ยเชียนฮวันมองไปทางเด็กหญิงที่กำลังฟาดงวงฟาดงา จากนั้นเผยอริมฝีปากขึ้นว่า “ก็ได้ ข้าจะให้ค้นตัวอีกรอบ”“ว่าอย่างไรนะ”คนอื่นๆ ก็ตกตะลึงอย่าว่าแต่พระชายาอ๋องเลย แม้เป็นสตรีทั่วไปหากถูกค้นตัวต่อหน้าสาธารณะเพียงครั้งเดียวก็นับว่าน่าอายมากแล้ว แต่เซี่ยเชียนฮวันกล้าให้ค้นตัวรอบที่สอง?!“ที่จริงแล้วคำพูดของโซ่วหยางจวิ้นจู่เตือนสติข้า” เซี่ยเชียนฮวันกระตุกยิ้ม “นางยังเด็ก ความจำอาจไม่ดีนัก บางทีนางอา
เนื่องจากว่าพระชายาองค์ชายรองถูกงูฉกขาจนได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นนางจึงนั่งอยู่ที่นี่ ไม่ได้ให้บ่าวรับใช้ไปค้นตัวที่ด้านข้างด้วยจั๋วเสิ่นเออร์กล่าวขึ้นด้วยความมั่นใจว่า "บ่าวมีแรงมากกว่าคนอื่น ให้บ่าวพยุงไปทางโน้นเถิดเจ้าค่ะ""อย่าแตะต้องตัวข้า! ข้า ข้าไม่ให้เจ้าค้นตัว หากข้ามีสงหวงติดตัวอยู่จริง เหตุใดจึงยังถูกงูฉกได้ ไร้สาระสิ้นดี!"พระชายาองค์ชายรองปฏิเสธคัดค้านเซี่ยเชียนฮวันยิ้มขึ้นแล้วกล่าวเบาๆ ว่า "แม้สงหวงจะมีคุณสมบัติขับไล่งู แต่หากเจ้าเหยียบไปที่ร่างของมัน มันก็ยังจะฉกเจ้าอยู่ดี เพียงแต่ฉกได้ไม่แรงนัก""ข้าเป็นถึงพระชายาองค์ชายรอง บุตรสาวผู้มีอำนาจสืบทอดจากจวนอัครมหาเสนาบดี จะให้พวกเจ้ามาค้นตัวง่ายๆ ได้อย่างไร! พี่ฉงเพคะ รีบห้ามพวกเขาเร็วเข้า..."พระชายาองค์ชายรองตั้งใจจะสะบัดจั๋วเสิ่นเออร์ออกไปคิดไม่ถึงว่านางออกแรงมากไปหน่อยจึงทำให้มีห่อเล็กๆ ร่วงหล่นลงมาจากเสื้อจั๋วเสิ่นเออร์โน้มกายลงไปเก็บ เมื่อดมมันก็ต้องตกใจ "นี่ นี่คือสงหวง..."วินาทีนั้นทุกคนก็เงียบสนิทต่างคนต่างเบิกตากว้างจ้องมองไปไร้คำบรรยายพระชายาองค์ชายรองก็ชะงักลงไปชั่วครู่เช่นกันนางนึกไม่ถึงว่าลางสั