Share

บทที่ 9

เหอซิ่วฟางอยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าอึดอัดใจ เห็นได้ชัดเลยว่าสองแม่ลูกบุกเข้ามา

ใบหน้าของหลิงเฟิงครึ้มขึ้น คนมีหน้า ต้นไม้มีเปลือก หญิงเลวเขาเคยเห็น แต่หญิงเลวขนาดนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เจอ!

ถ้าเขาบอกว่าตนเองจับเย่อวี่หลิวได้แล้ว สองแม่ลูกคู่นี้ก็จะเข้ามาเลียแข็งเลียขาเขา เพื่อหวังจะเกาะภูเขาทองคำอย่างเย่อวี่หลิวไปด้วย

เขาทำเพียงพูดจริงครึ่งเท็จครึ่ง

“ทำให้ทุกคนผิดหวังแล้ว เย่อวี่หลิวเป็นเจ้านายของผม เธอมาหาผมเมื่อวานเพราะเรื่องงาน พูดคุยเรื่องงานเสร็จแล้วก็จากไป”

เมื่อเฉินเหม่ยหลิงกับจางหลานฮวาได้ยินแบบนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันทีแล้วพูดว่า

“อะไรนะ? ที่แท้เธอเป็นเจ้านายของแก ฉันก็น่าจะรู้ ผู้หญิงที่น่าภาคภูมิใจแบบเย่อวี่หลิวจะมาสนใจคนธรรมดาตัวเหม็นอย่างแกได้ยังไง?”

“ทำให้พวกเราดีใจเก้อ! เฮงซวย!”

พวกเธอด่าทอหยาบคาย แล้วจากไปโดยเอาของขวัญที่พวกเขาเอามาไปด้วย

ในเวลานี้ โทรศัพท์ของหลิงเฟิงได้รับข้อความจากชิงหลง

“ราชาแห่งความมืด ในบัตรประจำตัวของท่านถูกใส่ไปห้าพันล้านแล้ว ผู้น้อยทำนอกเหนือคำสั่ง ช่วยคุณซื้อหมู่บ้านเล็กๆ คุณสามารถใช้บัตรประจำตัวจัดแจงพื้นที่เหล่านั้นได้อย่างอิสระ”

หลิงเฟิงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว ชิงหลงเจ้าเด็กคนนี้ชอบทำแบบนี้

เหอซิ่วฟางพูดอย่างเป็นกังวล "ลูกชาย อย่าสนใจพวกเขาเลย ลูกไปอยู่ที่ไหนมาทั้งคืน? ทำให้แม่เป็นห่วงมากรู้มั้ย!"

หลิงเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “แม่ครับ แม่วางใจเถอะนะ ผมไม่ได้ไปอยู่บนถนนหรอก ผมจำได้ว่าบ้านพวกเรายังเป็นหนี้อีกตั้งแสนหยวนยังไม่ได้ใช้คืนใช่มั้ย? อยากใช้เงินผม.... ”

เหอซิ่วฟางพูดอย่างประหม่าว่า

“ลูกชาย ลูกเป็นแค่พนักงานธรรมดา เงินเดือนแค่ไม่กี่พันหยวน จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายหนี้? ไม่ใช้ว่าไปทำอะไรไม่ดีมาใช่มั้ย?”

หลิงเฟิงรีบพูดว่า “จะเป็นไปได้ยังไงล่ะแม่ แม่คิดมากไปแล้วนะครับ”

“งั้นก็ดีแล้ว ในตอนนั้นพ่อของลูกอยากได้เงินเยอะเลยไปทำงานเหมืองดำกับคนอื่น ผลสุดท้ายก็ถูกดินถล่มจนตาย ลูกต้องปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้นนะ! "

เหอซิ่วฟางพูดเกลี้ยกล่อมอย่างเจตนาดีว่า “เรื่องเงินพวกเราค่อยขยันหาทางออกด้วยกัน อย่ากดดันตัวเองมากไปนะ”

หลิงเฟิงพยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม

เขากลัวว่าแม่จะเอาจริงเอาจังเกินไปแล้วอยากตรวจสอบที่มาที่ไปของเงินของตัวเองเลยจึงต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะใช้เงินในบัตรประจำตัวของเขา

หลังจากปลอบใจแม่แล้ว หลิงเฟิงก็รีบไปที่สถานีรถไฟใต้ดินเพื่อไปทำงาน

ตำแหน่งที่เขาทำอยู่เป็นแผนกเล็กๆ ภายใต้แผนกขายของบริษัทหลีห่าว ขนาดไม่ใหญ่แต่ความกดดันเรื่องผลงานไม่น้อยเลย

เขาเดินมาถึงแผนกก็พบว่าเพื่อนร่วมงานของตัวเองหลายคนถูกผู้อำนวยการ ซู่ฉวน ตำหนิ

“แม่งทั้งหมดเป็นขยะเหรอไง? จะสองเดือนแล้ว ทำยอดขายไม่ถึงมาตรฐาน! ในหัวพวกคุณมีแต่เรื่องไร้สาระอะไรอยู่เหรอห๊ะ?”

เพื่อนสนิทของหลิงเฟิงสองคน เสี่ยวเหม่ยกับต้าจ้วงก็ถูกด่าเอาเลือดหมามารดหัว

โดยเฉพาะเสี่ยวเหม่ย ยังถูกซู่ฉวนตบจนใบหน้าบวมแล้ว!

หลิงเฟิงทนมองไม่ได้เดินไปด้านหน้าผู้อำนวยการซู่ฉวน

“ผู้อำนวยการซู่ ผมจำได้ว่าข้อบังคับของบริษัทมีบอกไว้ว่าไม่สามารถดุด่าทุบตีพนักงานได้... ”

ซู่ฉวนมองหลิงเฟิงด้วยสายตาดุร้าย

“หลิงเฟิง? แม่งก็แค่เป็นพนักงานใหม่ยังไม่ผ่านฝึกงาน กล้าต่อปากต่อคำกับฉันเหรอ? อย่าลืมนะ ว่าผลงานของตัวเองไม่ได้ดีขนาดนั้น ไม่อยากทำแล้วใช่มั้ย?”

“พี่เฟิง พี่ใจเย็นหน่อย พวกเราไม่เป็นไรค่ะ”

เซียวเหม่ยและต้าจ้วงรีบจับหลิงเฟิงและวิงวอน

พวกเขาเป็นพนักงานประจำถูกซู่ฉวนด่าก็รู้สึกแย่ไม่กี่วัน แต่หลิงเฟิงยังอยู่ช่วงทดลองงานถ้าเขาทำให้ผู้อำนวยการซู่ฉวนไม่พอใจก็จะถูกออกได้ตลอดเวลา!

หลิงเฟิงพูดอย่างแน่วแน่

“ไม่มีใครมีสิทธิ์ทุบตีหรือดูหมิ่นพนักงาน ผู้อำนวยการซู่ แม้ว่าคุณจะเป็นเจ้านายของเราก็ตาม กรุณาขอโทษด้วย!”

ปกติอีกฝ่าย กำเริบเสิบสานและโอหังอวดดีภายในแผนก กลั่นแกล้งคนมาใหม่ เต๊าะพนักงานหญิง

เขาสามารถนั่งเฉยๆ แล้วไม่สนใจมันก็ได้ แต่ในเมื่อคนที่โดนเป็นเพื่อนของเขา หลินเฟิงก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

เมื่อเห็นดังนั้น ซู่ฉวนก็เยาะเย้ย "นายต้องการให้ฉันขอโทษเหรอ? ฉันได้ยินไม่ผิดใช่มั้ย? นายคิดว่านายเป็นใคร?"

หลิงเฟิงนิ่งสงบแล้วพูดว่า

"ข้อบังคับของบริษัทกำหนดว่าทุกคนเท่าเทียมกันและควรเคารพซึ่งกันและกัน ผู้อำนวยการซู่ คุณคิดว่าคุณใหญ่กว่าข้อบังคับของบริษัทเหรอ?"

จู่ๆ ซู่เฉวียนก็โกรธจัด

“เอาเศษกระดาษแผ่นเดียวมาข่มฉันเหรอ? ได้สิ นายอยากออกหน้าแทนพวกเขามากนักใช่มั้ย?

“ได้สิ ภายในสามวันนี้ ช่วยให้พวกเขาทั้งสองทำยอดถึงเป้า! ฉันจะปล่อยพวกเขาไป! แต่ถ้านายทำไม่ได้ นายต้องเก็บของแล้วออกไปซะ!"

ต้าจ้วงหน้าซีดเซียวและพูดว่า:

“พี่เฟิง อย่ารับปากนะครับ! หน้าที่ของพวกเราคือขายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตัวใหม่ของบริษัท ชาบำรุง ซึ่งผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้รับการโปรโมตที่เพียงพอ ในตลาดเลยไม่มียอดขายเลยครับ! "

และซู่ฉวนก็ตั้งเป้าหมายของพวกเขาหนึ่งล้านต่อเดือนด้วย!

เขาและเสี่ยวเหม่ยพยายามอย่างเต็มที่ ช่วยกันดื่มจนลำไส้แทบจะไหลออกมาเป็นเลือดแล้ว แต่ในเดือนนี้พวกเขาก็ทำยอดขายได้เพียงหนึ่งแสนเท่านั้น

แก้ปัญหาของพวกเขาสองคนภายในสามวันหรือก็คือสองล้าน นี่เป็นงานที่เป็นไปไม่ได้เลย!

หลิงเฟิงไม่สะทกสะท้านและพูดว่า "จะเป็นยังไงถ้าผมทำมันเสร็จภายในวันเดียว?"

ซู่ฉวนตกตะลึงและหัวเราะเสียงดังก่อนจะพูดว่า

“วันเดียวสองล้านเหรอ? ฮ่าฮ่าฮ่า! แม่งคิดว่ากำลังเล่นสลาฟอยู่หรือไง? ถ้านายทำได้จริง ไม่เพียงแต่ฉันจะไม่ไล่นายออกแล้ว ฉันจะโค้งคำนับขอโทษพวกนาย!"

หลิงเฟิงพูดว่า

“แล้วถ้าผมทำได้ภายในห้านาที คุณช่วยคุกเข่าลงและคำนับขอโทษสามครั้งได้ไหม?”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกมา เพื่อนร่วมงานในแผนกทั้งหมดก็ตกตะลึง

ราวกับต้องการจะทำให้ผู้คนตกตะลึงจนช็อกตายให้ได้

นี่ยังเป็นเด็กฝึกงานคนเดิมที่ไม่แก่งแย่งชิงดีอยู่หรือเปล่า?

หัวของซู่ฉวนมีเส้นเลือดดำปูดออกมา “แม่งมาเพื่อมาหาเรื่องเหรอ?”

ต้าจ้วงกับเสี่ยงเหม่ยพูดจาติดๆ ขัดๆ

“พี่เฟิง ความใจร้อนผลีผลามมันเป็นเหมือนปีศาจ! สองล้านในห้านาที นี่เป็นเพียงพันหนึ่งราตรี! "

พวกเขาไม่กล้าแม้แต่จะฝันถึงมัน!

หลิงเฟิงพูดย้ำที่ละคำว่า “ผมรักษาคำพูด ผู้อำนวยการซู่ คุณกลัวเหรอ?”

หลิงเฟิงไม่พอใจนิสัยและท่าทางที่ชอบรังแกคนอื่นของเขา

เขาเพียงแค่ดับไฟลงแต่ไม่ได้ปิดเตา!

“เฮอเฮอ! นายกังวลอยากตายขนาดนี้งั้นก็สนองให้นายแล้วกัน! มาสิ! ถ้านายทำได้ฉันจะคุกเข่าลงทันที! "

ซู่ฉวนยิ้มมืดมนแล้วพูดออกมาด้วยนัยน์ตาเจ้าเล่ห์

ในความเป็นจริง ทั้งหมดนี้เป็นกับดักที่เขาวางไว้ จู่ๆ ผู้อำนวยการเย่เจิ้งหมิงก็เรียกพบเขาในตอนเช้าและมอบเงินหนึ่งล้านให้เขาเพื่อขอให้เขาหาเหตุผลที่จะไล่หลิงเฟิงออกไป

เขาจึงใช้บทในวันนี้ปลุกปั่นปัญหา ใครจะรู้ว่าว่าหลิงเฟิงจะกระโดดลงมาในแผนของเขา ช่างเป็นโอกาสที่พระเจ้าประทานให้จริงๆ !

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเริ่มจับเวลา "หลิงเฟิง ห้านาทีมันหมดเร็วมากนะ!"

ตามความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับหลิงเฟิง ผลงานของเขาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแทบจะไม่ถึงเส้นมาตรฐานเลย

แหล่งข้อมูลลูกค้าก็ไม่ได้ดีเท่าของพวกเสี่ยวเหม่ย!

รอบนี้เด็กฝึกงานมือใหม่คนนี้ต้องตายแน่!

แต่หลิงเฟิงหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างใจเย็นและเปิดรายชื่อของเขา เขาจำได้ว่าเขามีคนรู้จักในเมืองชางไห่ บางทีเขาอาจจะช่วยได้

“นี่คือจ้าวมู่จือมั้ย? ฉันคือหลิงเฟิง ตอนนี้มีเรื่องอย่างให้คุณทำหน่อย!”

จ้าวมู่จือ?!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง นี่คือชื่อผู้นำเมืองชางไห่ไม่ใช่หรือ?

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status