Share

บทที่ 13

“หลิงเฟิง บอกฉันตรงๆ ว่าทั้งหมดนี้นายเป็นคนทำใช่หรือไม่? "

เธอขมวดคิ้วถาม

“ฉันรู้ว่าคุณไม่พอใจผู้จัดการเกาเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้ แต่คุณไม่ควรใช้วิธีที่รุนแรงในการแก้ปัญหา”

หลิงเฟิงอึ้ง เขาไม่คิดว่าเขาออกหน้าเพื่อเย่อวี่หลิว แต่สุดท้ายแล้วเขาจะถูกเธอเข้าใจผิดและเลือกที่จะเข้าข้างคนอื่น!

ใจของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวังอยู่ครู่หนึ่งและเขาก็ยิ้มเย้ยแล้วพูดว่า

“พูดแบบนี้ คุณเองก็ไม่เชื่อผมแล้วสินะ? โอเค ในเมื่อประธานเย่คิดว่าผมเป็นคนทำ งั้นผมเป็นคนทำก็แล้วกัน!”

ไม่ว่าเขาจะอธิบายอย่างไร คนเหล่านี้ก็ทำเป็นหูหนวก

จู่ๆ หัวใจของเย่อวี่หลิวก็เต้นรัว “ฉันไม่ได้บอกว่านายเป็นคนทำ ฉันแค่กำลังถามนาย”

“กล้าดีนัก! กล้าพูดกับประธานเย่แบบนี้ แกคิดว่าแกเป็นใคร? ประธานเย่ จะต้องไล่เจ้าแกะดำนี้ออกซะ!”

ลิ่วล้อหลายคนของเย่เจิ้งหมิงตะโกนมาทันที

หลี่หู่ก็แสดงท่าทีดูถูกเหยียดหยาม

“ประธานเย่ เรื่องนี้คุณต้องจัดการให้ผมนะ ผมไม่สามารถถูกใส่ร้ายอย่างไม่มีเหตุผลได้หรอกนะ?”

เขายังแอบมองตาเกาหยิงเซียงแล้วยิ้มให้กัน เข้าใจกันโดยไม่ต้องพูด

ใบหน้าเย็นชาของเย่อวี่หลิว ตกอยู่ในการต่อสู้ดิ้นรนทันที

ที่จริงเธอไม่อยากจะเชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าหลิงเฟิงเป็นคน

แต่ทุกคนเห็นด้วยตาตนเองว่าเขาตีใคร หลิงเฟิงไม่มีหลักฐานที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาเองได้เลย

หากเธอเข้าข้างหลิงเฟิงในเวลานี้ เธอจะกลายเป็นเป้าของธนูจำนวนมาก อย่างแน่นอน

เธออยู่ในตำแหน่งนี้ก็มีเรื่องต้องเครียดมากอยู่แล้ว

ในขณะเดียวกัน ซูเหยี่ยนซึ่งอยู่เงียบๆ ข้างๆ จู่ๆ ก็ขัดจังหวะและพูดว่า

“ผู้จัดการเกา คุณจะบอกว่าคุณต่อสู้แล้วเอาชนะชายร่างใหญ่เจ็ดแปดคนนี้เหรอ? แต่ด้วยร่างกายของคุณสามารถเอาชนะคนเจ็ดแปดคนได้ในคราวเดียวเลยเหรอคะ?”

“ประธานเย่คะ ฉันคิดว่าเรื่องนี้น่าสงสัย”

หลังจากที่อีกฝ่ายพูดถึงเรื่องนี้ เย่อวี่หลิวก็มีปฎิกริยารวดเร็วและพูดอย่างเย็นชาว่า

“ใช่สิ ผู้จัดการเกา ได้ยินมาว่าแค่ขึ้นบันไดคุณก็หอบแล้ว คุณมีความสามารถล้มคนจำนวนมากแบบนี้ได้เลยเหรอ?

เกาหยิงเซียงพูดไม่ออกชั่วขณะ

เย่เจิ้งหมิงตะโกนว่า

“นั่นไม่ได้เป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าคุณชายหลี่ออกคำสั่งให้ผู้จัดการเกาทำเช่นนี้! อวี่หลิว คุณชายหลี่เป็นลูกค้ารายใหญ่ของบริษัทเรา เธออยากทะเลาะกับคุณชายหลี่เพราะเรื่องเด็กฝึกงานเหรอ? ยังไงก็จะต้องถูกไล่ออก!"

เย่อวี่หลิวขมวดคิ้วและพูดว่า

“ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้ทีหลัง ไม่ต้องให้พวกคุณสอนฉันว่าควรทำยังไงหรอกนะ”

“ทั้งคู่ต้องรับโทษร่วมกัน เกาหยิงเซียงพักงานสิบวัน หลิงเฟิงหักเงินครึ่งเดือน เอาตามนี้”

“ถ้าใครยังกล้าพูดเรื่องไล่ออก อย่ามาโทษว่าฉันไม่ไว้หน้าเขาก็แล้วกัน!”

เมื่อได้ยินเสียงเย็นชาของอีกฝ่าย ทุกคนก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องหุบปาก

ใบหน้าของหลี่หู่เอาแน่เอานอนไม่ได้ สมควรตาย! ปล่อยให้เจ้านี่รอดไปจนได้!

แต่ไม่ต้องกังวล ยังไงก็ตาม ผ่านคืนนี้ไป เย่อวี่หลิวก็จะกลายเป็นของตัวเองแล้ว! นี่ต่างหากที่เป็นเรื่องสำคัญ!

หลี่หู่มองรูปร่างของเย่อวี่หลิวที่งามจนเป็นภัยมั่นคงของประเทศ ร่องรอยของความโลภและความคลั่งไคล้แวบขึ้นมาในดวงตาของเขา

เมื่อหลิงเฟิงได้ยินดังนั้น เขาก็หันหลังกลับและจากไป “แล้วแต่เถอะ แค่พวกคุณมีความสุขก็พอแล้ว!”

ตอนนี้เขาไม่มีอะไรจะพูดกับเย่อวี่หลิวแล้ว!

นึกไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวเขาเลยสักนิด ทำให้เขาผิดหวังจริงๆ

เย่อวี่หลิวขมวดคิ้วและพูดพึมพำเสียงเบาว่า

“ผู้ชายคนนี้ เจอเรื่องแล้วยังบุ่มบ่าม ตอนเช้าเพิ่งจะทุบตีคนตอนบ่ายก็ก่อปัญหาอีกแล้ว สุดจะเยียวยาจริงๆ! ถ้าหากไม่มีฉัน เขาคงถูกไล่ออกไปนานแล้ว ยังไม่รู้จักขอบคุณอีก”

มีเพียงซูเหยี่ยนเท่านั้นที่มองด่านหลังอีกฝ่าย แล้วพูดกับเย่อวี่หลิวเสียงทุ้มต่ำว่า

“หลิวหลิว ฉันรู้สึกว่าเรื่องนี้แปลกๆ เธออาจจะยัดเยียดข้อหาให้หลิงเฟิงจริงๆ แล้ว"

เย่อวี่หลิวนวดขมับของเธอแล้วพูดว่า

“เหยี่ยนเหยี่ยน ตอนนี้หัวฉันยุ่งเหยิงไปหมด เธออย่าเพิ่งเพิ่มเรื่องวุ่นวายเลย เรื่องนี้ไว้คุยกันทีหลังเถอะ”

ตอนนี้เธอต้องรีบเจรจาเรื่องโครงการ แค่นี้ก็ต้องใช้วิชาแยกร่าง่แล้ว

ซูเหยี่ยนยอมรับแบบไม่เต็มใจ หลังจากเหตุการณ์นี้ เธอเริ่มอยากรู้เกี่ยวกับหลิงเฟิงมากขึ้น ดังนั้นจึงหาข้อแก้ตัวเลิกงานเร็ว

ในไม่ช้า รถโรลส์-รอยซ์ แฟนท่อมก็มาจอดหน้าประตูบริษัท

ชายชราในชุดทักซิโด้เดินออกมา "คุณหนู ผมมารับคุณหนูครับ"

“ลุงเหยา ขับตามชายที่ขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าตรงหน้าลุงไป”

ซูเหยี่ยนเข้าไปในรถแล้วชี้ไปที่หลิงเฟิงซึ่งอยู่ไม่ไกล

หลิงเฟิงที่เลิกงานแล้ว ในใจกลัดกลุ้มเป็นที่สุด

เขาก็เลยขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไปยังตลาดโบราณ มีผู้ค้าข่าวกรองใต้ดินมากมายที่นี่ บางทีเขาอาจค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับองค์กรวีได้

อย่างไรก็ตามหลังจากถามไปทั่วๆ แล้วก็เปล่าประโยชน์ อันที่จริงมันเป็นองค์กรมืดที่ใหญ่ที่สุดในต่างประเทศและการหาข่าวไม่ใช่เรื่องง่าย

เวลานี้เอง เขาก็เดินมาถึงแผงประมูลหินโดยไม่รู้ตัว ครึกครื้นมาก

ของที่ประมูลกันอยู่ไม่ใช่แค่หยกธรรมดา แต่เป็นหินปะการังไฟคุณภาพสูง

ว่ากันว่าเป็นวัสดุหยกล้ำค่าชนิดหนึ่งที่สามารถใช้เป็นยาและขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ มีราคาแต่ไม่มีตลาด ทำกำไรได้มากกว่าหยกมากๆ!

ในบรรดาปะการังไฟ ประเภทที่มีความล้ำค่าที่สุดคือปะการังแดงเพลิงจักรพรรดิ เคยถูกประมูลในราคาที่สูงมาก!

หลิงเฟิงก็ขึ้นไปดูความสนุกด้วย คนที่กำลังประมูลหินอยู่มีเจ็ดถึงแปดคนแต่ว่าทั้งหมดลงเพียงเล็กน้อย ไม่กี่พันกี่หมื่นเท่านั้น

มีเพียงชายหัวล้านเพียงคนเดียวที่สวมสร้อยคอทองคำเส้นใหญ่ ซึ่งดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว และทุ่มเงินหลายแสนทุกครั้ง!

"ซื้อสิบชิ้นสำหรับคุณภาพต่ำ สามสิบชิ้นสำหรับคุณภาพปานกลาง และหนึ่งร้อยชิ้นสำหรับคุณภาพสูง!"

เขาโยนเงินฟ่อนใหญ่เข้าไป

แต่ผลลัพธ์กลับเหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หลังผ่าหินแล้วไม่พบปะการังไฟธรรมดาแม้แต่ครึ่งเดียว ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างหมดความอดทนว่า

“ร้านของพวกคุณนี่มันยังไง? ฉันลงเงินไปกว่าสองล้านหยวนแล้ว ไม่เห็นแม้แต่ขนปะการังไฟ!”

“นายท่านท่านนี้ก็น่าจะรู้ว่าการประมูลหินล้วนต้องพึ่งโชค แม้ว่าจะผ่าหินคุณภาพสูงความน่าจะเป็นที่จะพบปะการังไฟนั้นก็มีเพียงหนึ่งในพันเท่านั้น”

เจ้าของร้านยิ้มแล้วพูด

“แต่เรามีหินคุณภาพดีเลิศที่ว่ากันว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเป็นปะการังไฟมากถึงหนึ่งในสิบ! แต่ว่าราคาแพงไปหน่อย ต้องใช้ห้าสิบล้านบาท…”

คนรอบตัวเขาอดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเข้า แม้ว่าจะเป็นหนึ่งในสิบ แต่ห้าสิบล้านก็แพงเกินไป!

แต่ชายหัวล้านไม่สนใจแล้วโบกมือพูดว่า

“ห้าสิบล้านก็ห้าสิบล้าน เอาหินนั่นออกมาให้ฉันแล้วผ่ามันออก"

พูดจบเขาก็โยนธนบัตรออกมาห้าสิบล้าน

เจ้าของแผงดีใจมากและสั่งให้คนนำหินคุณภาพสูงออกมาในทันที เป็นหินที่มีคุณภาพสูงจริงๆ ดึงดูดผู้คนให้ประหลาดใจ

แต่สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นก็คือมีความเจ้าเล่ห์วาบผ่านดวงตาของอีกฝ่าย

มือสมัครเล่นก็แบบนี้ หลอกง่าย รอบนี้ต้องได้กำไรไม่น้อยแน่ๆ

เขาโบกมือแล้วพูดว่า "พี่ช่าง รีบผ่าหินให้ชายคนนี้เร็วๆ เถอะ!"

“ช้าก่อน!”

เวลาเดียวกันก็มีเสียงแทรกเข้ามาพูดว่า

“พี่ชายท่านนี้ ผมขอแนะนำว่าอย่าเป็นตัวซวยเลย หินคุณภาพสูงนี้เป็นของปลอม"

หากวาจามิอาจพูดให้น่าตื่นใจ แม้นตายก็ไม่คิดหยุดพัก

อะไรนะ? หินคุณภาพสูงนี้เป็นของปลอม?!

ทุกคนตกตะลึง และสายตาของพวกเขาก็ถูกหลิงเฟิงดึงดูดไป

เห็นเขาใช้นิ้วของเขา ชี้ให้เห็นซอกมุม หินแตกเป็นสนิมสีดำสนิท

“แต่หินก้อนนี้ ผมคิดว่ามีโอกาส”

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Kitti Sak
หวังว่าเพื่อนรักนางเอกจะไม่แทงข้างหลังเพื่อนอยากได้ผัวเพื่อนแบบเรื่องมังกรผู้ทรงพลังหรือมังกรไร้เทียมทานนะ เพื่อนนางเอกรู้เรื่องพระเอกหมดแต่นางเอกไม่รู้เรื่องอะไรแถมมีเรื่องให้เชื่อใจพระเอกไม่ได้ทุกครั้งจนหย่ากัน เพื่อนนางเอกแอบทดสอบนางเอกตลอดลุ้นให้เขาหย่ากันเร็วๆตัวเองจะได้เสียบแทน โคตรไม่ชอบเลย
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status