Share

บทที่ 13 ประสบการณ์ชีวิตของหลีหราน

“นี่ฉันเป็นคนสุดท้ายที่รู้ว่าเธอกลับบ้านเหรอเนี่ย? เธอไม่สนใจพี่ชายคนนี้แล้วใช่ไหม?! ฉันอุตส่าห์เสียเวลาคิดถึงเธอมาตั้งหลายปี!”

เมื่อเธอได้ยินเสียงนี้ ก็รู้ว่านั่นคือหลีหราน พี่ชายคนที่สามของเธอ

อย่างไรก็ตาม หลีหรานไม่ใช่พี่ชายทางสายเลือด เขาถูกทิ้งตั้งแต่แรกเกิด จากนั้นตระกูลหลีก็รับอุปถัมภ์ไว้

หลีเกอไม่เงยหน้าขึ้นจากเอกสาร “พี่นั่งก่อนสักพักเถอะ อย่ารบกวนฉันเลย”

ผ่านมาสามวันแล้ว แต่เธอยังจัดการเอกสารทั้งหมดที่เลขาของหลีหานมอบให้ไม่เสร็จ

เธอต้องรับโทรศัพท์เกือบร้อยสายจากกลุ่มความร่วมมือทั่วโลกในหนึ่งวัน หัวของเธอแทบจะหมุนเป็นลูกข่าง

หลีหรานไม่สนใจท่าทีของเธอและนั่งบนโซฟา “พี่ใหญ่ใจร้ายกับเธอมากเลย เขาโยนเอกสารมาให้เธอตั้งมากมาย นี่เป็นการฝึกให้เธอเป็นทายาทชัด ๆ ถ้าเธอไม่เหนื่อยก็เป็นยอดคนแล้ว เธอหนีไปดูคอนเสิร์ตของฉันดีกว่า ถือซะว่าไปพักผ่อนหย่อนใจ”

“ฉันไม่ไป”

หลีเกอพูดขณะเก็บข้าวของว่า “ฉันยังไม่ลืมนะว่าครั้งล่าสุดที่ฉันไปคอนเสิร์ตของพี่ บรรดาแฟนคลับ คิดว่าฉันเป็นแฟนพี่ ถ้าพี่ใหญ่มาไม่ทัน ฉันก็คงโดนเอาไข่ทุบหัวแตกจนต้องไปเย็บแผลที่โรงพยาบาลแล้ว”

“...เธอจำเรื่องนี้ได้!”

ทันใดนั้นหลีหรานก็มีความสุข ยิ้มมุมปากและมองไปที่เธอ “เธอเคยบอกว่าไม่สนใจฉัน ปากก็บอกว่าไม่สนใจ แต่ก็จำทุกรายละเอียดเวลาของฉันกับเธอได้ชัดเจนมากเลยนะ!”

“...” หลีเกอพูดไม่ออก ละจากเอกสารแล้วกลอกตา “ถ้าพี่เป็นโรคหลอกตัวเองก็ไปรักษาเถอะ”

หลี่หรานยังคงมองพลางยิ้มนิด ๆ “มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถรักษาโรคของฉันได้”

“...”

โชคดีที่เธอคุ้นเคยกับการสนทนาเช่นนี้กับหลีหรานแล้ว เธอจึงไม่รู้สึกอึดอัด

หลีหรานชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้เขาเป็นนักร้องชื่อดังในต่างประเทศ

ปกติแล้วเขาจะยุ่งมาก แต่เขาก็ยินดีที่จะใช้เวลาอยู่กับเธอตามลำพัง

เมื่อเธอตั้งใจจะแต่งงานกับฮั่วจิ้นเฉิง เขาก็ยกเลิกคอนเสิร์ตที่กำลังจะมาถึงทันทีและบินไปปินเฉิงเพื่อต่อสู้กับฮั่วจิ้นเฉิง ดีที่ต่อมา พี่ชายคนโตของเธอมาห้ามไว้

เมื่อมองย้อนกลับไป เธอไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเพิกเฉยต่อผู้ชายดี ๆ มากมายที่อยู่รอบตัวและตกหลุมรักฮั่วจิ้นเฉิงตั้งแต่แรกเห็นเท่านั้น

“มีสายเข้า ขอฉันรับสายก่อน”

โทรศัพท์สั่นอีกครั้ง เธอเหลือบมอง และเห็นว่าเป็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย

หลีหรานเงียบอย่างมีสติพลางมองดูเธอเดินไปที่หน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานเพื่อรับโทรศัพท์

“สวัสดีครับ คุณคือผู้ช่วยทั่วไปคนใหม่ของบริษัทตี้เซิ่งรึเปล่า ในส่วนของฮั่วกรุ๊ป ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการเข้าร่วมนิทรรศการทางการแพทย์ดูไบ ผมคิดว่าเราทำได้…”

มันเป็นเสียงของหลานหนี

ไม่แปลกใจที่พี่ชายคนโตบอกว่าสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของฮั่วกรุ๊ปจะถูกดักฟังโดยตรง ดังนั้นจึงเปลี่ยนมาใช้หมายเลขที่ไม่คุ้นเคย

น่าจะเป็นคำสั่งของฮั่วจิ้นเฉิง

“คิดว่าคงไม่มีอะไรต้องพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วล่ะค่ะ ส่วนแบ่งการระดมทุนของฮั่วกรุ๊ปนั้นไม่ได้มาตรฐาน ดิฉันคิดว่าเลขาคนก่อนน่าจะสื่อสารกับคุณแล้ว” หลีเกอเป็นคนทำธุรกิจและบอกความจริง

ฮั่วจิ้นเฉิงคิดว่าฮั่วกรุ๊ปมีคุณสมบัติเหมาะสม แต่นั่นเป็นเพราะเธอแค่พูดสิ่งดี ๆ ต่อหน้าพี่ชายคนโตของเธอเท่านั้น

“เลขาหลี?”

น้ำเสียงทึ่งของหลานหนีดังมาจากอีกด้านของสาย

เนื่องจากร่วมงานกับหลีเกอมาเป็นเวลานาน เขาจึงจำเสียงของหลีเกอได้ทันที

หลีเกอไม่ปฏิเสธหรือยอมรับ “ฉันยุ่งมาก เพราะงั้นคงต้องวางสายแล้ว”

หลังจากวางสายแล้วเธอก็ถอนหายใจ

เธอแน่ใจว่าตอนนี้หลานหนีอยู่ในห้องทำงานของฮั่วจิ้นเฉิง โดยโทรมาหาเธอต่อหน้าเขา

ท่าทางของชายคนนั้นในตอนนี้ต้องวิเศษมากแน่ ๆ

ในห้องทำงานของประธานฮั่วกรุ๊ป หลานหนียื่นโทรศัพท์มือถือที่ถูกตัดสายไปแล้วส่งให้กับฮั่วจิ้นเฉิงด้วยความเหลือเชื่อ “ประธานฮั่ว ผู้ช่วยคนใหม่ของตี้เซิ่งฟังดูเหมือนจะเป็นเลขาหลี เธอ...ได้ยังไงกัน…?”

สีหน้าของฮั่วจิ้นเฉิงเคร่งขรึม เขาไม่ได้หูหนวก ดังนั้นเขาจึงได้ยินเสียงของหลีเกอเช่นกัน

เมื่อครู่ หลานหนีเพิ่งรายงานว่าไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่ของหลีเกอในประเทศ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ภูมิหลังทั้งหมดที่หลีเกอเคยลงทะเบียนไว้นั้นเป็นข้อมูลที่ถูกปลอมขึ้น!

ผู้หญิงคนนี้โกหกตระกูลฮั่วมาสามปีแล้ว!

“ประธานฮั่ว ในนิทรรศการครั้งนี้ ฮั่วกรุ๊ปยัง...”

หลานหนีไม่แน่ใจกับสีหน้าเศร้าหมองของชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าเขาควรจะอยู่หรือไป

“โทรหาเธอต่อไป”

ฮั่วจิ้นเฉิงเม้มปากและพูดสองสามคำ

หลานหนีพูดไม่ออก “...”

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status