จางหยวนไม่ได้สนใจว่าทุกคนจะคิดอย่างไรเขาจ้องมองไปที่หลิวเค่ออย่างเย็นชา ทันใดนั้นก็เดินจ้ำอ้าวไปทางหลิวเค่อหลิวเค่อตกใจมากจนขนลุกชูชันไปทั้งตัว แล้วก้าวถอยหลังครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความหวาดกลัว เขาบังเอิญไปเหยียบก้อนหินก้อนหนึ่งเข้า ทำให้ลื่นจนข้อเท้าแพลง แล้วล้มลงกับพื้นในเวลานี้ จางหยวนได้มาถึงที่ตรงหน้าหลิวเค่อแล้วพอมองไปที่จางหยวนที่อยู่ตรงหน้า น้ำเสียงที่น่ากลัวของหลิวเค่อก็เปลี่ยนไป“จางหยวน นาย...นายจะทำอะไร?”พลังมหาศาลที่จางหยวนแสดงให้เห็นเมื่อสักครู่นี้ ทำให้หลิวเค่อหวาดกลัวจริง ๆ เพราะมันเป็นเหมือนสัตว์ร้ายในคราบคน!เขากลัวจริง ๆ ว่าจางหยวนจะโยนเขาออกไปสองสามเมตรเหมือนขยะ อย่างที่เขาทำกับคนทั้งสองคนก่อนหน้านี้ไม่ได้ยินสองคนนั้นกำลังโอดครวญอยู่เหรอ?จางหยวนเม้มริมฝีปาก แล้วยิ้มอย่างเย็นชา: "ฉันจะทำอะไร? ฉันควรจะถามว่านายจะทำอะไรมากกว่า! พ่อของฉันเป็นอาจารย์ของนาย นายมาก่อปัญหาที่ประตูบ้านของอาจารย์ ช่างเป็นศิษย์ล้างครูจริง ๆ !"“แกบอกมาสิว่า คนที่เป็นศิษย์ล้างครู ควรจะลงโทษยังไง? เขาควรจะตบหน้าตนเองดีไหม?”เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยวน หลิวเค่อก็เข้าใจได้ในทันท
ในเวลานี้ จางต้าซานก็นั่งตัวตรง แล้วพูดอย่างเด็ดขาดว่า“หลิวเค่อ มีเรื่องอะไรก็ให้มาลงที่ฉัน เป็นฉันที่ยืมเงินนาย ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกหยวนของฉัน”“ใช่แล้ว เงินที่พวกเราเป็นหนี้นายแม้ว่าต้องขายที่ดินขายเลือด ก็ต้องหามาคืนนายภายในเวลาที่ตกลงกันไว้ให้ได้ มันไม่เกี่ยวอะไรกับลูกหยวนของฉันเลย อย่าทำให้ลูกหยวนของพวกเราต้องลำบากใจ” หวังฮุ่ยกล่าว พร้อมเดินออกมาข้างหน้าเมื่อเห็นจางต้าซานและหวังฮุ่ยแสดงตัวออกมา หลิวเค่อก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยในฐานะที่เคยเป็นลูกศิษย์ของจางต้าซาน หลิวเค่อมีปฏิสัมพันธ์กับจางต้าซานมาไม่น้อยเป็นเพราะปฏิสัมพันธ์กันมามาก ทำให้หลิวเค่อรู้จักนิสัยของจางต้าซานและหวังฮุ่ยเป็นอย่างดีจางต้าซานเป็นคนเรียบง่ายขยันขันแข็ง แต่มีนิสัยที่อ่อนแอ และเป็นชายชราที่มีน้ำใจต่อผู้อื่นมาโดยตลอดแม้ว่าหวังฮุ่ยจะเป็นคนที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แข็งแกร่งไปมากกว่านี้ส่งผลให้ สองคนนี้ แข็งกร้าวขึ้นมาในเวลานี้แม้ว่าจะเพื่อลูกชายของพวกเขาจางหยวน แต่ก็ทำให้คนประหลาดใจพอสมควรในเวลานี้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ต่างก็พากันก็มองดูจางต้าซานและภรรยา ด้วยสายตาที่แปลกประห
“ตรวจสอบเสร็จแล้วใช่ไหม? เร็วเข้า! นำใบยืมหนี้ออกมา แล้วกินมันซะ!” จางหยวนเร่งเร้าหลิวเค่อบรรดาชาวบ้านที่เฝ้าดูอยู่บริเวณรอบ ๆ ที่ไม่กลัวว่าจะมีผลดีผลเสียอะไร ก็เริ่มตะโกนขึ้นมาทีละคน“ใช่แล้ว! ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ ก่อหน้านี้นายบอกเองว่าจะกินใบยืมหนี้!”“รีบเอาใบยืมหนี้ออกมาสิ! พวกเราทุกคนล้วนเป็นพยาน! นายจะมาทำเป็นเฉไฉไม่ได้นะ!”“กินเร็วเข้า! ไม่เช่นนั้น ถ้าจางหยวนโกรธขึ้นมา เดี๋ยวจะต้องตบหน้าตนเองอีกครั้งนะ!”"........"เมื่อได้ยินชาวบ้านพากันเอะอะโวยวาย หลิวเค่ออยากจะสก็อตเทปปิดปากชาวบ้านที่อยู่บริเวณรอบ ๆ จริง ๆแต่เหล่าชาวบ้านยังเตือนหลิวเค่อเรื่องหนึ่งนั่นก็คือถ้าเขาไม่ยอมกินใบยืมเงิน จางหยวนคงจะให้เขาตบหน้าตนเองอีกครั้งแน่!ดูเหมือนจางหยวนจะอ่านความคิดของหลิวเค่อออก จึงหัวเราะขึ้นมาทันที“ ไม่ต้องห่วง คราวนี้ฉันจะไม่ให้นายตบหน้าตนเองอีกครั้ง!”หลิวเค่อรู้สึกโล่งใจเมื่อได้ยินดังนี้ และยังรู้สึกประหลาดใจที่ได้รับความเมตตาอย่างไม่คาดฝันเป็นไปได้ไหมว่าจางหยวนเกิดใจดีขึ้นมา จึงไม่คิดที่จะทรมานเขาอีกต่อไป?หลังจากนั้น ใบหน้าของจางหยวนยังคงมีรอยยิ้มอยู่ แต่สิ่งที่เขาพู
คนสามสี่คนที่มาด้วยกันกับเขาต่างก็มองหน้ากัน และอดไม่ได้ที่จะส่ายหัวพวกเขารู้สึกเสียใจที่มากับหลิวเค่อ!ไม่เพียงถูกทุบตีอย่างรุนแรง แต่ยังต้องมาเห็นเหตุการณ์ที่น่าขยะแขยงเช่นนี้อีกในขณะเดียวกัน หลังจากที่หลิวเค่อและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว สายตาของชาวบ้านก็จัลจ้องไปที่จางหยวน“อาหยวน ยินดีด้วย ที่หลับมาเป็นปกติแล้ว!”“อาหยวน หายดีตั้งแต่เมื่อไหร่?”“ไม่เห็นบอกฉันบ้างเลย! วันหน้าฉันจะเสิร์ฟเหล้าเพื่อเฉลิมฉลองกับนาย!”“เฒ่าจาง อาหยวนลูกชายของนายไม่โง่อีกต่อไปแล้ว แถมยังมีความสามารถมากด้วย! จากนี้ไปนายไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครเลี้ยงดูตอนแก่แล้ว!”“พี่หวัง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมไม่บอกฉันเลย! ยินดีกับพวกพี่ด้วยนะ ในที่สุดเรื่องเลวร้ายก็สิ้นสุดลงแล้ว!”"........"ทุกคนต่างก็พากันแสดงความยินดี ด้วยท่าทีที่กระตือรือร้นมากขึ้นกว่าเดิมนี่เป็นเพราะพวกเขาได้เห็นพลังอันมหาศาลของจางหยวนเมื่อสักครู่นี้!ในพื้นที่ชนบท คนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สามารถทำให้ทุกคนในหมู่บ้านปฏิบัติต่อพวกเขาไม่เหมือนกันอื่นการที่มีพลังเต็มเปี่ยมหมายความว่าไม่ต้องกังวลเรื่องงานเกษตรของที่บ้าน และไม่มีใครกล้ารังแก!
“พี่จาง ลูกหยวนโตแล้วจริง ๆ !”หลังจากที่จางหยวนออกไป หวังฮุ่ยก็กล่าวด้วยใบหน้าที่ตื้นตันใจกับจางต้าซานหางตาของจางต้าซานมีน้ำตาไหลออกมา: "ใช่แล้ว! น้องหวัง น้องพูดถูกแล้ว! ลูกของเราโตแล้วจริง ๆ !"เรื่องที่จางหยวนกลับมาเป็นปกติ แถมยังแสดงความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนคนอื่นออกมา รวมถึงเรื่องที่เขาสั่งสอนหลิวเค่อและคนอื่น ๆ ที่มาทวงนี้ถึงบ้าน ได้แพร่กระจายไปในหมู่บ้านอย่างรวดเร็วชาวบ้านต่างก็พากันรู้สึกประหลาดใจ แล้วแอบกำชับลูกบ้านตนว่า อย่าไปมีเรื่องตบตีกับจางหยวนเด็ดขาดจางหยวนมีพลังมากมาย จนสามารถโยนผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ลอยออกไปได้หลายเมตรถ้าต่อสู้กับเขา ก็เท่ากับว่าหาเรื่องใส่ตัว!ในอีกสองวันต่อมา ขณะที่จางหยวนได้ทำการฝังเข็มให้กับจางต้าซานทุกวันแล้ว เขาก็ยังขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บสมุนไพรเป็นครั้งคราวอีกด้วยแต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อยก็คือ สองวันนี้เขาไม่ได้กลิ่นสมุนไพรอันล้ำค่าเลยจางหยวนก็เข้าใจดีว่าสมุนไพรยาหายากเช่นโสมป่านั้น ไม่ได้หาเจอได้ง่าย ๆภูเขาด้านหลังใหญ่มาก โอกาสที่จะเจอโสมป่าสักต้นมีน้อยมากเกินไปแต่เขาเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า ถ้าตนเองขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภู
จางหยวนกล่าวปลอบใจ: "แม่ครับ ไม่เป็นไร! ผมเคยเรียนวิธีการรักษาโรคให้สัตว์ บางทีผมอาจจะรักษาไก่พวกนี้ได้!"“จริงเหรอ? ลูกหยวนไปเรียนกับครมาเหรอ?” หวังฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจางหยวนรักษาโรคให้จางต้าซานก่อนหน้านี้ ก็ทำให้พวกเขาทั้งสองประหลาดใจแล้วคิดไม่ถึงว่าจางหยวนยังรู้วิธีรักษาสัตว์จริงๆ!จางหยวนไอสองครั้ง: "คือว่า ตอนที่ผมทำงานอยู่ต่างเมือง ได้เรียนรู้สิ่งนี้จากผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่ง! ผู้เชี่ยวชาญคนนั้นเก่งมาก!"พอได้ยินจางหยวนพูดเช่นนี้ หวังฮุ่ยก็ไม่ได้ซักถามต่อไปหลังจากเดินไปรอบ ๆ ลานบ้านแล้ว จางหยวนก็อุ้มไก่ตัวหนึ่งขึ้นมา แล้วคลี่ตาไก่ออกเบา ๆ เพื่อดูอาการจากนั้นก็เปิดจะงอยปากของไก่ แล้วตรวจดูลิ้นของมันหวังฮุ่ยที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะมีสีหน้าที่ประหลาดใจโดยปกติแล้วไก่พเนจรเหล่านี้ จะไม่เชื่อฟังขนาดนี้!แม้แต่เธอซึ่งเป็นเจ้าของที่ให้อาหารทุกวัน ก็ไม่สามารถทำให้ไก่เชื่อฟัง เหมือนอย่างที่จางหยวนทำได้ตอนนี้หวังฮุ่ยเชื่อแล้วว่าจางหยวนต้องเคยเรียนรู้วิธีการรักษาสัตว์มาอย่างแน่นอนไม่อย่างนั้นตอนที่ไก่อยู่ในอ้อมแขนเขาคงจะไม่เชื่องขนาดนี้!หลังจากการตรวจสอบแล้ว จ
หลังทานอาหารเสร็จแล้ว จางหยวนกับหวังฮุ่ยก็แยกทางกันจางหยวนแบกตะกร้าสะพายหลังขึ้นไปบนภูเขาที่ยู่ด้านหลัง ไปเก็บสมุนไพรที่จำเป็น เช่น ใบไอ้ และหวงเหลียนบนภูเขามีใบไอ้เป็นจำนวนมากจางหยวนเด็ดใส่เต็มตะกร้า เตรียมนำกลับไปตากแดดเพื่อใช้ในภายหลังในชีวิตประจำวันใบไอ้มีประโยชน์เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่ใช้ฆ่าเชื้อโรคในอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยไล่สามารถไล่แมลงไล่ยุงได้อีกด้วยการแช่เท้าด้วยใบไอ้ ยังช่วยเปิดเส้นลมปราณของขา และขับลมเย็นได้อีกด้วยโดยเฉพาะคนไข้ที่เป็นอัมพาตขาอย่างพ่อของเขาจางต้าซาน ก็สามารถใช้ใบไอ้แช่เท้า เพื่อช่วยฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บที่ขาได้ตอนเที่ยง จางหยวนก็แบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยสมุนไพรกลับบ้านเวลานี้หวังฮุ่ยก็กลับมาแล้วเช่นกันเธอซื้อสมุนไพรเหล่านั้นที่จางหยวนกล่าวถึงกลับมาหมดแล้ว แถมยังตั้งใจซื้อในปริมาณที่เยอะกว่าสามเท่าแต่มีบางอย่างที่จางหยวนไม่รู้ อันที่จริงหวังฮุ่ยยังแอบซื้อยารักษากาฬโรคไก่จากในเมืองด้วยเธอกังวลว่าจางหยวนจะถูกหลอก ใบสั่งยาที่เขียนออกมาจะใช้ไม่ได้ผลเลยคิดเตรียมยารักษากาฬโรคไก่ไว้ล่วงหน้า เผื่อใช้ในตอนฉุกเฉินหลังจากเตรียมสมุนไพรทั้งหมดแล้
จางต้าซานชื่นชมจางหยวนเป็นอย่างมากแถมยังกล่าวอีกว่าเมื่อไก่พเนจรโตขึ้น จะให้หวังฮุ่ยผัดไก่ให้จางหยวนกินแม้ว่าอาการของไก่พเนจรจะดีขึ้นมากก็ตามแต่จางหยวนยังคงไม่ผ่อนคลาย ยังให้หวังฮุ่ยป้อนยาไก่ให้ตรงเวลาเหมือนเดิมในขณะเดียวกัน จางหยวนยังใช้ไฟจุดใบไอ้ รมควันทั้งลานหลังบ้านและแม้แต่ลานหน้าบ้านด้วยไม่นาน ทั้งในลานบ้าน ก็เต็มไปด้วยกลิ่นควันของใบไอ้แต่กลิ่นนี้ไม่ได้แรงมากนัก แต่มันกลับมีกลิ่นหอมอ่อน ๆก่อนเข้านอนตอนกลางคืน จู่ ๆ จางหยวนก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมากาฬโรคไก่สามารถติดต่อได้ตลอดเวลาไก่ที่เลี้ยงแบบครัวเรือนมักประสบปัญหากาฬโรคไก่ไก่เพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณรอบ ๆ หรือแม้แต่ไก่ของคนในหมู่บ้าน ก็จะต้องติดเชื้อกาฬโรคไก่ด้วย!เพื่อทดสอบแนวคิดนี้ ในเช้าวันรุ่งขึ้น จางหยวนจึงคิดที่จะไปดูที่บ้านของหลี่ชิวจวี๋ได้ยินมาว่าหลี่ชิวจวี๋กลับบ้านเกิดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อวานเพิ่งจะกลับมา ตอนนี้น่าจะอยู่ที่บ้านแล้วแถมบ้านของหลี่ชิวจวี๋ก็เลี้ยงไก่ด้วย แต่มีจำนวนไม่เยอะ ก็แค่สี่ห้าตัวเท่านั้นเมื่อมาถึงประตูบ้านของหลี่ชิวจวี๋ จางหยวนก็เคาะประตู“พี่สะใภ้ชิวจวี๋ ผมเอง จางหย