All Chapters of ย้อนรักทวงแค้น: Chapter 71 - Chapter 80
424 Chapters
บทที่ 71
นางเคยเห็นคนผู้นี้ในความทรงจำอันเลือนรางของนางองครักษ์เงาลำดับสิบเจ็ดที่เสียชีวิตเพราะปกป้องเย่เสวียนถิงจากลูกธนูลอบสังหารเมื่อนานมาแล้วเขาเป็นหนึ่งในหน่วยองครักษ์ที่ภักดีต่อเย่เสวียนถิงตลอดมาซูชิงอู่ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ ม่านหมอกแห่งความทรงจำเจ็ดปีก็สูญสลายหายไป ทันใดนั้นดวงตาของนางก็เฉียบคมทันทีเนื่องจากการลอบสังหารครั้งนั้นจะเกิดขึ้นในสามวันต่อจากนี้ ระหว่างการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงของวันที่ ยี่สิบเจ็ดเดือนสิบนางไม่ได้ติดตามเขาไปในชีวิตครั้งก่อน แต่เพียงได้รู้เรื่องราวเหล่านี้จากขุนนางบางคน เมื่อเย่เสวียนถิงกลับมาหลังจากที่เย่เสวียนถิงกลับมาจากการล่าสัตว์ เขาก็ขังตัวเองอยู่ในห้องเป็นเวลาถึงครึ่งเดือนในเวลานั้น ซูชิงอู่ต้องการให้เย่เสวียนถิงจากไปไกล ๆ จึงไม่ได้แยแสความรู้สึกของเขาในขณะนั้นเลย ไม่นานหลังจากนั้นนางจึงได้รู้เรื่องการตายขององครักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดเมื่อมองย้อนกลับไปจากตอนนี้แล้ว ก็รู้สึกใจสั่นในทันทีทันใดนั้น ซูชิงอู่ก็มองไปที่เย่เสวียนถิง "อีกสามวันข้างหน้า ฮ่องเต้จะออกล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงใช่หรือไม่?"เย่เสวียนถิงผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นหรี่ตาลงแล้วพ
Read more
บทที่ 72
จู่ ๆ เย่เสวียนถิงก็รู้สึกถึงกระแสอันอบอุ่นที่พลุ่งพล่านภายในใจของเขาทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าทุกสิ่งที่เขาทำมาตลอด ตอนนี้คุ้มค่าแล้วเขาลดสายตาลง "โชคดีที่ข้าจับพวกมันได้ทั้งหมด"องครักษ์เงาดึงผ้าคลุมศีรษะของหัวหน้าโจรออกจากนั้นเขาก็กดดาบยาวในมือไว้ที่ลำคอของชายผู้นั้น“บอกข้ามาตามตรง ใครสั่งให้เจ้าทำร้ายบุตรสาวของอัครเสนาบดีซู?”ชายผู้นั้นตกใจกลัว น้ำเสียงของเขาสั่นเครือ "ข้า... ข้าไม่รู้ มีคนมอบถุงเงินให้ข้า แล้วบอกว่าให้รอที่สี่แยกแล้วจับสตรีผู้งดงามนางนั้นไป ข้าไม่รู้อะไรเลย และก็ไม่ได้ทำอะไรนางด้วย นางวิ่งหนีหายไปเอง...”“คนที่ให้เงินเจ้าเป็นบุรุษหรือสตรี แก่หรืออายุน้อย? มีรอยตำหนิบนร่างกายเป็นพิเศษหรือไม่?”หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยความตื่นตระหนกว่า "น่าจะเป็น... เสียงของหญิงสาว นางสวมหมวกคลุมใบหน้าและไม่สูงเท่าไรนัก หากท่านพาสตรีนางนั้นเข้ามา แล้วข้าได้ยินเสียงนาง ข้าอาจบอกท่านได้ว่าเป็นนางหรือไม่!”เขาพยายามทำให้ตัวมีประโยชน์มากที่สุดองค์รักษ์เงาลำดับที่สิบเจ็ดเหลือบมองไปข้างหลัง ก่อนมองไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่น ๆ คนเหล่านั้นจัดการกลุ่มโจรที่เห
Read more
บทที่ 73
ซูชิงอู่ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย อย่างมีแผนอยู่ในใจแล้วทันใดนั้นนางก็เลิกม่านขึ้นอีก ส่งยิ้มให้เย่เสวียนถิงซึ่งอยู่ข้างนอกรถม้าได้หยุดลงแล้ว ทุกคนลงจากรถอย่างเป็นระเบียบและเข้าสู่พื้นที่ล่าสัตว์ประจำฤดูใบไม้ร่วงทันทีซูชิงอู่กระดิกนิ้วเรียกให้เย่เสวียนถิงเข้าใกล้นางมากยิ่งขึ้น“ท่านอ๋อง ข้าเองก็อยากล่าสัตว์เหมือนกัน ท่านช่วยพาข้าไปสำรวจป่าแห่งนี้สักพักได้หรือไม่?”เย่เสวียนถิงไม่คาดคิดว่าซูชิงอู่จะร้องขอเช่นนี้เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกว่าความสามารถของเขานั้นมากพอที่จะปกป้องซูชิงอู่ได้ยิ่งไปกว่านั้น สัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่ในภูเขาอวิ๋นหลานก็ถูกไล่ออกไปนานแล้ว ตราบใดที่พวกเขาไม่เข้าไปในส่วนลึกของป่าจนเกินไป ก็จะไม่มีอันตรายใดเกิดขึ้น"ตกลง"ซูชิงอู่ยื่นมือออกมาตรง ๆ แล้วพูดว่า "ข้าอยากขี่ม้า”เมื่อมองดูฝ่ามือที่อ่อนนุ่มขาวสะอาดของนาง ผิวบาง ๆ ด้านนอกก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยเส้นเลือดสีฟ้า และปลายนิ้วของนางเจือไปด้วยผงแป้งบาง ๆนางคือซูชิงอู่ สตรีผู้เพียบพร้อมจากตระกูลร่ำรวย เรียวนิ้วของนางไม่เคยได้สัมผัสกับความลำบากนิ้วมือแสนงดงาม ปราศจากผิวหนังที่ด้านหนา เป็นความงามอันเปราะบางที่
Read more
บทที่ 74
ด้วยวัยเพียงยี่สิบสองปี เขากลับเป็นผู้ใหญ่และสุขุมมาก ด้วยใบหน้าที่หล่อเหลาแต่จริงจัง รวมทั้งคำพูดและรอยยิ้ม อีกทั้งรูปร่างหน้าตายังคล้ายคลึงกับฮ่องเต้มากเสียด้วย ขุนนางหลายคนบอกว่าเขาเป็นแบบจำลองของฮ่องเต้เมื่อครั้นยังทรงพระเยาว์ ชวนให้นึกถึงรูปลักษณ์ในอดีตของเขาและแม้แต่ความชอบบางอย่างของเขาก็ยังคล้ายกันกับฮ่องเต้ เช่นนั้นเขาจึงได้รับความโปรดปรานและชื่นชอบจากฮ่องเต้เป็นพิเศษเขายังเป็นคู่แข่งที่ทรงพลังที่สุดของเย่อวิ๋นถูในการเข้าครอบครองบัลลังก์อีกด้วยฮ่องเต้มองไปทางซ้ายและขวา และอดไม่ได้ที่จะถามว่า "เย่เสวียนถิงอยู่ที่ไหน?"ในที่สุด เย่อวิ๋นถูก็คว้าโอกาสนี้ไว้ เขาจงใจสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับเย่เสวียนถิงเขาเย้ยหยัน และพูดด้วยความเคารพว่า "เมื่อครู่ ลูกเห็นพี่รองกำลังพาพระชายาเสวียนไปจับผีเสื้อที่เดียวกัน เขาหลงสตรีจนลืมแวะมาทักทายเสด็จพ่อ ช่างอกตัญญูจริง ๆ!"ซูเฟยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเมื่อได้ยินคำพูดถากถางของเย่อวิ๋นถู ใบหน้าของนางซีดลง ก่อนจะอธิบายถึงเย่เสวียนถิงในแง่ดีทันที "ฮ่องเต้ โปรดอย่ากริ้วไปเลย อาจเป็นได้ว่าชายาเสวียนอยากเที่ยวชมดอกไม้ เช่นนั้นในฐานะสามีเขา
Read more
บทที่ 75
ท่าทีของฮ่องเต้ที่มีต่อซูชิงอูอ่อนลงมาก“เจ้าปากหวานขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ถึงกระนั้น เจ้าก็ไม่ควรทำอะไรที่อาจส่งผลกระทบต่อหน้าที่ของอ๋องเสวียน” ซูชิงอู่ก้มศีรษะลงแล้วพูดว่า "หน้าที่ของท่านอ๋องในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อปกป้องเสด็จพ่อหรือเพคะ? ชิงอู่รู้ทักษะทางการแพทย์และบังเอิญไปเห็นสิ่งดี ๆ บนภูเขาลูกนี้ หม่อมฉันจึงขอให้ท่านอ๋องไปกับหม่อมฉันเพื่อเก็บรวบรวมสิ่งเหล่านี้มาถวายให้แก่เสด็จพ่อเพคะ”ฮ่องเต้หัวเราะเบา ๆ "เจ้ามีทักษะทางการแพทย์ด้วยหรือ?"เขาปิดริมฝีปากและไอ พยายามทำให้สีหน้าของตนดูเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ทำร้ายจิตใจของซูชิงอู่มากเกินไปใครบ้างจะไม่รู้ว่าฟางอี๋ซิน แม่ของซูชิงอู่เป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ และมีผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้รับผลประโยชน์จากนาง แต่ซูชิงอู่ไม่ได้ศึกษาตำราแพทย์เหล่านั้นมาหลายปีแล้วซูชิงอู่ไม่พอใจเล็กน้อย นางพูดขึ้นว่า "เสด็จพ่อ ดูดอกไม้นี้สิเพคะ มันมีชื่อว่าจื่อชุนหลาน กลิ่นของมันสามารถไล่ยุงได้ ตราบใดที่เสด็จพ่อวางมันไว้ข้างกาย ฝ่าบาทและเหล่าพระชายาจะไม่ถูกยุงและแมลงชนิดอื่น ๆ รบกวน"คำพูดเหล่านี้กระตุ้นความสนใจของฮ่อง
Read more
บทที่ 76
เย่อวิ๋นถูพลันทอดสายตามองมาที่ขาของเย่เสวียนถิง รอยยิ้มเยาะผุดขึ้นตรงมุมปาก จากนั้นเขาก็ประสานมือพลางกล่าวว่า "เสด็จพ่อ หาได้ยากนักที่พวกกระหม่อมสามพี่น้องจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ไฉนมิให้พวกกระหม่อมสำแดงทักษะการขี่ม้ายิงธนูให้พระองค์ดูเล่าพ่ะย่ะค่ะ?" ฮ่องเต้ชราพยักหน้าเบา ๆ "ยามนี้ก็สายไม่น้อยแล้ว เช่นนั้นก็ให้ข้าได้เห็นความสามารถของพวกเจ้าสามพี่น้องสักหน่อยเถิด เผื่อจะได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่อนุชนในเมืองหลวง" เย่อวิ๋นถูเหลือบมองเย่เสวียนถิงด้วยสายตายั่วยุ นับตั้งแต่ขาของเย่เสวียนถิงได้รับบาดเจ็บ เขาก็แทบจะมิได้ขี่ม้ายิงธนูและแทบจะมิได้มาที่ลานฝึกเสียด้วยซ้ำไป การที่เขาต้องเดินโขยกเขยกช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายยิ่งนัก วันนี้เขาจะให้ทุกคนในเมืองหลวงได้เห็นสภาพน่าสมเพชของเทพสงครามผู้นี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ยกย่องของขุนนางบุ๋นและบู๊ เย่เสวียนถิงยังคงนิ่งเงียบ ยามที่เขาเดินเหิน เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ายังขยับขาและเท้าได้ลำบาก เนื่องจากขายังคงเจ็บอยู่ เขายังคงสีหน้าไร้อารมณ์และมิได้ใส่ใจสายตาของผู้อื่น จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นเพื่อส่งสัญญาณให้คนของตนจูงม้าเข้ามา เย่ชิวหมิงมิยอม
Read more
บทที่ 77
ซูชิงอู่ที่เฝ้ามองดูการแข่งขันครั้งนี้อยู่ตลอดพลันสีหน้าแปรเปลี่ยน นางวิ่งออกมาโดยมิได้ลังเลใจแต่อย่างใด นางมิได้ว่องไวนัก ทว่ากลับมีสีหน้าเป็นกังวล อาชาที่อยู่ใต้อานของเย่เสวียนถิงพุ่งทะยานไปทิศทางเดียวราวกับคลุ้มคลั่งเสียแล้ว ท่าทางคลุ้มคลั่งของมันประดุจดั่งจะเหวี่ยงคนขี่ให้ร่วงลงมาได้ทุกเมื่อ! เย่เสวียนถิงคลายมือออก จากนั้นปล่อยเกาทัณฑ์และคันธนูที่เบนออกจากตำแหน่งก่อนหน้านี้ ทว่ายามนี้หามีผู้ใดสนใจว่าเกาทัณฑ์จะเข้าเป้าหรือไม่ เย่เสวียนถิงใช้มือทั้งสองข้างกำสายบังเหียนเอาไว้แน่น แล้วโน้มตัวไปข้างหน้าแนบหลังอาชาเพื่อลดแรงต้านทานลม แต่อาชาไร้สติโดยสิ้นเชิงแล้ววิ่งตรงไปสุดลานฝึก ราวกับว่ากำลังจะชนเข้ากับกำแพง เย่เสวียนถิงออกแรงแขนเพื่อบังคับอาชาให้ยกกีบเท้าหน้าขึ้น เมื่ออาชาเสียหลักก็ล้มลงกับพื้นอย่างแรงพร้อมกับเย่เสวียนถิง ทุกคนต่างเบิกตามองด้วยความตกตะลึง ในขณะเดียวกันเย่อวิ๋นถูกับเย่ชิวหมิงที่หยุดอาชาอยู่กับที่ ต่างก็มองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา ระหว่างที่เย่อวิ๋นถูชมดูการแสดงก็ยิ้มเยาะออกมา "ม้าตัวนี้คลุ้มคลั่งไปเสียแล้ว ถ้าเป็นเย่เสวียนถิงเมื่อคร
Read more
บทที่ 78
เย่อวิ๋นถูรู้สึกตื่นตกใจกับการเคลื่อนไหวอันกะทันหันของอาชาจึงคว้าสายบังเหียนเอาไว้โดยมิรู้ตัว จากนั้นทุกคนก็เห็นว่าองค์ชายอีกสองพระองค์ก็กำลังห้อตะบึงอยู่บนลานฝึกอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเช่นกัน ซูชิงอู่ทำหน้าตาสับสนงุนงงแล้วยืนนิ่งงันด้วยสีหน้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอันใด ราวกับว่านางรู้สึกหวาดกลัวเสียจนพูดไม่ออก เหล่าราชองครักษ์ต่างรีบวิ่งเข้ามาด้วยหมายจะช่วยเหลือองค์ชายทั้งสองพระองค์ที่รู้สึกตื่นตระหนกบนหลังอาชาให้พ้นภัย แต่ความเร็วของอาชาทั่วไปจะเทียบกับอาชาเหงื่อโลหิตได้อย่างไรกันเล่า ทั้งยังเป็นอาชาเหงื่อโลหิตที่คลุ้มคลั่งอีกต่างหาก! เหตุการณ์กลับโกลาหลไปสักพัก อาชาของเย่ชิวหมิงกับเย่อวิ๋นถูกำลังห้อตะบึงมาข้างหน้า โดยมีคนกลุ่มหนึ่งไล่ตามหลังมา แววขบขันวูบผ่านดวงตาของซูชิงอู่ ทว่านางกลับปกปิดเอาไว้โดยมิได้เผยเค้าเงื่อนใด ๆ ออกมาทางสีหน้า เมื่อนางตบมือ ภายในฝ่ามือที่แลดูสะอาดสะอ้านก็มีผงจาง ๆ ร่วงหล่นสู่พื้น เล่นงานคนของนางหรือ? นางจะให้พวกเขาได้ลิ้มรสความสนุกสนานเป็นสองเท่าเลยเชียวล่ะ! เมื่อเย่เสวียนถิงเห็นภาพเหตุการณ์ฉากนี้ เขาก็แววตาเป็นประกาย เขาพลันรู้สึกว่าคนเองมิ
Read more
บทที่ 79
ถึงแม้ว่าซูชิงอู่จะไม่รู้จักบ่าวรับใช้ผู้นี้ แต่นางบอกได้จากสีหน้าของเย่เสวียนถิงว่าอีกฝ่ายต้องเป็นคนของเขาอย่างแน่นอน การถูกพาตัวมาอยู่ตรงหน้าฮ่องเต้ในยามนี้ย่อมมิใช่เรื่องดี แน่นอนว่าราชองครักษ์ที่พาตัวมาย่อมต้องถีบบ่าวรับใช้ผู้นี้ เพื่อให้อีกฝ่ายคุกเข่าลงกับพื้น ราชองครักษ์รีบคำนับฮ่องเต้พลางกล่าวว่า "ฝ่าบาท หมอหลวงซุนเพิ่งจะตรวจดูม้าพวกนั้นและพบว่าเป็นเพราะพวกมันกินสมุนไพรสองชนิดผสมกันจึงทำให้พวกมันเกิดคลุ้มคลั่งขึ้นมา มิหนำซ้ำยังพบโอสถชนิดนั้นในตัวคนผู้นี้อีกต่างหาก! " มีคนคว้าเอาห่อยาไปจากมือของบ่าวรับใช้ผู้นั้นแล้วมอบให้แก่ฮ่องเต้ด้วยท่าทีเคารพนอบน้อม ขันทีพลันรับมาแล้วเอาให้ฮ่องเต้ดู ฮ่องเต้ชราพลันสีหน้าหม่นคล้ำขึ้นมาทันที "คนผู้นี้เป็นคนของผู้ใดกัน?" "ทูลฝ่าบาท คนผู้นี้เป็นบ่าวรับใช้ของจวนอ๋องเสวียนพ่ะย่ะค่ะ" ฮ่องเต้ชราขมวดคิ้วเล็กน้อย ฮองเฮาที่อยู่ข้างพระวรกายพลันลุกขึ้นทันที พระนางหน้าตาซีดขาวและน้ำเสียงสั่นเครือ "ฝ่าบาท พระองค์ได้ยินหรือไม่เพคะ? อ๋องเสวียนต้องสั่งให้เขาใส่โอสถชนิดนี้ลงไปเป็นแน่ เขาเป็นบ่าวรับใช้และต่อให้เขาใจกล้าสักเพียงใด ก็คงมิกล้าลง
Read more
บทที่ 80
เจตนาสังหารแผ่ลามไปทั่วทั้งจิตใจของนางพลางเอ่ยขึ้นต่อหน้าเย่เสวียนถิง "เสด็จพ่อ ความจริงยังมิเปิดเผย พระองค์จะกล่าวหาท่านอ๋องโดยไม่เป็นธรรมได้อย่างไรเพคะ?" ฮองเฮาจึงตำหนินางด้วยพระสุรเสียงเย็นชาขึ้นมาว่า "เจ้าหามีสิทธิ์มาสอดปากพูดที่นี่ จงหุบปากไปซะ!" ซูชิงอู่รู้สึกอึดอัดใจเพราะคำตำหนิ ขณะที่นางกำลังจะตอบโต้อยู่นั้น เย่เสวียนถิงก็คว้าข้อมือของนางเอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นแล้วสายตาเย็นชาของเขาก็ทอดมองมาที่ฮองเฮา "อาอู่เป็นพระชายาของกระหม่อม ไยนางจึงหามีสิทธิ์เอ่ยวาจาที่นี่เล่าพ่ะย่ะค่ะ?" เมื่อฮองเฮาได้ยินเย่เสวียนถิงกล้าโต้แย้งพระนางต่อหน้าธารกำนัล พระนางก็พลันรู้สึกอับอายขายหน้าขึ้นมาทันที พระนางก็เอ่ยเสียงเคร่งขึ้นมาว่า "นางก็แค่เจ้าสาวที่เพิ่งจะแต่งเข้ามา หลังจากกลายเป็นพระชายาแล้วก็คิดจะแหกกฎหรือ? ยิ่งมิต้องเอ่ยถึงเรื่องที่ไม่เคารพยำเกรงข้าเลย ในฐานที่เป็นสตรีจากเรือนหลัง นางยังก้าวก่ายเรื่องในราชสำนักอีกต่างหาก ผู้ใดให้ความกล้ากับนางกัน?” เย่เสวียนถิงจึงกล่าวอย่างไม่ไว้หน้าว่า "กระหม่อมมอบให้นางเอง" เมื่อฮองเฮาได้ยินเช่นนี้เข้า พระนางก็พิโรธมากเสียจนเส้นโลหิตตรงหน้าผาก
Read more
PREV
1
...
678910
...
43
DMCA.com Protection Status