Share

บทที่ 5

ขนตาที่เปียกชื้นของนางสั่นไหวทันที หลินซวงเอ๋อร์ก้มศีรษะต่ำลงยิ่งกว่าเดิม

"เงยหน้าขึ้น!" น้ำเสียงของชายหนุ่มค่อยๆหมดความอดทน

เล็บเลาะลึกเข้าไปในฝ่ามือ หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างขี้ขลาดตาขาว แต่ก็ไม่กล้าสบตาเขา

เยี่ยเป่ยเฉิงจ้องไปที่คนที่อยู่ตรงหน้า คิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดกันทันที

สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบ น่าจะเป็นบ่าวรับใช้ระดับล่างสุดในจวน แต่บ่าวรับใช้คนนี้หน้าตาผุดผ่อง ใบหน้าที่เรียวเล็กเท่าฝ่ามือขาวราวกับไข่ปอก ขนตาที่ทั้งยาวทั้งหนาสั่นไหวเล็กน้อย ริมฝีปากที่เหมือนกลีบดอกไม้นั้นงดงามมีเสน่ห์มาก

บนโลกใบนี้ จะมีผู้ชายที่หล่อเหลาขนาดนี้ได้อย่างไร?

เยี่ยเป่ยเฉิงผู้ที่เห็นสาวงามจนชินตา ในขณะนี้จิตใจเหม่อลอยเล็กน้อย

จากนั้นไม่นาน น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วถามว่า "เจ้าชื่ออะไร?"

หลินซวงเอ๋อร์เปิดๆปิดปาก น้ำเสียงเบามาก: "ข้าน้อย... ชื่อหลินซวง"

แต่เยี่ยเป่ยเฉิงได้ยินอย่างชัดเจน

“หลินซวง?” เขาพึมพำชื่อนี้ออกมา รู้สึกว่าคุ้นหูเล็กน้อย ราวกับว่าเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง

“เงยหน้าขึ้น แล้วสบตาข้า!” น้ำเสียงที่เย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง และความรู้สึกกดดันสุดขีดก็ถาโถมเข้ามา

หลินซวงเอ๋อร์กลืนน้ำลาย แล้วค่อยๆเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาอันเปียกชื้นแฝงความหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด

เยี่ยเป่ยเฉิงขวมดคิ้วจ้องมองนางชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาเย็นชาราวกับใบมีดน้ำแข็ง

ความจริงและความฝันซ้อนทับกัน นัยน์ตาคู่นี้เหมือนกับนัยน์ตาในคืนนั้น สะอาดบริสุทธิ์ และขี้ขลาดพอๆกัน เยี่ยเป่ยเฉิงจำนัยน์ตาเหล่านี้ได้แทบจะในทันที

แต่คนที่อยู่ตรงหน้าเป็นผู้ชายชัดๆ...

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้ว สีหน้าเริ่มเย็นชามากขึ้น

เมื่อทั้งคู่สบสายตากัน หลินซวงเอ๋อร์มีคามรู้สึกว่า เหมือนว่าเขาสามารถมองนางได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ความรู้สึกหวาดกลัวสุดขีดกลืนกินหลินซวงเอ๋อร์ ในที่สุดนางก็ทนไม่ไหว ใบหน้าอันเรียวเล็กที่ซีดเผือดก็ซีดมากขึ้นกว่าเดิม และน้ำตาก็ไหลรินลงมาอย่างเงียบ ๆ

ในสมอง มีจุดจบที่น่าเวทนานับไม่ถ้วนผุดขึ้นมา

ครั้งนี้นางเสียใจเป็นที่สุด นางเก็บเงินทุกบาททุกสตางค์ไว้ในกล่องไม้มาเป็นเวลานาน และตัดใจไม่ใช้มันมาโดยตลอด

หากยังมีโอกาส นางจะแบ่งสรรปันส่วนเงินก้อนนี้อย่างเหมาะสม

ท่านป้าจ้าวดีต่อนางมาก นางควรแสดงความกตัญญูโดยการแบ่งให้นางหนึ่งส่วน

ตงเหมยก็ดีกับนางเช่นเดียวกัน นางก็ควรจะแสดงความขอบคุณนางด้วย

ยังมี...ยังมีฉีหมิง ค่างานศพของพี่ชายนางเขาก็เป็นคนจ่ายแทนให้ นางยังไม่มีโอกาสคืนให้เขาเลย...

ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้าใจ หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่สะอื้นไห้ไม่ได้ น้ำตาก็ไหลรินลงมา

นัยน์ตาที่สะอาดบริสุทธิ์เจิ่งนองไปด้วยน้ำตา คนที่อยู่ตรงหน้าร้องไห้หนักมาก

เขายังไม่ได้ทำอะไรนาง นางก็เริ่มร้องไห้ก่อนแล้ว...

ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ ทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมา ในที่สุด เขาก็มองไปทางอื่น หันหลังกลับแล้วจากไป

เมื่อมองดูร่างของเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเดินไกลออกไป หลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่อยากจะเชื่อเล็กน้อย

เขาปล่อยนางไปอย่างนี้เลยหรือ?

เป็นไปได้ไหมว่า วันนั้นเขาจะเห็นหน้าของนางไม่ชัด?

พอแบมือออก หลินซวงเอ๋อร์ก็พบว่าฝ่ามือของตนเองมีแต่เหงื่อเต็มไปหมด

เมื่อครู่นี้ นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงอยากจะบดขยี้นางอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะเหตุใด เขาถึงจากไปโดยไม่พูดอะไรเลย?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจ และรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น

…...

พอกลับมาที่เรือนฝั่งตะวันออก เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ในเรือนอวิ๋นซวน ทันใดนั้นนัยน์ตาก็ถูกรอยขีดข่วนเล็กน้อยที่ประตูดึงดูด

สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงก็ชะงักทันที ร่างที่บอบบางและสั่นเทาร่างนั้นก็ปรากฏขึ้นในสมอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพเหตุการณ์ในวันนั้น

ลูกกระเดือกกลิ้งไปมา เยี่ยเป่ยเฉิงรู้สึกคอแห้งเล็กน้อย

เขาคิดว่า บางทีมันอาจจะเป็นเพราะผลพวงมาจากยาเสน่ห์ เพราะว่า ปริมาณยาที่เยอะขนาดนั้น เขาสามารถทนได้แค่เพียงวันเดียว แม้ว่าพิษจะถอนพิษแล้ว แต่ก็ยังมีสารตกค้างอยู่ในร่างกาย

พอคิดได้ ก็ดูเหมือนว่าเขาจะหาเหตุผลที่ถูกต้องได้แล้ว จากนั้นนัยน์ตาก็มองไปที่รอยขีดข่วนอีกครั้ง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็กลับมามีสติอีกครั้ง

"เข้ามา"

เสวียนอู่เปิดประตูแล้วเข้ามา

เยี่ยเป่ยเฉิงถามว่า: "เรื่องที่เจ้าไปตรวจสอบเป็นอย่างไรบ้าง?"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "ตรวจสอบชัดเจนแล้ว"

เยี่ยเป่ยเฉิงหันหลังกลับแล้วเดินไปที่โต๊ะตำรา ยกเสื้อคลุมขึ้นแล้วนั่งลง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เฉยเมยว่า: "ว่ามา"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "บ่าวรับใช้ที่ท่านอ๋องพบในวันนั้น เป็นบ่าวรับใช้ของจวนพากเราจริงๆ ใช้ชื่อจริงๆ ชื่อว่าหลินซวง ปกติแล้วเขาจะรับผิดชอบปัดกวาดลานจวนเป็นหลัก พออายุได้สิบสามปีเขาก็ขายตัวให้กับจวน ไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง และไม่เคยทำผิดใดๆเลย"

นิ้วที่เรียวยาวเคาะโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ เยี่ยเป่ยเฉิงถามโดยที่ไม่ต้องคิดว่า: "ตอนที่เข้ามาในจวนได้ตรวจร่างกายหรือไม่?"

เสวียนอู่กล่าวว่า: "พ่อบ้านฉินเคยตรวจสอบด้วยตนเองแล้ว ไม่ผิดแน่"

เยี่ยเป่ยเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะดูผิด?

เขาก็ปฏิเสธความคิดนี้ทันที

เป็นไปไม่ได้ นัยน์ตาคู่นั้น และกลิ่นบนตัวของนาง เขาจำไม่ผิดแน่

เขาถามอีกครั้ง: "ตรวจสอบภูมิหลังครอบครัวชัดเจนแล้วหรือยัง?"

เสวียนอู่ตอบว่า: "พ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก ที่บ้านมีน้องสาวฝาแฝด ชื่อหลินซวงเอ๋อร์ ได้ยินมาว่านางเคราะห์ร้ายเสียชีวิตในเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เมื่อสองปีก่อน ที่บ้านเหลือเขาแค่เพียงคนเดียว"

หลังจากหยุดเคาะโต๊ะอย่างกะทันหัน ริมฝีปากบางของเยี่ยเป่ยเฉิงโค้งขึ้น

"งั้นก็ถูกต้องแล้ว!"

เสวียนอู่มองเขาอย่างสับสน เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มสนใจคนรับใช้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

จากนั้นไม่นาน เสวียนอู่ก็ถามว่า: "ท่านอ๋อง จะจัดการกับหลินซวงอย่างไรดี?"

เยี่ยเป่ยเฉิงคงจะไม่ให้เขาไปตรวจสอบคนรับใช้ที่ไม่มีนัยสำคัญคนหนึ่งโดยที่ไม่มีเหตุผล

ถ้าไม่ใช่เพราะว่า บุคคลคนนี้เป็นสายลับที่ศัตรูส่งมา ก็คงจะเป็นเพราะว่า บุคคลคนนี้แตกจากคนอื่น จึงดึงดูดความสนใจของเยี่ยเป่ยเฉิง

เสวียนอู่ไม่มีทางนึกถึงอย่างหลัง จากที่เขารู้จักท่านอ๋อง แม้แต่ผู้หญิงเขาก็ไม่สนใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนรับใช้เลย

ดังนั้น เขาคิดเองเออเองแล้วพูดว่า: "หรือว่า เราจะ..." จากนั้น เขาก็ทำท่าทางเช็ดคอ

เยี่ยเป่ยเฉิงเหลือบมองเขา ใบหน้าที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ผุดขึ้นมาในหัว

ความรู้สึกแปลกๆแวบขึ้นมาในใจ เยี่ยเป่ยเฉิงเริ่มเหม่อลอยอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าเยี่ยเป่ยเฉิงไม่ได้พูดเป็นเวลานาน เสวียนอู่ก็เข้าใจได้ทันทีว่า ในช่วงเวลาเช่นนี้ ถ้าท่านอ๋องไม่พูด ก็แสดงว่าเห็นด้วยแล้ว

“ท่านอ๋องวางใจได้ ข้าน้อยจะไปจัดการเขาเดี๋ยวนี้” พูดจบ เสวียนอู่ก็กำลังจะจากไป

"เดี๋ยวก่อน" จู่ๆ เยี่ยเป่ยเฉิงก็เรียกเสวียนอู่ให้หยุด

เสวียนอู่มองเขาอย่างสงสัย

จากนั้นไม่นาน เยี่ยเป่ยเฉิงก็พูดอย่างสงบนิ่งว่า: "เก็บเอาไว้ก่อน"

เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเสวียนอู่ เยี่ยเป่ยเฉิงจึงกล่าวเสริมว่า: "ภูมิหลังเป็นเรื่องจริง แค่เปลี่ยนตัวตน หลินซวงที่เข้ามาในจวนเมื่อสามปีที่แล้วอาจจะตายไปแล้วจริงๆ ตอนนี้ที่อยู่ในจวนน่าจะเป็นหลินซวงเอ๋อร์"

เสวียนอู่ตกใจ หลังจากที่พิจารณาถี่ถ้วนแล้วก็พบว่าสมเหตุสมผล

มิน่าเล่าเขามักจะรู้สึกเสมอว่าหลินซวงคนนี้งดงามกว่าผู้หญิงเสียอีก

เสวียนอู่กล่าวว่า: "บุคคลคนนี้ปกปิดตัวตนเข้ามาในจวนอาจจะมีเจตนาแอบแฝง เป็นไปได้ไหมว่า นางจะเป็นสายลับที่องค์ชายสามส่งมา"

ในการต่อสู้เพื่อชิงตำแหน่งองค์รัชทายาท องค์ชายสามอยากจะดึงเยี่ยเป่ยเฉิงเข้ามาเป็นพวก ไม่หาผู้หญิงมาให้เขา ก็วางสายลับไว้รอบตัวเขา

วันนั้นที่เขาถูกวางยาเสน่ห์ ที่เป็นองค์ชายสามที่บ่งการ

เสวียนอู่พูดด้วยความโกรธ: "เสวี่ยหยวนจากไปแล้ว ก็ยังมีหลินซวงเอ๋อร์อีก! องค์ชายสามจะไม่ยอมจบใช่ไหม!"

ผู้หญิงคนนั้นปลอมตัวเป็นผู้ชาย แล้วพยายามปีนขึ้นไปบนเตียงของเขา เยี่ยเป่ยเฉิงคิดว่า แผนการของผู้หญิงคนนี้แยบยลกว่าเสวี่ยหยวนมาก!

เสวียนอู่กล่าวว่า: "ท่านอ๋อง ผู้หญิงคนนี้เจ้าเล่ห์มาก เก็บเอาไว้ไม่ได้"

เยี่ยเป่ยเฉิงรู้ว่าเก็บเอาไว้ไม่ได้ แต่จะจัดการกับนางอย่างไร เยี่ยเป่ยเฉิงต้องคิดให้รอบคอบเสียก่อน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status