Share

บทที่ 7

หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกกลัวเล็กน้อย

ในขณะนี้ นางกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นเรือนอวิ๋นซวน พื้นเรียบสะอาดราวกับกระจก จนนางสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของตนได้อย่างชัดเจน

กางเกงนั้นสั้นเล็กน้อย จึงเผยให้เห็นน่องอันเรียวเล็กของนาง พื้นแข็งมาก จนทำให้หัวเข่านางเจ็บ

นางคุกเข่านานมาก ชายหนุ่มที่อยู่หลังฉากบังลมก็ไม่ยอมให้นางลุกขึ้น ดังนั้นนางจึงคุกเข่าต่อไป

ประตูถูกผลักเปิดออก เสวียนอู่ก็เข้ามาจากด้านนอก และเดินผ่านหลินซวงเอ๋อร์ไป แล้วเหลือบมองนางเบาๆ ด้วยสีหน้าท่าทางที่แปลกมาก

เขาเดินตรงไปด้านหลังฉากบังลม และไม่รู้ว่าพูดอะไรข้างหูเยี่ยเป่ยเฉิง

จากนั้นไม่นาน เสวียนอู่ก็ออกไปอีกครั้ง ในที่สุดชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังฉากบังลมก็ลุกขึ้นยืน

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้ามั่นคงและเป็นจังหวะ หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น จนกระทั่งรองเท้าบูทชายที่ปักด้วยเมฆมงคลคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

"ป้าจ้าวได้สอนกฎเกณฑ์ให้เจ้าหรือเปล่า?"

เมื่อได้ยินเสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์ก็สะดุ้งกลัว นางพยักหน้า และตอบว่า "สอนแล้ว"

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ดูเหมือนว่าท่านป้าจ้าวจะละเลยต่อหน้าที่ นางไม่ได้สอนให้เจ้า ตอนที่พูดกับเจ้านาย ให้เงยหน้าขึ้น!"

เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดกลัว

แต่รัศมีออร่าที่อยู่บนตัวเขานั้นทรงพลังมากเกินไป จนคนธรรมดาทั่วไปยากที่จะต้านทานได้ ไม่ต้องพูดถึงหลินซวงเอ๋อร์ในตอนนี้เลย

พอสบตาเขาได้เพียงครั้งเดียว หลินซวงเอ๋อร์ก็ลดสายตาลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองเขาอีกเลย แต่น้ำเสียงกลับมีความเคารพนบนอบเป็นอย่างมาก: "เป็นเพราะข้าน้อยความจำไม่ค่อยดี ไม่เกี่ยวกับท่านป้าจ้าว"

เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าหลินซวงเอ๋อร์ นัยน์ตาของเขาจ้องมองนางอย่างไม่หลีกเลี่ยง

ร่างผอมบางสั่นเทาเล็กน้อย เท้าเล็กๆที่สวมรองเท้าผ้าป่านเผยให้เห็นข้อเท้าอันขาวเพรียว เสื้อผ้าเก่าๆถูกซักจนกลายเป็นสีเหลืองซีด ซึ่งไม่เข้ากับเรือนที่หรูหราของเขาเอาเสียเลย

เขาขมวดคิ้ว

เงินเดือนที่จวนอ๋องให้คนรับใช้ไม่ได้น้อยเลย แม้ว่าจะเป็นคนรับใช้ระดับล่างสุด จะได้รับเงินเพียงครึ่งตำลึงต่อเดือน สิ้นปีนี้ยังให้เงินเพิ่มอีกสามเดือน

พอเงินเดือนออกสาวรับใช้คนอื่นๆต่างก็รู้จักซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับใหม่ให้ตนเอง แม้แต่ช่วงเวลาที่ขัดสนก็ยังซื้อชาดปัดแก้มสองกล่อง

ในทางกลับกัน นางแต่งกายด้วยผ้าป่านเนื้อหยาบ ตัดใจซื้อเสื้อผ้าที่ดีกว่าให้ตนเองไม่ได้?

แต่งตัวเรียบๆเช่นนี้ ทำอย่างกับว่าจวนอ๋องปฏิบัติต่อนางไม่ดี!

แต่ว่า แม้ว่าเสื้อผ้าเก่า แต่ใช่ว่าจะขาดกระรุ่งกระริ่ง หัวเข็มขัดรัดแน่น ทำให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย

สายตาเคลื่อนย้าย ไปที่บนคออันเรียวขาวของนาง ภาพเหตุการณ์คืนนั้นผุดขึ้นมาอีกครั้งทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงฟุ้งซ่านอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นไม่นาน เยี่ยเป่ยเฉิงก็ถามว่า: "เจ้าอยู่จวนอ๋องมากี่ปีแล้ว?"

หลินซวงเอ๋อร์ตอบกลับไปว่า:“สามปีขอรับ”

นางจำได้ว่า พี่ชายเข้ามาในจวนอ๋องเมื่อสามปีที่แล้ว หลังจากที่พี่ชายเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน เธอก็เข้าจวนอ๋องแทนพี่ชาย คำนวณดูแล้ว ก็แค่สามปีเท่านั้น!

เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนขี้ระแวงสงสัย หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าตอบไปมั่วๆ

แต่คำพูดต่อไป ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงกลับทำอะไรไม่ถูก

“ข้าได้ยินมาว่า เจ้ายังมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อหลินซวงเอ๋อร์?”

หลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึง จนมีเหงื่อบางๆไหลออกมาบนหน้าผาก

นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆเขาถึงได้ถามเรื่องนี้ แต่นางยังคงแสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วตอบว่า: "มีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อหลินซวงเอ๋อร์ แต่เคราะห์ร้ายเสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสามปีก่อน"

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ข้าได้ยินมาว่านางกับเจ้าเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน?"

ผิวของหลินซวงเอ๋อร์ที่ขาวซีดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ซีดลงอีกเล็กน้อย มือทั้งสองข้างของหลินซวงเอ๋อร์กำแขนเสื้อเอาไว้แน่

"ขอรับ ท่านอ๋องกล่าวถูกต้องแล้ว"

หลินซวงเอ๋อร์อยากจะบอกความจริงกับเขามาก

เพราะการโกหก ต้องใช้การโกหกนับร้อยนับพันครั้งเพื่อปกปิดมัน อีกอย่างในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพราะว่าต้องปกปิดตัวตน นางจึงทนทุกข์ทรมานไม่น้อย

แต่ทว่า ถ้านางพูดความจริงออกไป ท่านอ๋องจะให้อภัยนางได้จริงหรือ?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าเดิมพัน

นางกลัวตาย และทะนุถนอมชีวิต การมีชีวิตอยู่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

นางหวังแค่เพียงว่าเวลาห้าปีจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น นางก็จะสามารถออกจากจวนอ๋องได้อย่างปลอดภัย

นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงไม่เคยละสายตาไปจากหลินซวงเอ๋อร์เลย

ตอนที่เอ่ยถึงชื่อนี้เมื่อสักครู่ เขาเห็นปฏิกิริยาทุกอย่างของหลินซวงเอ๋อร์

เป็นไปตามคาด เขาคาดเดาถูกแล้ว คนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่หลินซวง แต่เป็นหลินซวงเอ๋อร์!

ริมฝีปากอันเรียวบางโค้งขึ้น ซุ่มซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องมานานแล้ว แต่กลับไม่สังเกตเห็นนาง

เยี่ยเป่ยเฉิงเกือบจะแน่ใจว่า นางซุ่มซ่อนตัวอยู่ข้างกายเขาจะต้องมีจุดประสงค์แน่

ทำทุกวิถีทางปีนขึ้นไปบนเตียงเขา ในใต้หล้านี้ถ้าไม่ใช่ฝีมือขององค์ชายสาม เกรงว่าคงจะไม่มีใครอีกแล้ว!

เยี่ยเป่ยเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาก็ช่างพยายามเสียจริง ถึงได้หาคนที่โดดเด่นงดงามเช่นนี้มาได้

“เจ้ารูู้จักองค์ชายสามไหม?” เสียงเย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงมองนางอย่างเย็นชาและพินิจพิเคราะห์

หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหัว นางเป็นแค่คนรับใช้ระดับล่างสุดคนหนึ่ง จะไปรู้จักองค์ชายสามได้อย่างไร

สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเคร่งขรึมลง

เขาให้โอกาสนางแล้ว ถ้าเธอสารภาพ บางทีเขาอาจจะผ่อนปรนไม่ตำหนิเรื่องความผิดในอดีต

แต่คนคนนี้เต็มไปด้วยคำโกหก ไม่มีสักประโยคที่เป็นความจริงเลย

ถ้าเช่นนี้ เขาก็ควรจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้องค์ทชายสามด้วยเช่นกัน!

“ไปหาพ่อบ้านฉินแล้วขอเสื้อผ้ามาสักชุด พรุ่งนี้ออกจากจวนกับข้า”

หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง เนื่องจากเขายืนหลังตรงตระหง่าน สีหน้าของเขาจึงซ่อนอยู่ในเงามืด หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้ชั่วขณะ นางสัมผัสได้เพียงแต่ความรู้กดดันที่แข็งแกร่งเท่านั้น

เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์อ้อยอิ่ง เยี่ยเป่ยเฉิงก็เหลือบมองไปด้านข้าง น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา: "ตอนนี้ เจ้าไสหัวออกไปได้แล้ว"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status