“คุณหนูหก ของขวัญของเจ้านี้เป็นภาพวาดของนักวาดชื่อดังท่านใดรึ” ฮูหยินหลิวถามขึ้นอย่างสงสัยเจียงหวานหว่านตอบกลับอย่างมั่นใจ “ข้าวาดเอง”“คุณหนูหกช่างเป็นเด็กกตัญญูเสียจริง เพียงแต่ภาพวาดไก่กาคงไม่สามารถนำมาแขวนในห้องโถงหลักได้”หลิวฮูหยินหัวเราะประชดประชัน“ฮ่าๆๆ”ทั้งห้องโถงส่งเสียงหัวเราะจนหยุดไม่ได้เด็กบ้านนอกนี่เอามาเชิดหน้าชูตาไม่ได้เลยจริงๆเฉาหยูเฟิ่งแอบหัวเราะอยู่ด้านข้างเจียงหวานหว่านก็ไม่ได้อธิบาย สั่งให้สือหลิ่วกับมู่เซียงเปิดม้วนภาพวาดภาพดอกไม้และนกอันน่าตื่นตาตื่นใจปรากฏต่อหน้าทุกคน“พี่หก ฝีมือวาดภาพไม่เลวเลยจริงๆ เพียงแต่ภาพวาดเช่นนี้ ในเมืองหลวงหาซื้อได้ในราคาสิบอีแปะ จะคู่ควรกับท่านย่าได้อย่างไร”มีความดูถูกพาดผ่านแววตาของเจียงอวิ้นไป ของเช่นนี้ก็กล้าเอาออกให้ผู้อื่น ฮูหยินใหญ่โกรธเคืองเป็นอย่างมากในใจของเจียงหวานหว่าน นางไม่คู่ควรกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับของหอหนีซาง คู่ควรกับแต่ภาพใบละสิบอีแปะนางไม่ควรไม่สองแม่ลูกสกุลหลิ่วเข้าร่วมงานฉลองแต่แรกเจียงหวานหว่านมุมปากโค้งขึ้น พูดขึ้นทีละคำว่า“สือหลิ่ว นำภาพเข้ามาใกล้หน่อย คุณหนูเจ็ดตาไม่ดี นางมองไ
ฮูหยินใหญ่เจียงรับรู้ได้ถึงการต่อต้านของหลิ่วซู่จึงรู้สึกไม่พอใจ“สกุลหลิว อนาคตของป๋อเหนียนกับพวกเกอเออร์อยู่ในหนึ่งห้วงความคิดของเจ้า”หลิ่วซู่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว นางยอมรับความขมขื่นเพื่อลูกๆ ได้ เจียงหวานหว่านกดมือของนางไว้ใต้โต๊ะ หลิ่วซู่หันศีรษะกลับไปมองเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านส่ายหน้าอย่างไม่เห็นดู เกิดการต่อสู้ขึ้นในใจหลิ่วซู่มีแววตาเหยียดหยามพาดผ่านดวงตาของฮูหยินใหญ่เจียงตำแหน่งของป๋อเหนียนในเวลานี้ สกุลหลิ่วจะคู่ควรได้อย่างไรแต่วันนี้ท่านอ๋องกลัวปรากฏตัวที่นี่อย่างน่าขัดใจ ต้องคิดให้ถี่ถ้วนขึ้นกว่าเดิม เพื่ออนาคตของป๋อเหนียน ต้องไม่ให้ผู้คนมาด่าว่าเขาหลงในตัวอนุแล้วทิ้งภรรยาเอกฮูหยินเอกแห่งจวนเจียงต้องเป็นสกุลหลิ่วเท่านั้น นางช่างโชคดีจริงๆ เจียงหวานหว่านโมโหในใจ สิ่งใดที่ควรมาก็มาแล้ว เหมือนดั่งชาติก่อน ฮูหยินใหญ่เจียงใช้ลูกมาข่มขู่ท่านแม่ เฉาหยูเฟิ่งก็ไม่พอใจ กรอกตาบนมองหลิ่วซู่ ได้เปรียบไปแล้วยังทำตัวน่าเอ็นดูอีก ฮูหยินใหญ่เจียงกระแอมไอ พูดขึ้นเสียงสูง “ทุกท่าน สิบปีก่อน ป๋อเหนียนได้ยินข่าวร้ายของสกุลหลิ่วผู้เป็นภรรยา เพื่อดูแลทุกคนในครอบครัว
"พี่หก ท่านแม่ของข้าก็แต่งเข้าจวนเจียงอย่างถูกครรลองคลองธรรม ท่านย่ากับท่านพ่อได้ตัดสินใจแล้ว คนอายุน้อยไม่เชื่อฟังผู้อาวุโส เป็นการอกตัญญูอย่างยิ่ง” เจียงอวิ้นใบหน้าเปื้อนน้ำตา ราวกับลำบากใจอย่างที่สุด “เรื่องของจวนเจียง ถึงคราวต้องให้เด็กน้อยเมื่อวานซืนมาเป็นผู้ตัดสินตั้งแต่เมื่อใดกัน!” เฉาอวี้เจียงอกกระเพื่อม น้ำเสียงไม่พอใจ เจียงหวานหว่านหลุบตาอย่างไม่ดุดันไปคราหนึ่ง จงใจถามว่า “ไม่ทราบว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน” “เจ้าไม่เคารพผู้อาวุโส ข้าคือพี่ชายภรรยาของจวนเจียง!” เฉาอวี้เจียงโกรธจนจะระเบิดแล้ว แต่ท่านอ๋องกับองค์ชายรองก็อยู่ที่นี่ด้วย เขาจึงไม่กล้าสร้างเรื่อง เจียงหวานหว่านราวกับว่าได้ยินเรื่องขบขัน “ใต้เท่า แม่ข้าไม่มีพี่ชายเช่นท่าน” แววตาของเฉาอวี้เจียงมีจิตสังหารพาดผ่าน พอเจียงป๋อเหนียนเห็นดังนั้นจึงรีบห้ามทัพ “หุบปาก” เจียงป๋อเหนียนตะโกนด่าเสียงดัง อยากจะฉีกปากเจียงหวานหว่านให้ขาด “ท่านพ่อ! เหตุใดต้องบังคับให้ท่านแม่รับสกุลเฉาขึ้นเป็นภรรยารองเทียบเคียงด้วย ท่านแม่รอท่านอยู่ที่บ้านเกิดอยู่สิบกว่าปีแล้ว ก็ไม่เห็นท่านไปรับนาง เลี้ยงหวานหว่านให้เติบใหญ่ขึ้นมาอย
เจียงหวานหว่านหลุบตาลง หลบสายตาของหรงมู่หานนางกลัวว่าเจตนาฆ่าของนางจะถูกเปิดเผย แล้วทำให้หรงมู่หานเกิดข้อสงสัยหว่างคิ้วของหรงซีมีความเย็นชา ค่อยๆ เปิดปากพูดว่า “องค์ชายรอง ชายแดนอาหารคลาดแคลน คิดหามาตรการแก้ไขได้แล้วรึ” หรงมู่หานโกรธจนขนลุก ไอเย็นลอยวาบมาที่ตัว เสด็จอาหรงซีกำลังต่อว่าที่เขาไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของแว่นแคว้น แต่มายุ่งเรื่องในมุ้งของผู้อื่น! “เสด็จอาสั่งสอนได้ถูกต้อง” ผู้คนล้วนได้ยินคำพูดของหรงซี ล้วนชะงักงัน ท่านอ๋องกล้าต่อว่าองค์ชายรองต่อหน้าธารกำนัลเช่นนี้เชียวหรือเจียงหวานหว่านยกยิ้มมุมปาก หรงซีกำลังให้ท้ายนางอยู่!หรงมู่หานเกิดความสงสัยในใจ เหตุใดหรงซีจึงพูดแทนคุณหนูหกตระกูลเจียงด้วย! เฉาอวี้เจียงเห็นว่าสถานการณ์ไม่เอื้อต่อตนเอง จึงไม่เปิดปากพูดอีก ฮูหยินใหญ่เจียงงมองไปทางที่นั่งของหรงซีแล้วตัดสินใจยอมถอย “วันนี้ ขอจบเรื่องภรรยารองก่อน วันอื่นค่อยว่ากันเถิด” เจียงหวานหว่านยิ้มยกมุมปาก “หากไม่ได้เป็นภรรยารอง เช่นนั้นก็เป็นได้เพียงอนุ เฉาอี๋เหนียง[footnoteRef:1] คำพูดของท่านย่า เจ้าได้ยินหรือยัง” [1: อี๋เหนียง คำใช้เรียกอนุภรรยา] ฮูหยินใหญ
เจียงอวิ้นและเจียงจิ่นหนิงปกป้องเฉาหยูเฟิ่งอยู่ทั้งสองข้าง เจียงป๋อเหนียนเอ่ยดุดัน “ผู้บัญชาการโหว ท่านบุกรุกเข้ามาในจวนเจียงตามพลการ ทั้งยังค้นไปทั่วจวนอีก ท่านทำเช่นนี้ทำไมกัน” จะว่าอย่างไร เขาเจียงป๋อเหนียนก็เป็นถึงขุนนางขั้นสามในราชวัง วันนี้ถูกผู้อื่นค้นจวนโดยพลการเช่นนี้ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน! “ใต้เท้าเจียง เงียบหน่อย ข้ากำลังตามจับไส้ศึกจากศัตรูอยู่!” เมื่ออยู่ต่อหน้าท่านอ๋องและองค์ชายรองแล้ว ฐานะของโหวเจี๋ยต่ำต้อยมาก แต่สำหรับเจียงป๋อเหนียน โหวเจี๋ยไม่มองเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ อะไรนะ! ไส้ศึกจากศัตรู! ข้ออ้างในการตรวจค้นของโหวเจี๋ยยิ่งอยู่ยิ่งเลยเถิด เจียงป๋อเหนียนโกรธมาก! ไอ้โหวเจี๋ย ปกติก็ทำตัวแปลกๆ อยู่แล้ว ทั้งยังใช้ชื่อเสียงอำนาจขององค์รัชทายาทมาทำตัวหยิ่งยโสอีก! วันนี้มีงานฉลองมงคลที่จวนเจียง เขากลับพากองทหารบุกเข้ามาด้านใน นี่มันไม่เห็นหัวเขาชัดๆ! “ผู้บัญชาการโหว หากวันนี้ท่านหาตัวไส้ศึกไม่เจอ เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะขอเข้าเฝ้าฝ่าบาทเพื่อขอข้อสรุป!”โหวเจี๋ยมองเจียงป๋อเหนียนด้วยสายตาเย็นชา “ใต้เท้าเจียง ทหารรักษาพระองค์เห็นไส้ศึกวิ่งเข้ามาในจวนเจียงกับตา
ทุกคนตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น จวนสกุลเจียงช่างกล้าไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งใดเลย นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีของเช่นนั้นอยู่เฉาหยูเฟิ่งตกใจจนนิ่งอึ้งไป เดิมทีในห่อผ้ามีตุ๊กตากระดาษวิชาปีศาจ เขียนชื่อฮูหยินใหญ่เจียงเอาไว้เจียงอวิ้นรู้ว่าในห่อผ้าเป็นของที่ใช้ในการใส่ร้ายสกุลซื่อ เหตุใดถึงได้กลายเป็นของสิ่งนี้ไปได้ เจียงอวิ้นคิดเช่นไรก็คิดไม่ออก!ปากของฮูหยินเจียงสั่นอย่างมิอาจควบคุมได้ บาปกรรมจริงๆ นี่เป็นถึงหลักฐานเอาผิดได้เชียวนะ!เจียงจิ่นหนิงกลืนน้ำลายลงไปอึกหนึ่ง ขาสั่นทอน“นายท่านเจียง เรือชุนเป็นที่อยู่ของผู้ใด”โหวเจี๋ยกล่าวถามด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยจะดีนัก“ของ…ข้าเอง!” เฉาหยูเฟิ่งกล่าวอย่างตะกุกตะกัก เหงื่อผุดพรายเต็มฝ่ามือนางโหวเจี๋ยจำเฉาหยูเฟิ่งได้ เป็นน้องสาวของเฉาอวี้เจียงทหารักษาพระองค์เดินไปข้างหน้า และจับเฉาหยูเฟิ่งไว้“ท่านแม่…”เจียงอวิ้นจะเข้าไปช่วยเฉาหยูเฟิ่งแต่เจียงจิ่นหนิงจับนางเอาไว้ไม่ให้นางเดินไปสถานการณ์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันนี้ทำให้เฉาหยูเฟิ่งยืนไม่ไหวและไม่อาจทรงตัวได้เจียงป๋อเหนียนกล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยวว่า “โหวเจี๋ย นี่เจ้าฉวยโอกาสแก้แค้นอย่างนั้นหรือ!”เข
ชุนฮว๋าได้ยินก็ตกลงในทันใด เพราะนางเกลียดเจียงหวานหว่านเป็นเพียงสาวบ้านนอกคนหนึ่ง ทำไมถึงเป็นคุณหนูได้!หลิ่วซู่ถูกทหารรักษาพระองค์จับตัวไป ห้ามเคลื่อนไหวเป็นอันขาดแววตาของเจียงหวานหว่านขรึมลงเล็กน้อยพลันหันไปคำนับต่อโหวเจี๋ย“ผู้บัญชาการโหว ข้าขอซักถามอะไรนางหน่อยได้หรือไม่”โหวเจี๋ยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลงสตรีผู้นี้น่าจะเป็นคุณหนูหกแห่งสกุลเจียงที่ไปอาละวาดที่จวนเจียงและเป็นปรปักษ์กับเจียงป๋อเหนียน ดังนั้นเขายอมไว้หน้าให้ดวงตาลุ่มลึกของหรงซีเลิกขึ้นเล็กน้อยพลางมองเจียงหวานหว่านด้วยแววตาขี้เล่นบนใบหน้าของหรงมู่หานมีความรู้สึกแปลกแยกแฝงอยู่หากเจียงป๋อเหนียนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง เขาจะปล่อยปละละเลยเจียงป๋อเหนียนทันทีความผิดฐานสมรู้ร่วมคิดกับศัตรู เพียงพอที่จะทำให้เขาหลุดจากบัลลังก์ได้ฮูหยินใหญ่เจียงอายุมากแล้วยืนไม่ไหว จึงหาที่นั่งว่างนั่งลง โดยมีเจียงอวิ้นและเจียงจิ่นหนิงยืนอยู่ข้างๆเจียงอวิ้นหัวเราะแห้ง นางจะคอยดู ว่าโทษหนักเพียงนี้เจียงหวานหว่านจะช่วยสกุลหลิ่วนี่ได้อย่างไรเพียงแค่ทำให้สกุลหลิ่วนี่ออกไปรับโทษให้ได้ ท่านพ่อและท่านแม่ก็จะไม่เป็น
ฮูหยินใหญ่เจียงส่งเสียงตกใจพร้อมพุ่งตัวเข้าไปหาเจียงป๋อเหนียน ไม่ให้ทหารรักษาพระองค์นำตัวเจียงป๋อเหนียนไป“อย่าจับตัวลูกชายข้า ของค้นออกมาจากเรือนของสกุลเฉา จะจับก็ไปจับนาง ปล่อยลูกชายข้า!”“ท่านแม่ ปล่อยท่านแม่ข้า ท่านแม่…”เจียงอวิ้นน้ำตาไหลพรากพุ่งเข้าไปหาเฉาหยูเฟิ่ง ในใจเกลียดชังฮูหยินใหญ่เจียงถึงขีดสุดที่โยนความผิดทั้งหมดให้กับท่านแม่สีหน้าของโหวเจี๋ยไม่สู้ดีนัก “หากยังกล้าขัดขวางงานหลวงอีก จะจับตัวไปทั้งหมด!”เฉาหยูเฟิ่งไม่คาดคิดว่าสกุลหลิ่วไม่เพียงแต่จะรอดพ้นจากเหตุการณ์นี้เท่านั้น แต่ตนยังต้องถูกจับคังคุกแทนด้วย“ท่านพี่ ท่านพี่ช่วยข้าด้วย!”เฉาหยูเฟิ่งน้ำตาไหลขอความช่วยเหลือจากเฉาอวี้เจียงเฉาอวี้เจียงเป็นกังวลมาก กำลังจะเอ่ยปากพูด ทว่าถูกสกุลฉางห้ามเอาไว้ก่อนพร้อมกล่าวเตือนว่า“นายท่าน ท่านไม่ได้มีน้องสาวเพียงคนเดียว ท่านยังมีบุตรชาย แล้วก็ทั้งสกุลเฉาอีก คิดให้ดีก่อนตัดสินใจดีกว่าขอรับ!”เฉาอวี้เจียงกัดฟันแน่น แล้วกลับจวนไปปรึกษาหารือกับบิดาก่อน ดูว่าจะช่วยน้องสาวได้อย่างไร“ผู้บัญชาการโหวโปรดเมตตาด้วย!”แววตาของโหวเจี๋ยเฉียบคมและเยือกเย็น “กฎหมายไม่มีความเมตตา โ