Share

บทที่ 0008

"ได้! เยี่ยมเลย!" เนี่ยเฟยตอบ กำลังคิดอยู่ว่าช่วงค่ำจะหาข้ออ้างอะไรไปหาฟ่านชุนฮวาดี ตอนนี้มีข้ออ้างแล้ว

ล่ายซุ่นกุ้ยเป็นเลขาหมู่บ้าน แต่เขาชอบให้ชาวบ้านพวกนี้เรียกเขาว่าเลขาล่าย ถึงจะเติมเต็มความต้องการ การเป็นเลขาหมู่บ้านได้เงินเดือนไม่มาก ดังนั้นการที่ฟ่านชุนฮวาเปิดร้านขายของชำที่บ้านก็ถือว่าช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในบ้าน

เมื่อเดินไปถึงลานบ้านของเจียงกั่ว ในลานบ้านก็มีโต๊ะจีนจัดไว้แล้วสี่โต๊ะ คุณพ่อของเจียงกั่วเจียงต๋าหมิงและคุณแม่กัวเหมยยิ้มแก้มปริถือแก้วเหล้าเดินไปมาระหว่างโต๊ะเพื่อชนแก้วกับแขก เมื่อได้ยินคำกล่าวแสดงความยินดีของแขกก็ตอบกลับอย่างเกรงใจ ส่วนอีกโต๊ะเป็นโต๊ะของวัยรุ่น เนี่ยเฟยรู้จักคนเหล่านั้นทุกคน เป็นเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมปลายทั้งนั้น

"เนี่ยเฟย อย่ายืนบื้อตรงนั้นสิ รีบเข้ามาเร็ว!" เจียงต๋าหมิงเห็นเนี่ยเฟยในทันที เขารู้ว่าเจียงกั่วเชิญเขามาจึงยิ้มกวักมือให้ "เจ้าเด็กนี่กว่าจะมา อายเหรอ?"

"อ้าว! เนี่ยเฟยก็มาด้วยเหรอ?" เพิ่งเดินเข้าลานบ้านไปพวกเพื่อนสมัยมอปลายก็วางตะเกียบยิ้มแล้วลุกขึ้น "รีบมาเร็ว! วันนี้พวกเรามาแสดงความยินดีให้กั่วจือกันทั้งนั้น มาดื่มด้วยกันสิ"

โต๊ะเพื่อนโต๊ะนี้รวมเนี่ยเฟยด้วยมีแปดคน และมีชายสี่หญิงสี่พอดี คนที่นั่งข้างเจียงกั่วคือเพื่อนสนิทสมัยมอปลายของเธอและเป็นหัวหน้าห้องด้วยชื่อ เฉินซินซิน ผมยาวสลวยมัดหางม้า สวมชุดกระโปรงสีขาว ผิวขาวผ่อง ทำให้เนี่ยเฟยนึกถึงซูหลีที่ฝ่ายบริหารทันที

และคนที่นั่งข้างเนี่ยเฟยคือหม่าเสี่ยวกุ้ย รองหัวหน้าในตอนนั้น ตัวไม่สูง หุ่นผอมลีน ตอนสมัยเรียนถูกเนี่ยเฟยรังแกไม่น้อย อีกทั้งยังถูกเนี่ยเฟยตีไปหลายที แต่ตอนนี้กลับสวมแว่น หน้าตาเฉลียวฉลาดแต่ก็มีความสุภาพ

หม่าเสี่ยวกุ้ยชายตามองเนี่ยเฟย เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามามีเขาคนเดียวที่ไม่ลุกขึ้น ใบหน้าไร้อารมณ์ คาดว่าคงจะยังแค้นเรื่องที่ถูกรังแกในสมัยเรียน

ตรงข้ามของเนี่ยเฟยมีชายหญิงคู่หนึ่งนั่งอยู่คือ ถังหงและจางเถียน สมัยนั้นก็เป็นหัวหน้าวินัยและเลขายุวเยาวชนของของห้องด้วย และต่อมาก็คือตัวแทนวิชาภาษาอังกฤษและวิชาฟิสิกส์ เฉินเจียและเหลียวซุ่น

"จุ๊ ๆ ในโต๊ะนี้มีแต่คนมีตำแหน่งของห้องเราในสมัยนั้นทั้งนั้นเลย มีฉันคนเดียวที่เป็นชาวบ้านธรรมดา กดดันสุด ๆ!" เนี่ยเฟยจุ๊ปากแล้วพูด

ดังคำที่บอกว่ากาเข้าฝูงกา หงส์เข้าฝูงหงส์ เจียงกั่วเป็นเด็กหัวกะทิในโรงเรียน ดังนั้นคนที่คบด้วยก็เป็นนักเรียนหัวกะทิคะแนนดีทั้งนั้น

"มา เจียงกั่ว ขอให้เธอได้งานดี ๆ เจริญรุ่งเรือง แก้วนี้ให้แก่เธอ!" เนี่ยเฟยยกแก้วเหล้าไปข้างหน้า

"นายนี่ปากมากจริง ๆ!" เจียงกั่วกลอกตาใส่เนี่ยเฟยแต่ก็ให้เกียรติ "นายดื่มเหล้า ฉันดื่มน้ำอัดลม"

"ไม่ได้สิ วันมงคลของเธอจะดื่มน้ำอัดลมได้ยังไง?" เนี่ยเฟยรีบพูดแล้วกำลังจะลุกขึ้นเทเหล้าขาวให้เจียงกั่ว

"พอแล้ว พวกเราผู้หญิงก็ดื่มน้ำอัดลมกันหมด" เฉินซินซินยิ้มแล้วยื่นมือขวางเนี่ยเฟย "พวกผู้ชายอย่างพวกนายดื่มเหล้าไป"

"ก็จริงแฮะ" เนี่ยเฟยหัวเราะแห้ง "นี่ เจียงกั่ว พี่สาวเธอล่ะ? วันสำคัญขนาดนี้เธอไม่กลับมาเหรอ?"

"พี่น่ะเหรอ??? พี่มีธุระในอำเภอน่ะ กลับมาไม่ได้" พูดถึงพี่สาวสีหน้าของเจียงกั่วก็ผงะไปเล็กน้อย เจียงต๋าหมิงมีลูกคนโตเป็นผู้หญิง ไม่กี่ปีต่อมาก็มีเจียงกั่ว พี่สาวของเจียงกั่วก็คือเจียงผิง สองพี่น้องรวมกันก็คือผิงกั่ว (แอ๊ปเปิ้ล) พอดี

"หา! น่าเสียดาย ฉันไม่ได้เจอพี่ผิงมานานแล้ว" เนี่ยเฟยรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ถ้าจะบอกว่าเจียงกั่วคือตุ๊กตาจ้ำม่ำล่ะก็ เจียงผิงก็คือบาร์บี้หุ่นผอมเรียว

หน้าตาสละสวยมาก โดยเฉพาะนิสัยที่เห็นใครก็ยิ้มไปหมด แต่นิสัยไม่กล้าตรงไปตรงมาเหมือนเจียงกั่ว ดังนั้นในหมู่บ้านจึงมีคำที่พูดต่อปากต่อคำกันว่า บ้านตระกูลเจียงลูกสาวงาม

ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันสักพักก็ถึงเวลาชนแก้วกันของแขกแล้ว และนี่ก็เป็นธรรมเนียมกินเลี้ยงของตำบลก่างเฉียว เรียกว่าแลกกันชนแก้ว เพื่อแสดงความเคารพแก่อีกฝ่าย

ชาวบ้านคออ่อนสุดอย่างน้อยก็เหล้าขาวครึ่งขวด หลายรอบผ่านมานักเรียนฝั่งโต๊ะของเนี่ยเฟยก็เริ่มต้านทานไม่ไหวแล้ว ดีที่พวกญาติ ๆ ตระกูลจางไม่ได้บังคับพวกเขาเท่าไหร่ จึงแยกย้ายต่างคนต่างดื่มเหล้าขาวของตน

"เนี่ยเฟย ได้ยินมาว่าต่อมานายสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้ว?" เฉินซินซินคีบอาหารไปพลางถามไป หลังเรียนจบมอปลายทุกคนก็แยกย้ายกันไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยของตน เบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้ในหนังสือรุ่นที่โรงเรียนแจกกลายเป็นสิ่งประดับตกแต่งไปโดยปริยาย เพราะทุกคนก็ไม่ได้ติดต่อกันสักเท่าไหร่

"จริงเหรอ?" ถังหงถามต่อทันที "ตอนนั้นตอนอยู่โรงเรียนเจ้านี่ถ้าไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็ทะเลาะต่อยตี ไม่คิดว่านายก็สอบติดด้วย?"

"แหะ ๆ ๆ???" เนี่ยเฟยหัวเระาอย่างเขินอาย เฉินซินซินคนนี้นี่จี้ใจดำจริง ๆ ของฉันมันเรียกมหาวิทยาลัยได้ด้วยเหรอ? "โชคดีน่ะ โชคทั้งนั้นแหละ!"

"รู้ไหมว่าเขาเรียนมหาวิทยาลัยไหน?" ลูกตาของเจียงกั่วกลอกไปมาดูน่าสงสัย การที่เนี่ยเฟยสอบติดมหาวิทยาลัยทั้งที่ตอนนั้นในโรงเรียนเกเรขนาดนั้นมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ทุกคนจึงประหลาดใจกันมาก

"มา ๆ! ฉันชนแก้วให้พวกเธออีกแก้ว!" เมื่อเนี่ยเฟยเห็นว่าเจียงกั่วจะแกล้งก็รีบยกแก้วเหล้าขึ้น "ขอให้พวกเธอทุกคนมีอนาคตที่สดใส!"

"เนี่ยเฟยนายอย่าเล่นสิ!" เฉินซินซินตบแก้วเหล้าที่เจ้านี่ยื่นมาเบา ๆ "ทุกคนกำลังฟังอยู่นะ นายยังจะเก็บเป็นความลับอีก กั่วจือรีบพูดมาสิว่า เนี่ยเฟยเรียนมหาวิทยาลัยที่ไหน?"

"มหาวิทยาลัยวิศวกรรมหงหยา!" เจียงกั่วแกล้งทำท่าทางลึกลับจากนั้นก็เฉลยคำตอบ เพื่อน ๆ ที่นั่งก็เงียบลงทันที มองหน้ากันไปมาอย่างไม่ทันได้สติ

"กั่วจือ เธอทำแบบนี้เพื่อ?" เนี่ยเฟยทำหน้าบึ้ง แบบนี้สนุกเหรอ? นังคนนี้จงใจแกล้งเนี่ยเฟยชัด ๆ

เนี่ยเฟยเรียนที่วิทยาลัยวิศวกรรมเฉพาะขั้นสูงหงหยา อันที่จริงเมื่อก่อนเป็นวิทยาลัยอาชีวะ แต่สมัยนี้ไม่ว่าที่ไหนก็นิยมวุฒิการศึกษาสูง จึงอาศัยการเป็นวิทยาลัยประจำอำเภอ เสียเงินซื้อที่ดินขยายขนาดนิดหน่อยและขอทำเรื่องกับกระทรวงศึกษา จึงได้เปลี่ยนเป็นวิทยาลัยเทคนิค

"อุบ ฮ่า ๆ!" เหลียวซุ่นได้สติกลับมาก็หัวเราะจนอาหารในปากเกือบพุ่ง การทำแบบนี้ทำให้แขกโต๊ะอื่น ๆ ตกใจไปด้วย ต่างมองมากันหมดและคอยฟังว่าเกิดอะไรขึ้น

"กั่วจือเธอตลกเกินไปแล้ว เธอหมายถึงอาชีวะหงหยารึเปล่า?" กว่าเหลียวซุ่นจะหยุดขำได้ "อ้อใช่ ตอนนี้เหมือนกลายเป็นวิทยาลัยเทคนิคแล้ว ชื่ออะไรนะ วิทยาลัยวิศกรรมเฉพาะขั้นสูงหงหยา"

"มหาวิทยาลัยนั้นจำเป็นต้องสอบเข้าด้วยเหรอ?" เฉินเจียถามอย่างประหลาดใจเล็กน้อย "ฉันมีลูกของญาติคนหนึ่งเรียนที่นั่น คะแนนแย่มาก จบมอต้นก็เข้าได้ทันที เรียนห้าปี เรียนจบก็ได้วุฒิอนุปริญญา...."

"ฮ่า ๆ ๆ..." เสียงหัวเราะดังขึ้นบนโต๊ะ

"เอ่อ.." เนี่ยเฟยกระอักกระอ่วนมาก ถ้าโกรธก็เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น แต่ถ้าไม่โกรธ คำพูดล้อเล่นของคนพวกนี้ก็เหมือนมีดที่กรีดใจของเนี่ยเฟยทีละแผล

"พวกเธอเลิกขำได้แล้ว!" ขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะ ล่ายซุ่นกุ้ยก็ถือเหล้ามา "ว่ากันว่าความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น วุฒิก็เป็นแค่ใบเบิกทาง สมัยนี้ความสามารถต่างหากที่สำคัญที่สุด!"

เนี่ยเฟยมองล่ายซุ่นกุ้ยอย่างขอบใจ แม้งานเลี้ยงวันนี้เชิญแต่ญาติของตระกูลเจียงรวมถึงเพื่อนของเจียงกั่ว แต่ไม่ว่ายังไงเจียงต๋าหมิงก็ต้องเชิญเลขานุการหมู่บ้าน ไม่ใช่แค่เชิญธรรมดาแต่ยังให้ล่ายซุ่นกุ้ยนั่งหัวโต๊ะของโต๊ะหลักอีกด้วย เพื่อแสดงความเคารพ

เนี่ยเฟยก็ไม่คิดว่าล่ายซุ่นกุ้ยจะมาช่วยตนพูดแก้ต่าง ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อกี้ยังนัดกับฟ่านชุนฮวาว่า ช่วงค่ำจะไปบ้านเธอไปบีบนมสองข้างของเมียล่ายซุ่นกุ้ยอยู่เลย เนี่ยเฟยรู้สึกว่าตนทำแบบนี้มันจะเกินไปรึเปล่านะ

"พวกเธอไม่รู้อะไร เนี่ยเฟยเนี่ยทำงานที่เทศบาลเชียวนะ!" ล่ายซุ่นกุ้ยหัวเราะเดินโซเซถือเหล้า เดินมาข้างโต๊ะแล้วยื่นมือมาให้เนี่ยเฟย "มา ลุงซุ่นกุ้ยชนกับแกสักแก้ว ขอให้อนาคตแกสดใส!"

เนี่ยเฟยได้ยินล่ายซุ่นกุ้ยพูดแบบนี้ก็รู้ว่า ไอ้แก่นี่จะมาแกล้งกันแน่นอน ในใจก็อดที่จะโมโหไม่ได้ ให้ตายเถอะฉันไม่เคยมีเรื่องกับแก แต่แกมาจับปลาที่บ่อปลาบ้างฉันแทบทุกวัน ตอนนี้ยังจะหาเรื่องฉันอีก! มองหน้าแก่ ๆ ของล่ายซุ่นกุ้ยเนี่ยเฟยก็นึกถึงเมียของเขาฟ่านชุนฮวา ช่วงค่ำเดี๋ยวจะไปบีบนมสองข้างของหล่อนอยู่เลย!

เมื่อนึกถึงฟ่านชุนฮวา ในหัวของเนี่ยเฟยก็มีภาพหุ่นของผู้หญิงนั้นลอยมา แม้อายุสี่สิบกว่าแล้วแต่ยังดูอายุน้อยเพราะบำรุงและดูแลตัวเองได้ดี หุ่กน็ดี โดยเฉพาะนมสองข้างนั้นสามารถทำให้คนจินตนาการได้เป็นอย่างดี

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status