ผมกับเพื่อนร่วมงานสุดสวยคนหนึ่งไปที่ชนบทเพื่อบรรเทาความยากจน แต่กลับไม่คาดคิดเลยว่า พอออกมาจากที่ทำงานแล้ว นิสัยของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง...
ดูเพิ่มเติมแม้ว่าเนี่ยเฟยจะไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่เจียงผิงก็ยังจงใจเว้นระยะห่างจากเนี่ยเฟย พอเขาอยากเดินกับเจียงผิง เจียงผิงก็ไม่ยอม ทําให้เนี่ยเฟยไม่มีทางเลือก จึงเร่งฝีเท้าวิ่งหนีไปคนเดียว หลังจากผ่านหัวหมู่บ้านแล้ว ก็หาแผ่นหินด้านหน้ามานั่งรอเจียงผิง พลางครุ่นคิดเรื่องบางอย่างรออยู่ครู่ใหญ่ เงาร่างของเจียงผิ
“นี่มีอะไรที่อธิบายยากกันล่ะ?” เนี่ยเฟยโบกมือ เขาคํานวณว่ามีเจียงผิงเข้าร่วมด้วย ถ้าเงินไม่พอ เขาก็ไม่ต้องไปหาพ่อเพื่อยืมเงินแล้ว แม้ว่าพ่อจะคัดค้านก็ไม่มีประโยชน์ “งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะส่งแบบฟอร์มไป คาดว่าอีกไม่กี่วันก็จะได้ผล”หลังจากอําลาครอบครัวเจียงผิงแล้ว เนี่ยเฟยก็กลับถึงบ้าน
“ฉันสิที่อยากมาทำดีกับเธอ เธอยอมไหม ? ” เนี่ยเฟยพูดออกมาอย่างขำขันจนทำให้เจียงกั่วถลึงตาใส่ไอ้หมอนี่หนึ่งครั้ง เพียงคูร่เดียวฉากในป่าไผ่เมื่อวานนนี้ก็แล่นเข้ามาในสมองของเจียงกั่วอีกครั้ง“ปากสุนัขของนายพูดเรื่องดีไม่ได้ ! ” เจียงกั่วด่าออกมาหนึ่งประโยคแล้วยกแอปเปิ้ลที่อยู่มือขึ้นมาทำท่าเหมือนจะขว้าง
เนี่ยเฟยกล่าวทักทายกับทุกคนแล้วก็ไปขอเงินเล็กน้อยกับเนี่ยฉางเกินก่อนจะเดินตามหลังเส้าโปไปจนทำให้เนี่ยฉางเกินมองดูด้วยความตกตะลึง “ไอ้เจ้าเด็กคนนี้ มีระดับมากกว่าฉันจริง ๆ ตำรวจคนนี้เป็นมิตรกับเขาขนาดนี้!”“ฉางเกิน ทำให้คุณขำแล้ว เป็นความโชคร้ายของครอบครัวจริง ๆ ! ” เจียงต๋าหมิงพูดกับเนี่ยฉางเกินอย่า
“เห็นไหม ผู้ชายทั้งแท่งอย่างฉันยังอยู่ตรงนี้ ไอ้คนป่าเถื่อนก็ยังฝืนจะเข้ามาจนได้ ! ” กัวเจิ้นหัวเห็นเนี่ยฉางเกินเข้ามาก็ร้องตะโกนพูด คำพูดนี้ทำเอาเนี่ยฉากเกินถึงกับเลือดขึ้นหน้า ลูกชายของตนถูกคนอื่นมองเป็นคนป่าเถือนก็มีสีหน้าไม่พอใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเจียงต๋าหมิง และกัวเหมยที่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดต่อยังไง
“ยายแก่ เมื่อสักครู่ฉันเอาไม้คานหามตีไปที่ไหลของแกไม่ได้ตีไปที่อก แกลูบผิดที่แล้ว ! ” เจียงกั่วพูดแล้วถ่มน้ำลายลงไปบนพื้น“ฉันจะบอกแกให้ ถ้าเก่งจริงก็ลุกขึ้นมาอีก ลุกขึ้นมาฉันก็ยังจะตีแก ! ” พูดแล้วเจียงกั่วก็พุ่งตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง เจียงต๋าหมิงถึงได้รีบร้อนเข้าไปหยุดเจ้าลูกสาวคนนี้ที่บ้าคลั่งขึ้น
"เอาล่ะ ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันไปก่อนนะ" เนี่ยเฟยมองไปที่ท้องฟ้าที่เริ่มมืดดำ ถ้ากลับไปช้าแม่ของเขาต้องหาว่าเขามัวไปเดินเตร็ดเตร่อยู่แน่ ๆถ้ายังเถียงกับเจียงกั่วอย่างนี้ต่อไป ไม่แน่เธออาจจะพูดเรื่องเจียงผิงขึ้นมาอีก เนี่ยเฟยรับไม่ไหว อีกอย่างเรื่องเมื่อคืนเนี่ยเฟยก็ยังกลัวเจียงกั่วอยู่ แม้ว่าจะไม่มีหลั
ทันทีที่เดินเข้าไปในลานบ้าน เนี่ยเฟยก็เห็นชูจิ่งหัวถือแก้วเหล้าพยายามและชักชวนให้เจียงกั่วดื่ม เดิมที่เจียงกั่วก็ไม่ค่อยเต็มใจที่จะมาอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะเห็นแก่ที่พ่อกับแม่พยายามเกลี้ยกล่อมอย่างหนัก และเห็นว่ายายจางมีความเป็นอยู่ที่ลำบากมากจริง ๆ เจียงกั่วถึงยอมฝืนใจมาสรุปว่าโดนชูจิ่งหัวจับจ้อง ข้
"นั่นสิครับ พวกบ้านนอกอย่างพวกเราเทียบกับหัวหน้าชูไม่ได้หรอก" เนี่ยเฟยยังไม่ทันได้พูดอะไร ล่ายซุ่นกุ้ยก็เอ่ยชมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า "หัวหน้าชูเป็นผู้มีการศึกษาสูง มีโอกาสได้เห็นโลกกว้าง ไม่เหมือนพวกเราตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษมาก็ได้แต่อยู่ในชนบท เหมือนกบในกะลา ท้องฟ้าที่ได้เห็นก็กว้างแค่กะลาเท่านั้น!