เนี่ยเฟยกล่าวทักทายกับทุกคนแล้วก็ไปขอเงินเล็กน้อยกับเนี่ยฉางเกินก่อนจะเดินตามหลังเส้าโปไปจนทำให้เนี่ยฉางเกินมองดูด้วยความตกตะลึง “ไอ้เจ้าเด็กคนนี้ มีระดับมากกว่าฉันจริง ๆ ตำรวจคนนี้เป็นมิตรกับเขาขนาดนี้!”“ฉางเกิน ทำให้คุณขำแล้ว เป็นความโชคร้ายของครอบครัวจริง ๆ ! ” เจียงต๋าหมิงพูดกับเนี่ยฉางเกินอย่า
“ฉันสิที่อยากมาทำดีกับเธอ เธอยอมไหม ? ” เนี่ยเฟยพูดออกมาอย่างขำขันจนทำให้เจียงกั่วถลึงตาใส่ไอ้หมอนี่หนึ่งครั้ง เพียงคูร่เดียวฉากในป่าไผ่เมื่อวานนนี้ก็แล่นเข้ามาในสมองของเจียงกั่วอีกครั้ง“ปากสุนัขของนายพูดเรื่องดีไม่ได้ ! ” เจียงกั่วด่าออกมาหนึ่งประโยคแล้วยกแอปเปิ้ลที่อยู่มือขึ้นมาทำท่าเหมือนจะขว้าง
“นี่มีอะไรที่อธิบายยากกันล่ะ?” เนี่ยเฟยโบกมือ เขาคํานวณว่ามีเจียงผิงเข้าร่วมด้วย ถ้าเงินไม่พอ เขาก็ไม่ต้องไปหาพ่อเพื่อยืมเงินแล้ว แม้ว่าพ่อจะคัดค้านก็ไม่มีประโยชน์ “งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ พรุ่งนี้ผมจะส่งแบบฟอร์มไป คาดว่าอีกไม่กี่วันก็จะได้ผล”หลังจากอําลาครอบครัวเจียงผิงแล้ว เนี่ยเฟยก็กลับถึงบ้าน
แม้ว่าเนี่ยเฟยจะไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่เจียงผิงก็ยังจงใจเว้นระยะห่างจากเนี่ยเฟย พอเขาอยากเดินกับเจียงผิง เจียงผิงก็ไม่ยอม ทําให้เนี่ยเฟยไม่มีทางเลือก จึงเร่งฝีเท้าวิ่งหนีไปคนเดียว หลังจากผ่านหัวหมู่บ้านแล้ว ก็หาแผ่นหินด้านหน้ามานั่งรอเจียงผิง พลางครุ่นคิดเรื่องบางอย่างรออยู่ครู่ใหญ่ เงาร่างของเจียงผิ
เช้าวันศุกร์ หลังจากที่เนี่ยเฟยกินอาหารเช้าเสร็จแล้วก็มาที่สำนักงานเทศบาลตำบลก่างเฉียวพอเดินไปถึงหน้าบันไดของหอพัก ก็บังเอิญไปพบกับร่างอรชนอ้อนแอ้นร่างหนึ่งเข้าเธอสวมชุดเดรสสีขาว แขนของเธอขาวนวลดั่งผิวของทารกแรกแย้ม ผมยาวสลวยประบ่า เท้าเล็กคู่นั้นสวมถุงน่องสั้นสีเขาและรองเท้าแตะส้นสูงคริสตัลสีเดง
“ทำไมคล้ายเสียงของหม่าเสี่ยวเยี่ยนจัง” เนี่ยเฟยคิดในใจ นี่ขนาดคนเฝ้ายามก็กลับไปแล้ว ผู้หญิงคนนี้ยังมามั่วกับใครในออฟฟิศอีก เนี่ยเฟยฉุกคิดไปถึงว่าปกติทุกคนเคยแอบนินทาว่าหม่าเสี่ยวเยี่ยนกับเผิงเจิ้งเซิ่งมีซัมติงกันอยู่หรือว่าจะเป็นท่านเผิง? งั้นก็สนุกล่ะสิ เมื่อนึกถึงตรงนี้ เนี่ยเฟยก็แอบขึ้นไปยังทางเ
“ให้ผมไปก็ได้” เนี่ยเฟยตอบยิ้ม ๆ ในใจคิดว่าไหน ๆ ก็ไม่ต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว “หัวหน้าหม่า จำได้ว่าสามีคุณเป็นเซลล์บริษัทหนึ่งในอำเภอใช่ไหม เห็นว่าต้องเดินทางบ่อย คืนวันศุกร์สามีคุณคงไม่อยู่บ้านสินะ”“แกพูดอย่างงี้หมายความว่าไง?” หม่าเสี่ยวเยี่ยนแอบสะดุ้งในใจ สามีเธอไปทำงานที่ปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ ต้อง
“ไอ้คนแซ่ซู ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!” แม้ว่าเนี่ยเฟยจะพยายามอ่อนน้อมถ่อมตนเมื่อมาอยู่ในสำนักงานนี้ แต่ซูจิ่งหัวมาทำกับเขาขนาดนี้ เป็นพระยังมีตบะแตกบ้าง ประสาอะไรกับมนุษย์ธรรมดาอย่างเขา?เขาออกแรงบิดเล็กน้อย และผลักมือของซูจิ่งหัวออกไป “ทำไม? จีบผู้หญิงไม่ได้ก็มาพาลคนอื่นงั้นเหรอ? เป็นลูกผู้ชายประสาอะไรวะ?