Share

บทที่ 0003

“ให้ผมไปก็ได้” เนี่ยเฟยตอบยิ้ม ๆ ในใจคิดว่าไหน ๆ ก็ไม่ต้องไว้หน้ากันอีกแล้ว “หัวหน้าหม่า จำได้ว่าสามีคุณเป็นเซลล์บริษัทหนึ่งในอำเภอใช่ไหม เห็นว่าต้องเดินทางบ่อย คืนวันศุกร์สามีคุณคงไม่อยู่บ้านสินะ”

“แกพูดอย่างงี้หมายความว่าไง?” หม่าเสี่ยวเยี่ยนแอบสะดุ้งในใจ สามีเธอไปทำงานที่ปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ ต้องอีกอาทิตย์ถึงจะกลับมา เมื่อคืนเธอกับเผิงเจิ้งเซิ่งฉวยโอกาสที่สำนักงานไม่มีคน ต่างก็หาความสุขกันยกใหญ่

“ต้องขอบคุณหัวหน้าหม่าที่สั่งงานให้ผมเยอะน่ะ” เนี่ยเฟยมองดูรอบข้าง แม้ว่าเขาสามารถใช้เรื่องนี้แตกหักกับหม่าเสี่ยวเยี่ยนได้ แต่ก็เฉพาะเป็นการส่วนตัวเท่านั้น เพื่อให้เธอยอมอ่อนข้อไม่มาหาเรื่องจองเวรอีก แต่จะให้คนอื่นรู้ไม่ได้เป็นอันขาด

ถ้าเรื่องงามหน้าของผู้หญิงคนนี้ถูกคนอื่นรู้เข้า จนมีการซุบซิบนินทาลับหลังละก็ ตนไม่เพียงแต่เสียผลประโยชน์ ดีไม่ดีอาจถูกเผิงเจิ้งเซิ่งจับไปแล่เนื้อเถือหนังอีก

“เมื่อคืนผมกลับถึงบ้านจู่ ๆ นึกได้ว่าหัวหน้าหม่าเพื่อที่จะทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของผม จึงสั่งงานไว้มากมายและผมก็ยังทำไม่เสร็จ เลยย้อนกลับมาออฟฟิศอีกครั้ง ปรากฏว่าได้เห็นบางอย่างที่ไม่ควรเห็นเข้า เก่งนี่นะ แม้แต่ท่านเผิงยังชมคุณว่าลีลาเด็ด” เนี่ยเฟยพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เนี่ยเฟย แกนึกว่าเรื่องแค่นี้จะมาขู่ฉันได้เหรอ?” หม่าเสี่ยวเยี่ยนแอบเครียดในใจ คิดในใจว่าแย่แล้ว ถ้าเรื่องนี้ถูกแพร่ออกไป เธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

แต่ชั่วดียังไงหม่าเสี่ยวเยี่ยนก็เคยผ่านโลกมามาก สีหน้าก็เลยนิ่งเฉย “ถึงแกเห็นแล้วจะทำไม ไม่มีหลักฐาน พูดไปใครจะเชื่อ และฉันก็ยังฟ้องหมิ่นประมาทได้อีก ให้แกติดคุกหัวโตไปเลย”

“คุณไม่รู้หรือว่าโทรศัพท์มือถือสมัยนี้ใช้ถ่ายคลิปได้น่ะ?” เนี่ยเฟยมั่นใจว่ารอบข้างไม่มีคนอื่นแน่ จึงหยิบเอามือถือออกมา พร้อมกดปุ่มปิดเสียง และค่อยฉายภาพเหตุการณ์ที่บันทึกไว้เมื่อคืน

แม้ว่าคุณภาพของกล้องจะไม่สู้ดีนัก แต่รูปลักษณ์ของหม่าเสี่ยวเยี่ยนก็เห็นได้ชัดเจน แม้ว่าจะไม่เห็นใบหน้าของเผิงเจิ้งเซิ่ง แต่เห็นภาพก็รู้ว่านั่นเป็นห้องทำงานของเขา เนี่ยเฟยมองหน้าหม่าเสี่ยวเยี่ยนด้วยความสะใจ พร้อมเอามือหดไปด้านหลัง หม่าเสี่ยวเยี่ยนที่คิดแย่งโทรศัพท์จากเขาก็ได้แต่คว้าน้ำเหลว

“แกคิดจะเอายังไง?” หม่าเสี่ยวเยี่ยนยอมแพ้โดยสิ้นเชิง คลิปนี้ถ้าถูกปล่อยออกไป ครอบครัวเธอกับเผิงเจิ้งเซิ่งต้องพังพินาศทั้งคู่แน่ อีกทั้งหน้าที่การงานก็จะไม่เหลืออีก

“ผมน่ะเหรอ?” เนี่ยเฟยกวาดสายตามองดูรูปร่างของหม่าเสี่ยวเยี่ยน โดยเฉพาะเนินเนื้ออวบที่หน้าอกและขาใหญ่สองข้าง “มีเงื่อนไขสองข้อ หนึ่ง ผมต้องการเลื่อนเป็นลูกจ้างประจำ สอง คุณกล้าเป็นชู้กับเผิงเจิ้งเซิ่งลับหลังสามี ผมอายุน้อยกว่า เป็นหนุ่มไฟแรงฮึกเหิม ลองมีอะไรกับผมสักครั้งจะเป็นไรไป?”

“แกนี่มันทุเรศจริง ๆ” หม่าเสี่ยวเยี่ยนด่าออกมาอีกประโยค ช่วยให้เนี่ยเฟยเป็นลูกจ้างประจำ ขอแค่เธอหว่านล้อมเผิงเจิ้งเซิ่งสักหน่อยก็สามารถทำได้แล้ว แต่หมอนี่เป็นคางคกยังริอ่านจะกินเนื้อหงส์ฟ้า เป็นคนบ้านนอกลูกจ้างชั่วคราวของเทศบาล บังอาจมาคิดกินตับหัวหน้าฝ่ายอย่างเธอ

“ผมคงไม่ทุเรศเท่ากับตาแก่อายุห้าสิบกว่าอย่างตาเผิงหรอกมั้ง?” เนี่ยเฟยแบะปากตอบ “คุณไปคิดดูแล้วกัน สำหรับผมแล้ว เรื่องนี้จะมีเพียงฟ้าดินที่รู้ และเราสองคน คนอื่นจะไม่มีวันรู้เด็ดขาดใช่ไหมล่ะ? หรือไม่ก็ วันดีคืนดีคุณอยากให้สามีได้รับพัสดุห่อแฮนด์ดี้ไดร์ฟก็ตามใจนะ” พูดจบก็เดินตัวปลิวเข้าไปในโรงอาหาร

“เดี๋ยวก่อน” หม่าเสี่ยวเยี่ยนยืนชั่งน้ำหนักอยู่ครู่หนึ่ง พบว่าเธอเหมือนถูกเนี่ยเฟยบีบคอเอาไว้แน่น จะปฏิเสธคำขอของเขาก็คงยาก ถ้าจะมัวยืดเยื้อก็สู้ทำให้เขาพอใจดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลามาก “แล้วเธอต้องการทำตอนไหน?”

“แล้วแต่คุณ!” เนี่ยเฟยเห็นหม่าเสี่ยวเยี่ยนยอมอ่อนข้อ ก็อดดีใจไม่ได้ ต่อให้เขี้ยวลากดินแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่พ้นถูกเราบงการอยู่ดี “ผมมีเวลาว่างตลอด ขึ้นอยู่กับคุณ”

“งั้นก็คืนนี้สองทุ่ม” หม่าเสี่ยวเยี่ยนคิดอยู่สักพัก ในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป ทุก ๆ วันเธอเองก็ยุ่งไม่น้อย จู่ ๆ เนี่ยเฟยมาเอ่ยถึงเรื่องนี้ ทำให้เธอจัดสรรเวลาไม่ถูก

อีกอย่างเขาไม่ได้พักอยู่ในตำบลนี้ จะทำกิจธุระอะไรก็ไม่มีสถานที่ “โครงการสงเคราะห์ผู้ยากไร้ได้เช่าบ้านหลังหนึ่งไว้เก็บของที่ถนนด้านใต้ กุญแจยังอยู่ที่ฉัน แถวนั้นค่อนข้างจะเงียบ เราไปที่นั่นแล้วกัน ช่วงนี้สามีฉันยังไม่กลับมา ฉันเลยขับรถมาทำงาน”

“ได้ คุณว่าไงว่างั้น” เนี่ยเฟยเลิกคิ้วพร้อมกับใช้ความคิด ขอแค่ได้อึ๊บก็พอ ขึ้นกับการใช้เวลามากกว่า อีกอย่างหม่าเสี่ยวเยี่ยนพูดก็ถูก ไปที่นั่นจะเงียบสงบกว่า หอพักห้ามไปเด็ดขาด เพราะมีแต่คนคุ้นหน้า โดยเฉพาะกลางคืนจะมีคนพักอยู่เยอะ

ทั้งคู่ตกลงกันแล้วก็ได้แยกย้ายกันไป เนี่ยเฟยแกล้งทำตามคำสั่งไปเดินวนที่จุดทิ้งขยะพักใหญ่ จนถึงเวลาพักเที่ยงค่อยกลับมายังสำนักงาน ก็บังเอิญพบกับซูหลีซึ่งเพิ่งเลิกงานซูหลีเลยมให้กล่องข้าวใบหนึ่งให้เนี่ยเฟยไปช่วยตักอาหารเพื่อเอาไปกินที่หอพัก การทำงานเพื่อนางในฝันเป็นสิ่งที่เขาต้องการอยู่แล้ว

มีลมเย็นพัดมา กลิ่นหอมประหลาดบางอย่างในตัวซูหลีโชยมาแตะจมูกเนี่ยเฟย ผมยาวสลวยก็มีความหอมเช่นกัน ปลิวถูกใบหน้าเขาจนรู้สึกคันยิบ ๆ

ทำให้เนี่ยเฟยรู้สึกคล้ายถูกมือนุ่มของซูหลีมาลูบใบหน้าของตน ว่าแล้วก็วิ่งไปทางโรงอาหารอย่างรวดเร็ว

ลับหลังเนี่ยเฟยคล้อยหลังไปไม่นาน ร่างของซูจิ่งหัวก็ปรากฏที่หลังเสาห้องโถงสำนักงาน ถลึงตาจ้องมองแผ่นหลังของเนี่ยเฟย สีหน้าขรึมพร้อมเดินไปทางหอพักด้านหลังสำนักงาน

“ซูหลีผู้น่ารัก อาหารของคุณมา...” ขณะที่เนี่ยเฟยเดินฮัมเพลงพร้อมรอยยิ้มถือกล่องข้าวมายังหอพักของซูหลี พลันร่างกายก็หยุดชะงักงัน

ซูจิ่งหัวอยู่ที่นี่ด้วย และสีหน้าซูหลีมีความลำบากใจ เมื่อเห็นเนี่ยเฟยเข้ามา เธอก็มีรอยยิ้มทันที “หัวหน้าซู คุณอยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ?”

ซูจิ่งหัวไม่ได้สนใจเนี่ยเฟย แค่ใช้สายตาเฉยเมยมองดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำเอาเนี่ยเฟยรู้สึกแปลก ๆ แอบคิดในใจว่าตรูไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย มามองหาอะไรกันวะ?

“หัวหน้าซู ฉันให้เนี่ยเฟยเอาอาหารมาแล้ว คุณไปกินตามสบายเถอะ ขอบคุณสำหรับคำเชิญนะคะ” ซูหลีพูดกับซูจิ่งหัวด้วยความเกรงใจ

ก่อนเลิกงานซูจิ่งหัวได้เอ่ยปากชวนให้ซูหลีไปกินข้าวข้างนอกด้วยกัน เพราะวันก่อนซูหลีบ่นว่าไม่ค่อยสบาย วันนี้ซูจิ่งหัวเลยไปซื้อรังนกจากร้านค้าในอำเภอมาฝาก พอถึงเวลาพักเที่ยงก็ให้แม่บ้านไปอุ่นร้อน พร้อมกับเชิญซูหลีไปกินข้าวด้วย

เนี่ยเฟยเข้าใจทันทีว่าทำไมซูจิ่งหัวถึงใช้สายตามองตนอย่างนั้น ซูจิ่งหัวเป็นคนจิตใจคับแคบ หนุ่มโสดในสำนักงานทุกคนต่างรู้ว่าซูจิ่งหัวกำลังจีบซูหลีอยู่ จึงไม่มีใครกล้าข้องแวะกับซูหลีเลย

ยกเว้นเนี่ยเฟยเพียงคนเดียว เจอซูหลีทีไรเป็นต้องยิ้มหน้าบานเป็นจานเชิงทุกครั้ง พร้อมทั้งคอยเอาอกเอาใจทำโน่นทำนี่ให้ และทั้งคู่ก็อยู่สำนักงานเดียวกัน ทำงานด้วยกันบ่อย ๆ จึงสนิทกันมากขึ้น

ส่วนซูหลีนั้นมองว่าซูจิ่งหัวเป็นผู้บังคับบัญชา ควรต้องให้เกียรติและรักษาระยะห่างไว้ จึงทำให้ซูจิ่งหัวไม่พอใจเนี่ยเฟยเป็นอย่างมาก

“ก็ได้ คราวหน้าถ้าผมชวนกินข้าวอีก คุณห้ามปฏิเสธล่ะ” ต่อหน้าซูหลี ซูจิ่งหัวยังคงรักษาความเป็นสุภาพบุรุษอยู่เสมอ

แต่พอหันมามองเนี่ยเฟย ความโกรธก็แสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจน ถลึงตาใส่เขาอย่างดุดันและเดินออกจากห้องพักไป

“ขอบคุณมากนะเนี่ยเฟย!” ซูหลีถอนหายใจโล่งอก “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณมา ฉันคงไม่รู้จะปฏิเสธหัวหน้าซูยังไงดี”

“ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป พูดไปตามตรงสิ” เนี่ยเฟยเป็นคนเถรตรงอยู่แล้ว พร้อมชี้กล่องข้าวที่อยู่ในมือ “จริงๆ ผมว่าอาหารในโรงอาหารปลอดภัยที่สุดแล้ว ใครจะรู้ว่าร้านข้างนอกใช้น้ำมันทอดซ้ำหรือเปล่า!”

ซูจิ่งหัวเดินออกจากห้องแต่ไม่ได้ลงชั้นล่างไปทันที กลับยืนอยู่ด้านนอกประตู สุดท้ายค่อย ๆ ย่องไปยืนอยู่ใต้ต้นไม้ที่หัวมุมของสำนักงาน แต่ยังคงได้ยินเสียงพูดคุยหัวเราะที่ออกจากห้องของซูหลีอยู่

หลังจากคุยกับซูหลีอยู่ครู่หนึ่ง เนี่ยเฟยจึงเดินออกมา พอลงถึงชั้นล่าง ก็เห็นซูจิ่งหัวยืนหน้าบึ้งอยู่ใต้ต้นไม้พร้อมกวักมือเรียกตน

เนี่ยเฟยหมั่นไส้การวางมาดของซูจิ่งหัวนัก แต่จะขัดคำสั่งก็ไม่ได้ เมื่อเดินเข้าไปใกล้ จู่ ๆ ก็รู้สึกคอปกเสื้อถูกจับ ตามด้วยใบหน้าดุดันของซูจิ่งหัวยื่นเข้ามาใกล้

“ไอ้บ้านนอก ฉันขอเตือนให้รู้ อยู่ห่างจากซูหลีเข้าไว้ ถ้าวันหลังเจอแกอยู่กับเขาอีก ฉันเอาเรื่องแกแน่!” ซูจิ่งหัวจับคอเสื้อของเนี่ยเฟยแล้วพูดอย่างโกรธเคือง

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status