“นี่คือพระชายารองของเจ้า ไม่ใช่ของข้า ดังนั้นเจ้ามีสิทธิเลือกคนที่เจ้าชื่นชอบ มิเช่นนั้นในอนาคตหากเบาะแว้งกันขึ้นมาจะหาว่าเป็นเพราะข้าเอาได้”หมิงเฟยวางถ้วยน้ำชาลงแล้วส่งเสียงหึๆ ออกมาเบาๆ เซียวเย่หลันมองไปทางไหนก็ไม่รู้สึกถูกใจสักน้อยยามที่เขาใช้สายตาเย็นชามองไปทางสตรีทั้งหลาย พวกนางล้วนตกใจจนก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับเขา“เอาละ มานั่งเถิด” หมิงเฟยกวักมือเรียก “พวกนางล้วนเป็นกุลสตรีผู้บอบบาง เจ้าอย่าได้ทำให้พวกนางตกอกตกใจ”เซียวเย่หลันเดินไปนั่งลงแล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าลูกไม่รู้ ในใจเสด็จแม่คิดเช่นไรอยู่”“งั้นหรือ? เจ้าลองว่ามาสิว่าข้าคิดเช่นไร”“หากเป็นตามปกติแล้วนั้น เสด็จพ่อคงให้ลูกแต่งกับบุตรสาวบ้านรองในตระกูลโหวเจวี๋ยทั่วไป แต่บัดนี้เสด็จแม่อาศัยช่วงที่เสด็จพ่อรู้สึกปิดต้องการชดใช้ต่อลูก จึงคัดเลือกบุตรสาวจากตระกูลชั้นสูงเหล่านี้มา”แม้พระเอกจะไม่เข้าใจสตรีนัก แต่เพียงแค่เขาชายตามองไป ก็รู้ได้ถึงตัวตนของพวกนางทั้งหลายเขาเผยอมุมปากเรียวบางยิ้มขึ้น “ไม่คิดบ้างหรือว่าคนเหล่านี้ท่านควบคุมนางได้หรือไม่”“ควบคุมได้หรือไม่เป็นเรื่องของเจ้า หาใช่เรื่องของข้า”
“ข้า...”เซวี่ยจวิ้นปริปากด้วยความลนลาน ไม่กล้าเอ่ยวาจาพระชายาสอนผิดงั้นหรือ?ไม่น่าจะใช่ หากเซี่ยเชียนฮวันสอนผิด จ้านอ๋องมองเห็นนางท่ามกลางฝูงคนได้อย่างไร และยังให้นางขึ้นมาด้านหน้าสายตาของเซียวเย่หลันจับจ้องนางไม่ขยับ “ตอบคำถามของข้า”“คือว่า... พระชายาจ้านอ๋องเป็นผู้สอนเพคะ...”เซวี่ยจวิ้นทำได้เพียงตอบตามความจริงนางเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง จะกล้าพูดปดกับจ้านอ๋องได้อย่างไรสีหน้าของเซียวเย่หลันค่อยๆ นิ่งลง เขายกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า ถุงหอมดอกท้อที่เจ้าพกติดตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนสอนเจ้าสินะ”“ท่านอ๋องได้โปรดอภัยให้ด้วยเพคะ!”เซวี่ยจวิ้นตกใจจนล้มพรวดลงไปคุกเข่าที่พื้นนางไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด รู้เพียงว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ากำลังโกรธอย่างมาก นางอาจโดนกุดหัวได้ตลอดเวลาขณะนั้นเอง บรรยากาศโดยรอบก็เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งที่ก่อตัว ความดุร้ายแผ่กระจาย น่าสะพรึงยิ่งกว่าในยมโลกเสียอีกหมิงเฟยขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ท่านจะอารมณ์เสียไปทำไมกัน? นางอยากถูกเลือก นางจึงไปให้เด็กคนนั้นสอน นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย แต่กลับอธิบายได้ว่านางใส่ใจท่านมาก”เซ
เซียวเย่หลันเดินตรงมาด้านหน้าเซี่ยเชียนฮวันด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน“เจ้าเคยพบบุตรสาวของมหาดเล็กเซวี่ยงั้นหรือ?”เขาไถ่ถามเซี่ยเชียนฮวันตอบเสียงเรียบ “นางมาเยี่ยมข้า”“กลัวว่าจะอ้างเรื่องมาเยี่ยมไข้ และให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่เจ้ามากกว่า จากนั้นเจ้าก็ปริปากบอกนางว่าข้าชื่นชอบสิ่งใดบ้าง เพื่อช่วยให้นางถูกเลือก!”เซียวเย่หลันยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สายตาดุร้ายราวต้องการจะชักดาบออกมาฆ่าเซี่ยเชียนฮวัน ในสายตาของผู้หญิงคนนี้ นางหักหลังเขาได้ด้วยวิธีการเช่นนี้นางเห็นเขาเป็นเบี้ยที่สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายกับผู้อื่นได้เซี่ยเชียนฮวันกลับรู้สึกน่าขัน จึงเงยหน้ามองเขา “เซวี่ยจวิ้นอยากรู้ว่าท่านชื่นชอบสิ่งใด จำเป็นต้องให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่ข้าด้วยหรือ? นางถามข้า ข้าก็ตอบนาง เพียงเท่านั้นเอง”“เจ้าไม่ได้รับผลประโยชน์จากนางงั้นหรือ?” เซียวเย่หลันประหลาดใจ“แม้ข้าจะอยากหาเงินมาเลี้ยงลูก แต่คงไม่ถึงขั้นที่ต้องตอบคำถามเพียงไม่กี่ข้อ เพื่อรับเอาผลประโยชน์หรอกนะ”เซี่ยเชียนฮวันค่อยๆ เก็บตัวหมากรุกทั้งหมดบนกระดานหมากรุกนางกลัวว่าทันทีที่ผู้ชายคนนี้หัวเสีย ก็จะพลิกกระดานหมากรุกหล่นกระจายถึงเว
“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามาแตะต้องตัวข้า!”ดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันแดงก่ำสั่นไหวเล็กน้อย สีหน้าไม่สงบเหมือนเมื่อครู่ แต่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับว่าต้องการแยกเขาให้ห่างออกไปหลายพันลี้เซียวเย่หลันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจึงถามด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย”เซี่ยเชียนฮวันกอดแขน หันหลังกลับไม่มองหน้าเขาเมื่อถูกชายคนนี้สัมผัสนางได้ นางก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้นในหมู่บ้านร้างเขานำประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนมา ทำให้นางรู้ว่าระหว่างชายและหญิงนั้นมีความสุขเหมือนปลาเล่นน้ำจริงๆแต่เพียงพริบตาเดียวเขาก็กลับนึกว่าซูอวี้เออร์คือนางในใจของเขา สตรีที่ได้มีความสุขเช่นนั้นกับเขาคือซูอวี้เออร์เซี่ยเชียนฮวันคิดเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกไม่สบายแทบอยากอาเจียน!ดังนั้น นางเลยไม่อยากให้เซียวเย่หลันโดนตัวอีก!“หากเจ้ารู้สึกไม่สบายก็นอนพักผ่อน กินยา อย่ากระโดดขึ้นลงทั้งวัน และดูแลครรภ์ให้ดี” เซียวเย่หลันพูดอย่างเย็นชา“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสอนข้า”เซี่ยเชียนฮวันรีบเดินไปที่ตู้ เปิดลิ้นชัก หยิบขวดยาผ่อนคลายออกมาแล้วโยนลงในกาน้ำชาในที่สุดนางก็กลับ
"ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจนะขอรับ อย่าให้เรื่องไร้สาระอย่างการตายแล้วฟื้นคืนชีพนั้นเกิดขึ้นได้ล่ะ"ขันทีเฒ่าโน้มตัวลง ท่าทีไม่ถ่อมแต่ก็ไม่ถ่อยเขารับใช้อยู่ข้างกายไทเฮามานานหลายปีไม่มีลมฝนใดที่เขาไม่เคยพานพบดังนั้น เขาจึงระมัดระวังในทุกเรื่องที่ทำ เป็นคนน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากเชี่ยเหยียนพูดอย่างอดไม่ได้ “ถึงแม้นางจะยังไม่ตายทันทีในตอนแรก แต่ตอนนี้นางถูกฝังอยู่ในดินและขาดอากาศหายใจตายไปนานแล้ว หรือเจ้ายังกังวลว่านางจะเปิดโลงศพแล้วคลานออกไปด้วยตัวนางเอง?”“การระมัดระวังรอบคอบย่อมทำให้มีชีวิตยืนยาว”“พวกเจ้าไม่เชื่อใจข้าเกินไปแล้ว แม้ว่าปกติข้าจะเป็นคนเสเพลเล็กน้อย แต่หากมีภารกิจใดข้าก็ไม่เคยทำผิดพลาดเลย” เซี่ยยเหยียนตะคอกขันทีเฒ่ายิ้มแล้วถามอีกครั้งว่า “ก่อนตาย หญิงแก่นั่นได้พูดอะไรหรือไม่?”"ไม่มี"เซี่ยเหยียนจิบชาขันทีเฒ่าพยักหน้า ทำท่าครุ่นคิด “แต่นางคงพูดอะไรกับน้องสาวของท่านโหวน้อยแน่ๆ”“เจ้าหมายถึง ฮวันฮวัน...”เซี่ยเหยียนขมวดคิ้วมุ่นไม่น่าล่ะ จู่ๆ ไทเฮาก็มาวานให้เขาทำภารกิจที่แท้หลิวไท่เฟยนั่นพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดนั่นเอง แถมยังลากเซี่ยเชียนฮวันเข้ามาเกี่ยวข้องด
“ปังปังปัง!”นอกลานบ้านของเซี่ยเชียนฮวัน มีเสียงประทัดดังสนั่น เสี่ยวตงโกรธมาก “เกินไปแล้ว พระชายา ซูอวี้เออร์จงใจแสดงอำนาจกับท่านอย่างชัดเจน!”“ช่างเถอะ ปล่อยพวกเขาไป”เซี่ยเชียนฮวันกําพู่กันแน่นเล็กน้อยนางกําลังฝึกคัดลายมือเดิมที นางเป็นที่รู้จักกันในฐานะคุณหนูถุงฟาง ดังนั้นจึงไม่สำคัญว่าตัวอักษรจะสวยงามพอหรือไม่แต่ตอนนี้นางต้องเขียนใบสั่งยาเป็นประจำ ลายมือบูดๆ เบี้ยวๆ น่าเกลียดเช่นนั้น คงกลายเป็นที่หัวเราะดังนั้นเซี่ยเชียนฮวันจึงใช้เวลาฝึกคัดลายมืออย่างไรก็ตาม มีเสียงรบกวนจากข้างนอกตลอดเวลา เสียงนั่นทำให้สมาธิของนางไม่สงบ จนนางอยากจะถือไม้กวาดออกไปไล่ผู้คนซึ่งนั่นคงเป็นสิ่งที่ซูอวี้เออร์ต้องการซูอวี้เออร์แค่อยากเห็นนางทำตัวหยาบคายนางแค่ต้องอดทนกับมันอย่างเงียบๆ และแสร้งทําเป็นว่าทุกอย่างปกติดีในที่สุด เสียงปะทัดก็หยุดลงด้านนอกมีคนมาเคาะประตู “พระชายา นายหญิงของข้าต้องการเชิญท่าน”เสี่ยวตงได้ยินเสียงอวิ๋นซี ก็ยิ่งรู้สึกไม่พอใจ “ไสหัวไป!ถึงแม้นายหญิงเจ้าจะมาเชิญสักร้อยครั้ง พระชายาก็ไม่ให้หน้าหรอก!”“นายหญิงมีเรื่องสำคัญอยากปรึกษาพระชายา เกี่ยวกับพระชายารองเ
“แค่คำพูดของเซียวเย่หลันคำเดียว ยังมีมงกุฎหงส์แบบไหนที่ทำไม่ได้? แทนที่จะเปลืองแรงของเจ้ามาบ่นกับข้า ทำไมไม่ไปออเซาะเซียวเย่หลันเล่า บางทีเขาอาจจะหาชุดที่สวยกว่านี้ให้เจ้าได้”เซี่ยเชียนฮวันเผชิญหน้ากับซูอวี้เออร์ แล้วค่อยๆ ถอยไปทางประตูนางรู้สึกว่าซูอวี้เออร์ไม่ควรคลั่งเวลานี้ และทำร้ายนางแต่ว่า แค่เผื่อไว้ซูอวี้เออร์จะไม่เชิญนางมาที่นี่โดยไม่มีเหตุผลแน่นอนในเมื่อไม่ใช่เรื่องของเซวี่ยจวิ้น เช่นนั้นคงมีความคิดแย่ๆ ในเรื่องอื่นไม่ช้า เซี่ยเชียนฮวันก็ถอยไปถึงหน้าประตูนางแตะประตู แล้วกล่าวเสียงเย็นว่า “ข้าไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเล่นเจ้า”“เดี๋ยวก่อน”ซูอวี้เออร์พูดนางไม่ได้ไล่ตามเซี่ยเชียนฮวัน แต่แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจขึ้นมา ยกกรรไกรขึ้น “พี่สาว ข้ามีวิธีที่กว่านี้ในการเปลี่ยนชุดแต่งงาน”พูดจบ ซูอวี้เออร์ก็กระหนำแทงกรรไกรลงไป!ได้ยินแต่เสียงดัง “แควก” ปลายมีดตัดผ่านชุดแต่งงานสีแดงเพลิง ตัดลวดลายดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งเป็นชิ้นๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าที่งดงามเป็นขาดรุ่งริ่งในพริบตา จนดูไม่ได้“กรี๊ด!!!”ซูอวี้เออร์โยนกรรไกรลงพื้น จากนั้นก็ยกมือกุมหน้าแล้วร้องเสียงแหลมออกมาทันใด
ซูอวี้เออร์ตาแดงก่ำ ขณะเดินตามหลังเซียวเย่หลัน ด้วยท่าทางราวกับกำลังกล้ำกลืนความอยุติธรรมใหญ่หลวงตอนนี้เอง แม้แต่อู่อันโหวก็ใช้สายตาตกตะลึงมองมาทางเซี่ยเชียนฮวันพวกเขาทั้งหมดเชื่อซูอวี้เออร์“สาวน้อย นี่ดูไม่เหมือนสิ่งที่เจ้าทำเลย!” อู่อันโหวกล่าวด้วยเสียงไม่อยากจะเชื่อเซี่ยเชียนฮวันในสายตาของเขา ควรจะเป็นสตรีที่ฉลาดและแข็งแกร่งนางกลายเป็นสตรีขี้หึงเหมือนคนบ้าเช่นนี้ได้อย่างไร?เซี่ยเชียนฮวันยิ้มน้อยๆ “แม้แต่ท่านโหวยังไม่คิดว่า นี่เป็นสิ่งที่ข้าทำ”“เจ้าพูดแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”อู่อันโหวถามต่อแต่ซูอวี้เออร์กลับขัดจังหวะด้วยน้ำตา “วันนี้พระชายาตั้งใจมาทำให้ข้าอับอาย บอกข้าว่าเป็นสนมหนึ่งวัน ก็เป็นสนมไปชั่วชีวิต ข้าทนคำพูดเหล่านี้ได้ แต่ไม่ว่าอย่างไรท่านไม่ควรทำลายชุดแต่งงานของข้า แล้วพรุ่งนี้ข้าจะไปพบปะผู้คนได้อย่างไร...”ท่าทางของนางดูเจ็บปวดมากเซียวเย่หลันกล่าวปลอบโยน “อย่าร้องไห้เลยนะ ข้าจะส่งคนไปหาชุดที่ดีกว่าเดิมกลับมาทันที พรุ่งนี้เจ้าจะงดงามกว่าใคร”“ขอบคุณท่านอ๋อง”ซูอวี้เออร์พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนเซียวเย่หลัน ซ่อนรอยยิ้มเย็นชาที่มุมปากตอนนี้นางไม่เพียงแต่