คำพูดเหล่านี้เหมือนจะทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะมีความรักหรือความเกลียดชังมากเพียงใด ไม่ว่าพวกเขาจะเหินห่างกันแค่ไหน ระหว่างพวกเขาก็ยังมีเจ้าหนูลู่เหยียนอยู่ตรงกลาง เพื่อเจ้าหนูลู่เหยียนแล้ว พวกเขายังคงต้องทำสิ่งนั้นอยู่............ครึ่งชั่วโมงต่อมา โรลส์-รอยซ์ แฟนทอมก็ค่อย ๆ ขับเข้าไปในเขตของสวนชิงพอเฉียวซุนลงจากรถ ดวงตาของเธอเปียกชื้นนิดหน่อยสวนชิงยังคงเหมือนเดิมแต่ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นกลับเปลี่ยนไปมาก......เจ้าหนูลู่เหยียนเอนกายในอ้อมแขนของพ่อ แล้วพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “พ่อคะ ทำไมแม่ถึงร้องไห้เหรอคะ? ”เสียงของลู่เจ๋อทุ้มต่ำ “แม่ของลูกกำลังโกรธพ่ออยู่”เรื่องของผู้ใหญ่ เจ้าหนูลู่เหยียนไม่สามารถเข้าใจได้ เธอเลยทำได้แค่มองไปทางแม่ของเธอ มองดูท่าทางที่เสียใจจนต้องร้องไห้ของแม่เธออยู่อย่างนั้น......ไม่นานเฉียวซุนก็เก็บอารมณ์ความรู้สึกอย่างรวดเร็วคนรับใช้ในสวนชิงทุกคน ลู่เจ๋อเป็นคนพามา พวกเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าวันนี้คุณผู้หญิงจะพาคุณหนูกลับมา พวกเขาก็ใจชื้นขึ้นมา ทันทีที่เห็นเฉียวซุน ก็พากันเอ่ยปากเรียกคุณผู้หญิง พวกเขายังคงเอาใจใส่และเ
ท่ามกลางสายฝน ความหล่อเหลาและสง่างามนี้เกินจะพรรณนา......คุณหญิงลู่รีบทักทายเขาทันที “ลู่เจ๋อ ให้แม่ได้เจอกับเจ้าหนูลู่เหยียนหน่อย แม่เป็นคุณย่าแท้ ๆ ของเธอนะ! วันนี้เป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ แม่ตั้งใจทำขนมไหว้พระจันทร์แสนอร่อยมาให้เธอเป็นพิเศษ”คุณหญิงลู่รีบบอกให้คนรับใช้มารับไปลู่เจ๋อกลับสั่งห้ามไม่ให้รับด้วยเสียงที่ราบเรียบเขาพูดเบา ๆ “ไม่ต้องเปลืองแรงขนาดนั้นหรอก! ยังไงผมก็ไม่ให้คุณไปเจอเธอหรอก! แล้วอีกอย่าง...... เฉียวซุนและเจ้าหนูลู่เหยียนเป็นแค่ภรรยากับลูกของผม พวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณ! ”คุณหญิงลู่ตกตะลึงคนรับใช้ที่ถือร่มอยู่ข้าง ๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตะโกน “คุณหญิง! ”คุณหญิงลู่ผลักเธอออกไป เธอปล่อยให้ฝนตกกระทบลงบนใบหน้าและร่างกายของเธอ ให้ฝนได้ชะล้างดวงตาของเธอ แต่เธอก็ยังคงก้าวไปข้างหน้า และคว้าคอเสื้อของลู่เจ๋อ เสียงของเธอทำให้รู้สึกสะเทือนใจ “ลู่เจ๋อ นี่ลูกพูดอะไรออกมา ลูกรู้ตัวไหมว่าลูกพูดอะไรออกมา? แม่ไม่ใช่ย่าของเธอรึไง? แม่เป็นห่วงเธอมากนะ? ”ลู่เจ๋อปล่อยให้เธอผลักตัวเองม่านฝนตกลงมาตรงหน้าเขา จากนั้นเขาก็พูดออกมาเบา ๆ “วันนั้นฝนก็ตกแบบนี้แหละ วันที่ลู่
เฉียวซุนสงบลงเล็กน้อย แล้วพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบา “ฉันเป็นประจำเดือน!”“ผมรู้”ลู่เจ๋อไม่ยอมละสายตาจากเธอ เขาถามเธอขึ้นทันที “ระหว่างพวกเรา เหลือแค่การทำเรื่องอย่างว่าเท่านั้นเหรอ? แค่เพื่อให้ได้มีลูกด้วยกันเท่านั้นใช่ไหม? ”เขาพูดเข้าประเด็น และต้องการคำชี้แจงที่กระจ่าง......เฉียวซุนเงยหน้าขึ้นมาทันที พร้อมกับดวงตาที่เปียกชื้น นั่นคือการประนีประนอมที่เธอต้องทำริมฝีปากของเธอสั่น และดึงแขนเสื้อของเขาเบา ๆ ด้วยนิ้วบาง ๆ ของเธอ เธอได้ยินเสียงที่แหบแห้งของลู่เจ๋อขณะที่เขาพูด “ผ่านมากี่ปีแล้ว หรือคุณไม่อยากทำความคุ้นเคยกับอีกฝ่ายให้มากกว่านี้เหรอ? เฉียวซุน อย่างน้อยผมก็ต้องการลดผลกระทบที่จะเกิดเหมือนกัน”ที่ผ่านมา เขาไม่เคยเป็นแบบนี้......เพื่อเรื่องแบบนี้แล้ว ที่พูดเหตุผลออกมามากมายขนาดนี้ เฉียวซุนรู้ดีว่ามันก็เป็นแค่เหตุผลของเขาเท่านั้น เขาแค่อยากจะจะอยู่กับเธอตามลำพัง เพราะห้องครัวในตอนเช้ามักจะมีคนรับใช้เข้าออกอยู่ตลอดเวลาเธอยอมประนีประนอมด้วยเธอคลายนิ้วออก ร่างกายของเธอก็ถูกเขาอุ้มในแนวนอนทันทีตอนที่ลู่เจ๋อกำลังขึ้นไปชั้นบน ดวงตาสีเข้มของเขาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของ
แล้วจะขอบคุณเธอทำไมกัน......หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เฉียวซุนก็ถึงเข้าใจ เขากำลังขอบคุณเธอที่ไม่ถ่ายทอดความเกลียดชังของเธอไปยังเจ้าหนูลู่เหยียน เจ้าหนูลู่เหยียนสนิทกับเขามาก......ในใจของเฉียวซุนรู้สึกขมขื่นอยู่ครู่หนึ่งเธอพูดเสียงเบา “ตอนที่ฉันพาเธอไป ฉันเคยบอกเอาไว้แล้ว ว่าฉันจะสอนให้เธอรู้จักกับความรักและความสุข”เธอเบา ๆ ออกมาอีกครั้ง “เธอเป็นลูกของฉัน ไม่ใช่เครื่องมือของฉัน”ลู่เจ๋อไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเขานั่งอยู่ในรถด้วยใบหน้าที่จริงจัง เจ้าหนูลู่เหยียนใช้มือเล็ก ๆ ของเธอพยุงหน้าของเขา และพูดด้วยเสียงหวาน ๆ “พ่อคะ พ่อยิ้มหน่อยสิ! ”ลู่เจ๋อยิ้มให้เจ้าหนูลู่เหยียนเจ้าหนูลู่เหยียนก็ยิ้มให้เขาเช่นกัน ตอนที่เธอยิ้ม ก็เผยให้เห็นฟันน้ำนมที่เรียงกันเป็นแถว เหมือนกับเฉียวซุนตอนที่เธอยังเป็นเด็กไม่มีผิดจมูกของเขาก็รู้สึกแสบขึ้นมานิดหน่อยเขาคิดว่า หากเมื่อก่อนเขาไม่โง่ขนาดนั้นก็คงจะดี ครอบครัวของพวกเขาในตอนนี้รู้สึกว่ามีความสุขมาก เขาเองก็ไม่จำเป็นต้อง “แบ่งปัน" เธอให้กับใครอีกด้วย......ทันใดนั้นลู่เจ๋อก็พูดขึ้นว่า “ชีวิตในเมืองเซียง ดีมากเหรอ? ”เฉียวซุนตอบ อืม ออกมา “ดีมาก
เพราะในใจของลู่เจ๋อยังคงกังวลอยู่หลังจากที่เขากลับมาจากเมือง H ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเฉียวซุนก็ยังคงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่เหมือนเดิมตอนที่เขาไปเยี่ยมลูก เฉียวซุนเองก็พยายามหลบหน้า ตอนแรกลู่เจ๋อก็รู้สึกอึดอัดนิดหน่อย แต่แล้วเขาก็คิดว่า ในใจเธอตอนนี้คุณฟ่านคงสำคัญกับเธอที่สุด และที่เธอเข้ามาพัวพันกับเขาก็เพื่อลูกเท่านั้นพอพูดถึงความรู้สึก อันที่จริงก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยยิ่งเขาคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็เหมือนยิ่งออกห่างจากเฉียวซุนมากขึ้นเท่านั้น ระหว่างพวกเขา นอกจากลูกแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีเรื่องอื่นอีก......วันหยุดสุดสัปดาห์ตึกลู่ซื่อกรุ๊ป มองลงมาจากหน้าต่างสูง ก็ต้นเมเปิลสีแดงที่ดูเหมือนเปลวไฟกำลังลุกโชนถึงปลายฤดูใบไม้ร่วงอีกแล้ว!ลู่เจ๋อตกตะลึง เมื่อเห็นว่าโทรศัพท์มือถือของเขาได้รับสายจากเฉียวซุน คำพูดของเธอสั้นมาก มีเพียงแค่สามคำเท่านั้น “สะดวกไหม”ลู่เจ๋อไม่ได้ตอบกลับในทันทีเขาเดาว่าประจำเดือนของเธอคงหมดลงแล้ว เขามองออกไปไกล ๆ มองอยู่นานก่อนที่จะตอบกลับข้อความของเธอ “สะดวก! ”......ตอนกลางคืน ประมาณสองทุ่มพวกเขาพบกันที่โรงแรมฮิลตันภายในห้องสวีทไม
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถหยุดเขาได้ เขาจู่โจมทันทีภายในไม่กี่วินาที ริมฝีปากบางของเขาปิดหูของเธอจนมิด และเสียงของเขาก็แหบแห้ง เขาพูดสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ใส่หูของเธอ “บอกผมมาสิ ว่าคุณชอบแนวไหน แล้วต้องทำยังไงถึงจะทำให้คุณพอใจ?”เฉียวซุนมองไม่เห็นเขาแต่กระจกกลับสะท้อนร่างของทั้งคู่......เขากอดเธอ ใบหน้าสง่างามที่เต็มไปด้วยความเข้มงวด เมื่อมีผู้หญิงมองก็มักจะเกิดอารมณ์ตาม......เฉียวซุนเองก็ไม่สามารถต้านทานได้ และทำได้เพียงอดทนเท่านั้นหลังจากทำกันตรงข้างหน้าต่างเสร็จไปแล้วหนึ่งรอบ ลู่เจ๋อก็อุ้มเธอไปที่เตียงในห้องนอน กดตัวเธอไว้ แล้วรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับเธอ...... ความต้องการของผู้ชายที่เขาเก็บสะสมมานานสามปี ก็ถูกปล่อยออกมาในเวลานี้ทั้งหมดเขาไม่มีความเมตตาใด ๆ ทั้งสิ้น เขาทั้งหยาบคายและน่ารังเกียจ......พวกเขาทำกันเสร็จไปแล้วหลายรอบห้องนอนมืดสลัว และการหายใจของทั้งสองก็เปลี่ยนจากเร็วเป็นอ่อนโยน ลู่เจ๋อหันศีรษะ แล้วถามเบา ๆ “สบายตัวไหม? ”เฉียวซุนพลิกตัว หันหลังให้กับเขาเธอแสร้งทำเป็นคนที่ชำนาญ “ก็ใช้ได้! ”ลู่เจ๋อมองไปที่แผ่นหลังของเธอ เขาก็แทบรอไม่ไหวที่จะพลิกตัวเธอกลับมา
ในใจของพวกเขาเกิดความรู้สึกที่ท่วมท้นขึ้นแม้กระทั่งเมื่อกี้ ตอนที่พวกเขาทำกันอย่างดุเดือด มันก็ไม่ได้ซาบซึ้งเท่าช่วงเวลาในตอนนี้น้ำตาที่หางตาของเฉียวซุน มันเต็มไปด้วยความรักและความเกลียดชังที่เธอเคยมีต่อเขา น้ำตาไหลทีละหยดอย่างไม่เต็มใจ ก็ถูกลู่เจ๋อทั้งเลียและจูบออกไปจนหมดเสียงของเขาฟังดูแหบแห้ง “คุณยังเกลียดผมยู่ใช่ไหม? ยังรักผมอยู่รึเปล่า? ”เฉียวซุนเบือนหน้าหนีเธอไม่อยากที่จะตอบคำถามนี้เธอปฏิเสธที่จะตอบ ลู่เจ๋อจึงต้องกดเธอและลูบไล้เธออย่างแรง ดวงตาสีเข้มของเขาจ้องมองเธออยู่ครู่หนึ่ง เพื่อเฝ้าดูปฏิกิริยาของเธอ เขาอยากจะเห็นความรู้สึกเก่า ๆ บนใบหน้าของเธอ เผื่อว่าจะเจอร่องรอยของความรักที่เธอมีต่อเขา......แต่เฉียวซุนก็ไม่เคยโต้ตอบเขาเลยลู่เจ๋อพลิกตัว และนอนอยู่ข้าง ๆ เธอ แต่มือข้างหนึ่งของเขาก็ยังคงพาดอยู่บนร่างกายของเธออยู่ ใบหน้าของเขาซุกเข้าไปที่ช่วงคอของเธอ และท่าทางของเขาก็ต่ำมาก “ช่วงไม่กี่ปีมานี้ผมไม่เคยมีใคร ไม่ใช่ว่าผมไม่ต้องการ แต่เป็นเพราะผมไม่คิดจะหาต่างหาก เฉียวซุน ผมกลัวว่าคุณกลับมาแล้วจะไม่พอใจ”เขาเคยคิดเอาไว้ ว่าเธอก็อาจจะหาใครสักคนเหมือนกันแต่พอเขาเห
แม้ปากจะบอกว่าทำเพื่อเด็กแต่พวกเขาก็เคยเป็นสามีภรรยากันมาสองสามปีแล้ว ประสบการณ์ในฐานะสามีภรรยาทั้งหมดของพวกเขาก็มาจากการที่ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ค่ำคืนอันแสนเร่าร้อนเหล่านั้น ต่อให้พวกเขาจะเกลียดจนถึงขั้นไม่เผาผีกัน ยังไงพวกเขาก็ลืมมันไปไม่ได้ง่าย ๆ อยู่ดี......ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ พวกเขาก็กำลังหวนนึกถึงวันคืนเก่า ๆ อีกครั้งลู่เจ๋อยืนอยู่ข้างเตียง มองดูเฉียวซุนแต่งตัวอย่างเงียบ ๆ เธอเองก็ไม่ได้หลบเลี่ยงเขา ยังไงซะ สิ่งที่ควรเห็นก็เคยเห็นมาก่อนแล้ว มันไม่ได้มีอะไรน่าอวดขนาดนั้นพอถึงตอนที่กำลังจะไป เธอก็เห็นว่าปกเสื้อของเขางอนิดหน่อย เธอชินกับการช่วยเขาปรับให้ตรงจนเป็นนิสัยก่อนที่จะวางมือลง ลู่เจ๋อก็คว้าเอาไว้ดวงตาสีเข้มของเขาที่ไม่อาจคาดเดาได้ ก็กำลังจ้องมองเธออยู่ แล้วถามคำถามที่เข้าใจยากออกมา “คุณเองก็ช่วยเขาจัดเสื้อแบบนี้เหรอ? ”เขาคนไหน......เฉียวซุนยังไม่ทันได้ตอบอะไร แต่ลู่เจ๋อก็ปล่อยมือเธอ แล้วเข้าไปในลิฟต์ก่อนเฉียวซุนเดาว่าเขาน่าจะเข้าใจอะไรผิดอยู่หลังจากคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เธอก็เดาได้ว่าคงจะกำลังเข้าใจคุณฟ่านผิดอยู่ เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้เธอได้เข้