Share

บทที่ 9

ค่ำคืนนี้ ผ่านไปอย่างยาวนานมาก

จนกระทั่งฟ้าสางเล็กน้อย จางหยวนที่อยู่ในถ้ำก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา

เมื่อเห็นใบหน้าอันเรียวเล็กที่ประณีตสวยงามที่อยู่ตรงหน้า และสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอบอุ่นในอ้อมแขน เขาก็รู้สึกว่าตนเองกำลังฝันอยู่ครู่หนึ่ง

แต่ไม่นานจางหยวนก็รู้ว่า ตนเองไม่ได้ฝันไป

เพราะเรือนร่างอันงดงามของสาวสวยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา มันนุ่มนวลอ่อนโยนมากจริง ๆ !

หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่ในใจว่า...

"ซี๊ด!"

จางหยวนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

เมื่อคืนนี้ เขาถูกสาวน้อยคนนี้ผลักจริง ๆ !

แม้ว่าตอนนี้ พวกเขาทั้งสองจะกอดกันแบบห่าง ๆ ก็ตาม!

จางหยวนกลืนน้ำลาย ตอนนี้สถานการณ์ร้ายแรงกว่าที่คิดแล้ว!

ทำยังไงดี?

ควรทำยังไง?

แต่ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องลุกขึ้นไปสวมเสื้อผ้าก่อน!

จางหยวนผลักหญิงสาวออกไปด้วยความระมัดระวัง

แต่ไม่ว่าเขาจะระมัดระวังมากแค่ไหน

ขณะที่ทั้งสองแยกจากกัน เด็กสาวยังคงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเล็กน้อย

ม่านตาของจางหยวนหดลงเล็กน้อย แล้วแอบพูดว่าแย่แล้ว!

ทันใดนั้นเอง หญิงสาวก็ลืมตาขึ้น

เมื่อฉู่เสวี่ยฉีเห็นจางหยวน แล้วเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของตนเอง รวมทั้งความยุ่งเหยิงบนพื้น

เธอก็ตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก

จางหยวนจึงฉวยโอกาสนี้กระโดดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้วคิดจะวิ่งออกไปข้างนอก

แต่สิ่งที่ทำให้เขางงก็คือ ฉู่เสวี่ยฉีที่อยู่ข้างหลังเขาไม่ได้ร้ัองเอะอะโวยวายอย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้

ในทางตรงกันข้าม เธอกลับเรียกจางหยวนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาอย่างเห็นได้ชัด

“นาย ยังไปไม่ได้! สวมเสื้อผ้ารอฉันอยู่ตรงนั้น!”

เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกงุนงง

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นเรื่องยากที่เขาจะสวมเสื้อผ้าแล้วปฏิเสธในสิ่งที่เกิดขึ้น

พอทั้งสองสวมเสื้อผ้าเสร็จแล้ว

เมื่อมองไปที่ฉู่เสวี่ยฉีที่ผมเผ้ารุงรัง สีหน้าซีดเผือด จางหยวนก็อยากจะขอโทษเธอทันที

สีแดงสดใสที่อยู่ไม่ไกลพิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า การคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาถูกต้อง

ผู้หญิงคนนี้เป็นผักกาดขาวอ่อนที่ยังไม่เคยถูกหมูแตะต้องจริง ๆ ...

แน่นอนว่า ต้องเป็นก่อนหน้าเมื่อคืนนี้!

จางหยวนขยับริมฝีปาก กำลังจะเอ่ยปากขอโทษ

ในเวลานี้ฉู่เสวี่ยฉีก็หยิบแบ้งค์ห้าร้อยปึกหนึ่งออกมาจากในกระเป๋าของเธอ แล้วฟาดไปที่บนตัวของจางหยวนอย่างแรง

หลังจากที่ธนบัตรสีม่วงกระแทกไปที่ตัวของจางหยวนแล้ว มันก็กระเด็นขึ้น แล้วลอยว่อนอยู่ในอากาศ

จางหยวนถูกเงินกระแทกจนใบหน้าเต็มไปด้วยความมึนงง

ในเวลานี้ สีหน้าของฉู่เสวี่ยฉีดูเย็นชา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียที่เต็มไปด้วยความรังเกียจว่า:

“เงินจำนวนนี้ เอาไว้อุดปากคุณ! เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ห้ามแพร่งพรายออกไปแม้แต่เพียงคำเดียว!”

จางหยวนเม้มริมฝีปาก เขาไม่เคยคิดที่จะเผยแพร่เรื่องดังกล่าว

ในเวลานี้ ฉู่เสวี่ยฉีเห็นว่าจางหยวนกำลังจะอ้าปากพูด จึงหยุดเขาเอาไว้

“หุบปาก! ฉันไม่อยากได้ยินเสียงสกปรก ๆ ของนาย! พอคนชนบทอย่างพวกคุณอ้าปาก ก็ต้องการแค่เงินไม่ใช่เหรอ?” ฉู่เสวี่ยฉีพูดอย่างเย็นชา

“ฉันมีเงินมากมาย! ถ้าเงินห้าหมื่นบาทไม่พอฉันก็จะให้เงินนายหนึ่งแสนบาท! ขอแค่หุบปากสกปรก ๆ ของนายได้ก็พอแล้ว! จำไว้ว่า เมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น!”

จางหยวนกตะลึงกับคำพูดของฉู่เสวี่ยฉี

วินาทีต่อมา ใจของเขาเต็มไปด้วยความโกรธสุดขีด!

อะไรที่เรียกว่าคนชนบทอ้าปากก็ขอแต่เงิน?

ผู้หญิงคนนี้คิดว่าคนชนบทเป็นยังไง?

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้จางหยวนรู้สึกอัปยศอดสูมากยิ่งขึ้นก็คือ พวกเขาสองคนเพิ่งทำสิ่งนั้นไปเมื่อคืนนี้ ในชั่วพริบตาเดียวผู้หญิงคนนี้กลับอยากจะให้เงินเขา

คิดว่าเขาจางหยวนเป็นคนประเภทไหน?

ชายขายบริการในคลับงั้นเหรอ?

สายตาของจางหยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที

ความรู้สึกผิดที่ทำกับเรือนร่างของอีกฝ่าย ก็ได้หายไปด้วย

เขาเม้มริมฝีปาก แล้วกล่าวเยาะเย้ยว่า: "ให้เงินผม? ผมยังอยากจะให้เงินคุณอยู่เลย?"

ในขณะที่พูด จางหยวนก็ควักเงินสองร้อยห้าสิบบาทออกมาจากในกระเป๋าของเขา แล้วโยนมันใส่อีกฝ่ายอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้

แต่เงินนี้ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าของจางหยวนเป็นเวลานาน จึงยับยู่ยี่ไปหมด มันจึงไม่เด้งขึ้นมา และหล่นลงไปบนพื้นเบา ๆ

การกระทำเช่นนี้ ทำให้ฉู่เสวี่ยฉีตกตะลึงกับการกระทำของจางหยวน

เธอคิดไม่ถึงว่าจางหยวนจะกล้าโยนเงินใส่เธอ!

แถมยังโยนเงินสองร้อยห้าสิบบาทที่เก่าจนไม่รู้จะเก่ายังไงออกมา!

จางหยวนไม่สนใจสิ่งที่ฉู่เสวี่ยฉีคิด เขาพูดอย่างประชดประชันเล็กน้อยว่า: "อย่ารังเกียจที่มันน้อย การแสดงออกของคุณเมื่อคืนนี้ คุ้มค่ากับราคานี้เท่านี้!"

ในเมื่อสาวน้อยคนนี้ปฏิบัติต่อเขาเหมือนหนุ่มบริการขายบริการ เขาจึงปฏิบัติต่อเธอเหมือนเจ้าหญิงในคลับด้วยเช่นกัน

ฉู่เสวี่ยฉีที่รู้ว่าจางหยวนหมายถึงอะไร ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความโกรธทันที

“นี่นายกำลังพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่? หุบปากสกปรก ๆ ของนายซะ!”

นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกคนทำให้อับอายเช่นนี้!

จางหยวนหัวเราะเยาะ: "ปากของผมสกปรก? ฉันคิดว่าปากของคุณสกปรกกว่านี้อีก! คุณลืมไปแล้วเหรอ? ปากของคุณทำอะไรไปบ้างเมื่อคืนนี้?"

เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าของฉู่เสวี่ยฉีก็เปลี่ยนไปทันที

เมื่อคืนเธอขาดสติไป เพราะยาปลุกเซ็กส์ หรือว่า...

เมื่อนึกถึงความน่าจะเป็นไปได้แล้ว ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ซีดลงสุดขีด

เธอผู้หยิ่งยโสราวกับหงส์ขาว ทำเรื่องที่น่ารังเกียจเช่นนี้ได้อย่างไร!

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของฉู่เสวี่ยฉี แววตาแห่งความสุขก็แวบขึ้นในดวงตาของจางหยวน

เขาแค่โกหกอีกฝ่าย

เมื่อคืนอารมณ์ใคร่รุนแรงมาก ร้อนแรงชนิดที่เรียกว่าร้อนแรงสุดขีด

ส่วนเรื่องที่เหลือ พวกเขาไม่มีเวลาลิ้มลองมันเลย

และเมื่อคืนนี้ก็เป็นครั้งแรกของจางหยวนเหมือนกัน เขาจะใส่ใจอะไรมากขนาดนั้น?

เมื่อเห็นว่าตนเองโจมตีหงส์ขาวผู้เหย่อหยิ่งตัวนี้ได้สำเร็จ จางหยวนก็ขี้เกียจที่จะสนใจเธออีกต่อไป จึงเดินไปด้านข้างแล้วเริ่มตรวจสอบตะกร้าสะพายหลัง

เมื่อเห็นว่าโสมป่าในตะกร้ายังคงอยู่ข้างใน และไม่ได้บุบสลาย

จางหยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาเหลือบมองหงส์ขาวที่ยังคงมีสีหน้าที่ซีดเซียว จากการสัมผัสใกล้ชิดเมื่อครั้งก่อน เขาก็ได้ค้นพบสิ่งหนึ่ง

หงส์ขาวตัวนี้กำลังป่วยเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาได้!

แม้ว่าจะไม่ร้ายแรงถึงตาย แต่ก็ไม่ง่ายเลยที่จะรักษาให้หายได้!

เว้นแต่จะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนอย่างแท้จริง ไม่อย่างนั้นคนธรรมดาจะไม่สามารถรักษาให้หายได้เลย

เมื่อไม่กี่นาทีที่แล้ว จางหยวนยังคิดว่า พออีกฝ่ายตื่นขึ้นมแล้วา เขาจะรักษาอาการป่วยของเธอเพื่อเป็นชดเชยการกระทำของตนเอง

แต่เขาคิดไม่ถึงว่า หงส์ขาวตัวนี้จะยังคงน่าเกลียดน่ารำคาญขนาดนั้น

มองเขาเป็นชายที่ขายบริการทางเพศไม่พอ ยังดูถูกคนในชนบทอีกด้วย มันมากเกินไปจริง ๆ !

จางหยวนทำเสียงฮึดฮัดเบา ๆ จากนั้นก็แบกตะกร้าสะพายหลัง หันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากถ้ำ โดยที่ไม่มองอีกฝ่ายอีกเลย

หลังจากที่เขาจากไปแล้ว ฉู่เสวี่ยฉีก็กัดฟันด้วยความโกรธ

“ไอ้คนสารเลว! กล้าว่าฉันเป็นผู้หญิงแบบนั้นเหรอ! อย่าให้ฉันได้เจอนายอีกนะ ไม่งั้นนายจะต้องได้เจอดี!”

หลังจากนั้นไม่นาน ฉู่เสวี่ยฉีก็เดินกะโผลกกะเผลกออกจากถ้ำ

ทุกย่างก้าวที่เดิน เธอก็แอบด่าว่าจางหยวนเลวอยู่ในใจ

รอจนกระทั่งมาถึงตีนเขา

ก็เห็นรถของคนหลายคนจอดอยู่ที่นี่ แต่ก็ไม่มีวี่แววของหวังปินและคนอื่น ๆ อยู่แถวนี้เลย

คราวนี้ฉู่เสวี่ยฉีจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เธอรีบขึ้นรถ ต่อสู้กับความเหนื่อยล้าแล้วขับออกไปจากสถานที่ที่ทำให้เธอเจ็บซ้ำน้ำใจ

ในเวลานี้หวังปินและคนอื่น ๆ ยังคงตั้งแคมป์อยู่บนภูเขา ทุกคนต่างก็พากันนอนหงายอย่างหลับสนิท

โดยที่ไม่รู้ว่า คนที่พวกเขาตามหา ได้จากไปอย่างเงียบ ๆ แล้ว

เมื่อจางหยวนกลับมาถึงบ้าน แม่ของเขาหวังฮุ่ยก็ตื่นนอน และกำลังกวาดพื้นอยู่ในลานบ้าน

จางหยวนอ้างว่าตนเองได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นเก่าคนหนึ่ง จึงนั่งอยู่ที่บ้านเพื่อนร่วมชั้นอยู่พักหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเพื่อนร่วมชั้นจะให้พักค้างคืน ดังนั้นเขาจึงพักค้างคืนหนึ่ง

สองสามีภรรยาสูงวัย ไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้

เพราะตอนนี้จางหยวนก็หายดีแล้ว จึงไม่สามารถควบคุมเขาเหมือนเด็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว

“ลูกหยวน ทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้” เมื่อหวังฮุ่ยเห็นจางหยวนเดินเข้ามาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

จางหยวนก้าวไปข้างหน้าแล้วหยิบไม้กวาดมาจากหวังฮุ่ย: "แม่ครับ ผมตื่นแต่เช้าแล้วขึ้นไปเก็บสมุนไพรบนภูเขานิดหน่อย เพราะว่าจะเอาไปขายที่ในเมืองวันนี้พอดี"

“ลูกหยวน ต่อไปอย่าขึ้นไปบนภูเขาเพื่อเก็บสมุนไพรอีกนะ การปีนเขาค่อนข้างอันตราย” หวังฮุ่ยกล่าวอย่างจริงจัง

“แม่รู้ดีว่าลูกอยากจะหาเงินเยอะ ๆ เพื่อจะได้แต่งงานกับภรรยาที่ดี ทำตามที่พ่อของลูกบอก เอาที่ดินติดถนนของพวกเราขายไปก่อน ลูกจะได้แต่งงานสักที!”

เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็รู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที: "แม่ครับ ผมไม่รีบร้อนที่จะหาภรรยา! และไม่จำเป็นจะต้องขายที่ดินของพวกเราเช่นเดียวกัน!"

“เด็กโง่ ก็ไม่ดูว่าลูกอายุเท่าไหร่แล้ว! มีเพียงการแต่งงานเท่านั้น ที่จะทำให้ลูกโตเป็นผู้ใหญ่ที่ได้อย่างแท้จริง!” สีหน้าของหวังฮุ่ยเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก

เมื่อได้ยินดังนี้ จางหยวนก็นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status