ตระกูลเมิ่งก็กลายเป็นตัวตลกด้วยเช่นกันเขามาวันนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะระบายความอัดอั้นคุณท่านเฮ่อขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “ฉันพูดถึงแค่เรื่องนัดบอดเท่านั้น แต่หลังจากเยียนสือแต่งงานแล้ว ฉันก็ไม่เคยพูดถึงมันอีกเลย ยิ่งไปกว่านั้นที่ฉันพูดถึงก็คือนัดบอด ไม่ได้พูดถึงอะไรที่มันจริงจังด้วยซ้ำ พวกเธอคิดว่าเป็นเรื่องการแต่งงานไปได้ยังไง? ”เมิ่งฮ่าวหยางพูดไม่ออก แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ ที่ต้องกลั้นลมหายใจนี้ไว้ในอกของเขา“อย่างน้อยก็ควรจะได้รับการชดเชยบ้างสิ” เมิ่งฮ่าวหยางมองเฮ่อเยียนสือ “ต่อให้คุณชายรองจะแต่งงานแล้ว แต่ตอนนี้เขาเองก็ดูแลธุระกิจหลักอยู่ในประเทศ ผู้ชายน่ะ มีแนวโน้มที่จะเหงาบ่อยอยู่แล้ว ไม่สู้......แต่งงานเพิ่มอีกสักคนเป็นไง”เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ผลักเมิ่งเหยาไปทางเฮ่อเยียนสือเมิ่งเหยาก้มศีรษะอย่างเขินอาย และใช้โอกาสนี้ปล่อยให้เธอตกอยู่ในอ้อมแขนของเฮ่อเยียนสือเฮ่อเยียนสือขยับตัวหลบไปด้านข้างเมิ่งเหยาสดุดกลางอากาศจนเกือบจะล้มหลังจากเธอยืนหยัดได้ในที่สุด ก็ได้ยินเสียงที่เรียบเฉยของเฮ่อเยียนสือ“ภรรยาผมไม่เห็นด้วย ผมไม่กล้าแต่งงานใหม่”คำว่า “ภรรยา” สองคำออกมาจา
เมิ่งเหยาเพิ่งจะรู้สึกหงุดหงิดกับเฮ่อเยียนสือมา ตอนนี้เมื่อเธอเห็นอวิ๋นซู ดูเหมือนว่าเธอจะพบกับกระสอบทรายแล้ว เธอคว้าแขนของอวิ๋นซูโดยไม่พูดอะไรสักคำ แล้วถามว่า“เธอมาที่นี่ก็เพื่อหลอกล่ออารองของเฮ่อหย่วนเจ๋ออีกแล้วใช่ไหม?! ”อวิ๋นซูเอียงศีรษะ เหลือบมองแขนที่เมิ่งเหยาคว้าไว้อย่างเจ็บปวด แล้วพูดอย่างเย็นชา “ปล่อย! ”เมิ่งเหยาที่กำลังบ้าคลั่งอยู่ก็ไม่ฟังอะไรทั้งนั้นถ้าเธอไม่ได้ อวิ๋นซูก็ไม่มีสิทธ์ที่จะได้เหมือนกัน?เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมปล่อย อวิ๋นซูก็คว้ามือเมิ่งเหยา และจิกเล็บของเธอลงไปเมิ่งเหยารู้สึกเจ็บปวด จึงได้ผลักอวิ๋นซูออกไป เธอมองดูลายนิ้วมือลึกบนข้อมือของตัวเอง เธอก็พยายามตะครุบอวิ๋นซูอีกครั้งอวิ๋นซูหลบหลีก เงยหน้าขึ้นมองกล้องที่อยู่ไม่ไกล และพูดเตือนว่า “คุณเมิ่งคะ ให้ความสนใจกับภาพลักษณ์ของคุณด้วยค่ะ”เมิ่งฮ่าวหยางตระหนักดีว่านี่ไม่ใช่อาณาเขตของพวกเขา คงจะไม่ดีหากพฤติกรรมของเมิ่งเหยาถูกเปิดเผยออกไป ดังนั้นเขาจึงรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อหยุดเมิ่งเหยา“เสี่ยวเหยา” เมิ่งฮ่าวหยางพูดอย่างดูถูก “ลงมือกับคนประเภทนี้ก็เท่ากับเรากำลังด้อยค่าตัวเอง พวกเราไปกันเถอะ”เมิ่งเหยาปฏิ
อวิ๋นซูไม่สนใจอะไรมากนักนอกจากชายชรา เธอก็ไม่ให้ความสนใจกับใครเลย“ไม่พูดกับเธอต่อแล้ว ฉันจะโทรหาคนขับรถละ”อวิ๋นซูวางสายโทรศัพท์แล้วเรียกคนขับโชคดีที่ยังอยู่ในเขตเมือง ไม่นานก็มีคนรับออเดอร์ตอนที่อวิ๋นซูกลับถึงเป่ยเฉิง เวลาก็ปาไปห้าโมงกว่าแล้วท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดง พระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกลงเหนือภูเขาทีละน้อย รู้สึกเงียบสงบและสวยงามอย่างไรก็ตาม อารมณ์ของเธอกลับไม่สงบเมื่อกลับถึงบ้าน เห็นรองเท้าแตะผู้ชายวางอยู่บนชั้นวางรองเท้า เธอก็รู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นเธอทำได้แค่เก็บรองเท้าไว้ในตู้ทันทีที่เธอนั่งลง ก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อบ้านโจว“คุณผู้ดูแลโจว โทรหาฉันมีธุระอะไรหรือเปล่าคะ? ”“คุณอวิ๋น คุณกลับมาที่เป่ยเฉิงแล้วหรือยังครับ? ”“อืม ฉันเพิ่งกลับมาค่ะ”“คุณท่านอยากให้คุณไปที่โรงพยาบาลหน่อยน่ะครับ”อวิ๋นซูนึกถึงคำพูดของหลินเหมียวเหมียว หัวใจของเธอก็เต้นรัว และเธอก็โพล่งออกมา “คุณปู่สบายดีใช่ไหมคะ? ”“ไม่ใช่คุณท่านหรอกครับ” พ่อบ้านโจวเดาว่าเธอได้ยินอะไรบางอย่างมาบ้างแล้ว เขาจึงไม่ได้ปิดบัง “เป็นนายน้อยที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครับ ตอนนี้อยู่ในโรงพยาบาล”อวิ๋นซูอยาก
อวิ๋นซูมองกลับมาที่เขา “มีอะไรรึไง? ”“ไม่ใช่ว่าคุณรับปากกับคุณปู่ว่าจะดูแลผมแล้วหรอกเหรอ? ” เฮ่อหย่วนเจ๋อจ้องมองอวิ๋นซูอย่างกังวล “คุณคงจะไม่กลับคำหรอกใช่ไหม? ”อวิ๋นซูไม่ต้องการที่จะสนใจเขา เธอเดินออกไปถามบอดี้การ์ดว่าห้องครัวอยู่ที่ไหนบอดี้การ์ดพาอวิ๋นซูไปที่ห้องครัวห้องครัวเต็มไปด้วยผัก ไก่ เป็ด และปลาทุกชนิด อีกทั้งยังล้างทำความสะอาดมาแล้วเรียบร้อย อวิ๋นซูมีหน้าที่แค่ต้องใส่มันลงไปในหม้อแล้วปรุงเท่านั้นเมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนดูแลอาหารทั้งสามมื้อในแต่ละวันของเฮ่อหย่วนเจ๋อ เธอรู้ดีว่ารสชติที่เฮ่อหย่วนเจ๋อชอบต้องเป็นยังไง แต่ตอนนี้ อวิ๋นซูไม่ต้องการทำตามความชอบของเฮ่อหย่วนเจ๋อเธอทำตามความชอบของเธอ!ครึ่งชั่วโมงต่อมา บอดี้การ์ดก็ยกอาหารมาสองอย่างจานที่หนึ่งเป็นกะหล่ำปลีต้ม และอีกจากหนึ่งก็ยังเป็นกะหล่ำปลีต้มอยู่ดีใบหน้าของเฮ่อหย่วนเจ๋อดูแย่มาก “ยังมีอย่างอื่นอีกไหม? ”“ไม่มีแล้ว” อวิ๋นซูนำกะหล่ำปลีต้มที่เธอแบ่งไว้ส่วนหนึ่งมา นั่งลงหน้าโต๊ะชา และเริ่มกินช้า ๆเธอยังไม่ได้กินข้าวกลางวัน ตอนนี้เองก็ยังไม่อยากอาหาร เธอจึงปรุงกะหล่ำปลีต้มไว้สองส่วนเฮ่อหย่วนเจ๋อโกรธมากจนอยา
เฮ่อเยียนสือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์โทรศัพท์“ส่งบลูมูนมาหน่อย”เย่ชางแหยนแทบหายใจไม่ทันปัจจุบันบลูมูนเป็นแหวนเพชรที่แพงที่สุดในโลกเพื่อเป็นการขอบที่คุณแม่เฮ่อคอยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาโดยตลอด พ่อเฮ่อใช้เงินกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้านบาทเพื่อซื้อแหวนเพชรนี้ให้ ก่อนที่แม่เหอจะเสียชีวิต เธอก็ได้มอบแหวนเพชรทิ้งไว้ให้พ่อเฮ่อ โดยบอกว่าเป็นแหวนสำหรับลูกสะใภ้ในอนาคตนี่เฮ่อเยียนสือคิดจะ......พ่อเหอที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน “ได้ ได้ ได้ พ่อจะจัดเที่ยวบินพิเศษเพื่อส่งกลับไปให้เดี๋ยวนี้เลย! ”......โรงพยาบาลเฮ่อหย่วนเจ๋อกินกะหล่ำปลีต้มเสร็จด้วยความไม่พอใจอวิ๋นซูรอให้บอดี้การ์ดเก็บชามและตะเกียบออกไป แล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนอีกครั้งเฮ่อหย่วนเจ๋อโพล่งออกมา “คุณจะไปไหนอีกเหรอ? ”อวิ๋นซู “กลับบ้าน”“แต่คุณปู่ขอให้คุณดูแลผมนะ”“คุณปู่แค่ขอให้ฉันดูแลมื้ออาหารของคุณสามมื้อต่อวันเท่านั้น ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป ฉันจะนำอาหารมาส่งให้คุณนะคะ”อารมณ์ผิดหวังของเฮ่อหย่วนเจ๋อดีขึ้นทันทีเขายังบอกอีกว่า อวิ๋นซูจะต้องทำอาหารที่อร่อยให้เขาอย่างแน่นอนหลังจากที่อวิ
ดวงตาของเขาแคบลง“คุณเองก็เข้าร่วมการแข่งขันออกแบบด้วยเหรอ? ”“อืม” อวิ๋นซูออกมาหลังจากทำความสะอาดเสร็จ เมื่อเธอมองลงไปที่เฮ่อเยียนสือ เธอก็คิดเกี่ยวกับเรื่องนั้นขึ้นมาอีก เธอจึงรีบเดินเข้าไปในครัว “คุณอยากกินอะไรไหม? ”เฮ่อเยียนสือพิงประตูกระจกห้องครัว “ไปนอนก่อนเถอะ ผมจะไปซื้ออาหารเช้ามาให้คุณเอง”“ไม่ได้” อวิ๋นซูสูดลมหายใจ “อีกเดี๋ยวฉันจะต้องส่งอาหารให้เฮ่อหย่วนเจ๋อด้วย”ดวงตาของเฮ่อเยียนสือมืดลง “คุณต้องส่งอาหารให้เขาด้วยเหรอ? ”เขาเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล เขารู้เรื่องการรักษาตัวในโรงพยาบาลของเฮ่อหย่วนเจ๋อเมื่อวานนี้“ใช่ เขาค่อนข้างมีความอยากอาหารที่จู้จี้จุกจิกมาก” อวิ๋นซูรู้เรื่องนี้ดี แค่มีสิ่งที่เขาไม่ชอบอยู่ เขาก็จะต่อต้านทันที “ไม่พูดแล้ว คุณออกไปรอก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้ว”เธอไม่สามารถอยู่กับเฮ่อเยียนสือภายใต้หลังคาเดียวกันได้จริง ๆเฮ่อเยียนสือระงับความไม่พอใจเอาไว้ “คุณยังสนใจเขาอยู่อย่างงั้นเหรอ? ”เสียงเครื่องดูดควันกลบเสียงของเฮ่อเยียนสือ อวิ๋นซูจึงไม่ได้ยินเสียงเขาชัดเจน เธอใส่ผักที่ไม่ได้ปรุงเมื่อคืนนี้ลงในหม้อเสียง ซู่ซ่า ซู่ซ่า ราวกับเสียงของประทั
“เฮ่อ ไม่ต้องสนใจเธอ นับตั้งแต่ที่เรื่องการแต่งงานของเธอกับอารองเฮ่อหย่วนเจ๋อกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิด ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นบ้าไปแล้ว” หลินเหมียวเหมียวแทบรอไม่ไหวที่จะเปิดของว่างมื้อดึกแล้วสูดดมกลิ่น “หอมมาก ที่รัก นานแค่ไหนแล้วที่ฉันไม่ได้ลิ้มรสอาหารของเธอเนี่ย? ”อวิ๋นซูเหลือบมองที่ลานจอดรถ “เธอกินก่อนเถอะ ฉันจะไปส่งอาหารก่อน”“รีบอะไรขนาดนั้น ทำไมไม่รอจนกว่าเมิ่งเหยา ผู้หญิงบ้าคนนั้นจากไปก่อนล่ะ? ”อวิ๋นซูยิ้ม “ฉันพอจะรู้แล้ว ว่าเธอกำลังไปหาใคร เราจะไม่เจอกันแน่นอน”“อ่อ โอเค” หลินเหมียวเหมียวถูกอาหารอร่อย ๆ ดึงความสนใจอยู่ “งั้นก็รีบไปเถอะ”อวิ๋นซูลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ลานจอดรถ หยิบกล่องเก็บความร้อนแล้วเดินไปที่อาคารของเฮ่อกรุ๊ปที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเมื่อก่อนตอนที่เฮ่อหย่วนเจ๋อทำงานล่วงเวลา เธอก็มาส่งของว่างมื้อดึกแบบนี้เหมือนกัน เขาปฏิบัติต่อเธอด้วยความเฉยเมยอยู่เสมอ แต่เธอก็ชินกับมันแล้วล่ะแต่การยืนอยู่ที่นี่ในคืนนี้ กลับรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก“คุณอวิ๋น! ”เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจำอวิ๋นซูได้ในทันที และดวงตาของเขาก็ค่อนข้างเห็นอกเห็นใจ “มาที่นี่ส่งของว่างมื้อดึกให้คุณชายเ
เมิ่งเหยาโกรธมากจนกัดฟัน ดูเหมือนว่าเธอจะนึกอะไรบางอย่างได้จึงหัวเราะเยาะ “ช่างมันเถอะ ทำไมฉันต้องมามัวทะเลาะกับเธอด้วยเนี่ย ดูสิ——”เมิ่งเหยาหันกลับมา หยิบกล่องกำมะหยี่บนโต๊ะขึ้นมาแล้วเปิดออกแหวนเพชรสีชมพูขนาดใหญ่ที่หายากปรากฏขึ้นต่อหน้าอวิ๋นซูจิตใจของเธอแทบจะระเบิดก่อนที่เธอจะทันได้ตอบสนอง ก็เห็นเมิ่งเหยาหยิบแหวนเพชรสีชมพูวงใหญ่มาสวมที่นิ้วของตัวเอง “แหวนวงนี้เขาซื้อให้ฉันเป็นพิเศษ สวยไหมล่ะ? ”แสงที่หักเหของแหวนเพชรภายใต้แสงสีเหลืองอันอบอุ่น ทำให้อวิ๋นซูแสบตา และหัวใจของเธอก็เต้นรัวเธอบีบหัวใจตัวเองไว้ “เป็นคุณจริง ๆ! ”ผู้หญิงที่อยู่ข้างนอกของเฮ่อเยียนสือก็คือเมิ่งเหยาจริง ๆ!“แน่นอนว่าคือฉันเอง” เมิ่งเหยาเข้าใจความหมายของอวิ๋นซูผิดอย่างสิ้นเชิง และพูดอย่างภาคภูมิใจ “ไม่เช่นนั้นก็จะให้เป็นเธอรึไง? หยุดฝันลม ๆ แล้ง ๆ ได้แล้ว ไม่ดูสารรูปตัวเองเลยรึไง เธอคิดว่า เธอคู่ควรกับเขาเหรอ? ”ดวงตาของอวิ๋นซูเริ่มขุ่นเคือง เธอกระพริบตา กัดริมฝีปากสีแดงของเธอ และพึมพำด้วยเสียงต่ำเป็นเวลานาน “อันที่จริง ตามข้อตกลงแล้ว ฉันไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปแทรกแซง ฉันขอตัวก่อนก็แล้วกันค่ะ”หลังจา