Share

บทที่ 2

“ข้าอยากได้น้ำ น้ำ……”

พอตั้งใจฟังแล้ว เสียงนั้นดังมาจากเรือนอวิ๋นซวน

และผู้ที่อาศัยอยู่ในเรือนอวิ๋นซวนก็คือท่านอ๋องของจวนนี้ - เยี่ยเป่ยเฉิง

หลินซวงเอ๋อร์นึกถึงคำพูดของท่านป้าจ้าวทันที

หากท่านอ๋องเรียกเจ้า เจ้าก็เข้าไปปรนนิบัติรับใช้ ถ้าไม่เรียก เจ้าก็ไม่ต้องไปสนใจ

หลินซวงเอ๋อร์ลังเล เธอไม่อยากไปปรนนิบัติรับใช้ ตอนกลางวันได้ยินมาว่าท่านอ๋องโมโหร้าย ถ้านางปรนนิบัติไม่ดี ก็จะลงเอยเหมือนเสวี่ยหยวน

“น้ำ… ข้าอยากได้น้ำ…”

เสียงของชายหนุ่มเริ่มแหบแห้งมากขึ้นเรื่อยๆ ตามด้วยเสียงหอบเบาๆหลายครั้ง ราวกับว่ากำลังพยายามสุดขีดเพื่ออดทนต่อความเจ็บปวด

บางที ท่านอาจจะแค่อยากดื่มน้ำ?

พอคิดอย่างนี้ สุดท้ายหลินซวงเอ๋อร์ก็ไม่สนใจอะไรมากนัก หยิบปิ่นปักผมจากใต้หมอนแล้วมัดผมอันดำขลับไว้ด้านหลังศีรษะ นางกำลังจะไปหยิบผ้าพันหน้าอก แต่กลับพบว่าผ้าพันอกยังเปียกและมีน้ำหยดอยู่..

ด้วยความจนใจ หลินซวงเอ๋อร์จึงเอาเสื้อคลุมหลวมๆตัวหนึ่งจากตู้เสื้อผ้ามาสวมแบบลวกๆ

พอมาถึงเรือนอวิ๋นซวน เสียงของชายหนุ่มก็ดังมาจากข้างในเป็นระยะๆ

หลินซวงเอ๋อร์เปิดประตูอย่างตัวสั่นงันงก

สองปีที่นางอยู่ที่จวนแห่งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่ย่างกรายเข้าไปในเรือนอวิ๋นซวน

ห้องหับใหญ่โตมาก เครื่องประดับตกแต่งภายในก็หรูหรา ในห้องจุดเพียงตะเกียงน้ำมันสลัวๆอันหนึ่งเท่านั้น ทุกสิ่งในห้องดูเหมือนจะถูกคลุมไปด้วยม่านลึกลับ จึงทำให้หลินซวงเอ๋อร์มองเห็นได้ไม่ชัดเจน

เสียงลมหายใจฟืดฟาดของชายหนุ่มดังมาจากในม่านเตียง

หลินซวงเอ๋อร์เหลือบมองกาน้ำชาบนโต๊ะ เดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว หยิบกาน้ำชาขึ้นมาแล้วเทน้ำลงไปในถ้วยชา

“ท่านอ๋อง น้ำมาแล้ว…” หลินซวงเอ๋อร์ก้าวขยับไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ แต่กลับหยุดอยู่ด้านนอกม่านเตียง

"สมุนไพรอาบน้ำ เตรียมสมุนไพรอาบน้ำเสร็จหรือยัง?"ชายหนุ่มที่อยู่ข้างในพูดด้วยความยากลำบาก

หลินซวงเอ๋อร์ยืนอยู่ที่เดิมอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราว นางไม่รู้ว่าสมุนไพรอาบน้ำคืออะไร นางแค่เอาน้ำมาให้เขา

ชายหนุ่มที่อยู่ข้างในไม่พูดอะไรอีก แต่เสียงลมหายใจฟืดฟาดกลับหนักขึ้นเรื่อยๆ

หลินซวงเอ๋อร์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเปิดม่านเตียงด้วยมือที่สั่นเทา

“ท่านอ๋อง ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ทันทีที่พูดจบ จู่ๆก็มีมือยื่นออกมาจากด้านใน และคว้าข้อมือของนางเอาไว้อย่างแรง

หลินซวงเอ๋อร์ได้ยินเสียงกระดูกข้อมือของตนเอง

ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ใบหน้าของนางซีดเผือด ถ้วยชาที่อยู่ในมือก็หล่นลงไปที่พื้น

“ท่านอ๋อง เจ็บ…” หลินซวงเอ๋อร์อดไม่ได้ที่จะถอยหลัง ขณะที่นางดิ้นรนปิ่นปักผมที่อยู่บนศีรษะก็หลุดไปอย่างเงียบๆ

ทันใดนั้น ผมดำสลวยก็ไหลลงมาราวกับว่าเป็นน้ำตก เส้นผมที่เยือกเย็นก็เลื่อนผ่านระหว่างนิ้วของเยี่ยเป่ยเฉิงอย่างเงียบๆ

ความเย็นเพียงเล็กน้อยในช่วงเวลาสั้นๆนั้น ราวกับว่าหาน้ำหนึ่งหยดในทะเลทรายอันแห้งแล้งเจอ และหยดลงบนหัวใจของเยี่ยเป่ยเฉิงทันที

เยี่ยเป่ยเฉิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และเกือบจะควบคุมตนเองไม่ได้เล็กน้อย

เขาพยายามหรี่ตาเพื่อให้มองเห็นคนตรงหน้าได้อย่างชัดเจน แต่สุดท้ายก็ยังมองไม่ชัด ภายใต้แสงไฟสลัวๆ เห็นแค่รูปร่างอันเพรียวบางของหญิงสาว งดงามอ่อนช้อย ราวกับว่าอยู่ในความฝัน ถ้าให้เทียบกับความงามในใต้หล้า มันมีเสน่ห์จนไม่อาจพรรณนาได้

“ท่านอ๋อง... ท่านอ๋อง ข้าเจ็บ” หลินซวงเอ๋อร์ตกใจจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว นางดิ้นรนดิ้นรนสุดฤทธิ์ แต่ก็ไม่อาจสลัดพ้นได้

เสียงที่นุ่มนวลอ่อนโยน เสมือนยันต์เร่งความตาย ที่ทำลายเจตจำนงของเยี่ยเป่ยเฉิงทีละนิด

เยี่ยเป่ยเฉิงออกแรงที่แขน แล้วโยนนางลงไปบนเตียงอย่างแรง

“ใครใช้ให้เจ้าเข้ามา! เสวียนอู่ล่ะ?”

เขาออกคำสั่งไว้อย่างชัดเจน ไม่ให้ผู้หญิงเข้ามา!

หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวจนสีหน้าซีดเซียว แต่ในขณะเดียวกัน นางก็เห็นรูปร่างหน้าตาของเยี่ยเป่ยเฉิงได้อย่างชัดเจน

เมื่อก่อน นางทำได้แค่เพียงมองจากระยะไกล และสิ่งที่เหลือไว้ให้นางมีเพียงแค่แผ่นหลังเท่านั้น

พอตอนนี้ได้เห็นใบหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิง หลินซวงเอ๋อร์ผู้ไม่รู้หนังสือจู่ๆก็นึกประโยคหนึ่งขึ้นมาได้

รูปงามกว่าผู้ใดในโลกหล้า สง่ากว่าผู้ใดในแผ่นดิน

โดยทั่วไปแล้วคงจะนำมาใช้พรรณนาเขา

อย่างน้อย นางก็ไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนหน้าตาดีกว่าเขามาก่อนเลย

“นังสารเลว! ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!” เสียงต่ำทุ้มแหบแห้งราวกับว่าเป็นสัตว์ร้ายที่ถูกผูกไว้กำลังจะหลุดพ้น

เสียงคำรามทำให้หลินซวงเอ๋อร์กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง

ความกดดันที่อยู่บนตัวชายหนุ่ม ทำให้หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกหวาดกลัวจนควบคุมตนเองไม่ได้

นางอยากหลบหนี แต่มือที่เหนี่ยวนางไว้นั้นเปรียบเสมือนโซ่เหล็กที่ล็อกนางไว้แน่น

หลินซวงเอ๋อร์ดิ้นรนต่อไป

ในระหว่างนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงก็ได้กลิ่นหอมที่มีเสน่ห์

ซึ่งแตกต่างจากกลิ่นหอมของแป้งใดๆ กลิ่นหอมจางๆนี้ นี้แทรกซึมเข้าไปในจมูกของเขาเป้นระยะๆ แล้วกลืนประสาทสัมผัสของเขา กลืนกินปณิธานของเขา และค่อยๆปลุกสัตว์ร้ายในร่างกายของเขาให้ตื่น

ความร้อนผะผ่าวในร่างกายยังคงร้อนขึ้นเรื่อยๆ

ร่างกายของเยี่ยเป่ยเฉิงร้อนจนทนไม่ไหว จนทำให้สมองสั่งการไม่ได้

หลินซวงเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าผิดปกติไปเช่นกัน ขนาดสัมผัสผ่านเสื้อผ้า นางยังรู้สึกถึงความร้อนบนตัวของเยี่ยเป่ยเฉิง

หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวสุดขีด จึงผลักเขาออกไปด้วยพละกำลังทั้งหมดที่มี

นางวิ่งไปที่ประตูสุดชีวิต แต่ทันทีที่เปิดประตู จู่ๆมือขนาดใหญ่ก็กดไปที่ประตู แล้วร่างสูงใหญ่หนักๆก็กดทับลงมา...

“ท่านอ๋อง... ท่านอ๋องอย่า”หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้อย่างสิ้นหวัง และนิ้วของนางก็ได้ทิ้งรอยเลือดไว้ที่บานประตู

ลมหายใจอันร้อนผะผ่าวไม่มีทีท่าว่าหายไป ริมฝีปากที่สั่นเทาเล็กน้อย และเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาข้างคอ ล้วนทำให้หลินซวงเอ๋อร์หวาดกลัวเป็นอย่างมาก

คำพูดของท่านป้าจ้าวยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของนาง

“อยู่ในจวนอ๋อง จะทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อยก็ไม่ได้ มิฉะนั้นจะต้องจ่ายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส”

หลินซวงเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าตนเองทำอะไรผิดท่านอ๋องถึงทำกับนางเช่นนี้

เห็นอยู่ชัดๆว่านางว่านอนสอนง่ายมาก

เห็นอยู่ชัดๆว่านางเชื่อฟังคำสั่งสอนของท่านป้าจ้าว

แต่เหตุใด...

เหตุใดถึงทำกับนางเช่นนี้...

ใครจะมาช่วยนาง...

“ซวงเอ๋อร์ผิดไปแล้ว ซวงเอ๋อร์จะไม่กล้าทำอีกแล้ว...”

สิ่งนั้นรุกล้ำเข้าไปที่ละนิ้ว จนเข้าไปทุกกระเบียดนิ้ว

หลินซวงเอ๋อร์ร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้ร่างกายของนางสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้

ปลายนิ้วจิกแผ่นหลังที่แข็งแกร่งของเขาจนเกิดเป็นรอยแดง นางมองดูแสงไฟที่กระเส่าไปมา ค่อยๆลุกไหม้ และดับไปต่อหน้าต่อตาของนาง

ในสมองของนาง มีร่างของชายผู้หนึ่งผุดขึ้นมาไม่หยุด และคำสัญญาประโยคนั้นที่ล่องลอยออกไปไกลขึ้นเรื่อยๆ

“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารออีกสักหน่อย การสอบขุนนางในปีหน้า ข้าจะต้องสอบระดับเกาจ้งได้แน่นอน”

“ซวงเอ๋อร์ ข้าใกล้จะเก็บเงินค่าไถ่ครบแล้ว…”

“ซวงเอ๋อร์ เจ้ารู้ไหม ว่าความรู้สึกที่ข้ามีให้เจ้า...”

“ซวงเอ๋อร์ ซวงเอ๋อร์...”

นางหลับตาลง ร่างนั้นก็ค่อยๆห่างออกไป...

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status