แผนการครั้งหนึ่งได้ทำลายความบริสุทธิ์ของเจียงเซิงลง บีบบังคับให้เธอต้องออกจากบ้าน หกปีต่อมาเธอกลับประเทศพร้อมลูกสามคนเพื่อฉีกหน้าเขา แต่ไม่คาดคิดเลยว่าลูกทั้งสามคนจะเจ้าแผนการมากกว่าเธอเสียอีก พวกเขาได้ตามหาพ่อแท้ๆมาเป็นแบล็กหลังให้กับเธอ แถมลักพาตัวพ่อแท้ๆกลับมาบ้านอีกด้วย "แม่ครับ พวกเราลักพาตัวพ่อกลับมาแล้ว!" ชายคนนั้นมองดูลูกๆของตัวเอง ต้อนเธอจนมุม เลิกคิ้วแล้วยิ้มๆ "ตั้งสามคนแล้วเหรอ งั้นเอาอีกสักคนไหมล่ะ?" เจียงเซิง "ให้ตายเถอะ!"
View Moreหม่านั่วมองดูเขา "ใช้เลือดของเธอสร้างตัวแก้พิษออกมาใหม่ แต่หลังจากเจาะเลือดออกมาแล้วสลายตัว อัตราการรอดชีวิตของตัวแก้พิษในกรณีที่ไม่มีเลือดหล่อเลี้ยงจะต่ำมาก"ก็เท่ากับว่า ทุกครั้งที่มีการเจาะเลือด จะมีโอกาสเพียงแค่ไม่กี่วินาทีในการแยกตัวและนำออกมา เมื่อล้มเหลวก็ต้องทำใหม่ แบบนั้นต้องเจาะเลือดกี่ครั้งกันล่ะ!ถ้าหากไม่สำเร็จเลย นั่นไม่ต้องเจาะเลือดจนหมดเลยเหรอ?เซียวเข้าใจความเป็นกังวลของเขา แต่เดิมทีเขาก็ไม่อยากใช้วิธีนี้ แต่เมื่อคิดได้ว่าเจียงเซิงบอกว่าเชื่อใจเขา นี่จึงทำให้เขามีภาระทางจิตใจเขาไม่อยากทำลายความเชื่อมั่นของเธอ แต่ก็เป็นกังวลว่าจะล้มเหลวตอนนั้นเขาไม่สามารถผลิตตัวแก้พิษออกมาได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยม่านม่าน ตอนนี้เขาจะทำได้เหรอ?เขาไม่รู้หลายปีมานี้เขาใช้ชีวิตอยู่ในความรู้สึกผิดมาโดยตลอด เขาทำอะไรดีไปหมดทุกอย่าง เพียงแต่ไม่อยากแตะต้องกับการทดลองอีก'หนูคิดว่าแม่ของหนูเอาตัวแก้พิษไป ก็เพื่อพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าคุณไม่ได้ล้มเหลวหรอกค่ะ'คำพูดที่ก้องอยู่ในหูของเขาสรุปการตัดสินใจของเขา และเขาตอบกลับอย่างแน่วแน่ "ต้องลองดูถึงจะรู้"หม่านั่วถาม "งั้นอลิซตกลงแล้วเหรอ?"
เซียวตกตะลึงอยู่นาน จากนั้นลดสายตาลง "จริงสินะ การเกิดมาของหนู เป็นเธอที่ทำให้ฉันเห็นว่าฉันทำสำเร็จแล้ว..."รถหยุดอยู่นอกอาคารห้องแล็บที่ด้านนอกมีผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนกำลังรออยู่ ทั้งสองคนเป็นคนประเทศ M อายุประมาณสามสิบกว่า ๆ และก็สวมชุดกาวน์สีขาวของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ใช้ในการทำงาน โดยมีบัตรประจำตัวห้อยอยู่ที่กระเป๋าเสื้อตอนที่ชายผมสกินเฮดเห็นเซียว เขาก็ยิ้มอย่างตื่นเต้นแล้วพูดขึ้น "คุณกลับมาแล้วจริง ๆ เหรอครับ?""เรื่องที่ฉันกลับมาอย่าให้คนอื่นรับรู้ก่อน รวมทั้งผู้อำนวยการ" เซียวพูดส่ังเขา เขาพยักหน้า "เข้าใจครับ ท่านนี้คือ......"เจียงเซิงไม่เคยปรากฏตัวต่อหน้าสื่อในประเทศ M ดังนั้นพวกเขาไม่รู้ก็เป็นเรื่องปกติมากเซียวมองดูเจียงเซิงและพูดแนะนำ "เธอคืออลิซ ลูกสาวของม่านม่าน"ผู้ชายและผู้หญิงสีหน้าตกตะลึงภายในห้องทำงาน เจียงเซิงรับกาแฟที่เธอยื่นมา แล้วยิ้มพูด "ขอบคุณค่ะคุณเซี่ยซา"เซี่ยซานั่งลงข้างหม่านั่ว เธอคือผู้ช่วยของหม่านั่ว และก็เป็นภรรยาของเขา "ไม่ต้องเกรงใจค่ะ ฉันกับหม่านั่วคิดไม่ถึงว่า คุณคือลูกสาวของคุณม่านม่าน"หม่านั่วมองไปทางเซียว "คุณม่านม่านตอ
คิดว่า เขาคงจะเสียใจมากสินะ"ท่านเจ๋ว?" หลัวเชว่เห็นซือเย่เจ๋วที่ยืนอยู่ตรงบันไดตั้งนานแล้ว จึงตกตะลึงคำพูดเมื่อครู่เขาได้ยินหมดแล้ว?ซือเย่เจ๋วเดินลงมาช้า ๆ และหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงเซิง เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม "ผมคิดว่าคุณออกไปตั้งนานแล้ว"เจียงเซิงจัดวางถ้วยชามบนโต๊ะ "ก่อนจะไป ฉันต้องทำอาหารเช้าให้ลูกชาย กับพ่อของลูกก่อนไม่ใช่เหรอ?"เมื่อได้ยินคำว่า "พ่อของลูก" เขาก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดูท่าครั้งนี้คุณทำให้คุณปู่ของผมคิดทบทวนตัวเองจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไปอีกหลายวันเลย"เจียงเซิงรินงาปั่นร้อน ๆ ใส่แก้วให้เหยียนเหยียน "ฉันพูดตามความจริง ผิดด้วยเหรอ?"เขายิ้ม จากนั้นโอบกอดเธอเอาไว้และดมผมหอมของเธอโดยไม่สนใจคนอื่น ๆ ที่อยู่ในเหตุการณ์ "อืม เก่งมากครับ"เจียงเซิงเห็นว่าทุกคนอยู่ด้วย เธอหน้าแดงระเรื่อและใช้ข้อศอกดันเขาออก "อย่าเล่น รีบทานอาหารเช้า อีกเดี๋ยวฉันต้องกลับไปแล้วนะ""หม่ามี้ จะไปอีกแล้วเหรอครับ?"เจียงเหยียนเหยียนที่กำลังนั่งทานอาหารเช้าได้ยินคำว่า "กลับไป" สองคำนี้ สีหน้าก็ผิดหวังเล็กน้อยเจียงเซิงหัวใจสั่นคลอน ยื่นมือไปลูบหัวของเขา "หม่ามี้จะไปประเทศ M หน่อย ไปแค่ไม่ก
เจียงเซิงโมโหจนพ่นลมออกทางจมูก และนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาโดยไม่ขยับเขยื้อน "ฉันเหนื่อย"ซือเย่เจ๋วพลิกตัว "เหนื่อย?"เจียงเซิงกอดคอเขาอย่างเอื่อยเฉื่อย "คุณแสดงความสามารถเถอะ""ปีศาจตัวน้อย" ซือเย่เจ๋วจูบเธออย่างลึกซึ้ง เป็นอีกคืนหนึ่งแห่งความบ้าบิ่นวันต่อมาเจียงเซิงตื่นขึ้นมาทำอาหารเช้า ได้ยินการเคลื่อนไหวจากด้านนอก เธอเงยหน้าขึ้น ท่านผู้เฒ่าก็เดินเข้ามาพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคนเมื่อเห็นเจียงเซิง ท่านผู้เฒ่าตกตะลึงก่อน จากนั้นก็ขมวดคิ้ว "ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?"เจียงเหยียนเหยียนกับหลัวเชว่เดินลงมาที่ชั้นล่างพอดี หลัวเชว่สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย เดินเข้าไปด้วยท่าทางหวาดกลัว "ท่านผู้เฒ่า มาแล้วเหรอครับ""ฉันเคยบอกอะไรนายเอาไว้ไม่ใช่เหรอ นายทำหูทวนลมใช่ไหม?"คำพูดของท่านผู้เฒ่ากำลังพูดเรื่องที่ หลัวเชว่ปล่อยเธอให้เข้าใกล้ซือเย่เจ๋วหลัวเชว่ยังไม่ได้พูดอะไร เจียงเหยียนเหยียนก็พูดอย่างเย็นชาขึ้นมา "หม่ามี้ของผมจะเจอแด๊ดดี้ไม่ได้เหรอ?""ฉันดูแล้วพวกเธอจะก่อกบฏแล้ว!" ท่านผู้เฒ่าตะโกนขึ้นมา ไม่ไว้หน้าแม้กระทั่งเหยียนเหยียนเหลนชายคนนี้เจียงเซิงถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างนิ่งเฉย จากนั้
บอดี้การ์ดปรากฏตัวที่ด้านนอก "ท่านเจ๋ว พี่เชว่ คุณเจียงมาแล้วครับ"ซือเย่เจ๋วหยุดชะงัก ตอบกลับด้วยหน้าตานิ่งเฉย "ให้เธอขึ้นมาเถอะ"เดิมทีอยากให้เหยียนเหยียนอยู่เป็นเพื่อนเธอ และไม่เจอกับเธอก่อนในช่วงนี้ สุดท้ายเธอก็มาอยู่ดีเจียงเซิงเดินเข้ามาจากด้านนอกอารมณ์บนใบหน้าลึกซึ้ง นิ่งเฉย มองไม่เห็นความผิดปกติใด ๆหลัวเชว่เดินออกไปและปิดประตูเจียงเซิงเดินไปที่หน้าโต๊ะ "คุณตั้งใจไม่เจอฉัน?"ซือเย่เจ๋วยิ้มเรื่อยเปื่อย "มีเหรอ?"เธอหยิบเอกสารที่อยู่ตรงหน้าเขาไปวางไว้ด้านข้าง "มี ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณก็ไม่มาดูฉัน ทำไม เปลี่ยนใจอีกแล้วเหรอ?"เขายิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไรเจียงเซิงสองมือค้ำบนโต๊ะ "ซือเย่เจ๋ว ถ้าคุณมีความคิดที่เปลี่ยนใจ งั้นเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ ฉันก็จะไม่ปรากฏตัวต่อหน้าคุณอีก"เขาจ้องมองเธอโดยไม่ขยับเขยื้อน สีหน้าคลุมเครือส่วนเจียงเซิงนั่งลงบนโต๊ะ โน้มตัวไปหาเขา ผมยาวนุ่มของเธอเหมือนกับสาหร่ายทะเลร่วงหล่นไปตรงหน้าเธอ เพิ่มเสน่ห์มากขึ้นเธอยกนิ้วจิ้มไปที่กระเป๋าหน้าอกของเขา "ไม่พูด ฉันจะถือว่าคุณยอมรับแล้วนะ งั้นฉันจะทำครั้งสุดท้าย""ครั้งสุดท้ายอะไร?" เขาเค้นเสียงอ
ในระยะต่อมาไม่กี่วันหลังจากติดเชื้อในปีที่ 3 จะเริ่มไอเป็นเลือดอย่างต่อเนื่อง ภูมิต้านทานลดต่ำลงและเป็นไข้ต่ำต่อเนื่อง สุดท้ายตับก็แบกรับไม่ไหว จากนั้นเสียชีวิตในทันทีส่วนเจียงเซิงนึกอะไรขึ้นมาได้ จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืน "ใช่แล้ว ถ้าหาก......ถ้าหากโม่จ้วงไวรัสไม่มีระยะฟักตัว เริ่มเป็นไข้ หรือกระทั่งไอเป็นเลือดตั้งแต่เริ่มติดเชื้อ ไวรัสประเภทนี้คืออะไร?"เซียวหันมามองเธอ "นี่คือโม่จ้วงไวรัสกลายพันธ์ โม่จ้วงไวรัสชนิดนี้จะมีอาการเร็วกว่าชนิดธรรมดา โดยทั่วไป หลังจากติดเชื้อ มีอายุขัยอยู่แค่สามสี่ปีเท่านั้น"อายุขัยสามถึงสี่ปี......เจียงเซิงหน้าซีดเซียวในทันทีทำไมถึงเป็นแบบนี้ มีอายุขัยแค่สามถึงสี่ปีเท่านั้น และตอนนี้ซือเย่เจ๋วติดเชื้อเป็นปีที่สามแล้ว!"เซิงเซิง หนูเป็นอะไร?" เซียวมองเธออย่างสงสัยเจียงเซิงตั้งสติขึ้นมาได้และพูดขึ้น "คุณพ่อ ถ้าหากติดเชื้อแล้ว ไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอคะ?"เซียวขมวดคิ้ว เหมือนกำลังครุ่นคิด "เทคนิคทางการแพทย์ในตอนนี้ยังค้นคว้าศึกษาไม่พบพยาธิวิทยา หรืออาจจะพบในหลายปีข้างหน้าถ้าหากติดเชื้อจริง ๆ งั้นก็ไม่มีวิธีแล้ว ในเมื่อฉันเคยทำการทดลองในตอนที่แม่ของหนูเข
และสองวันมานี้ นอกจากสิบเจ็ดกับเหยียนเหยียนที่อยู่เป็นเพื่อนเธอในโรงพยาบาล ไม่เห็นเงาซือเย่เจ๋วด้วยซ้ำภายในรถ เจียงเซิงมองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ต้นแปะก๊วยที่อยู่สองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีทองเหลืองใบไม้สีทองที่ตกลงบนพื้นเหมือนปูพรมสีทองอร่าม ช่วยเพิ่มสีสันให้กับอาคารที่แปลกตาโดยรอบใบไม้ร่วงหล่นปลิวไปตามรถที่แล่นผ่านไปมาเจียงเซิงพาเจียงเหยียนเหยียนมายังคฤหาสน์สโตน เมื่อเดินเข้าไปในคฤหาสน์ ก็เห็นเซียวรอเธออยู่ในห้องรับแขก"คุณพ่อ" เจียงเซิงจับมือของเจียงเหยียนเหยียนเดินไปหาเขาเซียวมองดูเจียงเหยียนเหยียน "เด็กคนนี้คือ?""เขาคือลูกชายของหนูค่ะ" เจียงเซิงวางมือบนบ่าของเจียงเหยียนเหยียน "เจียงเหยียนเหยียน"เซียววางแก้วชาลงและยิ้มบาง "ที่แท้เธอก็มีลูกชายหนึ่งคน โตขนาดนี้แล้วเหรอ"เจียงเหยียนเหยียนตอบกลับแล้วพูดขึ้น "ไม่ใช่หนึ่งคนครับ แต่เป็นสามคน ผมยังมีน้องชายและน้องสามอีก"เมื่อเห็นสีหน้าของเซียวเผยความประหลาดใจออกมา เจียงเซิงยิ้มบางและไม่พูดจาเธอให้สิบเจ็ดพาเจียงเหยียนเหยียนไปเดินเล่น จากนั้นพูดคุยอยู่ภายในห้องกับเซียว เซียวฟังเล่ห์กลและแผนการระหว
ซือเย่เจ๋วหยุดฝีเท้าลง แต่ไม่ได้หันกลับไป "ฉันไม่กลัวตาย ฉันแค่กลัวจะตายต่อหน้าเธอ"เขาหันหน้ามา "พรุ่งนี้ให้เหยียนเหยียนมาอยู่เป็นเพื่อนเธอเถอะ"**วันต่อมา เจียงเซิงนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือพิมพ์เป็นอย่างที่คิด หลานอู๋เหยียนตายไป หลังจากที่ความจริงของไวรัสถูกเปิดเผย คนเหล่านั้นผลักเรื่องทุกอย่างไปที่ตระกูลหลานแม้แต่เรื่องที่พวกเขากับตระกูลหลานทำก็ไม่ได้เอ่ยถึง พวกกเขาใช้ประโยชน์ตระกูลหลานศึกษาเทคนิคนี้ จนถึงตอนสุดท้ายตระกูลหลานล้มแล้ว หลานอู๋เหยียนตายแล้ว เช่นนั้นพวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับผลกระทบไปด้วย"หม่ามี้!"เมื่อได้ยินเสียงใครบางคน เจียงเซิงมองไปทางนอกประตูอย่างประหลาดใจดวงตาของเธอแดงก่ำในทันที "เหยียนเหยียน?"เจียงเหยียนเหยียนเดินมาข้างเตียงอย่างรวดเร็ว เจียงเซิงกอดเขาเอาไว้ทันที "เหยียนเหยียน ใช้ลูกจริง ๆ เหรอ หม่ามี้คิดถึงพวกลูกมาก!"ตอนนี้ลูก ๆ อายุแปดขวบแล้ว ตอนนั้นยังเล็กกระจิดริดอยู่เลย เพิ่งไม่เจอกันสามปี เธอรู้สึกเหมือนนานมาก นานมาก ๆเจียงเหยียนเหยียนก็กอดเธอเอาไว้ "หม่ามี้ พวกเราก็คิดถึงหม่ามี้มาก พวกเราต่างรอหม่ามี้กลับไปอยู่นะครับ""หม่ามี้ เลิ
ตอนที่หลานอู๋เหยียนถูกพาออกมา เป็นเพราะได้รับเชื้อจากก๊าซพิษ ปอดกับหัวใจเกิดการสูญเสีย บวกกับบาดแผลที่ขาเสียเลือดมากเกินไป จะช่วยเหลือก็สายเกินไปแล้วเจียงเซิงเคลื่อนไหวดวงตา ไม่ได้พูดอะไรซือเย่เจ๋วมองดูเธอ "ทางด้านตำรวจผมอธิบายแทนคุณแล้ว คุณป้องกันตัวเองถึงได้ยิงปืน และคุณก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเขา ดังนั้นจึงยิงแค่ที่ขา"เธอยิ้ม “ถ้าหากฉันต้องการฆ่าเขาจริง ๆ ล่ะ”เขาหรี่ตาลงไม่พูดจาเจียงเซิงหันหน้ามองไปทางนอกหน้าต่าง "อุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนเขาเป็นคนวางแผน คนที่ลงมือคือซูหลิงโหรว ถึงแม้ตอนนั้นฉันคิดอยากจะยิงหัวเขาให้กระจุยจริง ๆ แต่เมื่อได้เห็นกรรมที่เขาได้รับ ฉันก็ไม่ได้เสียดายขนาดนั้นแล้ว""เซิงเซิง"ซือเย่เจ๋วโน้มตัวมองเธอ จับใบหน้าของเธอให้หันมาจ้องตากับตัวเอง "รับปากผม ต่อไปไม่ว่าทำอะไร ก็ห้ามเอาชีวิตของตัวเองไปเสี่ยงอีก"เจียงเซิงหยุดนิ่ง จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมา “แล้วคุณล่ะ?”เขาไม่ได้พูดอะไรเธอถาม "ซือเย่เจ๋ว สามปีก่อนคุณกันกระสุนแทนฉัน คุณไม่เคยคิดเลยว่า ถ้าหากคุณเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ ฉันจะทำอย่างไร?"ซือเย่เจ๋วลดหน้าผากแตะหน้าผากของเธอและพูดเสียงเบา "งั้นต่อไปพวกเราสองคนห้