คำพูดของเซียวหวายทำให้เจียงหวานหว่านรับรู้ถึงความไม่พอใจของเขาแค่นางเดินออกนองประตู เซียวหวายคงงต้องสืบค้นประวัติบรรพบุรุษแปดชั่วคนของนางจนชัดเจน“คุณชายเซียว ข้าไม่มีเจตนาสอดรู้สอดเห็นเรื่องภายในสกุลเซียว แต่ข้ามีผงยาชนิดหนึ่ง สามารถปรับปรุงและบำรุงคุณภาพของรังไหม ลดปริมาณการตายของตัวหนอนอไหม และยังสามารถเปลี่ยนสีเส้นไหมให้มีสีสันได้ด้วย”เซียวหวายไม่เอ่ยสิ่งใด เขาเดินมาและนั่งประจันหน้ากับเจียงหวานหว่านจากนั้นก็รินน้ำชาให้ตัวเองและเจียงหวานหว่านเจียงหวานหว่านยิ้ม เซียวหวายอยากเจรจาด้วย ทว่าเขาไม่กล้าประมาทนาง“แม่นางเจียง บอกเงื่อนไขเจ้ามา”เจียงหวานหว่านไม่ลังเลแม้แต่น้อย นางบอกอย่างตรงไปตรงมา “พี่ชายข้าล่วงเกิดกุ้ยเฟย ตอนนี้ถูกคุมขังอยู่ที่จิงจ้าวอิ่น อยากขอร้องให้คุณชายช่วยเหลือ ช่วยพี่ชายข้าออกมาด้วยเถิด”“พี่ชายเจ้าล่วงเกินพี่สาวข้าด้วยเรื่องใด?”เซียวหวายไม่รู้เรื่องนี้ เขาอยากถามให้ชัดเจน ค่อยตัดสินใจว่าจะช่วยหรือไม่เจยงหวานหว่านเล่าเรื่องที่เจียงจิ่นหนิงทำที่โรงหมอเสวียนให้เขาฟังเซียวหวายคิดคำนวนในใจ “หากเป็นเช่นที่แม่นางเล่า เรื่องพี่ชายเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
นำสิ่งนี้ส่งให้คุณชายโจว ดูว่าจะลดปริมาณการตายของหนอนไหมได้หรือไม่”ไป๋หยู่เก็บเทียบยา เมื่อเห็นกระดาษที่วางไว้อยู่บนโต๊ะ นางยิ้ม“คุณชาย แม่นางยังเขียนจดหมายรักส่งให้เจ้าด้วย?”เซียวหวายมองตามสายตาของไป๋หยู่ จากนั้นเขาก็กางแผ่นกระดาษออก“ว้า สวยมาก!”สิ้นสุดเสียงอุทานของไป๋หยู่ กระดาษในมือเซียวหวายถูกไป๋หยู่แย่งไปแล้วสิ่งที่เจียงหวานหว่านมอบให้เซียวหวายคือรูปเสื้อผ้าที่นางออกแบบสำหรับเจียงหวานหว่านแล้ว มันก็เป็นแค่ของติดไม้ติดมือมาเท่านั้น ทว่ามันอยู่ในมือไป๋หยู นี่คือผลงานของปรมาจารย์เซียวหวายยื่นมือไปทางไป๋หยู่ ไป๋หยู่ยื่นภาพคืนให้เขาด้วยความไม่เต็มใจ“คุณชาย ระวังหน่อย อย่าทำพัง”เซียวหวายมองภาพที่เจียงหวานหว่านทิ้งไว้ให้อย่างละเอียด “ให้คนทำตัวอย่างออกมา ดูว่าผลงานเป็นเช่นไร”ไป๋หยู่ดีใจมาก นางไม่สนใจจะสนทนากับเซียวหวายต่อแล้ว และกล่าวด้วยความตื่นเต้น “ข้าจะทำตัวอย่างด้วยตัวเอง”นางไม่ได้เห็นเสื้อผ้าสวยงามเช่นนี้มานานแล้วส่วนเซียวหวายเริ่มสนใจเจียงหวานหว่านขึ้นมาแล้วเคยได้ยินว่าผลงานการวาดของคุณหนูหกจวนสกุลเจียง เทียบชั้นกับอาจารย์โอวหยางได้ไปคิดแล้วแบบเสื้อผ้
ตอนที่เจียงป๋อเหนียนกำลังอาละวาดอยู่ที่เรือน ฮูหยินใหญ่เจียงไม่นานก็รู้แล้วนางเรียกเจียงป๋อเหนียนมาหา สองแม่ลูกสนทนากันอยู่นานตอนเจียงป๋อเหนียนออกมจากเรือนฮูหยินใหญ่เจียง สีหน้าเขาดีขึ้นมากเขาตัดสินใจเชื่อฟังฮูหยินใหญ่เจียง สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสกุลหลิ่วเจียงป๋อเหนียนเดินไปยังเรือนเหมยเพื่อหาสกุลหลิ่วประตูเรือนเหมยเปิดอยู่ เจียงป๋อเหนียนจึงเดินเข้าไปสือหลิ่วเห็นเจียงป๋อเหนียนเดินเข้ามา นางไม่ได้ขัดขวาง จากนั้นไปหาเจียงหวานหว่านเงียบๆซิ่วกู่บอกกับสือหลิ่วว่าคุณหนูหลับไปแล้วทั้งสองปรึกษากัน นายท่านมาถึงที่นี่ คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องดีต้องแจ้งให้คุณหนูทราบซิ่วกู่เคาะประตูห้องเจียงหวานหว่านเจียงป๋อเหนียนมาที่ห้องหลิ่วซู่เมื่อเห็นสกุลหลิ่ว ในใจเขาไม่รู้สึกหวั่นไหวแม้แต่น้อยสำหรับเขาแล้วสตรีที่ให้กำเนินบุตรชายบุตรสาวที่อยู่ตรงหน้านั้น เขารู้สึกแปลกหน้ามาก ไม่ยอมเข้าใกล้นาง กระทั่งรังเกลียดนางด้วยซ้ำ“คารวะนายท่าน”สกุลหลิ่วนอนอยู่บนเตียงและกล่าวทักทายเจียงป๋อเหนียนเจียงป๋อเหนียนขานรับลวกๆ “เรื่องหนิงเกอเออร์ เจ้าต้องดูแลให้มากหน่อย เช่นไรเสียเจ้าก็เป็นแม่แท้ๆ ข
ถึงเช่นไรเขาก็เป็นผู้ทิ้งพวกนางแม่ลูกเอาไว้ที่บ้านเก่าโดยไม่สนใจใยดี“อืม พยามยามให้ดี พวกเจ้าพักผ่อนเถอะ ข้ากลับก่อนแล้ว”เจียงป๋อเหนียนไม่บึ้งตึงเหมือนในยามปกติเขามองเจียงหวานหว่าน ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าลูกสาวคนนี้ช่างรู้ความเหมือนกัน“หว่านเจี่ยเออร์ เป็นพ่อที่หลายปีมานี้ทำหน้าที่ไม่ดีพอ!”น้ำเสียงใจดีของเจียงป๋อเหนียนมาอย่างกะทันหัน ทำให้หลิ่วซื่อรู้สึกผิดปกติเจียงหวานหวานสีหน้าไร้ความรู้สึก “ท่านพ่อ กล่าวเกินไปแล้ว”เจียงป๋อเหนียนสำหรับนางแล้วมีแต่ความเย้ยหยัน ความละอายของเจียงป๋อเหนียนไร้ค่ายิ่งกว่าต้นหญ้าหลังเจียงป๋อเหนียนไปแล้ว เจียงหวานหว่านเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจียงจิ่นหนิงให้หลิ่วซู่ฟังท่านแม่ได้ฟังเรื่องราวคร่าวๆ แล้ว เพื่อไม่ให้ท่านแม่ต้องคิดมาก นางจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจนวันหน้าท่านแม่จะได้ไม่เอาแต่โทษตัวเอง“หว่านเจี่ยเออร์ หลังจากนี้ไป เจ้าต้องคอยดูแลหนิงเกอเออร์มากหน่อย”หลิ่วซื่อกล่าวด้วยสีหน้าสงบเจียงหวานหว่านมองหลิ่วซื่อด้วยสีหน้าประหลาดใจหลิ่วซื่อลูบศีรษะเจียงหวานหว่าน “แม้เจ้าจะติดต่อพบปะกับผู้คนบ้างแล้ว ทว่าชีวิตของเจ้าลำบากกว่าหนิงเกอ
ไป๋หยู่สั่งคนเก็บขี้ผึ้งเหมันต์นวลกระจ่างของเจียงหวานหว่านนางหยิบชุดเสื้อผ้ามาวางไว้ตรงหน้าเจียงหวานหว่าน“แม่นางเจียง นี่คือตัวอย่างเสื้อผ้าที่ข้าทำตามแบบภาพวาดของเจ้า เจ้าเห็นว่าเป็นเช่นไร?”นางอดหลับอดนอนตั้งหลายคืนเพื่อทำมันออกมาเจียงหวานหว่านดูเสื้อผ้าทุกตัวอย่างละเอียด “ฝีมือเถ้าแก่ไป๋ดีมาก!”“แม่นางเจียงชมเกินไปแล้ว”ไป๋หยู่พอใจมาก ฝีมือของนางนั้นเป็นยอดเยี่ยม“แม่นางเจียง ชุดเหล่านี้มอบให้ท่าน มีแบบภาพวาดเหล่านี้ เสื้อผ้าของหอหนีซางพวกเราสวยขึ้นไปอีก”ไป๋หยู่ทำราวกับเห็นเงินจำนวนมากบินมาหานางแล้วนึกไม่ถึงว่าการมาสกุลเจียงในครั้งนี้จะจัดการปัญหาเรื่องขี้ผึ้งบำรุงผิวหยกได้ ทั้งยังได้ลองใช้ขี้ผึ้งเหมันต์นวลกระจ่างด้วยเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าจริงๆ!โรงหมอเสวียนเป็นกิจการของสกุลเซียว ครั้งนี้ขี้ผึ้งบำรุงผิวหยกเสียหาย ก็สร้างความกังวลให้กับสกุลเซียวเช่นกันกุ้ยเฟยใช้ขี้ผึ้งบำรุงผิวหยกเพื่อมัดใจผู้คนขี้ผึ้งบำรุงผิวหยกเสียหาย นางจะปล่อยเจียงจิ่นหนิงไปได้เช่นไรขี้ผึ้งเหมันต์นวลกระจ่างที่ไป๋หยู่นำกลับมา ไม่นานก็ส่งมอบให้หมอที่โรงหมอเสวียนทำการทดสอบหลังทดสอบ พบว่าขี้
จนกระทั่งเขาได้เห็นขวดยาที่หงเหลียนทิ้งไว้ให้ เขาจึงได้รู้ว่ามันไม่ใช่ความฝันเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นกับเขากระทันหันเกินไปเฉาซื่อเลี้ยงเขาให้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์ เจียงอวิ้นเห็นเขาเป็นแค่เบี้ยหมากตัวหนึ่งเขามีชีวิตอยู่โดยเปล่าประโยชน์มาตั้งหลายปี เขาเป็นแค่ตัวตลกในสายตาคนอื่นเท่านั้นความผิดปกติของเจียงจิ่นหนิงดึงดูดความสนใจของฮูหยินใหญ่เจียง นางเป็นห่วงเจียงจิ่นหนิงมากนางสั่งให้แม่นมหลี่ทำอาหารอร่อยๆ ส่งไปให้เขาที่ห้อง ทว่าเจียงจิ่นหนิงไม่กินแม้แต่คำเดียวฮูหยินใหญ่เจียงเรียกเจียงป๋อเหนียนมาปรึกษาหาวิธีรับมือเจียงป๋อเหนียนครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยกับฮูหยินใหญ่เจียง “ส่งเขาไปอยู่กองทัพเช่นเดียวกับเจ้ารอง แก้ไขพฤติกรรมของตน วันหน้าจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตระกูลเรา”“หนิงเกอเออร์ตั้งแต่เล็กไม่เคยได้รับความลำบาก เขาจะทนได้เช่นไร”ฮูหยินเจียงรักเจียงจิ่นหนิงมาก เช่นไรเขาเป็นเด็กที่นางเลี้ยงเอาไว้ข้างกายตลอดเจียงป๋อเหนียนขมวดคิ้ว “ข้าจะไปหาเขา”กล่าวจบ เจียงป๋อเหนียนก็ไปหาเจียงจิ่นหนิงเขาผลักประตูห้องเจียงจิ่นหนิงเข้าไป เห็นเจียงจิ่นหนิงนั่งเหม่อลอยขดอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
“ขอบคุณคุณหนูมาก”เจียงหวานหว่านยิ้ม “พวกเรามายังหอฝูอวิ้นก็เพื่อต้อนรับเข้า ข้าให้สือหลิ่วพาฉางเกอมาแล้ว”เมื่อได้ยินชื่อฉางเกอ กู้ฉางชิงนึกไม่ออกว่าตัวเองแยกจากน้องชายนานเท่าใดแล้ว“คุณหนู วันหลังเรียกข้าว่าฉางชิงก็พอ”เจียงหวานหว่านครุ่นคิดชั่วครู่ “เจ้าอายุมากกว่าข้า ข้าเรียกเจ้าว่าพี่ใหญ่ ดีหรือไม่?”“ดี”กู้ฉางชิงหัวเราะเบาๆเสียงฝีเท้ารีบร้อนลอยเข้ามา กู้ฉางเกอวิ่งมาแล้ว“พี่ชาย”“ฉางเกอ”สองพี่น้องกอดกันกลม ราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะอันตรธานหายไปเจียงหวานหว่านนั่งอยู่ด้านข้าง ยิ้มแยมมองพวกเขาพี่น้อง“รีบกินข้าวเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะพาพวกเจ้าไปสถานที่หนึ่ง”กู้ฉางชิงและกู้ฉางเกอนั่งลงข้างกันอยู่ฝั่งตรงกันข้ามเจียงหวานหว่านเรียกสือหลิ่วมานั่งกินข้าวด้วยกันทุกคนกินข้าวสนทนากันด้วยรอยยิ้ม ไม่นานก็กินข้าวมือนี้เสร็จแล้วเจียงหวานหว่านพาสองพี่น้องสกุลกู้ออกไปจากหอฝูอวิ้น เดินเอ้อระเหยไปตามทาง“คุณหนู หากเดินไปข้างหน้าต่อก็จะเป็นเขตที่อยู่เดิมแล้ว”กู้ฉางชิงเอ่ยเตือนเจียงหวานหว่านยิ้ม “สถานที่ที่พวกเราจะไปก็อยู่ข้างหน้านั่นแหละ”กู้ฉางชิงไม่กล่าวสิ่งใดต่อ และเดินตามเจ
สือหลิ่วถามด้วยความแปลกใจเจียงหวานหว่านไม่ได้ตอบคำถามของเขาต่อให้นางไม่บอกกู้ฉางชิง เขาก็จะได้พบกับคนจากภูมิภาคตะวันตกเพื่อทำการค้าอยู่แล้วเจียงหวานหว่านสนทนาต่ออีกชั่วครู่ จากนั้นก็กลับจวนไปพร้อมกับสือหลิ่วตอนที่เดินมาถึงหน้าประตูจวน มีคนแจ้งว่าฮูหยินใหญ่เรียกพบแม่นมหลี่มองเจียงหวานหว่าน นางอยากจะกล่าวสิ่งใดแต่ก็หยุดไว้เจียงหวานหว่านรู้สึกแปลกประหลาดมากจนกระทั่งนางได้เห็นสองแม่ลูกสกุลเฉาในเรือนฮูหยินใหญ่ นางก็เข้าใจทั้งหมดแล้วเพิ่งผ่านไปเพียงไม่กี่วัน เหตุใดกลับมาเร็วนักอีกทั้งท่าทางของเจียงอวิ้น เหมือนจะถอนพิษได้หมดแล้ว“พี่หก”ใบหน้าเจียงอวิ้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม นางชอบท่าทางตกใจของเจียงหวานหว่านแม้ไม่เข้าใจ ทว่าเจียงหวานหว่านไม่ได้แสดงออกทางสีหน้า“หว่านเจี่ยเออร์ รีบเข้ามาเร็ว”ฮูหยินใหญ่เจียงกลัวจะผิดใจกับเจียงหวานหว่าน จึงอยากปลอบใจนาง“อวิ้นเจี่ยเออร์โชคดี บังเอิญพบกับรัชทายาทและพี่สี่ของเจ้าที่กำลังกลับเมืองหลวง เซวียนเกอเออร์จึงขอร้องให้รัชทายาทรักษาอาการป่วยของนาง” เจียงหวานหว่านนัยน์ตาไหววูบแววเย้ยหยันรัชทายาทกลับเมืองหลวงเวลานี้ ช่างบังเอิญเสียจริ