Share

บทที่ 2

"ท่านหมายความว่าอย่างไร หวังให้ข้าตาย จะได้ไม่ต้องแต่งงานกับข้าหรือ? โม่จุน ที่บอกว่าท่านไร้ซึ่งศีลธรรมนี่พูดไว้ไม่ผิดเลย ท่านทำไมจึงต่ำทรามเช่นนี้? ไม่แต่งก็ไม่แต่งสิ ต้องมาแช่งข้าแบบนี้ด้วยหรือ?"

สีหน้าบนใบหน้าหล่อเหลาของเย่อู๋เหิงมากมายเต็มไปหมด รู้สึกว่าตนเองตอนนี้เป็นส่วนเกินหรือเปล่านะ?

แต่ว่าสำหรับความพูดมากกับความกำเริบเสิบสานของมู่จิ่วซีอันที่จริงก็รู้มาบ้างแล้ว ขนาดท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่โหดร้ายเย็นชาในสายตาคนนอก นางก็ยังด่ากราดพ่วงสกุลไปด้วยได้เลย

"มู่จิ่วซี!" โม่จุนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน "ข้าก็แค่กำลังวิเคราะห์ตามปกติ!"

มู่จิ่วซีมองบนใส่เขายกใหญ่

"เรื่องจริงก็คือข้ายังมีชีวิต ดังนั้นคนร้ายคนนี้พวกท่านต้องหาออกมาให้ได้ ฝ่ามือสันดอนสินะ รอให้หาเจอก่อนเถอะ คุณหนูอย่างข้าจะให้เขาได้ลิ้มรสฝ่ามือยูไลดูบ้าง!" มู่จิ่วซี่ขบฟัน

"ฝ่ามือยูไล?" เย่อู๋เหิงดวงตาเป็นประกาย ท่าทีอยากรู้อยากเห็น "คุณหนูใหญ่เป็นวรยุทธ์ด้วยหรือ?"

"ท่านเย่ บิดาข้าคือแม่ทัพใหญ่นะ ที่ข้ารอบรู้บู๊บุ๋นมันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือ?" มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นอย่างเคืองๆ "มาดูถูกใครกันล่ะนั่น?"

"รอบรู้บู๊บุ๋น? เจ้าน่ะหรือ?" โม่จุนจู่ๆ ก็หัวเราะขึ้นมา เพียงแต่หัวเราะนี้ดูจะประชดประชันเสียเหลือเกิน

มู่จิ่วซีมองเขาแล้วก็ร้องเชอะเย็นชาขึ้นมาบ้าง "พวกท่านก็โตกันขนาดนี้แล้ว วันๆ เอาแต่ฟังข่าวลอยโคมลอย สายตาคับแคบ แน่นอนล่ะว่าจะไม่รู้ถึงจุดดีของคุณหนูใหญ่อย่างข้า ช่างเถอะ ข้าเองก็จะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกท่านแล้ว หลักฐานพวกท่านก็เห็นแล้วนี่ น่าจะยืนยันได้แล้วว่าข้าถูกคนทำร้าย?"

พอมุมปากเย่อู๋เหิงกระตุก ก็ประสานหมัดเอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่ ข้าน้อยขออภัยต่อความไม่มืออาชีพของตนเองเมื่อครู่ด้วย หลักฐานนี้สำคัญอย่างมากจริงๆ คุณหนูใหญ่ถูกคนทำร้าย"

มู่จิ่วซีพยักหน้าเอ่ยขึ้น "ท่านเย่จงจำไว้ ชีวิตคนสำคัญเหนืออื่นใด อย่าได้หัวโบราณเคร่งในกฎเกณฑ์นัก ท้ายสุดจะก่อเกิดความอยุติธรรมขึ้น"

เย่อู๋เหิงหน้าผากเหงื่อผุด รีบประสานหมัดคารวะอย่างนอบน้อม เอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่สั่งสอนได้ถูกต้อง ข้าน้อยเรียนรู้แล้ว"

สายตาโม่จุนจ้องเขม็งไปยังใบหน้างามที่เหมือนจะแผ่ความมั่นใจในตนเองและความน่าเกรงขามของมู่จิ่วซี มึนงงไปเล็กๆ

ในใจก็คิดว่าบางทีคำวิพากษ์วิจารณ์ต่อมู่จิ่วซีภายนอกนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องจริง?

"เช่นนั้นคนร้ายที่ใช้ฝ่ามือสันดอนเป็นใครกัน?"

มู่จิ่วซีอยากรู้มากว่าใครกันที่อยากจะสังหารเจ้าของร่างเดิม? จะเป็นสนมเอกสามหรือคุณหนูใหญ่ไป๋ชิงจากจวนอัครมหาเสนาบดีจริงไหม?

เย่อู๋เหิงกับโม่จุนสบตากัน

"ฝ่ามือสันดอนนั้นอหังการไร้เทียมทาน ฝึกบำเพ็ญได้ยากมาก ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะฝึกไหว น่าจะเป็นนักรบจากยุทธจักร" เย่อู๋เหิงวิเคราะห์

"ดูแล้วน่าจะมีคนไปจ้างวานมือสังหารจากหอดาราจันทรามา" โม่จุนเอ่ยขึ้นเสียงต่ำขรึม

"หอดาราจันทรา? มือสังหาร?" มู่จิ่วซีดวงตาเป็นประกายขึ้นฉับพลัน ที่แท้ที่นี่ก็มีอาชีพเก่าของนางอยู่ด้วยสินะ!

ชายสองคนมองสีหน้าดีใจเล็กๆ ของมู่จิ่วซีอย่างตกตะลึง หญิงสาวคนนี้สมองไม่ปกติจริงๆ สินะ

"เป็นไปได้มาก แต่ว่าการจะจับคนก็ไม่ยาก ตอนนี้เจ้ายังไม่ตาย มือสังหารจะต้องกลับมาอีกแน่"

โม่จุนเหลือบมองมู่จิ่วซีแล้วเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ เพียงแต่สายตานั้นดูมีความสุขบนความทุกข์ผู้อื่นแบบที่สังเกตเห็นได้ยากอยู่ด้วย

เย่อู๋เหิงเหลือบมองท่านผู้สำเร็จราชการแทนผาดหนึ่ง ในใจก็คิดว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนคงจะเกลียดชังงานอภิเษกครั้งนี้มากสินะ

มู่จิ่วซีงงงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หัวเราะร่าขึ้นมาอย่างเบิกบาน

โม่จุนกับเย่อู๋เหิงมองมู่จิ่วซีที่หัวเราะจนตัวโยกแล้วขมวดคิ้ว

หญิงสาวคนนี้บ้าไปแล้วหรือ?

ถูกมือสังหารจ้องเล่นงานมันน่าขำขนาดนั้นเชียว?

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status