Share

บทที่ 8

"คุณหนู" ลู่เอ๋อร์ข้างๆ เองก็มองต่อไปไม่ไหวแล้ว

เย่อู๋เหิงขมวดคิ้วเอ่ยขึ้น "คุณหนูใหญ่ไม่กลัวคนร้ายจะเข้ามาสังหารท่านหรือ?"

"ให้เขาเข้ามา! คุณหนูอย่างข้าก็อยากจะเห็นว่าใครกันที่สายตาไม่กว้างไกลจนคิดจะเข้ามาสังหารข้า?"

มู่จิ่วซีสองตาหรี่ลง กำหมัดแน่น ทั้งตัวแผ่ความเย็นเยียบ กระหายเลือดออกมาในพริบตา กลิ่นอายที่ดุดัน ราวกับราชาแห่งรัตติกาลกำลังจ้องมองใต้หล้า

โม่จุนกับเย่อู๋เหิงก็หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ทั้งสองคนล้วนสีหน้าตกตะลึง เพราะกลิ่นอายที่มู่จิ่วซีแผ่ออกมาเวลานี้แข็งแกร่งอย่างมาก

นี่ไม่ใช่พลังที่คุณหนูใหญ่ราวกับผ้าพับไว้มี แต่กลับเหมือนเป็นเพชรฆาตที่จมดิ่งอยู่ในการฆ่าฟันคนหนึ่ง

จะเป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาตาฝาดไปกระมัง

หลังจากมู่จิ่วซีหัวเราะเย็นชา ก็เก็บกลิ่นอายลง มองไปทางชายทั้งสองคน จู่ๆ ก็กระแอมไอออกมาเสียงหนึ่ง "ครั้งนี้ข้าประมาทไปหน่อย ถ้าหากนักฆ่ากลับมาอีกครั้ง ข้ารับรองว่าจะทำให้เขาไม่ได้กลับไปเลย!"

"มู่จิ่วซี นี่ไม่ใช่การเล่นขายของนะ คนร้ายเป็นวิชาฝ่ามือสันดอน พลังไม่ธรรมดา เจ้าที่มีวรยุทธ์แค่หางอึ่งคิดจะหนียังยากเลย!"

โม่จุนประชดประชันขึ้นทันที

มู่จิ่วซีเหลือบตามองเขา หัวเราะพรืดออกมาเสียงหนึ่ง "ได้ยินว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนมีทักษะยุทธ์แข็งแกร่ง เช่นนั้นมาลองแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับข้าเสียหน่อยไหม?"

"ปีที่แล้วบนการแข่งขันล่าสัตว์ฤดูใบไม้ร่วง คุณหนูใหญ่ที่ตกใจกระต่ายป่าจนตกจากหลังม้านั่นเป็นเรื่องโกหกหรอกหรือ?"

"ก็แค่เรื่องตลก คุณหนูอย่างข้าชอบเรื่องตลกไม่ได้หรือ ถ้าข้าได้ที่หนึ่งมันทุกอย่าง แล้วคนอื่นจะก้าวหน้าได้อย่างไรกัน บางครั้งเป็นคนก็ต้องรู้จักนอบน้อมถ่อมตัว ให้คนอื่นได้ดีใจบ้าง เข้าใจไหม?"

"หน้าไม่อาย!" ท่าทีมั่นอกมั่นใจของมู่จิ่วซีทำเอาโม่จุนโมโหจนหน้าหล่อๆ ดำคล้ำ

"โม่จุน ข้าจะหน้าไม่อายได้อย่างไร แค่คิดจะแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านก็หน้าไม่อายแล้วหรือ? ท่านไม่กล้ามากกว่า!" มู่จิ่วซีเมื่อคืนนี้ทำความคุ้นเคยกับร่างกายนี้ไว้แล้ว

ความรู้สึกโดยรวมถือว่าไม่เลว แม้จะสู้ในชาติที่แล้วไม่ได้ แต่ก็ยังพอแสดงพลังได้หกเจ็ดส่วน

"เจ้ายังไม่คู่ควร!" โม่จุนพูดจบก็สะบัดชายเสื้อเดินไป

"ข้าไม่คู่ควรหรือ?" มู่จิ่วซีมองแผ่นหลังของเขาร้องเชอะเย็นชา "ผู้ชายไม่ได้เรื่อง สักวันหนึ่งข้าจะทำให้ท่านปีนเกลียวไม่ได้เลย!"

อย่างฉับพลัน ในห้องเกิดลมเย็นขึ้นมาวูบหนึ่ง ร่างของโม่จุนไหววูบ และมาปรากฎอยู่เบื้องหน้ามู่จิ่วซี

ยื่นมือออกมาคิดจะคว้าคอของมู่จิ่วซี ดวงตาดำขลับทั้งคู่มีไฟโกรธหลั่งทะลัก

หญิงสาวคนนี้เอาแต่ท้าทายบารมีท่านผู้สำเร็จราชการแทนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สมควรให้นางต้องเจอความเจ็บปวดเสียบ้าง

ความเฉียบคมต่ออันตรายของมู่จิ่วซีเป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณไปแล้ว และเห็นศีรษะเล็กของนางโยกหลบ พลาดจากมือใหญ่ที่กระพือลมเข้ามาของโม่จุนไป

โม่จุนคว้าไม่โดนคอของมู่จิ่วซี เขาเองก็ตกตะลึง รีบพลิกมือคว้าอีกครั้ง

แต่มู่จิ่วซีก็ทิ้งร่างลงพื้น ยันไว้ด้วยมือข้างเดียว หลบการโจมตีของโม่จุนได้อีกครั้ง

"เป็นอย่างไร? พอลอบโจมตีไม่สำเร็จ ก็ยังมีหน้าเล่นงานต่ออีกหรือ?"

โม่จุนร่างแข็งทื่อ ใบหน้าเย็นชาราวกับลมหนาว มองสูงลงล่างไปยังใบหน้าเล็กที่เต็มไปด้วยความเสียดสีของมู่จิ่วซี ใจก็กระโจนขึ้นมา

ปฏิกิริยากับความเร็วของมู่จิ่วซีเกินจากที่เขาคาดไปเลยจริงๆ นี่เป็นไปได้อย่างไร?

ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วมาก กะทันหันมาก ทุกคนพอได้สติกลับมาก็ถลึงตาโต

มู่จิ่วซีหลบการโจมตีของท่านผู้สำเร็จราชการแทนได้หรือ?

เย่อู๋เหิงเองก็ตะลึงงันไปเช่นกัน มองมู่จิ่วซีอย่างไม่อยากเชื่อ

พอเห็นทั้งสองคนชักกระบี่ง้างธนูใส่กัน บรรยากาศดูกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาก็รีบร้อนเอ่ยขึ้นว่า "คุณหนูใหญ่ ไม่ทราบว่าข้าน้อยพอจะมีเกียรติแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กับท่านหรือไม่?"

มู่จิ่วซีร้องเชอะเย็นชาใส่โม่จุนเสียงหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นมา ตอนที่หันหน้ามองเย่อู๋เหิง ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม "ได้เลย ข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน"

พูดจบนางก็วิ่งเข้าไปในห้อง

"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน คุณหนูใหญ่เมื่อครู่...?" เย่อู๋เหิงมองโม่จุนที่สีหน้าดูไม่ได้

โม่จุนพ่นลมออกจากจมูก เหลือบตามองเย่อู๋เหิงอย่างคมกริบผาดหนึ่ง เดินอาดๆ ไปนั่งลงที่นั่งด้านหน้า เตรียมตัวจะดูมหรสพ

เย่อู๋เหิงทำอะไร-ม่ถูก ที่บอกว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนหยินหยางไม่มั่นคงนั้นไม่ผิดจริงๆ

ครู่ต่อมา มู่จิ่วซีในชุดทะมัดทะแมงสีเขียวก็เดินออกมา

ร่างสูงโปร่ง ส่วนเว้าส่วนโค้งยอดเยี่ยม รูปร่างเล็กบาง

ใบหน้าไข่ห่านขาวนวล ดวงตาดำขลับมีชีวิตชีวา ผมยาวรวบเป็นหางม้า สะบัดไปมาดูเป็นความงามแห่งวัยเยาว์

เย่อู๋เหิงก่อนหน้านี้รุ้สึกว่ามู่จิ่วซีกำเริบเสิบสาน ดื้อรั้นเอาแต่ใจ ต่อให้สวยก็ยังรู้สึกขัดหูขัดตา

แต่ครั้งนี้ก็ต่างออกไปแล้ว มู่จิ่วซีตรงหน้าดูแคล่วคล่องว่องไว สดใสใจกว้าง ราวกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน

และดวงตาเป็นประกายดาราของโม่จุนก็หดลงในพริบตา

"ท่านเย่ พวกเราไปแลกเปลี่ยนวรยุทธ์กันที่ลานด้วยหมัดและเท้าเถอะ ยังไม่ต้องใช้กำลังภายในนะ"

เซลล์ทั่วร่างมู่จิ่วซีกำลังกุ่ก้อง ราวกับคิดจะเพาะกาย ฝึกฝน ทำศึก ออกทำภารกิจ หรือทำการทรมานต่างๆ เลย

นางเมินท่านผู้สำเร็จราชการแทนที่นั่งอยู่ไปแล้ว

"ได้ เชิญคุณหนูใหญ่" เย่อู๋เหิงยิ้มขึ้นเรียบๆอย่างมีมารยาท

องครักษ์ล้วนถอยออกไปจากในลาน เหลือแค่ลู่เอ๋อร์ที่ยกน้ำชามาให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนด้วยอาการสั่นระริก กับเย่อู๋เหิงและมู่จิ่วซีสี่คน

มู่จิ่วซีร้องย่าห์ขึ้นมา ตัวคนก็พุ่งเข้าหาเย่อู๋เหิงแล้ว ขณะเดียวกันร่างก็ยืดสูง ยกเท้าหนึ่งถีบไปทางเย่อู๋เหิง

เย่อู๋เหิงหันข้างเบี่ยงหลบ มู่จิ่วซีพอเท้าวืดลม ตัวคนแฉลบผ่านเย่อู๋เหิงไป แต่นางก็ไม่ได้พลิกตัวกลับย แต่กวาดเท้าอีกข้างเข้ามาแทน

เย่อู๋เหิงคิดไม่ถึงว่าการเคลื่อนไหวนางจะคล่องแคล่วเช่นนี้ หลบเลี่ยงไม่พ้น ทำได้เพียงเตะเท้าเข้าสกัด

สองเท้าปะทะกัน ต่างฝ่ายต่างถอยไปก้าวหนึ่ง

"อีกครั้ง!" มู่จิ่วซีหาความรู้สึกเจอขึ้นมา ดีใจลิงโลดจนหน้าแดงเถือก

ร่างทั้งร่างโถมเข้าไปอีกครั้ง สองมือที่ปะทะกับเย่อู๋เหิงคือพยัคฆ์ดำควักหัวใจ ขณะเดียวกันเท้าก็ไม่ได้ปล่อยว่าง เตะซัดออกมาอย่างรวดเร็ว

เย่อู๋เหิงหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ต้านทานสองมือยังไม่พูดถึง นี่ยังต้องหลบเท้าเล็กๆ ของนางอีก ดูซมซานขึ้นมาทันที

สิ่งนี้ตอนแรกเริ่มเขาคาดไปไม่ถึง แต่พอใช้กำลังภายในไม่ได้ ความเร็วกับกำลังจึงไม่ได้เปรียบ ถูกมู่จิ่วซีโจมตีอย่างรวดเร็วเป็นชุด เล่นเอามือไม้พัลวันกันเลยทีเดียว

โม่จุนไม่รู้ว่าขึ้นไปยืนอยู่ใต้ชายคาตั้งแต่เมื่อไร ดวงตามืดทึมจ้องเขม็งที่การเคลื่อนไหวเป็นชุดของมู่จิ่วซี ในใจเองก็รู้สึกแปลกประหลาด

มู่จิ่วซีถอยออกกะทันหัน แสยะยิ้มกับเย่อู๋เหิง "ท่านเย่ ท่านใช้กำลังภายในเถอะ ไม่เช่นนั้นก็ไม่ใช่คู่มือของข้าหรอก"

เย่อู๋เหิงเหลือบมองโม่จุนผาดหนึ่ง จากนั้นก็เผยรอยยิ้มขืน ในใจเกิดการมองใหม่อีกครั้งต่อตัวมู่จิ่วซี

ไม่รู้วิชา ดื้นรั้นอันธพาลอะไรกัน หลอกลวงทั้งเพ!

เขาไม่เคยเห็นคนที่ไม่ใช้กำลังภายใน แล้วรวดเร็วขนาดนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้นกำลังยังไม่น้อยอีกด้วย ถ้านางมีกระบี่อยู่ในมือล่ะก็ เขาคงบาดเจ็บไปแล้ว

มู่จิ่วซีอุ่นเครื่องเสร็จสิ้น ใบหน้างามก็เปลี่ยนเป็นตั้งใจและเข้มงวดขึ้นมา กลิ่นอายเปลี่ยนไป ดวงตาทั้งคู่เปล่งแสงคมกริบออกมา

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status