ราชินีทหารรับจ้างยุคปัจจุบันข้ามชาติไปอยู่ในร่างอยู่ของมู่จิ่วซีคุณหนูใหญ่จวนขุนพล ถูกใส่ร้ายว่าคบชู้จนกำลังจะถูกขังกรงหมูจับถ่วงน้ำ จากนั้นก็ถูกผู้สำเร็จราชการแทนถอนหมั้นทำลายชื่อเสียง ผู้คนคิดว่าคุณหนูใหญ่จะถูกคนหัวเราะเยาะ ไม่คิดเลยว่านางจะไม่เจ็บไม่คันสักนิด ไม่ปราณีพวกแม่พระ กดขี่เหล่าแพศยา ทุบตีสุนัขเจ้าเล่ห์ จับเป็นฆาตกร ลูกไม้ต่างๆ ได้รับทักษะมามากมาย พร้อมงัดมาใช้ได้ตลอดเวลา ผู้สำเร็จราชการแทนเห็นว่านางงดงามน่าหลงใหล วันๆ ถูกเย้าแหย่จนใจจักจี้ “จิ่วซี ให้โอกาสข้าอีกสักครั้งได้ไหม?” “he--tui!”。
ดูเพิ่มเติมมู่จิ่วซีพริบตาก็ทะยานตัวออกไป ทุกคนที่เดินใกล้มาถึงห้องโถงใหญ่รู้สึกเหมือนความเร็วของลมพัดผ่าน เห็นเพียงมู่จิ่วซียืนอยู่ตรงหน้าของจี๋เฟิง"คุณหนูใหญ่ จับลู่เวยหย่าและผู้ร่วมขบวนการได้อีกคนหนึ่งแล้วขอรับ แต่ว่าใต้เท้าเย่ได้รับบาดเจ็บ""อะไรนะ! เขาอยู่ไหน!" มู่จิ่วซีรีบถาม "เย่ฮาน"เย่ฮานซึ่งอยู่ข้างหลังนางก็รีบวิ่งตามจี๋เฟิงไปมู่เทียนซิงก็รีบกระโจนวิ่งตามไปเช่นกันจนพอออกมาถึงประตูใหญ่ของจวนฉีก็มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ภายในเรือนเคหะสถานหลังเล็กแห่งหนึ่งห่างออกไประมาณ 50 เมตร มู่จิ่วซีได้เห็นเย่อู่เหิงมีคราบเลือดเป็นดวงๆ บนเสื้อสีขาวของเขาเย่อู่เหิงนั่งพิงตรงกำแพงของเรือน ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษพร้อมกับหันมองมู่จิ่วซีพร้อมกับเผยรอยยิ้มจางๆ และกล่าว : "โชคดียังไม่ตาย"มู่จิ่วซีก้มหน้ามอง เขาได้รับบาดเจ็บตรงต้นขาบริเวณเป้า เลือดสดๆ ได้ไหลออกมา ทำให้รู้สึกเหมือนกับขันทีถูกตอนก่อนจะเข้าไปในวังอย่างใดอย่างนั้นมีดบินเล่มหนึ่งยังคงปักอยู่ แต่มู่จิ่วซีกลับถอนหายใจออกมาเพราะว่าไม่โดนอวัยวะสำคัญ ไม่งั้นเย่อู่เหิงชาตินี้คงไม่ได้มีผู้สืบสกุลแน่ ส่วนนางเองก็รู้สึกผิดอย่างมากในใจ"จี๋เฟิ
"เอาน้ำชานี้กรอกปากคุณหนูสามตระกูลฉีลงไป!" มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็ออกคำสั่งขึ้นมา"กรี๊ด อย่า อย่าเข้ามา!" ทันใดนั้นฉีหงเย่ก็กรีดร้องขึ้นมาและรีบคลานถอยกลับไปแต่เย่ฮานตอนนี้กลับโกรธอย่างมาก เขารุดไปข้างหน้าและกดแขนของนางเอาไว้ เจ้าหน้าที่อีกคนก็ไปหยิบเอากาน้ำชาที่ซิวเซียงวางเอาไว้มาซิวเซียงคุกเข่ากับพื้นพร้อมกับอกสั่นขวัญแขวน ใบหน้าหวาดกลัวอย่างมากไม่คาดคิดว่ามู่จิ่วซีจะไม่รับรู้ถึงยาพิษ แต่กลับเป็นคุณท่านของนางเองที่มองออกนางรู้ซะที่ไหนว่าตอนมู่จิ่วซียกขึ้นมาจรดริมฝีปากก็รู้แล้วว่าในชาผลไม้มีบางอย่างผิดปกติ อีกอย่างท่าทางวิตกกังวลก่อนหน้านี้ของซิวเซียงก็ทำให้นางรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ"อย่านะ ข้าไม่เอา!" ฉีหงเย่ดิ้นรนสุดชีวิต "เป็น เป็นยาเบื่อหนู!"ทุกคนต่างตกลึง ไม่คาดคิดว่าฉีหงเย่จะชั่วร้ายได้ถึงขั้นนี้ ถึงขนาดเอายาเบื่อหนูให้มู่จิ่วซีดื่ม เป็นยาพิษที่เวลาออกฤทธิ์จะทรมานอย่างมาก โดยพื้นฐานแทบจะไม่มีทางช่วยให้รอดได้ฉีหู่ซานก็ล้มพับเหมือนว่าวสายป่านขาด ยังดีที่เจ้าหน้าที่ข้างๆ ได้คว้าพยุงเอาไว้ ไม่งั้นเขาก็คงล้มไปทั้งยืน"เจ้า เจ้ากล้าบังอาจ..." ฉีหู่ซานแทบจะหายใจไม่ทันและก
มู่จิ่วซีได้ยกถ้วยชาขึ้นมาจรดตรงริมฝีปาก กลิ่นหอมของชาผลไม้ก็กระทบเข้ากับจมูก แต่ทว่ากลับทำให้นางเลิกคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย"ช้าก่อน!" ฉีหู่ซานจู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นมา เขาเอื้อมมือไปทางมู่จิ่วซีเพื่อห้ามมู่จิ่วซีดื่มชา"ซิวเซียง! นี่มันเรื่องอะไร? คุณหนูให้เจ้าเอาชามามอบให้คุณหนูใหญ่มู่งั้นหรือ?" ฉีหู่ซานพอเห็นซิวเซียง ทันใดนั้นก็รู้สึกท่าไม่ดีซิวเซียงตกใจจนหดเกร็งตัวสั่นและพูดติดๆ ขัดๆ : "คุณท่าน คุณหนูให้บ่าวเอาชามาให้ บอกว่าคุณหนูใหญ่มู่คงลำบากแย่ พวกเราคงไม่อาจทำเฉยได้ ดังนั้นเลยเรียกบ่าวเอาชาผลไม้ที่เพิ่งชงเสร็จไปให้คุณหนูเจ้าค่ะ"ฉีหู่ซานขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าลูกสาวของเขาเองเกลียดมู่จิ่วซีจะตายชัก ไม่มีทางเจตนาดีขนาดนี้ได้ เกรงว่าในชาผลไม้นี้คงจะเติมอะไรส่วนผสมอะไรลงไป"ข้าเองก็กระหายแล้ว คุณหนูใหญ่มู่ ให้ข้าได้ดื่มก่อนเถอะ" ขณะพูดก็ยื่นมือไปรับมู่จิ่วซีเลิกคิ้วและรู้สึกว่าคงจะมีอะไรสักอย่างเลยเอาถ้วยชาที่ยังไม่ได้ดื่มให้ฉีหู่ซาน จากนั้นก็เห็นใบหน้าของซิวเซียงซีดขาวในทันที ตอนฉีหู่ซานกำลังจะดื่ม ซิวเซียงก็คุกเข่าลงกับพื้นจนมีเสียงดัง "ตึก""คุณท่าน อย่าดื่มเจ้าค่ะ!" ซิวเซียงรีบพู
ส่วนฉีเล่อฉี่ที่ตกใจจนไปนั่งกับพื้นก็ไม่รู้ว่าเพราะบังเอิญหรือไม่ เลยเป็นการเปิดโอกาสให้คนใต้เตียงได้ลอบโจมตีเข็มเงินปรากฎในมือและฝังตรงรอบคอ 4 จุด เลือดที่ไหลออกมาก็หยุดลงมู่จิ่วซีถอนหายใจและปาดเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากฉีหู่ซานตกใจกับเลือดที่นองพื้นและมีดบินซึ่งปักตรงคอของฉีเล่อฉี่ ผนวกกับที่ถูกมู่จิ่วซีตะคอกใส่ สภาพของเขาเลยดูโง่"มีโสมชั้นดีไหม เอาไปหั่นเป็นแว่นใส่นางปากนางประทังลมหายใจก่อน!" มู่จิ่วซีถาม"มี จะไปเอาให้เดี๋ยวนี้" ด้านหลังก็มีคนกล่าวออกมา มู่จิ่วซีก็ไม่รู้ว่าเป็นใครฉีหู่ซานคืนสติกลับมาและกล่าวอย่างร้อนลน : "คุณหนูใหญ่มู่ เล่อฉี่จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?""ตอนนี้ประคองอาการไว้ได้ แต่ว่าใต้เท้าฉี เรื่องของน้องสาวท่านถือว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ" มู่จิ่วซีเหลือบมองฉีหู่ซานครู่หนึ่งฉีหู่ซานตกใจจนรีบคุกเข่าลงต่อหน้าของมู่จิ่วซีจนมีเสียงดัง "ตึก""คุณหนูใหญ่มู่ เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ ช่วยจวนฉีด้วยเถอะ ข้าไม่รู้อะทั้งนั้นจริงๆ เล่อฉี่ถูกข้าตามใจจนเสียคนจริงๆ" ฉีหู่ซานจะไม่รู้จักสถานการณ์แบบนี้ได้อย่างไรมู่จิ่วซีไม่มีทางสังหารฉีเล่อฉี่ งั้นนางก็คงถูกฆ่าปิดปาก ใต้เตียงก็ถ
ฉีเล่อฉี่สั่นไปทั่งตัวพร้อมกับมองมู่จิ่วซีอย่างไม่เชื่อ"ป้าสะใภ้รองของข้าลู่เวยหย่าได้มาหาเจ้าใช่ไหม? นางอยู่ไหน? เจ้าตอนนี้พูดออกมา ข้าสามารถรับประกันความปลอดภัยเจ้าได้ ถ้าหากเจ้ายังหลงผิดอยู่อีก คนที่ตายจะไม่ใช่แค่เจ้า ทั้งจวนฉีจะชิบหายไปพร้อมกับเจ้าด้วย!"ฉีเล่อฉี่ลุกขึ้นมาในทันที แต่ก็ไม่ได้เดินแม้แต่ก้าว นางกลับล้มพับไปกองกับพื้น เหงื่อได้ผุดออกมาจากตรงหน้าผากนาง สภาพของนางเหมือนจะตกใจกลัวมาก"เจ้าอย่ามาปฏิเสธ มีคนเห็นลู่เวยหย่าเข้าออกในจวน ถ้าไม่ใช่เจ้ากับนางติดต่อกัน งั้นในจวนฉีก็คงจะมีคนอื่นอีก เมื่อเป็นแบบนี้ทั้งจวนฉีก็จะได้รับโทษประหารเก้าชั่วโคตร" มู่จิ่วซียิ้มอย่างเย็นชากล่าวออกมาบรรดาสาวใช้ต่างกลัวจนไปหลบที่มุมห้อง ล้วนไม่มีใครกล้าเข้ามาพยุงฉีเล่อฉี่"ฉีเล่อฉี่ ข้าไม่ได้มีเวลามากนัก เจ้าไม่พูดข้าก็มีวิธีจับลู่เวยหย่า แต่โอกาสในการเอาชีวิตรอดของเจ้าก็คงจะไม่มีแล้ว"มู่จิ่วซีพอพูดจบก็เดินออกไปข้างนอก"ข้า..." ฉีเล่อฉี่สูดหายใจเฮือกใหญ่ ราวกับปลาที่กำลังจะตาย "มู่จิ่วซี ถ้าข้าพูด ข้าก็จะไม่ต้องตาย พี่ชายข้าก็จะไม่โดนหางเลขไปด้วยใช่ไหม?""ข้ามู่จิ่วซีพูดคำไหนคำนั้น โ
ที่น่าโมโหกว่าก็คือทำให้นางหลังจากนี้ยากจะหาสามีที่ดีแต่งงานด้วยได้อีกทั้งท่านอ๋องหกที่นางชอบกลับต้องการสู่ขอมู่จิ่วซี นั่นยิ่งทำให้นางโกรธแค้นมู่จิ่วซีถึงขีดสุดมู่จิ่วซีผู้หญิงคนนี้แต่ก่อนตอนไม่มีอะไรดีเลยสักอย่างก็ทำผู้คนรำคาญ ตอนนี้หลังจากทำเรื่องน่ามหัศจรรย์ก็ทำให้นางรู้สึกรังเกียจ"หงเย่ เจ้าอย่าหาเรื่องมู่จิ่วซี ผู้หญิงคนนี้ยุ่งเกี่ยวให้น้อยจะเป็นการดีที่สุด ตอนนี้เป็นหัวแก้วหัวแหวนของพระพันปีหลวงและท่านผู้สำเร็จราชการแทน ทำคุณประโยชน์ให้กับแคว้นเกาอวิ๋น เจ้าเอาตัวเองไปเปรียบกับนาง แบบนี้เจ้าก็จะอึดอัดไม่เป็นตัวของตัวเองไม่ใช่หรือไง? ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ"คำพูดสั่งสอนชี้แนะลูกสาวของฉีหู่ซานไม่ได้เข้าหัวของฉีหงเย่เลยเห็นแค่นางจู่ๆ ก็หันหลังและเดินตรงออกไปฉีหู่ซานคิดว่านางปล่อยวางได้ก็เลยถอนหายใจส่วนฉีหงเย่กับซิวเซียงบ่าวสาวใช้ของนางพอเดินมาถึงตรงมุมหนึ่ง นางก็บอกข้างหูซิวเซียงซิวเซียงก็เผยสีหน้าหวาดกลัวขึ้นมาและกล่าว : "คุณหนู แบบนี้จะดีหรือเจ้าคะ?""ครอบครัวเจ้ายังอยากจะมีชีวิตรอดไหม? อยากให้น้องชายของเจ้าเข้าวังไปเป็นขันทีหรือไง? เจ้าอยากจะตัดกล่องดวงใจเซี
ฉีหู่ซานพอได้ยิน ใบหน้าแก่ชราก็กระตุกขึ้นมาและเดินออกไปยังประตูใหญ่พร้อมกับเรียกยามเฝ้าประตูให้เปิดประตูเย่อู่เหิงโบกมือพร้อมกับเดินนำตรงเข้าไป จากนั้นก็ส่งสัญญาณมือให้เจ้าหน้าที่กระจายออกตรวจค้นจวนฉีตามเรือนต่างๆ ของสมาชิกในตระกูล"คุณหนูใหญ่ เรือนของฉีเล่อฉี่เป็นเรือนตรงทางด้านตะวันออกขอรับ" เย่อู่เหิงกล่าวเสียงต่ำกับมู่จิ่วซี"งั้นพวกเราไปดูทางด้านนั้นกัน" มู่จิ่วซีหันมองไปยังใบหน้าอันแก่ชราของฉีหู่ซาน "เย่ฮาน เจ้าไปตรวจค้นเรือนอื่น ข้าเกรงว่าพวกเขาคงจะไม่รู้จักลู่เวยหย่า"เย่ฮานก็รีบรับคำและพากองตรวจค้นของเขาไปอีกด้านหนึ่ง"พวกเจ้ายังสงสัยเล่อฉี่อีกหรือ?" ฉีหู่ซานถาม "นางไม่ใช่ไส้ศึกจริงๆ""ใต้เท้าฉี น้องสาวของท่านไม่ได้ธรรมดา" มู่จิ่วซีกระตุกยิ้ม นอยยิ้มนี้ทำให้ฉีหู่ซานอกสั่นขวัญแขวน"มู่จิ่วซี เจ้าพูดความจริงกับข้าว่าเล่อฉี่เป็นไส้ศึกหรือไม่?" ฉีหู่ซานเดินไล่ตามอยู่ข้างๆ มู่จิ่วซีและถามอย่างจริงจัง"ใต้เท้าฉี ถ้าข้าบอกว่าใช่ เจ้าจะยอมจัดการนางเพื่อส่วนรวมไหม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้วมองเขา แววตาอันคมกริบทำให้ฉีหู่ซานใจหายฉีหู่ซานสั่นไปทั้งตัว อารมณ์บนใบหน้าอันแก่ชราช่างตระกา
สีหน้าชิงเฟิงแปลกออกไป มู่เทียนซิงก็กล่าวอย่างโมโหขึ้นมา: "เจ้ามีเรื่องปิดบังข้าใช่ไหม?""คุณท่าน ข้าได้ยินมาจากใต้เท้าเย่บอกว่ามีคนเจอฮูหยินรองแล้วขอรับ"มู่เทียนซิงก็ตกใจนิ่งค้างไป จากนั้นก็พูดขึ้นมา : "เจ้าจะบอกว่าอยู่ที่จวนฉีหรอ?"ชิงเฟิงยิ้มอย่างเขินๆ และพยักหน้า จากนั้นก็เห็นมู่เทียนซิงตะโกนเสียงดัง : "รีบไปเอาม้าข้ามาโดยด่วน!""คุณท่าน ท่านอย่าไปเลยจะดีกว่า ให้คุณหนูทำเรื่องนี้จะดีกว่า" ชิงเฟิงอยากจะอุดหูของเขา แต่เขาเองก็ลำบากใจจริงๆ"เจ้าจะไปเข้าใจอะไร ไอแก่ฉีหู่ซานคนนั้นรับมือง่ายซะที่ไหน ข้ากลัวว่าจิ่วซีจะเสียเปรียบ!" มู่เทียนซิงก็รีบกล่าวออกมาชิงเฟิงก็เลิกคิ้ว ในใจลึกๆ ของเขาไม่เชื่อ ขนาดท่านผู้สำเร็จราชการแทนโม่จุน คุณหนูใหญ่ของพวกเขาก็ยังไม่กลัว แล้วจะมากลัวฉีหู่ซาน?คุณท่าน ข้าอ้างของท่านแย่เกินไปแล้วแต่ว่าชิงเฟิงก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับขึ้นรถม้าไปยังกระทรวงครัวเรือนส่งม้วนตำรามู่เทียนซิงพอรอจนม้าของเขาจูงออกมาแล้วก็รีบพาองครักษ์สองคนไปยังจวนฉีมู่จิ่วซีและเย่อู่เหิงพอมาถึงปากประตูของจวนฉี ใต้เท้าฉีฉีหู่ซานก็เพิ่งกลับมาจากราชสำนักในตอนเช้า พอเขาลงมาจากรถม้
มู่จิ่วซีพยักหน้าและกล่าว: "ใช่ เป็นกล่องหลู่ปันอันพิศวงมากชนิดหนึ่ง เขาบอกว่าจะใช้เหล็กดำทำขึ้นมา หลังจากนี้ข่าวกรองหลังจากถูกสกัดกั้นก็จะไม่ถูกคนเปิดออกได้ในทันที"โม่จุนก็ได้เดินกลับมา แววตาดาสีดำอันมืดมนก็ได้มองใบหน้าอันงดงามของนางมู่จิ่วซีพอหันมองเขาก็เผยยิ้มและกล่าวออกมา : "ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไร เจ้าอย่าขี้งกไปหน่อยเลย ข้ารู้จักขอบเขตดี อีกอย่างของสิ่งนี้ข้าทำกับมือเอง แน่นอนว่าข้าเปิดออกได้""เครือค่ายการสอดแนมของทหารมังกรดำของข้าก็ต้องการของแบบนี้ด้วย" น้ำเสียงของโม่จุนไม่พอใจเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้ไม่คิดถึงเครือข่ายข่าวกรองของเขาบ้างเลยหรือไง?"เจ้ามีแผ่นเหล็กที่ทำลายเปิดออกได้ยากรึเปล่า?" มู่จิ่วซีถามโม่จุนกล่าว : "อยากให้มี ก็มีได้แน่นอน แต่ว่ากล่องนั้นจะต้องละเอียดซับซ้อนมากกว่าของเขา""ได้ๆๆ ขอเพียงเจ้ามีวัสดุในการทำ ข้าก็จะวาดให้เจ้าตกลงไหม?" มู่จิ่วซีหมดคำจะพูดกับผู้ชายคนนี้จริงๆ รู้สึกว่าเขาอยากจะเอาชนะฮั้วอวิ๋นเทียนอย่างใดอย่างนั้น"ตอนบ่ายไปดื่มชากับเขาคงมีความสุขมากสินะ?" โม่จุนเปลี่ยนเรื่องและถามขึ้นมามู่จิ่วซีก็เลิกคิ้ว ขณะกำลังจะตอบกลับเขา โม่จุนก้หัน