Share

บทที่ 3

นางเอื้อมสัมผัสไปที่ท้ายทอยหลังศีรษะของหมอหลวงเวินก่อนจะพูดกับโม่จุน "เจ้าเข้ามาดู"

โม่จุนเดินเข้าไป พอเขาเห็นใบหน้าของคนตาย ลมหายใจก็เย็นวาบขึ้นมา

"หมอหลวงเวินไม่ได้จมน้ำตายและก็ไม่ได้กระโดดลงมาช่วยข้าด้วย ที่ท้ายทอยหลังศีรษะเขามีบาดแผล ใบหน้าก็ไม่ได้บวม เขาถูกคนฆ่าก่อนแล้วถึงถูกผลักลงทะเลสาบไป ถ้ายังไม่เชื่อข้าอีก จะไปเรียนขุนนางฝ่ายชันสูตรมาชันสูตรศพนี้ก็ได้"

มู่จิ่วซีพูดเสร็จก็ยืนขึ้นและจ้องมองไปยังใบหน้าของโม่จุนซึ่งหล่อเหลาจนขนาดทวยเทพยังอิจฉาชังน้ำหน้า

ชายคนนี้ทำไมถึงได้หล่อมากขนาดนั้น ช่างเป็นอาหารตาจริงๆ

“อะไรนะ เขาจะถูกทุบตีจนตายและผลักลงทะเลสาบไปได้อย่างไร?” ไป๋เฟิ่งหว่านส่งเสียงอุทานขึ้นมาทันที

มู่จิ่วซีก็รู้สึกน่าขบขัน ทันใดนั้นนางก็ขยับเข้าหาโม่จุนและพูดกระซิบเบาๆ: "ข้าถูกผลักลงไปในน้ำจริงๆ หากเจ้ายังไม่เชื่อข้า ข้ายอมถอดเสื้อผ้าออกให้เจ้าดูแผ่นหลังข้าก็ได้ ตอนนี้ที่หลังข้ายังเจ็บอยู่เลย"

โม่จุนแข็งทื่อไปทั้งตัว ดวงตาสีดำเข้มอันลึกล้ำก็ราวกับมีพายุก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา

“ไร้ยางอาย!” โม่จุนพอพ่นวาจาออกมาสามคำก็ถอยห่างจากมู่จิ่วซีไปไกลเล็กน้อย

“ใครก็ได้ เรียกเย่อู่เหิงมาที คุณหนูใหญ่มู่ก็พูดมีเหตุผล เรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ!”

เย่อู่เหิง ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่

เสียงของโม่จุนฉะฉานคมกริบราวกับมีด ใบหน้าของเขาเย็นชาและเกรงขามซึ่งทำให้ผู้หญิงเหล่านั้นไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก

“ท่านผู้สำเร็จราชการแทน เรื่องนี้ยังไม่จบเจ้าค่ะ” มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็เรียนหยุดโม่จุนที่กำลังจะเดินจากไป

โม่จุนหันหน้ากลับมาพร้อมกับขมวดคิ้วมองนาง ดวงตากลมโตที่สดใสและเจ้าเล่ห์ของมู่จิ่วซี ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปราวกับคนละคน

"ยังมีเรื่องอะไรอีก?" เสียงของเขาไร้ซึ่งอารมณ์

“โม่จุน อย่างน้อยข้าก็เป็นคู่หมั้นของเจ้าใช่ไหม? ข้าถูกรังแกจนอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว เจ้าจะจากไปแบบนี้งั้นเหรอ?”

สีหน้าของโม่จุนยากที่จะดูดได้ขึ้นมา เขาจึงพูดอย่างเยาะเย้ยกับนางตรงๆ : "ข้าจะยกเลิกการหมั้นหมาย"

“ว้าว!” จู่ๆ หญิงสาวพวกนั้นก็ส่งเสียงอุทานขึ้นมา ไม่ยากเลยที่จะได้ยินเสียงความสุขอันมากล้นจากปากของพวกนาง

มู่จิ่วซีก็พูดอย่างไม่เดือดร้อน : "งั้นก็ดี ถึงอย่างไรทุกคืนถ้าข้าต้องมาเห็นหน้าอย่างกับโลงศพของเจ้า ข้าคงต้องฝันร้ายแน่ ถ้าไม่ใช่เพราะพระพันปีหลวงทรงสงสารเจ้า ข้าก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเจ้าหรอก"

"มู่จิ่วซี!" โม่จุนโกรธมากจนอยากจะบีบคอนางผู้หญิงคนนี้ให้ตาย

ตั้งแต่เล็กจนโต นางผู้หญิงคนนี้ก็ถูกจวนมู่ประคบประหงมเลี้ยงดูจนกำเริบเสิบสาน

ทั้งราชสำนักมีใครที่ไม่รู้บ้างว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลมู่หยิ่งผยองขนาดไหน ไหนจะพฤติกรรมเอาแต่ใจ พออาศัยว่าเป็นที่โปรดปรานของแม่ทัพใหญ่มู่และพระพันปีหลวง จึงไม่มีอะไรที่นางไม่กล้าทำ

"จะเรียกเสียงดังทำไม ข้าตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด เจ้าไม่ต้องมาดุข้า ถ้ายังมาดุข้าอีก ข้าจะไปทูลพระพันปีหลวง" มู่จิ่วซียืดหลังตรงแล้วพูดขึ้นมา

"ดี ดีมาก งั้นเจ้าจะเอายังไง?" โม่จุนโกรธจนแทบจะหัวเราะ

"พวกนางใส่ร้ายข้า และยังมาตีทำร้ายคนใช้ของข้า แน่นอนว่าข้าต้องได้ทำร้ายกลับ เจ้าคงไม่ถือใช่ไหม? เดี๋ยวไม่ใช่มาหาว่าข้าโวยวายไร้เหตุผลอีก" มู่จิ่วซีกล่าว

โม่จุนตกตะลึงและหันไปมองรอบๆ ยังกลุ่มหญิงสาวพวกนั้น จากนั้นก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ : "ตามใจเจ้า" พอพูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป

"อานเย่ เจ้าอยู่ช่วยข้า" มู่จิ่วซีพอเห็นอานเย่องครักษ์ของโม่จุนก็รีบเรียกเอาไว้

อานเย่ถึงกับชะงักฝีเท้าจนอีกนิดเขาก็แทบจะล้มลงกับพื้น เขากังวลจนเหงื่อผุดขึ้นตรงหน้าผากและรีบหันไปมองท่านผู้สำเร็จราชการแทน

โม่จุนหันมองอานเย่ ทันใดนั้นก็หรี่ตาลงมา

"เจ้าอย่าทำให้อานเย่ตกใจ เขาคือองครักษ์ของเจ้า ข้าก็รู้จักเขาก้เป็นเรื่องปกติ" มู่จิ่วซีกล่าวอย่างขำขันเล็กน้อย

"วันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะข้านายบ่าวสองคนออกมาข้างนอก พวกข้าจะถูกรังแกงั้นรึ? เดี๋ยวพอพวกเจ้าไป พวกนางก็กระโจนจับข้าโยนลงไปในทะเลสาบจะทำอย่างไร?"

มู่จิ่วซีกระพริบดวงตากลมโต ดูไปแล้วก็น่าสงสารอยู่เล็กน้อย

โม่จุนจ้องมองใบหน้าที่งดงามและเต็มไปด้วยอารมณ์อันเอ่อล้นของนางและพูดอย่างเย็นชา : "เจ้ามีช่วงเวลาที่กลัวเป็นด้วยงั้นเหรอ?"

Bab terkait

Bab terbaru

DMCA.com Protection Status