หลังจากเงียบไปสองวินาที ในที่สุดเขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้อีกต่อไป เขาตะโกนเรียกชื่อเธอ “ฉินอันอัน!” เสียงของเขาปิดบังความห่วงใยและใส่ใจที่มีต่อเธอไม่อยู่ หลังจากเธออาเจียนอยู่สามสี่ครั้ง ความรู้สึกคลื่นไส้ก็หายไป อารมณ์ของเขาค่อย ๆ สงบลงและพูดเสียงแหบแห้ง “ฉินอันอัน ถ้าคุณไม่สบายก็ไปนอนบนเตียง” “ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาสงสารฉัน!” เธอโกรธกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดถังเชี่ยนดีทุกอย่าง นั่นเขาไม่ต้องมาบอกเธอ! “ผมสงสารลูกของเรา!” เสียงของเขาตึงเครียด นิ้วจับโทรศัพท์แน่นขึ้น “คุณสงสารเขาทำไม?” เธอเย้ยหยัน “สงสารที่ไม่ถูกทำแท้งงั้นเหรอ?!” “ฉินอันอัน คุณจำเป็นต้องก้าวร้าวขนาดนี้ด้วยเหรอ?!” ฟู่สือถิงเกือบนึกสงสัยแล้วว่าตัวเองเป็นคนชั่วร้ายแบบที่เธอว่าจริง เห็นได้ชัดว่าเขามีความสุขมากกับการมาของลูก เฝ้ารอวันที่ลูกจะคลอดออกมาตอนที่เกิดอุบัติเหตุ เขาเจ็บปวดใจมากเช่นกัน “ใครก้าวร้าวก่อนล่ะ?” ฉินอันอันนั่งอยู่บนขอบเตียง ดวงตาของเธอแดงก่ำ นิ้วมือกำผ้าปูที่นอนแน่น “ถังเชี่ยนว่าง่าย พูดรู้เรื่อง… พูดคำที่คุณเพิ่งพูดอีกรอบสิ!” ริมฝีปากฟู่สือถิงขยับ แต่ไม่พูดออกสักคำ “อย่
“ฉันชอบความรู้สึกเวลาอยู่กับอิ๋นอิ๋นมาก มันให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ดังนั้นฉันจึงตอบตกลง” เว่ยเจินกล่าว “เขาแอบมอบเงินก้อนใหญ่ให้พ่อแม่ของฉันด้วย” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉินอันอัน “ในเมื่อเขาอยากให้ งั้นพวกพี่ก็รับไว้ได้ค่ะ” เว่ยเจินส่ายหน้า “ฉันให้พ่อกับแม่เอาเงินไปบริจาคแล้ว ฉันไม่ชอบความรู้สึกถูกให้ทาน เหมือนฉันน่าสงสารมาก ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร” ฉินอันอัน “พี่เว่ย บางทีเขาอาจไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ดวงตาของเว่ยเจินอบอุ่น น้ำเสียงสงบ “ฉันรู้ว่าเขาจิตใจดี อันอัน ในเมื่อตอนนี้เธอเกลี้ยกล่อมฉันได้ ทำไมตัวเธอถึงคิดไม่ออกล่ะ?” “มีอะไรคะ?” เธอหน้าแดงเล็กน้อย “มันไม่ฉลาดมาก ๆ เลยที่เธอเลิกกับฟู่สือถิง ตอนนี้เธอท้อง จำเป็นต้องมีคนดูแล” เว่ยเจินมองใบหน้าของเธอ น้ำเสียงจริงจังมากขึ้นเล็กน้อย “เธอมองไม่เห็นความรู้สึกของเขาจากเรื่องครั้งนี้งั้นเหรอ?” เธอลดคิ้วลงและรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น “เธอเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีเหตุผลเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่กลับเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจเฉพาะเขาคนเดียวเท่านั้น” เว่ยเจินกล่าว “ซึ่งเขาเคยชินกับมันแล้ว” “พี่เว่ย ทำไมพูดแบบนี้กับฉันล
การสัมภาษณ์นี้ถูกนักข่าวโพสต์ลงบนสื่อออนไลน์ ไม่ช้า การสัมภาษณ์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วอินเตอร์เน็ต! เดิมทีเมื่อไม่นานมานี้ข่าวฉินอันอันโกงเงินฟู่สือถิงเป็นมูลค่าหมื่นล้านก็ได้รับความนิยมอย่างมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินอันอันตอบกลับสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องโกงเงิน คิดไม่ถึงว่า เธอจะโกงเงินฟู่สือถิงจำนวนหมื่นล้านจริง ๆ และฟู่สือถิงไม่เพียงไม่ฟ้องร้องเธอ แต่เขายังไม่เรียกค่าชดเชยจากเธออีกด้วย! น่ามหัศจรรย์! ฟู่สือถิงหลอกง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? เอสทีกรุ๊ป ฟู่สือถิงกลับมาที่ออฟฟิศหลังจากประชุมเสร็จ เขาเปิดโทรศัพท์ก็มองเห็นข้อความใหม่ ทุกข้อความล้วนเป็นวิดีโอสั้นคลิปเดียวกัน เขาขมวดคิ้วแล้วกดเปิดวิดีโอ - คุณฉิน ได้ยินว่าคุณโกงเงินฟู่สือถิงหนึ่งหมื่นล้าน ขอถามหน่อย เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเปล่า?- เป็นความจริงค่ะ- คุณฉิน คุณกำลังพูดเล่นอยู่ใช่ไหม? ถ้าเป็นความจริง ทำไมเขาถึงไม่ฟ้องคุณล่ะ?- เพราะว่าประธานฟู่รวยมาก หมื่นล้านไม่นับว่ามีประโยชน์อะไรต่อเขา พวกคุณถ้าใครอยากรวยเร็ว ๆ ก็ไปหลอกเขาเลยค่ะ เขาหลอกง่ายมากใบหน้าฟู่สือถิงมืดครึ้มในทันที! หากเขาไม่เห็นหน้าเธอในวิดีโอด้
หลังจากนั้นสักพักรถก็มาจอดอยู่ที่ด้านนอกร้านอาหาร ฉินอันอันเข้าไปในร้านอาหาร ตรงไปที่ห้องส่วนตัว “ซือเหนียน วันนี้คุณหยุดเหรอ?” จิ้นซือเหนียนจองห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารใกล้ ๆ กับบริษัทของฉินอันอันและนัดเธอทานข้าว “อื้ม วันนี้เป็นวันหยุด” จิ้นซือเหนียนช่วยเธอดึงเก้าอี้ออกมา “โชคดีที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัย ผมเป็นห่วงคุณมาก” หลังจากที่ฉินอันอันนั่งลงแล้ว ยังไม่ทันตอบเขาก็ถูกการ์ดบนโต๊ะดึงดูด “นี่คืออะไร? การ์ดของคุณเหรอ?” จิ้นซือเหนียนนั่งลงข้างเธอ “ใช่ คุณรับไปก่อนเถอะแล้วคืนเงินที่ติดหนี้ฟู่สือถิงไปเสีย” ฉินอันอันดันการ์ดกลับไปตรงหน้าเขาโดยไม่ต้องคิด “ฉันไม่ต้องการ ซือเหนียน ถึงฉันจะติดหนี้เขา แต่เขาไม่ได้บังคับให้ฉันจ่ายคืน ฉันอยากจะคืนเมื่อไหร่ก็ได้ วันไหนที่ฉันไม่อยากคืนฉันก็จะไม่คืน” จิ้นซือเหนียนดันการ์ดกลับไปอยู่ตรงหน้าเธอและพูดอย่างดื้อรั้น “คุณเลิกกับเขาแล้ว ควรคืนเงินให้เขาโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า! อันอัน คุณเป็นคนช่วยชีวิตผมไว้ เงินที่ผมได้รับมา ผมให้คุณได้ทั้งหมด” ดวงตาของเขาชัดเจนและเป็นประกาย ทุกคำพูดล้วนออกมาจากใจจริง ๆ “ที่ผมกลับมาอีกครั้งไม่ใช่เพราะผมรักใ
เธอมองเขาอย่างขวัญหนีดีฝ่อและมองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น สายตาของเธอเบนออกไปอย่างช้า ๆ เธอเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วเดินผ่านเขาไป “ฉินอันอัน!” ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับเธอไว้แน่น ฝีเท้าของเธอหยุดลง จากนั้นเธอก็ใช้อีกมือฟาดหน้าอกของเขาอย่างแรง “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “คุณปล่อยฉันนะ!” ปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอทำให้เขาปล่อยมือทันที ลูกกระเดือกที่คอของเขาขยับขึ้นลงขณะที่เขามองดูหยดน้ำตาที่ท่วมในดวงตาเธอ “ฉินอันอัน คุณเป็นอะไรไป?” อารมณ์ของเธอย่ำแย่ เขาจินตนาการไม่ออกว่าเธอต้องพบเจอความยากลำบากอะไรถึงเป็นเช่นนี้ เธอมองหน้าเขา ความเจ็บปวดในใจเพิ่มขึ้นทวีคูณ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ขอให้หมอใช้ยากับเธอ บางทีลูกของพวกเขาก็จะไม่เป็นแบบนี้ เธออยากจะโทษเขา แต่ว่าเหตุและผลก็ดึงเธอกลับมา โทษเขาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ “ฟู่สือถิง ห้ามตามฉันมา!” หลังจากที่พูดประโยคนี้ทั้งน้ำตา เธอก็หันหลังแล้วก้าวเท้าจากไป เขามองดูด้านหลังของเธอที่เดินจากไป เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เขาก้าวเท้าไล่ตามเธอไป! ตอนนี้เอง ประตูลิฟต์ข้าง ๆ ก็เปิดออก ไมค์เดินออกมาเป็นแผนกต้อนรับที่โทรหา
ฟู่สือถิงมองไปด้านนอกบริษัท ฉินอันอันขับรถออกไปแล้ว “งั้นก็… ขอโทษแล้วกัน! ผมนึกว่าคุณทำให้เธอร้องไห้!” ไมค์ดึงแขนเขามาที่ลิฟต์ “ผมจะเลี้ยงน้ำชาคุณเอง! เธอไม่ให้เรารบกวนเธอ ตอนนี้คุณก็ไม่ควรไปกวนเธอ” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว “คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” ไมค์ “ก็ไม่รู้น่ะสิ! ตอนเช้ามาทำงานก็ปกติ ไม่อย่างนั้นผมจะคิดว่าคุณทำเธอร้องไห้เหรอ?” ฟู่สือถิงตามไมค์เข้ามาในลิฟต์ “ถ้าอย่างนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอได้เงินสองพันล้านมาได้ยังไง?” ฟู่สือถิงถามคำถามนี้ “วันนี้เธอคืนเงินให้ผมสองพันล้าน เท่าที่ผมรู้ บริษัททั้งสองบริษัทของเธอ ตอนนี้ไม่มีทางสร้างระแสเงินสดได้มากขนาดนั้น” ไมค์ถามกลับ “คุณมาหาเธอก็เพื่อถามข้อนี้?” “อืม” “ผมไม่รู้หรอก!” แน่นอนว่าไมค์ไม่มีทางบอกความจริงกับเขา “ตอนนี้เธอไม่ยอมบอกผมตั้งหลายเรื่อง เพราะว่าผมสนิทกับโจวจื่ออี้มากเกินไป เธอรู้สึกว่าผมกลายเป็นคนฝั่งคุณไปแล้ว” ดวงตาที่แหลมคมเหมือนเหยี่ยวของฟู่สือถิงจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา ไม่ขยับไปไหน ไมค์รู้สึกกระสับกระส่ายกับสายตาของเขา จึงบังคับเปลี่ยนเรื่อง “คุณคบกับถังเชี่ยนเพราะตั้งใจให้ฉินอันอันโกรธใ
“คุณฉิน คุณมาคนเดียวเหรอ?” คุณหมอกล่าว “เดี๋ยวคุณต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสองชั่วโมง คุณโทรเรียกคนในครอบครัวมาเถอะ!” ถ้าแม่ยังอยู่ เธอคงโทรเรียกแม่เธอเปิดดูรายชื่อผู้ติดต่อ ในที่สุดก็กดหมายเลขหลีเสี่ยวเถียน หลีเสี่ยวเถียนได้ยินว่าเธออยู่โรงพยาบาล หลังจากถามว่าโรงพยาบาลไหนและแผนกไหนจนชัดเจนแล้วก็รีบมาทันที สองชั่วโมงต่อมา หลีเสี่ยวเถียนก็ส่งเธอกลับบ้าน เนื่องจากสภาพจิตใจของฉินอันอันไม่ดีนัก ดังนั้นหลีเสี่ยวเถียนจึงไม่รบกวนเธอมากเกินไป เมื่อขับรถออกมาจากสตาร์ริเวอร์ ยิ่งคิดหลีเสี่ยวเถียนก็ยิ่งโกรธ ถึงแม้ว่าฉินอันอันจะไม่ได้บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเดาได้ว่าเด็กจะต้องไม่ค่อยดีแน่ ๆ เด็กไม่ใช่ลูกของฉินอันอันคนเดียว แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นฉินอันอันที่ต้องทนทุกข์ แล้วมีแต่ฟู่สือถิงที่ดูเหมือนสบายดี? มันไม่ยุติธรรม เธอหาหมายเลขโทรศัพท์ของฟู่สือถิงเจอแล้วก็ต่อสายโทรศัพท์ดังอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีคนรับสาย หลังจากที่ระบบตัดสายอัตโนมัติแล้ว เธอก็หาหมายเลขโทรศัพท์ของโจวจื่ออี้แล้วโทรไป แล้วสายเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว “โจวจื่ออี้ ตอนนี้ฟู่สือถิงอยู่ที่ไหน? ฉันมีธุระก
“วันนี้เขายุ่งมาก ไม่มีเวลารับสายหรอก” พนักงาน “ก็ได้! คุณผู้หญิงรอก่อน ผมจะไปตามคนรับเรื่องมา” ต่อมาประมาณสองนาที พนักงานก็มาพร้อมกับถังเชี่ยน ถังเชี่ยนมองเห็นหลีเสี่ยวเถียน “คุณมาหาสือถิงทำไม? วันนี้เขาไม่ว่าง” “มันก็แค่กิจกรรมไม่สำคัญไม่ใช่หรือไง? หรือว่าไม่มีเขา กิจกรรมนี้จะจัดต่อไปไม่ได้เลย?” หลีเสี่ยวเถียนล้อว่า “หรือว่าเขาไม่มีเวลากระทั่งจะดื่มน้ำ? เวลาเข้าห้องน้ำก็ไม่มีเหรอ?” ถังเชี่ยนเผชิญหน้ากับความเย่อหยิ่งของเธอก็ไม่ได้ยอมแพ้ “หลีเสี่ยวเถียน คุณมีธุระอะไรกันแน่? ดูจากความสัมพันธ์อันดีของสามีคุณกับสือถิงแล้ว ฉันบอกต่อให้คุณได้” “ฉันไม่จำเป็นต้องให้คุณไปบอกต่อ! คุณแค่ปล่อยให้ฉันเข้าไป ฉันพูดกับเขาไม่กี่คำก็จะไปเลย!” หลีเสี่ยวเถียนพูดด้วยความโกรธ “ถ้าเป็นโอกาสปกติ ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปได้ แต่วันนี้มีคนสำคัญมาจำนวนมาก ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปตามใจไม่ได้” ถังชี่ยนกล่าว “ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันบอกต่อ งั้นก็ช่างเถอะ ฉันเองก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่กับคุณที่นี่หรอกนะ” ถังเชี่ยนเดาได้ว่าหลีเสี่ยวเถียนจะต้องมาหาฟู่สือถิงเพราะเรื่องฉินอันอัน ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเธอปล่อยหลีเส