“ฉันชอบความรู้สึกเวลาอยู่กับอิ๋นอิ๋นมาก มันให้รู้สึกผ่อนคลายมาก ดังนั้นฉันจึงตอบตกลง” เว่ยเจินกล่าว “เขาแอบมอบเงินก้อนใหญ่ให้พ่อแม่ของฉันด้วย” รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของฉินอันอัน “ในเมื่อเขาอยากให้ งั้นพวกพี่ก็รับไว้ได้ค่ะ” เว่ยเจินส่ายหน้า “ฉันให้พ่อกับแม่เอาเงินไปบริจาคแล้ว ฉันไม่ชอบความรู้สึกถูกให้ทาน เหมือนฉันน่าสงสารมาก ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร” ฉินอันอัน “พี่เว่ย บางทีเขาอาจไม่ได้หมายความอย่างนั้น” ดวงตาของเว่ยเจินอบอุ่น น้ำเสียงสงบ “ฉันรู้ว่าเขาจิตใจดี อันอัน ในเมื่อตอนนี้เธอเกลี้ยกล่อมฉันได้ ทำไมตัวเธอถึงคิดไม่ออกล่ะ?” “มีอะไรคะ?” เธอหน้าแดงเล็กน้อย “มันไม่ฉลาดมาก ๆ เลยที่เธอเลิกกับฟู่สือถิง ตอนนี้เธอท้อง จำเป็นต้องมีคนดูแล” เว่ยเจินมองใบหน้าของเธอ น้ำเสียงจริงจังมากขึ้นเล็กน้อย “เธอมองไม่เห็นความรู้สึกของเขาจากเรื่องครั้งนี้งั้นเหรอ?” เธอลดคิ้วลงและรู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น “เธอเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีเหตุผลเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่กลับเย่อหยิ่งและเอาแต่ใจเฉพาะเขาคนเดียวเท่านั้น” เว่ยเจินกล่าว “ซึ่งเขาเคยชินกับมันแล้ว” “พี่เว่ย ทำไมพูดแบบนี้กับฉันล
การสัมภาษณ์นี้ถูกนักข่าวโพสต์ลงบนสื่อออนไลน์ ไม่ช้า การสัมภาษณ์นี้ได้รับความนิยมไปทั่วอินเตอร์เน็ต! เดิมทีเมื่อไม่นานมานี้ข่าวฉินอันอันโกงเงินฟู่สือถิงเป็นมูลค่าหมื่นล้านก็ได้รับความนิยมอย่างมาก! นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินอันอันตอบกลับสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องโกงเงิน คิดไม่ถึงว่า เธอจะโกงเงินฟู่สือถิงจำนวนหมื่นล้านจริง ๆ และฟู่สือถิงไม่เพียงไม่ฟ้องร้องเธอ แต่เขายังไม่เรียกค่าชดเชยจากเธออีกด้วย! น่ามหัศจรรย์! ฟู่สือถิงหลอกง่ายขนาดนี้เลยเหรอ? เอสทีกรุ๊ป ฟู่สือถิงกลับมาที่ออฟฟิศหลังจากประชุมเสร็จ เขาเปิดโทรศัพท์ก็มองเห็นข้อความใหม่ ทุกข้อความล้วนเป็นวิดีโอสั้นคลิปเดียวกัน เขาขมวดคิ้วแล้วกดเปิดวิดีโอ - คุณฉิน ได้ยินว่าคุณโกงเงินฟู่สือถิงหนึ่งหมื่นล้าน ขอถามหน่อย เรื่องนี้เป็นความจริงหรือเปล่า?- เป็นความจริงค่ะ- คุณฉิน คุณกำลังพูดเล่นอยู่ใช่ไหม? ถ้าเป็นความจริง ทำไมเขาถึงไม่ฟ้องคุณล่ะ?- เพราะว่าประธานฟู่รวยมาก หมื่นล้านไม่นับว่ามีประโยชน์อะไรต่อเขา พวกคุณถ้าใครอยากรวยเร็ว ๆ ก็ไปหลอกเขาเลยค่ะ เขาหลอกง่ายมากใบหน้าฟู่สือถิงมืดครึ้มในทันที! หากเขาไม่เห็นหน้าเธอในวิดีโอด้
หลังจากนั้นสักพักรถก็มาจอดอยู่ที่ด้านนอกร้านอาหาร ฉินอันอันเข้าไปในร้านอาหาร ตรงไปที่ห้องส่วนตัว “ซือเหนียน วันนี้คุณหยุดเหรอ?” จิ้นซือเหนียนจองห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารใกล้ ๆ กับบริษัทของฉินอันอันและนัดเธอทานข้าว “อื้ม วันนี้เป็นวันหยุด” จิ้นซือเหนียนช่วยเธอดึงเก้าอี้ออกมา “โชคดีที่คุณกลับมาอย่างปลอดภัย ผมเป็นห่วงคุณมาก” หลังจากที่ฉินอันอันนั่งลงแล้ว ยังไม่ทันตอบเขาก็ถูกการ์ดบนโต๊ะดึงดูด “นี่คืออะไร? การ์ดของคุณเหรอ?” จิ้นซือเหนียนนั่งลงข้างเธอ “ใช่ คุณรับไปก่อนเถอะแล้วคืนเงินที่ติดหนี้ฟู่สือถิงไปเสีย” ฉินอันอันดันการ์ดกลับไปตรงหน้าเขาโดยไม่ต้องคิด “ฉันไม่ต้องการ ซือเหนียน ถึงฉันจะติดหนี้เขา แต่เขาไม่ได้บังคับให้ฉันจ่ายคืน ฉันอยากจะคืนเมื่อไหร่ก็ได้ วันไหนที่ฉันไม่อยากคืนฉันก็จะไม่คืน” จิ้นซือเหนียนดันการ์ดกลับไปอยู่ตรงหน้าเธอและพูดอย่างดื้อรั้น “คุณเลิกกับเขาแล้ว ควรคืนเงินให้เขาโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า! อันอัน คุณเป็นคนช่วยชีวิตผมไว้ เงินที่ผมได้รับมา ผมให้คุณได้ทั้งหมด” ดวงตาของเขาชัดเจนและเป็นประกาย ทุกคำพูดล้วนออกมาจากใจจริง ๆ “ที่ผมกลับมาอีกครั้งไม่ใช่เพราะผมรักใ
เธอมองเขาอย่างขวัญหนีดีฝ่อและมองเพียงครั้งเดียวเท่านั้น สายตาของเธอเบนออกไปอย่างช้า ๆ เธอเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วเดินผ่านเขาไป “ฉินอันอัน!” ฝ่ามือใหญ่ของเขาจับเธอไว้แน่น ฝีเท้าของเธอหยุดลง จากนั้นเธอก็ใช้อีกมือฟาดหน้าอกของเขาอย่างแรง “ปล่อยฉันนะ!” เธอตะโกนเสียงแหบแห้ง “คุณปล่อยฉันนะ!” ปฏิกิริยาที่รุนแรงของเธอทำให้เขาปล่อยมือทันที ลูกกระเดือกที่คอของเขาขยับขึ้นลงขณะที่เขามองดูหยดน้ำตาที่ท่วมในดวงตาเธอ “ฉินอันอัน คุณเป็นอะไรไป?” อารมณ์ของเธอย่ำแย่ เขาจินตนาการไม่ออกว่าเธอต้องพบเจอความยากลำบากอะไรถึงเป็นเช่นนี้ เธอมองหน้าเขา ความเจ็บปวดในใจเพิ่มขึ้นทวีคูณ ถ้าตอนนั้นเขาไม่ขอให้หมอใช้ยากับเธอ บางทีลูกของพวกเขาก็จะไม่เป็นแบบนี้ เธออยากจะโทษเขา แต่ว่าเหตุและผลก็ดึงเธอกลับมา โทษเขาแล้วจะมีประโยชน์อะไร? เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ “ฟู่สือถิง ห้ามตามฉันมา!” หลังจากที่พูดประโยคนี้ทั้งน้ำตา เธอก็หันหลังแล้วก้าวเท้าจากไป เขามองดูด้านหลังของเธอที่เดินจากไป เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เขาก้าวเท้าไล่ตามเธอไป! ตอนนี้เอง ประตูลิฟต์ข้าง ๆ ก็เปิดออก ไมค์เดินออกมาเป็นแผนกต้อนรับที่โทรหา
ฟู่สือถิงมองไปด้านนอกบริษัท ฉินอันอันขับรถออกไปแล้ว “งั้นก็… ขอโทษแล้วกัน! ผมนึกว่าคุณทำให้เธอร้องไห้!” ไมค์ดึงแขนเขามาที่ลิฟต์ “ผมจะเลี้ยงน้ำชาคุณเอง! เธอไม่ให้เรารบกวนเธอ ตอนนี้คุณก็ไม่ควรไปกวนเธอ” ฟู่สือถิงขมวดคิ้ว “คุณไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ?” ไมค์ “ก็ไม่รู้น่ะสิ! ตอนเช้ามาทำงานก็ปกติ ไม่อย่างนั้นผมจะคิดว่าคุณทำเธอร้องไห้เหรอ?” ฟู่สือถิงตามไมค์เข้ามาในลิฟต์ “ถ้าอย่างนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าเธอได้เงินสองพันล้านมาได้ยังไง?” ฟู่สือถิงถามคำถามนี้ “วันนี้เธอคืนเงินให้ผมสองพันล้าน เท่าที่ผมรู้ บริษัททั้งสองบริษัทของเธอ ตอนนี้ไม่มีทางสร้างระแสเงินสดได้มากขนาดนั้น” ไมค์ถามกลับ “คุณมาหาเธอก็เพื่อถามข้อนี้?” “อืม” “ผมไม่รู้หรอก!” แน่นอนว่าไมค์ไม่มีทางบอกความจริงกับเขา “ตอนนี้เธอไม่ยอมบอกผมตั้งหลายเรื่อง เพราะว่าผมสนิทกับโจวจื่ออี้มากเกินไป เธอรู้สึกว่าผมกลายเป็นคนฝั่งคุณไปแล้ว” ดวงตาที่แหลมคมเหมือนเหยี่ยวของฟู่สือถิงจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขา ไม่ขยับไปไหน ไมค์รู้สึกกระสับกระส่ายกับสายตาของเขา จึงบังคับเปลี่ยนเรื่อง “คุณคบกับถังเชี่ยนเพราะตั้งใจให้ฉินอันอันโกรธใ
“คุณฉิน คุณมาคนเดียวเหรอ?” คุณหมอกล่าว “เดี๋ยวคุณต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสองชั่วโมง คุณโทรเรียกคนในครอบครัวมาเถอะ!” ถ้าแม่ยังอยู่ เธอคงโทรเรียกแม่เธอเปิดดูรายชื่อผู้ติดต่อ ในที่สุดก็กดหมายเลขหลีเสี่ยวเถียน หลีเสี่ยวเถียนได้ยินว่าเธออยู่โรงพยาบาล หลังจากถามว่าโรงพยาบาลไหนและแผนกไหนจนชัดเจนแล้วก็รีบมาทันที สองชั่วโมงต่อมา หลีเสี่ยวเถียนก็ส่งเธอกลับบ้าน เนื่องจากสภาพจิตใจของฉินอันอันไม่ดีนัก ดังนั้นหลีเสี่ยวเถียนจึงไม่รบกวนเธอมากเกินไป เมื่อขับรถออกมาจากสตาร์ริเวอร์ ยิ่งคิดหลีเสี่ยวเถียนก็ยิ่งโกรธ ถึงแม้ว่าฉินอันอันจะไม่ได้บอกเธอว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอเดาได้ว่าเด็กจะต้องไม่ค่อยดีแน่ ๆ เด็กไม่ใช่ลูกของฉินอันอันคนเดียว แล้วทำไมตอนนี้ถึงเป็นฉินอันอันที่ต้องทนทุกข์ แล้วมีแต่ฟู่สือถิงที่ดูเหมือนสบายดี? มันไม่ยุติธรรม เธอหาหมายเลขโทรศัพท์ของฟู่สือถิงเจอแล้วก็ต่อสายโทรศัพท์ดังอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีคนรับสาย หลังจากที่ระบบตัดสายอัตโนมัติแล้ว เธอก็หาหมายเลขโทรศัพท์ของโจวจื่ออี้แล้วโทรไป แล้วสายเชื่อมต่ออย่างรวดเร็ว “โจวจื่ออี้ ตอนนี้ฟู่สือถิงอยู่ที่ไหน? ฉันมีธุระก
“วันนี้เขายุ่งมาก ไม่มีเวลารับสายหรอก” พนักงาน “ก็ได้! คุณผู้หญิงรอก่อน ผมจะไปตามคนรับเรื่องมา” ต่อมาประมาณสองนาที พนักงานก็มาพร้อมกับถังเชี่ยน ถังเชี่ยนมองเห็นหลีเสี่ยวเถียน “คุณมาหาสือถิงทำไม? วันนี้เขาไม่ว่าง” “มันก็แค่กิจกรรมไม่สำคัญไม่ใช่หรือไง? หรือว่าไม่มีเขา กิจกรรมนี้จะจัดต่อไปไม่ได้เลย?” หลีเสี่ยวเถียนล้อว่า “หรือว่าเขาไม่มีเวลากระทั่งจะดื่มน้ำ? เวลาเข้าห้องน้ำก็ไม่มีเหรอ?” ถังเชี่ยนเผชิญหน้ากับความเย่อหยิ่งของเธอก็ไม่ได้ยอมแพ้ “หลีเสี่ยวเถียน คุณมีธุระอะไรกันแน่? ดูจากความสัมพันธ์อันดีของสามีคุณกับสือถิงแล้ว ฉันบอกต่อให้คุณได้” “ฉันไม่จำเป็นต้องให้คุณไปบอกต่อ! คุณแค่ปล่อยให้ฉันเข้าไป ฉันพูดกับเขาไม่กี่คำก็จะไปเลย!” หลีเสี่ยวเถียนพูดด้วยความโกรธ “ถ้าเป็นโอกาสปกติ ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปได้ แต่วันนี้มีคนสำคัญมาจำนวนมาก ฉันปล่อยให้คุณเข้าไปตามใจไม่ได้” ถังชี่ยนกล่าว “ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันบอกต่อ งั้นก็ช่างเถอะ ฉันเองก็ยุ่งมาก ไม่มีเวลาอยู่กับคุณที่นี่หรอกนะ” ถังเชี่ยนเดาได้ว่าหลีเสี่ยวเถียนจะต้องมาหาฟู่สือถิงเพราะเรื่องฉินอันอัน ดังนั้นแน่นอนอยู่แล้วว่าเธอปล่อยหลีเส
หลีเสี่ยวเถียนปิดแก้มที่เจ็บของเธอ แล้วมึนงงไปทั้งร่าง! สิ่งที่ทำให้เธอไม่คาดคิดก็คือ วินาทีต่อมาฟู่สือถิงพูดกับเธอคำหนึ่ง “ไสหัวไป!” หลีเสี่ยวเถียนใช้ชีวิตราวกับเจ้าหญิงมายี่สิบว่าปี ไม่เคยมีใครแตะต้องใบหน้าของเธอ ไม่เคยมีใครพูดว่า ‘ไสหัวไป’ กับเธอมาก่อน! เธอมีอารมณ์ร้อน ไม่ได้หมายความเธอแข็งแกร่งอะไรเธอปิดหน้าแล้วร้องไห้วิ่งออกไป! ฟู่สือถิงมองด้านหลังของเธอจากไป นิ้วมือของเขากำแน่น เขานึกภาพออกเลยว่า ฉินอันอันจะโกรธมาขนาดไหน ถ้าหลีเสี่ยวเถียนบอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่มีทางให้ย้อนกลับ ถ้าต้องทำอีกครั้ง เขาก็ยังจะให้บทเรียนกับหลีเสี่ยวเถียน! ผู้หญิงคนนี้ ไม่รู้ความเกินไปจริง ๆ ไม่เพียงแต่จะพูดจาไม่มีขอบเขต พฤติกรรมยังอวดดีเกินไปอีกด้วย! ถึงแม้ว่าถังเชี่ยนจะเป็นเพียงผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเขา แต่นอกเหนือจากสถานะนี้ เธอยังเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถังด้วย! ไม่ว่ายังไงก็ตา หลีเสี่ยวเถียนไม่ควรล่วงเกินถังเชี่ยนในที่สาธารณะ......หลีเสี่ยวเถียนร้องไห้ออกมาจากโรงแรม หลังจากขึ้นรถแล้ว เธอขับรถไปถึงถนนสายหลัก จากนั้นก็กดหมายเลขของเฮ่อจุ