“ท่านอ๋อง ท่านคิดว่าข้าควรสวมชุดแต่งงานแบบไหนดี?”ซูอวี้เออร์เขี่ยเสื้อคลุมสีแดงบนชั้นวางของเล่น แล้วหันมายิ้มให้กับเซียวเย่หลันที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างเซียวเย่หลันเหลือบมองอย่างสบายๆ แล้วพูดว่า “เพียงแค่สวมสิ่งที่เจ้าชอบ”“ข้าชอบรึไม่ ไม่สำคัญ สิ่งสําคัญที่สุดคือท่านอ๋องชอบมัน”ซูอวี้เออร์เดินไปอยู่ข้างๆ เซียวเย่หลัน และจับแขนเสื้อเขาเบาๆ เซียวเย่หลันสุ่มชี้ไปที่สิ่งหนึ่ง “งั้นก็อันนี้”“ตกลง ข้าเชื่อที่ท่านอ๋องพูด”ซูอวี้เออร์หันไปเลือกมงกุฎหงส์อย่างมีความสุขต่อเซียวเย่หลันจ้องมองดอกไม้ในสวนด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ทั้งยังรู้สึกระเคืองที่ตาเล็กน้อยเมื่อวันมงคลใกล้เข้ามา พระสนมหมิงก็บังคับให้เขาไปเข้าเฝ้ารอบตัวนางห้อมล้อมไปด้วยกุลสตรีที่มีชื่อเสียงหลายคนถ้าเขาต้องการรับซูอวี้เออร์เป็นพระชายารอง เขาก็ต้องเลือกผู้หญิงอีกคนจากหมู่กุลสตรีเหล่านั้น เพื่อเติมเต็มตำแหน่งพระชายาอีกตำแหน่งตอนนี้เอง เซียวเย่หลันหวังจริงๆ ว่าเซี่ยเชียนฮวันจะออกมาสร้างปัญหานางไม่ชอบที่เขาแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นไม่ใช่หรือ?แล้วทําไมตอนนี้ถึงสงบสุขจัง ยอมเห็นเขาแต่งพระชายาสองคนอย่างเชื่อฟั
“แค่กๆ...”หลังจากพูดยาวขนาดนั้น เซวี่ยจวิ้นก็ไอเบาๆ ออกมาที่นางบอกว่ามาหาหมอ ดูเหมือนจะเป็นความจริงเซี่ยเชียนฮวันถอนหายใจเบาๆ และเอื้อมมือไปจับชีพจรนางอย่างเงียบๆ ถามคำถามอีกสองสามข้อ จากนั้นก็หยิบพู่กันขึ้นมาท่ามกลางสายตาที่ประหม่าของนาง ก่อนจะเริ่มเขียนใบสั่งยา“อาการของเจ้าไม่ร้ายแรงนัก เพียงแต่ความกังวลมากเกินไปจะนําไปสู่ความตึงเครียดทางจิตใจ ทำให้ปวดศีรษะข้างเดียวหรือด้านข้าง อาการเหล่านี้จะแย่ลงหลังจากที่สัมผัสกับลม พักฟื้นสักสองสามวันอาการก็จะดีขึ้น”เซวี่ยจวิ้นเห็นเซี่ยเชียนฮวันเขียนใบสั่งยาให้กับตัวเอง โดยไม่พูดถึงเรื่องนี้นางกล่าว จึงกล่าวอย่างรีบร้อนว่า “พระชายา หม่อมฉันไม่ใช่คนประเภทพูดอย่างทำอย่าง คําสัญญาที่ให้ไว้กับท่านในวันนี้ หม่อมฉันจะทำให้สำเร็จในอนาคต”ปลายพู่กันของเซี่ยเชียนฮวันหยุดชะงักเล็กน้อยหยดหมึกค่อยๆ กระจายทั่วกระดาษสีขาวนางมองออกว่า เซวี่ยจวิ้นเป็นคนเช่นนั้นจริงๆเพียงแต่ว่า...ถ้าหากแต่งเข้ามาในจวนจ้านอ๋องจริงๆ มันไม่ใช่พรสำหรับสตรีคนนี้“คุณหนูเซวี่ย เจ้าสามารถมีความคิดเป็นของตัวเองได้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อฟังบิดาไปเสียหมด เจ้าเป็นคน มิใช่หุ่
“ขอบคุณ ขอบคุณ...จวิ้นเอ๋อร์จะไม่มีวันลืมความช่วยเหลือของท่านในวันนี้!”เซวี่ยจวิ้นเผยสีหน้าประหลาดใจ และกล่าวขอบคุณไม่หยุด ในที่สุดก็ลุกขึ้นยืนเพื่อหลีกทางให้คนอื่นนางไม่คิดจะทำให้การรักษาผู้อื่นของเซี่ยเชียนฮวันต้องล่าช้า หลังจากกล่าวขอบคุณเสร็จ นางก็รีบจากไปชิวหมิ่นยืนกอดอกอยู่ข้างหลังเซี่ยเชียนฮวัน “ท่านแน่ใจหรือว่าจะทำเช่นนี้? ช่วยผู้หญิงคนอื่นได้รับความโปรดปรานจากสามี”“ไม่มีนางก็มีคนอื่นอยู่ดี”เซี่ยเชียนฮวันรู้ว่า หมิงเฟยจะไม่ยอมแพ้ นางจะให้เซียวเย่หลันแต่งงานกับกุลสตรีชั้นสูงเหล่านั้นสักคนสองคนท้ายที่สุดแล้วการแต่งงานก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดในการแย่งชิงบัลลังก์ถึงแม้นางจะมีไทเฮาคอยหนุนหลัง แต่ไทเฮาก็แก่มากแล้ว ไม่รู้จะตายวันตายพรุ่งเมื่อไหร่ อันติ้งโหวก็ไม่มีอิทธิพลใดๆ ต่อราชวงศ์ ส่วนพี่ชายคนโตเซี่ยเหยียนก็เป็นคุณชายเจ้าสำอางที่ไม่สามารถคาดหวังอะไรได้เช่นนี้แล้วนางจะอยู่ในสายตาอันสูงส่งของหมิงเฟยได้อย่างไรดังนั้นแม้ว่านางจะไม่ช่วยเซวี่ยจวิ้น แต่ท้ายที่สุดก็จะมีคนอื่นที่ถูกเลือกอยู่ดีชิวหมิ่นขมวดคิ้ว “สร้างค่ายล่วงหน้า นับว่าเป็นกลยุทธ์ชนิดหนึ่ง แต่ข้าไม่ชอบการ
“นี่คือพระชายารองของเจ้า ไม่ใช่ของข้า ดังนั้นเจ้ามีสิทธิเลือกคนที่เจ้าชื่นชอบ มิเช่นนั้นในอนาคตหากเบาะแว้งกันขึ้นมาจะหาว่าเป็นเพราะข้าเอาได้”หมิงเฟยวางถ้วยน้ำชาลงแล้วส่งเสียงหึๆ ออกมาเบาๆ เซียวเย่หลันมองไปทางไหนก็ไม่รู้สึกถูกใจสักน้อยยามที่เขาใช้สายตาเย็นชามองไปทางสตรีทั้งหลาย พวกนางล้วนตกใจจนก้มหน้าลง ไม่กล้าสบตากับเขา“เอาละ มานั่งเถิด” หมิงเฟยกวักมือเรียก “พวกนางล้วนเป็นกุลสตรีผู้บอบบาง เจ้าอย่าได้ทำให้พวกนางตกอกตกใจ”เซียวเย่หลันเดินไปนั่งลงแล้วกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าลูกไม่รู้ ในใจเสด็จแม่คิดเช่นไรอยู่”“งั้นหรือ? เจ้าลองว่ามาสิว่าข้าคิดเช่นไร”“หากเป็นตามปกติแล้วนั้น เสด็จพ่อคงให้ลูกแต่งกับบุตรสาวบ้านรองในตระกูลโหวเจวี๋ยทั่วไป แต่บัดนี้เสด็จแม่อาศัยช่วงที่เสด็จพ่อรู้สึกปิดต้องการชดใช้ต่อลูก จึงคัดเลือกบุตรสาวจากตระกูลชั้นสูงเหล่านี้มา”แม้พระเอกจะไม่เข้าใจสตรีนัก แต่เพียงแค่เขาชายตามองไป ก็รู้ได้ถึงตัวตนของพวกนางทั้งหลายเขาเผยอมุมปากเรียวบางยิ้มขึ้น “ไม่คิดบ้างหรือว่าคนเหล่านี้ท่านควบคุมนางได้หรือไม่”“ควบคุมได้หรือไม่เป็นเรื่องของเจ้า หาใช่เรื่องของข้า”
“ข้า...”เซวี่ยจวิ้นปริปากด้วยความลนลาน ไม่กล้าเอ่ยวาจาพระชายาสอนผิดงั้นหรือ?ไม่น่าจะใช่ หากเซี่ยเชียนฮวันสอนผิด จ้านอ๋องมองเห็นนางท่ามกลางฝูงคนได้อย่างไร และยังให้นางขึ้นมาด้านหน้าสายตาของเซียวเย่หลันจับจ้องนางไม่ขยับ “ตอบคำถามของข้า”“คือว่า... พระชายาจ้านอ๋องเป็นผู้สอนเพคะ...”เซวี่ยจวิ้นทำได้เพียงตอบตามความจริงนางเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอคนหนึ่ง จะกล้าพูดปดกับจ้านอ๋องได้อย่างไรสีหน้าของเซียวเย่หลันค่อยๆ นิ่งลง เขายกริมฝีปากขึ้นแล้วพูดว่า “พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า ถุงหอมดอกท้อที่เจ้าพกติดตัว ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนสอนเจ้าสินะ”“ท่านอ๋องได้โปรดอภัยให้ด้วยเพคะ!”เซวี่ยจวิ้นตกใจจนล้มพรวดลงไปคุกเข่าที่พื้นนางไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด รู้เพียงว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้ากำลังโกรธอย่างมาก นางอาจโดนกุดหัวได้ตลอดเวลาขณะนั้นเอง บรรยากาศโดยรอบก็เยือกเย็นราวกับน้ำแข็งที่ก่อตัว ความดุร้ายแผ่กระจาย น่าสะพรึงยิ่งกว่าในยมโลกเสียอีกหมิงเฟยขมวดคิ้วแล้วถามว่า “ท่านจะอารมณ์เสียไปทำไมกัน? นางอยากถูกเลือก นางจึงไปให้เด็กคนนั้นสอน นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรเลย แต่กลับอธิบายได้ว่านางใส่ใจท่านมาก”เซ
เซียวเย่หลันเดินตรงมาด้านหน้าเซี่ยเชียนฮวันด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน“เจ้าเคยพบบุตรสาวของมหาดเล็กเซวี่ยงั้นหรือ?”เขาไถ่ถามเซี่ยเชียนฮวันตอบเสียงเรียบ “นางมาเยี่ยมข้า”“กลัวว่าจะอ้างเรื่องมาเยี่ยมไข้ และให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่เจ้ามากกว่า จากนั้นเจ้าก็ปริปากบอกนางว่าข้าชื่นชอบสิ่งใดบ้าง เพื่อช่วยให้นางถูกเลือก!”เซียวเย่หลันยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สายตาดุร้ายราวต้องการจะชักดาบออกมาฆ่าเซี่ยเชียนฮวัน ในสายตาของผู้หญิงคนนี้ นางหักหลังเขาได้ด้วยวิธีการเช่นนี้นางเห็นเขาเป็นเบี้ยที่สามารถแลกเปลี่ยนซื้อขายกับผู้อื่นได้เซี่ยเชียนฮวันกลับรู้สึกน่าขัน จึงเงยหน้ามองเขา “เซวี่ยจวิ้นอยากรู้ว่าท่านชื่นชอบสิ่งใด จำเป็นต้องให้ผลประโยชน์เล็กน้อยแก่ข้าด้วยหรือ? นางถามข้า ข้าก็ตอบนาง เพียงเท่านั้นเอง”“เจ้าไม่ได้รับผลประโยชน์จากนางงั้นหรือ?” เซียวเย่หลันประหลาดใจ“แม้ข้าจะอยากหาเงินมาเลี้ยงลูก แต่คงไม่ถึงขั้นที่ต้องตอบคำถามเพียงไม่กี่ข้อ เพื่อรับเอาผลประโยชน์หรอกนะ”เซี่ยเชียนฮวันค่อยๆ เก็บตัวหมากรุกทั้งหมดบนกระดานหมากรุกนางกลัวว่าทันทีที่ผู้ชายคนนี้หัวเสีย ก็จะพลิกกระดานหมากรุกหล่นกระจายถึงเว
“ข้าบอกแล้วว่าอย่ามาแตะต้องตัวข้า!”ดวงตาของเซี่ยเชียนฮวันแดงก่ำสั่นไหวเล็กน้อย สีหน้าไม่สงบเหมือนเมื่อครู่ แต่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ราวกับว่าต้องการแยกเขาให้ห่างออกไปหลายพันลี้เซียวเย่หลันสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติจึงถามด้วยน้ำเสียงเข้มว่า “เจ้าเป็นอะไรกันแน่?”“ไม่มีอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกไม่สบายเล็กน้อย”เซี่ยเชียนฮวันกอดแขน หันหลังกลับไม่มองหน้าเขาเมื่อถูกชายคนนี้สัมผัสนางได้ นางก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคืนนั้นในหมู่บ้านร้างเขานำประสบการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนมา ทำให้นางรู้ว่าระหว่างชายและหญิงนั้นมีความสุขเหมือนปลาเล่นน้ำจริงๆแต่เพียงพริบตาเดียวเขาก็กลับนึกว่าซูอวี้เออร์คือนางในใจของเขา สตรีที่ได้มีความสุขเช่นนั้นกับเขาคือซูอวี้เออร์เซี่ยเชียนฮวันคิดเรื่องนี้ทีไรก็รู้สึกไม่สบายแทบอยากอาเจียน!ดังนั้น นางเลยไม่อยากให้เซียวเย่หลันโดนตัวอีก!“หากเจ้ารู้สึกไม่สบายก็นอนพักผ่อน กินยา อย่ากระโดดขึ้นลงทั้งวัน และดูแลครรภ์ให้ดี” เซียวเย่หลันพูดอย่างเย็นชา“ข้าไม่ต้องการให้เจ้าสอนข้า”เซี่ยเชียนฮวันรีบเดินไปที่ตู้ เปิดลิ้นชัก หยิบขวดยาผ่อนคลายออกมาแล้วโยนลงในกาน้ำชาในที่สุดนางก็กลับ
"ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ใจนะขอรับ อย่าให้เรื่องไร้สาระอย่างการตายแล้วฟื้นคืนชีพนั้นเกิดขึ้นได้ล่ะ"ขันทีเฒ่าโน้มตัวลง ท่าทีไม่ถ่อมแต่ก็ไม่ถ่อยเขารับใช้อยู่ข้างกายไทเฮามานานหลายปีไม่มีลมฝนใดที่เขาไม่เคยพานพบดังนั้น เขาจึงระมัดระวังในทุกเรื่องที่ทำ เป็นคนน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากเชี่ยเหยียนพูดอย่างอดไม่ได้ “ถึงแม้นางจะยังไม่ตายทันทีในตอนแรก แต่ตอนนี้นางถูกฝังอยู่ในดินและขาดอากาศหายใจตายไปนานแล้ว หรือเจ้ายังกังวลว่านางจะเปิดโลงศพแล้วคลานออกไปด้วยตัวนางเอง?”“การระมัดระวังรอบคอบย่อมทำให้มีชีวิตยืนยาว”“พวกเจ้าไม่เชื่อใจข้าเกินไปแล้ว แม้ว่าปกติข้าจะเป็นคนเสเพลเล็กน้อย แต่หากมีภารกิจใดข้าก็ไม่เคยทำผิดพลาดเลย” เซี่ยยเหยียนตะคอกขันทีเฒ่ายิ้มแล้วถามอีกครั้งว่า “ก่อนตาย หญิงแก่นั่นได้พูดอะไรหรือไม่?”"ไม่มี"เซี่ยเหยียนจิบชาขันทีเฒ่าพยักหน้า ทำท่าครุ่นคิด “แต่นางคงพูดอะไรกับน้องสาวของท่านโหวน้อยแน่ๆ”“เจ้าหมายถึง ฮวันฮวัน...”เซี่ยเหยียนขมวดคิ้วมุ่นไม่น่าล่ะ จู่ๆ ไทเฮาก็มาวานให้เขาทำภารกิจที่แท้หลิวไท่เฟยนั่นพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดนั่นเอง แถมยังลากเซี่ยเชียนฮวันเข้ามาเกี่ยวข้องด